Lomography
สวัสดีกันอีกครั้ง ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่กำลังเห่อกล้องโลโม่ที่เพิ่งซื้อมาด้วยความที่เห็นจากหน้านิตยสารหลายๆ เล่มนิยมแนวนี้และด้วยความชอบภาพประเภทนี้เป็นการส่วนตัว เลยแสวงหาข้อมูลมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ด้วยพร้อมกับภาพที่ลองแชะมาเป็นครั้งแรกในชีวิต.... ใครชอบเหมือนๆ กันมาแบ่งปันให้ดูบ้างนะ "กล้องโลโม่" ออกแบบมาเพื่อใช้ในหน่วยงานสายลับของกองทัพรัสเซีย โดย LOMO ย่อมาจาก Leningrad Optical Machinery Organizationซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ผลิตเลนส์ เพื่อใช้ในโครงการอวกาศของกิจการกองทัพจนกระทั่งในปี พ.ศ. 2526 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงและอุตสาหกรรมของสหภาพโซเวียตในขณะนั้น มีคำสั่งให้หน่วยงาน LOMO ผลิตกล้องเลียนแบบกล้องคอมแพคท์ของญี่ปุ่นขึ้น มาให้เร็วที่สุด ถูกที่สุดและมากที่สุด เพื่อแจกจ่ายให้พลเมืองรัสเซียทุกคน ได้รู้จักการถ่ายรูปต่อมา Matthias Fiegl และ Wolfgang Stranzinger หนึ่งในผู้บริหารบริษัทLomographische AG เดินทางไปท่องเที่ยวที่เมืองปราก สาธารณรัฐเช็ก แต่ลืมนำกล้องถ่ายรูปไปด้วย จึงไปซื้อและได้รู้จักกับกล้อง Lomo Kompakt Automat โดยบังเอิญ และหลังจากได้ถ่ายและล้างรูป จากร้านล้างรูปธรรมดาในซุเปอร์มาร์เก็ต ผลออกมาพบว่าภาพถ่ายมีสีสันจัดจ้านดูผิดเพี้ยน แต่มีความสวยงามจนทำให้พวกเขาได้หลงใหลกับภาพที่ปรากฏขึ้น หลังจากนั้นได้ก่อตั้งบริษัท Lomographische AG ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย และกระแสความนิยมในโลโม่ได้กระจายไปทั่วโลกภาพถ่ายของกล้องโลโ่ม่ มีความเป็นเอกลักษณ์ ที่การใช้สีจัดเกินและสิ่งที่ปนเปื้อนบนเลนส์ เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นศิลปะแบบนามธรรมโดยการถ่ายภาพกล้องโลโม่ ไม่จำเป็นต้องรู้ล่วงหน้าว่า คุณจะถ่ายได้อะไรในฟิลม์และไม่จำเป็นต้องคิดถึงภาพที่จะออกมาหลังการถ่ายกล้องโลโม่ก็จะมีหลายแบบให้เลือกซื้อ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
การ์ดกระดาษญี่ปุ่น
วันนี้จะมาแนะนำเพื่อน ๆ ชาวบล็อกมาทำการ์ดกัน เป็น "การทำการ์ดกระดาษแบบญี่ปุ่น" เรียกว่าสวยงาม ไม่เหมือนใครเลยค่ะการทำการ์ดกระดาษญี่ปุ่นนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งในงานมหกรรมภาษาและวัฒนธรรมของโรงเรียนภาษาเขาค่ะ และมีโอกาสได้ไปช่วยงานในส่วนนี้มีลวดลายหลากหลายแบบ เช่น ดอกไม้ชนิดต่าง ๆ, ต้นคริสต์มาส, สถานที่สำคัญ เช่น หอไอเฟล, ประตูโทริอิของญี่ปุ่น ซึ่งมีขั้นตอนและวิธีทำง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ อุปกรณ์ที่ใช้ก็จะมี1.กระดาษสี (สี่เหลี่ยมผืนผ้า) 3 แผ่น2.มีดคัตเตอร์3.วงเวียน หรืออุปกรณ์ที่มีหัวแหลมสำหรับกดแบบให้เป็นรอย4.ต้นแบบลาย5.กาว UHU แบบแท่ง6.แผ่นรองตัด7.สก๊อตเทปวิธีทำ1.นำต้นแบบมาวางทาบให้ตรงกับกระดาษที่ต้องการตัดลายลงไปแล้วติดด้วยสก๊อตเทป 2.นำวงเวียนมาจุด หรือลากเป็นเส้นเบาๆ ให้เกิดลายที่กระดาษ3.หลังจากจุดตำแหน่งที่ต้องการตัดแล้ว ดึงต้นแบบที่ทาบออกใช้คัตเตอร์ตัดตามตำแหน่งที่ได้จุดไว้ทั้ง 2 แผ่น4.จึงนำลายที่ตัดได้ทั้ง 2 แผ่น มาทากาวแล้วติดลงกระดาษ โดยติดมุมของกระดาษที่ตัดลายแล้วให้ตรงกับมุมของกระดาษที่ใช้ประกบ แล้วทากาวยึดที่ส่วนหัวของลาย โดยมีระยะห่างตรงกลางประมาณ 0.7 ซ.ม.เพียงเท่านี้เราก็ได้การ์ด "ต้นคริสต์มาส" ที่สวยงาม แปลกตา ไม่ซ้ำใครมอบเป็นของขวัญแทนใจให้กับคนที่คุณรักได้ค่ะแล้วครั้งหน้าจะเป็นลายอะไรนั้น ขออุ๊บ...ไว้ก่อนค่ะ
เมืองโบราณ
