• ห้องรับแขก
• แผนที่ห้องหนังสือ
• ห้องหนังสือ
• ห้องหนังสือคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์
• ห้องหนังสือวิชาการ
• ชั้นบทความ
• เดินเล่นนอกบ้าน
• ตู้เก็บของ

คิดสุดล้ำกับการทดลองแบบไอน์สไตน์ : ท่องไปในโลกแห่งจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ คิดสุดล้ำกับการทดลองแบบไอน์สไตน์ ผู้แต่ง: Kaoru Takeuchi ผู้แปล : ดร.บัณฑิต โรจน์อารยานนท์ จำนวนหน้า: 184 หน้า ISBN: 9789744433923 ดูรายละเอียดและตัวอย่างเนื้อหา ได้ที่นี่ค่ะ มาร่วมใช้จินตนาการให้ถึงขีดสุด ไปกับ การทดลองทางความคิด (Thought Experiment) วิธีทดลองแบบเดียวกับที่ทำให้ไอนสไตน์ค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษ... พบกับหลากหลายคำถามที่รอให้คุณมาร่วมค้นหาคำตอบ อาทิ - นกและแมวจะมองเห็นโลกเป็นอย่างไร - จะเป็นอย่างไรถ้าคุณเกิดตกไปในหลุมดำ - จะเป็นอย่างไรถ้าจักรวาลของเราเกิดหนักกว่าที่เป็นอยู่ - จะรู้สึกอย่างไรถ้าคุณถูกส่งตัวด้วยเครื่องย้ายมวลสารแบบกัปตันเคิร์กในหนังเรื่องสตาร์เทรค - ฯลฯ คำถามเหล่านี้แม้ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง แต่การคิดหาคำตอบ จะช่วยเสริมสร้างพลังแห่งจินตนาการซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการเรียนรู้ ... แล้วคุณจะพบว่า เบื้องหลังและจุดกำเนิดของการค้นพบหลักการอันยิ่งใหญ่ ก็มีจุดเริ่มต้นมาจาก จินตนาการ ที่คุณเองก็ทำได้เช่นเดียวกัน -- วันนี้มีหนังสือใหม่มาแนะนำกันอีกเช่นเคยค่ะ เป็นหนังสือวิทยาศาสตร์ แต่ว่าพอได้ยินคำว่า "วิทยาศาสตร์" ก็อย่าเพิ่งเบ้หน้ากันก่อนนะคะ ^^ หนังสือเล่มนี้เกี่ยวข้องกับ การทดลองทางความคิด (Thought Experiment) ที่เป็นการตั้งประเด็นปัญหาอะไรขึ้นมาสักอย่าง แล้วใช้สมองในการคิดจำลองเหตุการณ์ หรือจินตนาการถึงสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นอย่างมีเหตุมีผล อธิบายแค่นี้ หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วการทดลองทางความคิดนั้นอยู่ใกล้ตัวเรามากแค่ไหน แต่ถ้าบอกว่า ในโลกของความเป็นจริงมีการทดลองทางความคิดอยู่มากมาย เช่น การคาดการณ์ยอดขายของบริษัท การเตรียมตัวเพื่อที่จะพูดสุนทรพจน์ต่อหน้าคนจำนวนมาก การผูกเรื่องของนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ หรือแม้แต่การดูรายการพยากรณ์อากาศแล้วตัดสินใจว่าจะซักผ้าดีหรือไม่ของแม่บ้าน ก็เป็นกระบวนการทำการทดลองโดยใช้ความคิดเช่นเดียวกัน ทุกคนคงจะรู้สึกว่าเริ่มใกล้ตัวเราเข้ามาแล้วใช่ไหมคะ (บ.ก. หวังว่าอย่างนั้นนะคะ (ฮา)) เนื้อหาในเล่มจะเริ่มจากการทดลองที่สามารถใช้ความคิดจินตนาการระดับกลาง ๆ ในการค้นหาคำตอบ แล้วค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นไปจนถึงการทดลองสำหรับเรื่องล้ำลึก ที่แม้แต่วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ก็กำลังค้นหาคำตอบค่ะ ลองมาทำการทดลองสักหัวข้อหนึ่งกันดูค่ะ ^^ นกจะมองเห็นโลกของเราเป็นอย่างไร ? การจะหาคำตอบของคำถามนี้ เราต้องมาทำความเข้าใจกับการมองเห็นของมนุษย์ก่อนค่ะ เรตินาในดวงตาของคนเราจะมีเซลล์รูปกรวยอยู่ 3 ชนิด ซึ่งทำหน้าที่รับรู้แสงสีต่าง ๆ โดยชนิดที่ 1 จะตอบสนองต่อแสงสีม่วงได้ดีที่สุดและตอบสนองต่อแสงสีน้ำเงินได้บ้าง ชนิดที่ 2 จะตอบสนองต่อแสงสีเขียว ส่วนชนิดที่ 3 จะตอบสนองแสงสีเหลืองเป็นหลัก ถ้าอย่างนั้นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นบนโลกนี้ที่ไม่ใช่มนุษย์ ถ้าจะมีการรับรู้สีในลักษณะที่ไม่ได้แบ่งเป็นสามแม่สีก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกใช่ไหมคะ ทีนี้มาดูกันว่าตาของนกจะมองเห็นเป็นแบบไหน นกจะมีเซลล์รูปกรวยที่เรตินา 4 ชนิด ดังนั้นนกจึงมีการรับรู้สีเป็น 4 แม่สี แทนที่จะเป็น 3 แม่สีเหมือนกับคนค่ะ และนอกจากนี้หนึ่งในนั้นยังรับรู้แสงอัลตราไวโอเลตได้ดีกว่ามนุษย์ หมายความว่านอกจากนกจะรับรู้สีผ่านแม่สีถึง 4 สีแล้ว ยังสามารถมองเห็นแสงในย่านอัลตราไวโอเลตที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้อีกด้วย นั่นคือนกจะสามารถมองเห็นสีและแยกแยะสีได้ดีกว่ามนุษย์ "แล้วนกจะมองเห็นภาพเขียนของมนุษย์ในลักษณะใด ?" จากเรื่องตาของคนและนกที่เล่าไปแล้ว การทดลองจินตนาการว่าตาของนกจะมองเห็นภาพเขียนของคนเป็นแบบไหนน่าจะไม่ยากแล้วใช่ไหมคะ ถ้านกมองดูภาพเขียนที่มนุษย์เขียน มันจะต้องรู้สึกว่าสีประหลาดแน่ ๆ (รวมถึงภาพศิลปะที่มีชื่อเสียง มันอาจจะรู้สึกว่า "รูปอะไรกันนี่ ใช้สีได้ประหลาดจริง ๆ " ก็ได้นะคะ ^^") นอกจากตาของนกจะรับรู้สีได้ดีกว่าคนแล้ว นกยังมีการมองเห็นและกิจกรรมที่มากกว่าคนอยู่ 1 มิติอีกด้วย พอพูดถึงเรื่องมิติแล้ว หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า "ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ ทั้งเราและนกก็อยู่ในโลก 3 มิติเหมือนกันนี่" สำหรับเรื่องมิติ จะพิจารณาได้อย่างนี้ค่ะ ถึงแม้ว่าคนเราจะอยู่ในโลก 3 มิติ แต่การใช้ชีวิตจริง ๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะอยู่แต่บนพื้นโลกหรืออยู่บนผิวระนาบ 2 มิติเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบกับนกแล้ว นกจะเป็นสัตว์ที่อาศัยในโลกสามมิติจริง ๆ มากกว่า เพราะว่าไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนที่หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็อยู่ในรูปสามมิติ (นั่นคือเพราะว่านกบินได้นั่นเองค่ะ) พออ่านมาถึงตรงนี้ บ.ก. ถึงกับอึ้งค่ะ เพราะไม่เคยคิดในประเด็นที่ว่าในโลก 3 มิติใบนี้ คนเราก็เหมือนกับใช้ชีวิตอยู่แค่ในระนาบ 2 มิติเท่านั้นมาก่อนเลย ยอมรับสารภาพค่ะว่ารู้สึกอิจฉานกขึ้นมาทันที ถ้าอย่างนั้น เราลองมาคิดดูว่ากิจกรรมอะไรที่น่าจะทำให้เราจินตนาการถึงความรู้สึกในโลกสามมิติได้บ้างกันดีกว่าค่ะ (อันนี้ไม่มีในหนังสือนะคะ เป็นการทดลองทางความคิดนอกรอบค่ะ (ฮา)) บ.ก. คิดออกได้ 2-3 อย่างค่ะ อย่างเช่น เล่นเครื่องร่อน แต่อันนี้ท่าทางจะยากไป งั้นเปลี่ยนเป็นไปเล่นบันจีจั้มพ์ เอ๊ะ...อันนี้ก็ออกจะน่าหวาดเสียวไป งั้นเปลี่ยนเป็นว่ายน้ำ น่าจะพอไหวนะคะ พอมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า "แล้วการทดลองทางความคิดของไอน์สไตน์ล่ะ เป็นยังไง ?" บ.ก. ก็อยากจะเล่าให้ฟังนะคะ แต่เนื่องจากถ้าเล่าเอง บล็อกนี้จะยาวมาก คงต้องขอให้ติดตามในเล่มค่ะ (แต่จริง ๆ แล้วคือต้องขออุบไว้ก่อน เพื่อเรียกร้องความสนใจ ) แล้วมาท่องไปในโลกแห่งจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ ไปไกลถึงสุดขอบจักรวาล แล้วย้อนกลับมาที่อนุภาคเล็กจิ๋วระดับควอนตัมด้วยกันนะคะ ^^   Create Date : 23 สิงหาคม 2552     Last Update : 10 กันยายน 2557 9:02:53 น. Counter : 1288 Pageviews.   3 comment Share Tweet

เซียนปริศนา สนุกฮา พัฒนาสมอง...คลอดตาม เซียนตรรกะ อัจฉริยะสมองซีกซ้าย มาแล้วจ้า ! สวัสดีค่ะ วันนี้มีข่าวคราวหนังสือเล่มใหม่ที่จะออกปลายเดือนนี้มาฝากกันค่ะ น่าจะเป็นข่าวดีสำหรับทั้งคนที่เคยอ่าน เซียนตรรกะ อัจฉริยะสมองซีกซ้าย แล้วติดใจ (ตามอ่านรีวิวเซียนตรรกะฯ กันได้ค่ะ) หรือบางคนอาจจะยังอ่านไม่จบ เพราะรู้สึกมึนตึ้บเหลือเกินที่ต้องขุดตรรกะของตัวเองออกมาใช้ (รู้สึกเหมือนกระทบตัวเองนิด ๆ แฮะ) รวมถึงบางคนที่อาจจะไม่เคยอ่าน แต่กำลังคิดว่าอยากหาอะไรสนุก ๆ ทำเพื่อลับคมสมอง หรือจะเป็นคนที่ชอบท้าทาย ชอบแก้โจทย์ ทายปริศนาฮาๆ ขำๆ อยู่แล้ว การันตีค่ะว่า ถ้าได้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอ่านแล้ว คงจะวางไม่ลงแน่ ๆ เซียนปริศนา สนุกฮา พัฒนาสมอง ชื่อผู้แต่ง: Akira Aizawa ชื่อผู้แปล:ดร.บัณฑิต โรจน์อารยานนท์ จำนวนหน้า: 144 ราคา 100 บาท แนะนำหนังสือ สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. เซียนปริศนา สนุกฮา พัฒนาสมอง (ฟังแค่ชื่อก็สนุกแล้ว) ผู้แต่งก็คือ คุณ Akira Aizawa เจ้าแห่งโจทย์ปริศนา ผู้ที่เคยฝากผลงานไว้แล้วกับเล่ม เซียนตรรกะ อัจฉริยะสมองซีกซ้าย สำหรับเล่มนี้ เนื้อหาจะผ่อนคลายกว่าหน่อย จะได้ "ฝึกสมองให้มีความยืดหยุ่น" กันแบบ "สนุก ๆ" ด้วยปริศนาทั้งหมด 65 ข้อ แบ่งเป็นปริศนาเกี่ยวกับ "ตัวเลข" และ "รูปภาพ" ซึ่งไม่ได้ยุ่งยาก ซับซ้อน แค่คิดพลิกแพลงนิดหน่อย และต้องรอบคอบนิดนึง จริง ๆ อาจจะต้องเจ้าเล่ห์หน่อย ๆ ด้วย ปริศนาเกี่ยวกับตัวเลข ก็เป็นพวกบวก ลบ คูณ หาร ธรรมดา ๆ นี่แหละค่ะ แต่จะมีพวกเงื่อนไขต่าง ๆ ต้องค่อย ๆ คิด พูดไปคงไม่เห็นภาพ ขอยกตัวอย่างปริศนาให้เห็นหน่อยแล้วกัน ปริศนาที่ 33 จงเติมตัวเลข 1-9 ลงในช่องสี่เหลี่ยมที่ว่างอยู่ให้ครบ โดยตัวเลข 1 เติมไว้ให้แล้ว เป็นไงคะ คิดกันออกรึเปล่า บอกใบ้นิดนึง ข้อนี้ต้องค่อย ๆ แทนค่าดูค่ะ นอกจากจะได้ฝึกสมองแล้ว ยังได้ฝึกให้เป็นคนใจเย็นด้วย คำตอบของข้อนี้ก็คือ 4 + 5 = 9 8 - 7 = 1 2 x 3 = 6 เห็นปริศนาเกี่ยวกับตัวเลขกันไปแล้ว คราวนี้มาที่ ปริศนาเกี่ยวกับรูปภาพ กันบ้าง ปริศนารูปภาพก็อย่างการหาเส้นทาง ย้ายก้านไม้ขีด ย้ายเหรียญ ดูรูป 3 มิติ ฯลฯ ตัวอย่างนะคะ ปริศนาที่ 29 จากรูป เป็นการใช้ก้านไม้ขีดมาวางเรียงกันให้เป็นตัวเลขโรมัน นั่นคือ 1/7 โจทย์มีอยู่ว่า ให้ทำการเคลื่อนย้ายก้านไม้ขีดเพียงก้านเดียว แล้วทำให้ผลที่ได้มีค่าเท่ากับ 1 โดยที่ไม่ต้องดึงก้านไม้ขีดออก หรือหักก้านไม้ขีด พอจะเดากันออกไหมคะ ข้อนี้แอบเจ้าเล่ห์หน่อย บอกใบ้ให้ว่า ต้องเลื่อนก้านไม้ขีดให้ตัวส่วนเท่ากับ 1 โดยที่ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับตัวเศษเลยนะคะ พอจะคิดออกมั้ยเอ่ย เล่าไปแล้วก็เริ่มติดลม เพิ่มให้อีกข้อค่ะ ข้อนี้ บ.ก. คิดออกด้วยน้า ปริศนาที่ 26 ในรูปเป็นรูปลูกเต๋าแต่ละหน้า ซึ่งมีแต้มตั้งแต่ 1 ถึง 6 ไม่ซ้ำกัน โดยส่วนที่แรเงาเอาไว้คือส่วนที่ตั้งใจจะบังไว้ไม่ให้เห็น ถามว่า หน้าลูกเต๋าที่มีเครื่องหมาย “?” เป็นแต้มอะไร คำตอบข้อนี้ก็คือ 5 ค่ะ ลองไล่แทนดูไปเรื่อย ๆ ก็จะเข้าใจค่ะ ยกตัวอย่างพอหอมปากหอมคอ เล่มนี้จะว่าไปก็ออกแนวปัญหาเชาวน์หน่อย ๆ ต้องคิดพลิกแพลง แต่รับรองว่าจะต้องนั่งทำไปนั่งอมยิ้มไปแน่ ๆ ใครอยากอ่านต่อก็อย่าลืมไปตามอ่าน (อุดหนุน) กันได้สิ้นเดือนนี้นะคะ   Create Date : 08 มิถุนายน 2552     Last Update : 10 กันยายน 2557 9:01:56 น. Counter : 5215 Pageviews.   5 comment Share Tweet

เก่งเลขให้ถึงแก่น ด้วยทฤษฎีบทคณิตศาสตร์...อยากรู้ลึก รู้จริง ต้องอ่าน :) เก่งเลขให้ถึงแก่น ด้วยทฤษฎีบทคณิตศาสตร์ โดย Akimichi Sekine แปลโดย ดร.อรรณพ เรืองวิเศษ เรียบเรียงโดย ดร.บัณฑิต โรจน์อารยานนท์ จำนวน 264 หน้า ISBN 978-974-443-384-8 แนะนำหนังสือค่ะ สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. ฟังจากชื่อบางคนอาจจะงง บ.ก. ก็เลยจะขอเล่าถึงหนังสือเล่มนี้คร่าว ๆ นะคะ เริ่มจากคำว่าทฤษฎีบทกันก่อน ทฤษฎีบท ก็คือข้อความ (หรือสมการ) ที่พิสูจน์แล้ว ไม่ว่าใครก็ยอมรับว่าเป็นจริง และสามารถใช้ในการอ้างอิงเพื่อพิสูจน์ข้อความอื่นได้ ตัวอย่างง่าย ๆ ทฤษฎีบทที่ว่า มุมภายในของสามเหลี่ยมรวมกันแล้วต้องเท่ากับ 180˚ หรือมุมตรงข้ามที่เกิดขึ้นเมื่อลากเส้นตรงเส้นหนึ่งตัดเส้นตรงอีกเส้นหนึ่งจะมีขนาดเท่ากัน อะไรประมาณนี้น่ะค่ะ พอจะนึกออกแล้วใช่ม้า แล้วหนังสือเล่มนี้จะพูดอะไรเกี่ยวกับทฤษฎีบทเหล่านั้น หนังสือนำทฤษฎีบทสำคัญ ๆ ที่มีประโยชน์ เช่น เรื่องของเส้นขนาน มุมภายในสามเหลี่ยม คุณสมบัติของรูปวงกลม หลักการเลขคณิต จำนวนอตรรกยะ เรขาคณิตรูปทรงตัน ฯลฯ มาพิสูจน์ให้เห็นจริง มีภาพประกอบการอธิบาย และยังสอดแทรกเรื่องราวความเป็นมาของตัวทฤษฎีบทและบรรดานักคณิตศาสตร์ผู้ให้กำเนิดทฤษฎีบทเหล่านั้นด้วย อ่านแล้วก็จะได้รู้แก่นแท้ของคณิตศาสตร์ รวมไปถึงวิทยาศาสตร์ที่ส่วนมากก็ต้องอาศัยทฤษฎีบทคณิตศาสตร์ในการพิสูจน์ และยังถือว่าเป็นประโยชน์สำหรับการเรียนคณิตศาสตร์ในระดับสูงต่อไป อ่านไปแล้วก็คิด ๆ ขีด ๆ เขียน ๆ ตามไป ก็สนุกดีเหมือนกัน คนที่ไม่ถูกโรคกับคณิตศาสตร์อาจจะรักคณิตศาสตร์มากขึ้น (อีกนิดก็ยังดี) หรือถ้าใครจะแอบจำทฤษฎีบทไปใช้ทำข้อสอบก็ไม่ว่ากัน ใครสนใจหรือถ้าใครมีคนใกล้ตัวที่ชอบคณิตศาสตร์ (อาจจะได้ของขวัญที่ถูกใจคนรับอีกอย่างหนึ่งก็ได้นะคะ) ก็ไปแวะ ๆ หยิบ ๆ จับ ๆ อ่าน ๆ ได้ที่บูท N15 โซน C1 เลยค่า ท้าทายคนรักและอยากจะทำใจให้รักคณิตศาสตร์กันอีกแล้วงานนี้ เมื่อ เก่งเลขให้ถึงแก่น ด้วยทฤษฎีบทคณิตศาสตร์ ได้ออกงาน !   Create Date : 18 มีนาคม 2552     Last Update : 10 กันยายน 2557 9:01:08 น. Counter : 1684 Pageviews.   5 comment Share Tweet

รู้จักและเข้าใจ เลือด สิ่งมหัศจรรย์ในร่างกายเรา สวัสดีวันสิ้นเดือนค่ะ วันนี้คงเป็นวันที่หลาย ๆ คนมีความสุขกันม๊ากมาก ถ้าไม่เผลอซื้อหนังสืออ่านจนหมดตัวไปเสียก่อน (ฮา) ยังไงก็ขอให้มีความสุขไปจนถึงสิ้นเดือนหน้านะคะ หลังจากที่บล็อกที่แล้วหยิบหนังสือแนววิชาการมาแนะนำไปแล้ว และเพื่อน ๆ ชาวบล็อกที่แวะเข้ามาเยี่ยมก็ฝากคำถามไว้ว่าทางสำนักพิมพ์ ส.ส.ท. ของเรา มีหนังสือแนวอื่นบ้างไหม บล็อกนี้ก็ขอเปลี่ยนบรรยากาศนำหนังสือแนวสาระความรู้ทั่วไปมาเล่าสู่กันฟังกันบ้างค่ะ รู้จักและเข้าใจเลือด สิ่งมหัศจรรย์ในร่างกายเรา โดย : Hiroshi Mohri แปลและเรียบเรียงโดย : รศ.ดร.ศักดา ดาดวง จำนวนหน้า 272 หน้า เลือดมีหน้าที่สำคัญต่อร่างกายเรามากอย่างน่ามหัศจรรย์ บทบาทของเลือดเกี่ยวข้องกับกลไกที่ทำให้เราดำเนินชีวิตอยู่ได้ ในเลือดของเรามีสิ่งที่น่าสนใจซ่อนอยู่มากมาย อย่างที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน ! องค์ประกอบของเลือด ความสำคัญของหมู่เลือด กระบวนการสร้างเลือด ผลกระทบจากความผิดปกติของเลือดที่มีต่อร่างกาย อาการเล็กน้อยที่ไม่ควรมองข้ามเพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคเลือด เพราะความผิดปกติของเลือดทำให้เราเจ็บป่วยได้ ภูมิแพ้ โลหิตจาง หลอดเลือดอุดตัน มะเร็งเม็ดเลือดขาว เป็นตัวอย่างของอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับเลือด เรียนรู้และทำความเข้าใจในเรื่องของเลือดตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะรู้ว่าเลือดไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่อง “ใกล้ตัว” เท่านั้น แต่เป็นเรื่อง “ในตัว” ของเราทุกคน เล่มนี้เป็นหนังสือแปลจากภาษาญี่ปุ่นค่ะ เป็นหนังสืออีกสไตล์หนึ่งที่ จขบ. อยากให้มีในเมืองไทยมาก นั่นคือ วิทยาศาสตร์สไตล์เข้าใจง่ายค่ะ (แถมด้วยภาพประกอบที่แอบมีความน่ารักสไตล์การ์ตูนญี่ปุ่นแฝงอยู่ในเนื้อหาสาระอีกด้วย) จุดเด่นของเล่มนี้ก็คือสามารถถ่ายทอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์ออกมาได้อย่างกระชับและเข้าใจง่ายค่ะ ขอย้ำอีกครั้ง (ฮา) ที่กล้ายืนยันแบบนี้ เพราะได้รับคำยืนยันแกมชื่นชมจากผู้ที่เคยอ่านมาแล้วค่ะ (บก. ถึงกับหน้าบานทั้งวันเลยทีเดียว) ยกตัวอย่างความรู้ที่ได้จากเล่มนี้ค่ะ เลือด ประกอบไปด้วยเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด และพลาสมา เม็ดเลือดถูกสร้างขึ้นที่ไขกระดูก และมีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญมากต่อร่างกาย เม็ดเลือดแดงมีหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปให้กับเซลล์ทั่วร่างกาย เม็ดเลือดขาวมีหน้าที่กำจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย เกล็ดเลือดมีหน้าที่ห้ามเลือดเมื่อร่างกายเกิดบาดแผล เนื่องจากเลือดมีบทบาทที่สำคัญมากต่อร่างกาย ดังนั้นเมื่อองค์ประกอบอย่างใดอย่างหนึ่งของเลือดเกิดผิดปกติขึ้นมา ร่างกายของเราก็จะไม่ปกติไปด้วยเช่นกัน และใครที่เป็นแฟนซีรี่ส์เกาหลีคงจะทราบกันดีนะคะว่าโรคยอดฮิตที่นางเอกมักจะเป็นก็คือ...มะเร็งเม็ดเลือดขาวนั่นเอง ! หลาย ๆ คนคงเริ่มสงสัยว่าพูดถึงหนังสืออยู่ แล้วอยู่ดี ๆ กระโดดไปซีรี่ส์เกาหลีได้ไง จขบ. ไม่ปล่อยให้ทุกท่านต้องรอค่ะ เฉลยเลยว่าที่พาดพิงถึงมะเร็งชนิดนี้เพราะบทที่ 4 ของหนังสือเล่มนี้เกี่ยวกับเม็ดเลือดขาวค่ะ จากการอ่านหนังสือเล่มนี้ทำให้ จขบ. ได้ความรู้ใหม่ว่ามะเร็งเม็ดเลือดขาวมีหลายชนิดมาก แต่ละชนิดก็มีอาการและสาเหตุแตกต่างกันไป ถ้าใครอยากทราบว่านางเอกซีรีส์เกาหลีเรื่องไหนป่วยด้วยโรคแบบไหน ก็ต้องลองอ่านรายละเอียดดูนะคะ (อิอิ) และแน่นอนว่าถ้าอ่านครบทุกบทก็จะได้ความรู้เกี่ยวกับเลือดอย่างครบถ้วนค่ะ ทั้งองค์ประกอบของเลือด รายละเอียดอื่น ๆ ของเลือดที่น่าสนใจ การทำงานและความผิดปกติของเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด รวมทั้งความเกี่ยวข้องระหว่างเลือดกับโรคต่าง ๆ อย่าลืมนะคะ...เลือดเป็นเรื่องในตัวของพวกเราทุกคน (ยิ่งกว่าใกล้ตัวอีก) แล้วพบกับหนังสือแนวสาระความรู้ทั่วไปเล่มอื่น ๆ ในบล็อกหน้าค่ะ   Create Date : 30 มกราคม 2552     Last Update : 10 กันยายน 2557 9:01:36 น. Counter : 1567 Pageviews.   1 comment Share Tweet

เซียนตรรกะ อัจฉริยะสมองซีกซ้าย : ฝึกสมองซีกซ้ายง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เซียนตรรกะ อัจฉริยะสมองซีกซ้าย โดย...Akira Aizawa แปลโดย...รศ.ดร.ศักดา ดาดวง เรียบเรียงโดย...ดร.บัณฑิต โรจน์อารยานนท์ สำนักพิมพ์สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น)) แนะนำหนังสือ สำนักพิมพ์ ส.ส.ท. พี่ชายกับน้องชายชื่อ ลู กับ ลี อยากรู้ว่าใครเป็นพี่เป็นน้องก็เลยลองถามดู ปรากฏว่า ลีบอกว่า "ผมเป็นพี่" ลูบอกว่า "ผมเป็นน้อง" แต่ว่าอย่างน้อยมีคนใดคนนึงที่พูดปด และสองคนนี้ก็ไม่ใช่ฝาแฝดกัน ถามว่าใครเป็นพี่กันแน่ เพื่อน ๆ ตอบได้กันไหมคะ ? เฉลยเลยละกัน คำตอบก็คือ ลูเป็นพี่ เพราะที่บอกว่าอย่างน้อยคนใดคนหนึ่งพูดโกหก แสดงว่าอาจจะโกหกทั้ง 2 คนเลยก็ได้ แต่ถ้าลองคิดว่ามีคนโกหกแค่คนเดียวก็จะไม่ได้คำตอบด้วย แค่ได้ลองคิดก็เท่ากับเพื่อน ๆ ได้ฝึกสมองซีกซ้าย (ที่เกี่ยวข้องกับการใช้หลักเหตุและผล) แล้วละค่ะ ถ้าใครตอบได้ขอยกนิ้วให้ แต่อย่าชะล่าใจ เพราะหนังสือเล่มนี้มีการจัดระดับความยากง่ายของโจทย์ไว้ด้วย โจทย์ข้อนี้ถือว่าเป็นระดับง่ายสุด หรือถ้าพูดให้สุภาพก็มือใหม่หัดคิด ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนชอบความท้าทายละก็ ในเล่มยังมีโจทย์อีก 84 ข้อ ให้ฝึกคิดฝึกทำกัน ยังมีประสบการณ์ตรงจากการอ่านหนังสือ เซียนตรรกะฯ เล่มนี้ มาเล่าให้ฟังอีกค่ะ (เป็นเรื่องของพี่น้องอีกคู่ค่ะ (ฮา)) เป็นประสบการณ์ในการอ่านหนังสือเล่มนี้พร้อมกับน้องสาวซึ่งเป็นเด็กมัธยมปลายที่ไม่ถูกโรคกับคณิตศาสตร์อย่างรุนแรง (แถมเจ้าตัวพอได้ยินครั้งแรกว่าเป็นปริศนาทางตรรกศาสตร์ยังทำท่าขนลุกขนพองนิด ๆ อีกด้วย) แต่พอได้ลอง 2-3 ข้อแรกเท่านั้นเองค่ะ คืนนั้นก็ติดลมถึงขั้นคว้ากระดาษทดมาคนละแผ่น แล้วสองคนพี่น้องก็ช่วยกันคิดกันใหญ่ จัดได้ว่าเป็นหนังสือเล่มแรกในชีวิตเลยที่ทำให้ทั้งสองคน (ซึ่งเป็นโรคต่อมคณิตศาสตร์อักเสบทั้งคู่) ได้ใช้สมองคิดมากขนาดนี้ (แถมใช้ปากทั้งเถียงกันทั้งปรึกษากันด้วย) บางข้อก็ต้องใช้หลักตรรกะที่เรียนมา (สมัย ม.ปลาย ซึ่งก็ผ่านมานานแล้วเสียด้วยค่ะ) ผสมกับหลักเหตุผลในความเป็นจริง (ส่วนผสมนี้ต้องใช้เยอะมากเลยค่ะ) แถมพ่วงด้วยความคิดนอกกรอบอีกต่างหาก สุดท้ายคืนนั้นทำไป 16 ข้อ แล้วก็ต้องพักไว้ก่อน เพราะดึกแล้วค่ะ (อีกหลายสิบข้อที่เหลือยังเก็บไว้คิดวันหลังได้อีกนาน) ก่อนนอนยังคุยกันว่าเป็นหนังสือที่ท้าทายสมองจริง...จริง...ค่ะ ถ้าคิดเล่น ๆ ในอีกมุมหนึ่ง เซียนตรรกะฯ ก็พอจะเป็นหนังสือที่มีส่วนช่วยให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันได้ด้วยนะคะ (ฮา)   Create Date : 17 ตุลาคม 2551     Last Update : 10 กันยายน 2557 9:02:14 น. Counter : 2529 Pageviews.   19 comment Share Tweet

• tpapress
• hiroko
• Webmaster - BlogGang

• Twitter ของสำนักพิมพ์
• มาเป็นแฟน (เพจ) กันเถอะ
• My Channel : Youtube
• สั่งซื้อหนังสือ
• สำนักพิมพ์ ส.ส.ท.
• BlogGang.com