เป็นไงกันบ้างค่ะ เพื่อน ๆ ชาวบล็อก ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างค่ะในวันนี้ก็จะขออาสาพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยว "เมืองโบราณ"ไม่ไกลไม่ใกล้จากกรุงเทพฯ แค่ จ.สมุทรปราการ นี้เองค่ะสามารถเดินทางด้วย1. รถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางด่วน ปลายทางที่สำโรง - สมุทรปราการถึงสามแยกสมุทรปราการ และเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสุขุมวิท (ไปทางบางปู)จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ2. รถปรับอากาศ สาย ปอ.511 (สายใต้ใหม่ - ปากน้ำ) ลงสุดสาย แล้วต่อด้วยรถสองแถวสาย 36 ซึ่งจะวิ่งผ่านทางเข้ามืองโบราณเมืองโบราณนี้ มีเนื้อที่กว่า 600 ไร่ประกอบโบราณสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่ตั้งภาคเหนือยันภาคใต้เลยค่ะซึ่งการเดินทางในเมืองโบราณนี้สามารถนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปได้เฉพาะในจุดที่ 1-4 ของสถานที่ไหว้พระ 9 แห่ง จุดอื่นๆ ต้องเป็นรถราง คนละ 50 บาท หรือจะเช่ารถกอล์ฟ และจักรยานก็ได้ค่ะโดยในแต่ละจุดที่จัดให้ไหว้พระ ทั้งหมด 9 แห่งด้วยกันซึ่งทางมัคคุเทศน์ที่นำเที่ยวนั้น ได้บอกแล้วว่าในแต่ละจุดของการไหว้พระนั้นจะมีการสะสม "บัตรอวยพร เสริมสิริมงคล" ในแต่ละวัด จะมีทั้งหมด 9 แผ่นเมื่อประกอบกันแล้ว ด้านหลังของบัตรอวยพร จะเป็นรูป "พระโพธิสัตว์"ระหว่างทางในแต่ละจุดก็จะมีการจำลองสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ให้ชมกันค่ะ หลังจากเที่ยวเมืองโบราณแล้ว จะแวะมาอิ่มท้องกันที่บางปู กับอาหารทะเลอร่อย ๆ กันได้ เดินทางจากเมืองโบราณไปอีกนิดก็ถึงแล้วค่ะงานนี้ได้ทั้งเที่ยวและอิ่มไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ไว้โอกาสหน้าจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวกันใหม่ แต่จะที่ไหนนั้น ต้องค่อยติดตามกันต่อไปค่ะ
พระเมรุมาศ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
หลังจากที่แนะนำร้านอาหารกันมาแล้วคราวนี้ขอนำภาพย้อนหลังขึ้นเก็บไว้ในความทรงจำนะคะถึงแม้งานนี้ จะนำซึ่งความโศกเศร้าเสียใจให้กับพวกเราพสกนิกรชาวไทยแต่อย่างไรก็ขอเก็บไว้เพื่อระลึกถึงพระองค์ท่านคะ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์มีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมหลังจากที่เสร็จสิ้นพระราชพิธีเพลิงศพซึ่งในวันที่ไป ขอบอกว่าคนเยอะและอากาศร้อนมาก ๆ ค่ะแต่ด้วยความสวยงามของพระเมรุมาศและของตกแต่งต่างๆ ทั่วบริเวณงาน รวมถึงความศรัทธาประกอบกับมั่วแต่เก็บภาพต่างมาฝากเพื่อน ๆ ชาวบล็อกเลยลืมอากาสร้อนไปเลยค่ะ
"ท่งหลี" ร้านเล็ก ๆ ทีไม่ธรรมดา
ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ซ.สุขุมวิท 20 (ซอยเดียวกับโรงแรมวินด์เซอร์)เข้าซอยประมาณ 500 เมตร ร้านอยู่ทางด้านขวามือขอแนะนำค่ะ มารถเมล์ลงป้ายสายน้ำผึ้งหรือรถไฟฟ้าลงสถานีอโศกจะสะดวกที่สุดหากขับรถมาอาจหาที่จอดลำบากหน่อยนะคะ ร้านนี้ต้องขอบอกว่าเก่าแก่และมีชื่อเสียงมายาวนาน 50 กว่าปีด้วยเมนูอาหารยอดฮิต ที่ใครไปใครมาต้องสั่ง อาหารส่วนใหญ่รสชาติดีค่ะแต่ต้มยำออกหวานไปหน่อย ดูรูปกันค่ะหน้าร้านท่งหลียำเห็ดฟางไก่ทอดไหหลำหมูคั่วกะปิสลัดกุ้งต้มยำกุ้ง ตับทอดกระเทียมเห็นหน้าตากันไปแล้ว...เพื่อน ๆ คงสงสัยว่าราคาเท่าไร? ขอบอกว่าไม่แพงอย่างที่คิดค่ะ ทั้งหมดนี่เพียง800 กว่าเท่านั้นคะ รวมข้าว 2 โถ (วันนั้นไปกัน 6 คน)ว่างๆ ลองแวะไปกินกันรับรองค่ะ มื้อนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน...
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [