Group Blog
 
All Blogs
 
It started like any other night

เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา เมืองไทยก็เป็นวันรัฐธรรมนูญใช่มะ แต่ที่นี่ก็เป็นวันธรรมดาๆ วันนึง ไม่มีอะไร แค่เป็นวันที่ทุกคนในห้องเรา ซึีงมีประมาณ 20 คน นัดกันไปกินอาหารค่ำด้วยกัน เหมือนไปเลี้ยงฉลองจบภาคเรียน
ขออธิบายเรื่องภาคเรียนของที่นี่นิดนึง คือว่าที่เมืองไทยปีการศึกษานึงก็มี 2 เทอมใช่มะ แต่ที่นี่มี 3 เทอม

เทอมแรกเริ่มตั้งแต่กลางเดือนก.ย. จนกระทั่งก่อนวันหยุดคริสต์มาส

เทอมที่สอง เริ่มตั้งแ่ต่หลังวันหยุดคริสต์มาส ปีใหม่ คือช่วงประมาณวันที่ 8-10 ม.ค. ไปจนถึงกลางเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นช่วงก่อนวันหยุดอีสเตอร์

เทอมสุดท้าย ก็ตั้งแ่ต่หลังวันหยุดอีสเตอร์ไปจนจบปีการศึกษา คือช่วงต้นเดือนมิ.ย.

โอเค อันนี้ก็เหมือนเป็นปาร์ตี้ก่อนจบเทอมแรก ก็มีนัดไปกินอาหารค่ำด้วยกันตอน 3 ทุ่มครึ่งของวันศุกร์ พอถึงเวลานัด เราก็ไปเจอกับเพื่อนๆ ที่หน้าร้านพิซซ่า (ซึ่งเป็นที่ๆ เพื่อนนัดเราบ่อยมาก เพราะทั้งเมือง รู้จักอยู่ที่เดียว - - )

เราก็ไปเป็นคนสุดท้ายของกลุ่มนั้น เพราะว่าต้องรอโฮสต์มัม แดด ซึ่งกำลังจะขับรถออกไปรับโฮสต์ซิสเตอร์เราซึ่งจะนั่งรถไฟกลับมาบ้านพอดี เค้าก็เลยขับรถมาส่งเราด้วย (แต่ก็สายอยู่ดี)

เราซึ่งกลัวหนาวเต็มที่ เพราะได้บทเรียนมาเยอะแล้ว ก็โปะๆ เสื้อผ้าเข้ามาเต็มที่ เพราะว่าอากาศตอนกลางคืนมันก็เย็นๆ อยู่แล้วอ่ะ กะจะไว้ค่อยถอดตอนเข้าร้าน (ข้างในสุดเป็นเสื้อสายเดี่ยวสีเนื้อ ทับด้วยเสื้อแขนกุดสีชมพู แล้วก็เสื้อแขนยาวมีซิปหน้าสีเนื้อ + ดำ ทับอีกด้วยสเวตเตอร์สีเนื้อ ชั้นนอกสุดเป็นเสื้อโค้ตสั้นสีดำ ใส่กับกางเกงยีนส์)
ก็เดินกันไป รับเพื่อนอีกสองคนที่บ้านเค้า เพราะต้องเดินผ่านกันอยู่แล้ว นัดกันที่เมืองที่อยู่ข้างๆ (เมืองที่เราอยู่ คือ Picassent โรงเรียนที่เราไปก็อยู่เมืองนี้ แต่ที่ีที่นัดกันคือเมือง Alcacer ซึ่งอยู่ข้างๆ ไม่ไกลเท่าไหร่ เพื่อนที๋โรงเรียนหลายคน เกือบครึ่ง ก็อยู่เมืองนี้กัน) พื้นที่เดินก็เป็นดินอ่ะนะ เพราะมันเป็นทางคนเดิน เฉอะแฉะมากๆ เพื่อนผู้หญิงที่ใส่รองเท้าบู๊ตส้นสูงก็ นะ เละเล็กน้อย ส่วนเรา เตรียมการไว้แล้ว ก็เลยใส่ผ้าใบคู่ที่มันดูดีหน่อยมา

ไปถึง ก็เจอเพื่อนที่นัดไว้ รออยู่แล้ว ก็เดินไปที่ร้านอาหาร ซึ่งก็เป็นบาร์เล็กๆ อ่ะนะ (เค้าก็กินกันแบบเนี้ยแหละ ร้านใหญ่ๆ ไม่ค่อยมี เรามันอยู่บ้านนอก) เพื่อนก็จัดการถอดเสื้อโค้ตกัน ข้างในก็นะ โชว์กันเต็มที่ แต่ในร้านมีอีกโต๊ะนึง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ชาย 6-7 คนนั่งกันอยู่ก่อนแล้ว เราก็เลยเหลือเสื้อแขนยาวไว้ รูดซิปลงมานิดหน่อย ไม่ให้มันดูเรียบร้อยเกิน ไม่งั้นจะโดนเพื่อนเขม่นได้

มาถึงอาหารดีกว่า เครื่องดื่มที่เสิร์ฟมาเป็นอย่างแรก เป็นน้ำสีแดงเข้มๆ ใส่น้ำแข็งในเหยือกใบใหญ่ เหมือนน้ำกระเจี๊ยบมากๆ แต่มันคือไวน์ที่ไม่ได้ทำจากองุ่น ทำจากผลไม้อะไรซักอย่าง เป็นเครื่องดื่มประจำบาเลนเซีย ชื่อSangrillaกลิ่นมันหอมมากๆ อร่อยด้วยแหละ เลยกินไปซะเยอะเลย (ตรงกลุ่มเรา นั่งกันอยู่ 5-6 คน กินไป 3 เหยือก) เรากินไป รวมๆ ก็ 3-4 แก้วล่ะมั้ง

ออเดิร์ฟจานแรกที่ยกมาเสิร์ฟ เป็นมันฝรั่งทอด แบบเม็กซิกันมั้ง ถ้าจำไม่ผิด เพราะโฮสต์เคยพาไปกินแล้วมันก็เป็นแบบเนี้ย คือราดมายองเนสกับซัสซ่าเผ็ดๆ ที่สีเหมือนซอสมะเขือเทศ อร่อยดี ชอบบบ

จานที่สอง เป็นลูกชิ้นปลาเส้นๆ ทอดเป็นวงๆ เหมือนหัวหอมทอด จิ้มกับมายองเนส อันนี้ก็อร่อยยยย

จานที่สาม เป็นเหมือนปลาหมึกมั้ง ไม่แน่ใจ เป็นก้อนสี่เหลี่ยมลูกเต๋า คลุกกับมายองเนส และออริกาโน ก็อร่อยดี

พอออเดิร์ฟหมด ก็ถึงเวลาสั่งอาหารจานหลัีก (ความจริงก็เริ่มอิ่มแล้ว แต่ต้องกินให้คุ้ม เพราะที่นี่เวลาจ่ายเงิน เค้าก็จะเอาค่าอาหารทั้งหมดมาหารจำนวนคน ไม่ได้หารว่า ใครกินอะไรไปเท่าไหร่ สรุปคือ ทุกคนต้องจ่ายเท่าๆ กันไม่ว่าจะกินมากกินน้อย) เราก็ไม่รู้จะิกินอะไรดี เลยสั่ง Bocadillo Tortilla de Patatas
Bocadillo - แซนด์วิชที่ใช้ขนมปังก้อนยาวๆ ใส่ไส้อะไรก็ได้ เช่น ชีส แฮม ฯลฯ

Tortilla de Patatas คือ ไข่เจียว มันฝรั่ง เป็นอาหารประจำชาติสเปนก็ว่าได้

นั่งรอซักพัก เพื่อนเอเอฟเอสที่เป็นคนไอซ์แลนด์ ชื่อฮุลด้า ก็เกิดปวดฉี่ขึ้นมา เราก็ไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน ก็เลยต้องทำหน้าที่ล่าม หันไปถามเพื่อนคนสเปนข้างๆ เพราะเพื่อนเอเอฟเอสเราเค้ายังไม่ค่อยคล่องสเปน ถึงแม้ว่าจะมาก่อนตั้งเดือน แต่เค้าก็ไม่ค่อยพูดด้วยแหละ พูดน้อยกว่าเราตอนม. 1 อีก คิดดูละกัน พอหันไปถาม เพื่อนที่ชื่อตาอิส (คนนี้สวยมากๆ แต่อวบๆ ไปนิด) เค้าก็ปวดฉี่ขึ้นมาพอดี เราก็ดื่ม Sangrilla ไปเยอะใช้ได้ ก็เลยไปห้องน้ำกันทั้งสามคน

ไปถึงห้องน้ำ (เหมือนเดินไกลมากเลยเนอะ แต่ร้านมันก็เล็กนิดเดียวแหละ) เข้าไปก็ตกใจเพราะเข้ามาก็เป็นโถส้วมเลย ไม่ได้แบ่งเป็นห้องๆ แบบห้องน้ำสาธารณะทั่วไป คือเหมือนเข้าห้องน้ำที่บ้านอ่ะ แต่นี่เราเข้ามากันสามคน ก็เลยงงๆ เล็กน้อย ฮุลด้าก็หันมามองหน้าเราแบบ จะให้ฉี่ต่อหน้าคนอื่นเลยเหรอ เราก็มองกลับไปประมาณว่า ถ้าเค้าไม่เห็นว่ามันแปลกก็ทำๆ ไปเหอะ แล้วก็พยายามไม่หันไปมอง เค้าจะได้ไม่อาย ทีนี้พอเราฉี่ เราก็รีบๆ ฉี่เร็วๆ ถึงเค้าจะไม่ได้สนใจแต่มันก็อายนี่นา แต่พอตาอีสฉี่ เค้าก็ทำท่าเฉยๆ คุยกะเราด้วย เราก็ติดนิสัยเวลาคนคุยด้วยต้องหันไปมองหน้า ก็พยายามไม่มอง แต่เค้าก็ทำท่าแบบว่าธรรมดามากๆ เราก็เลยพยายามไม่คิดอะไรมาก

พอกินกันเสร็จก็ออกไป เค้าจะไปเที่ยวดิสโก้กันต่อ เราก็จะไปกับเค้าด้วย เพราะส่วนใหญ่ไปกันทั้งนั้น แล้วถ้าไม่ไปเราก็กลับบ้านไม่ถูก ก็เลยไปด้วย


ก็ไปหยุดรอเพื่อนที่ไปซื้อเหล้าที่สวนสาธารณะเล็กๆ ที่นึง นั่งรอ นั่งสูบบุหรี่ สูบกัญชากันซักพัก (ยังขอยืนยันว่า กลิ่นกัญชาหอมกว่ากลิ่นบุหรี่หลายเท่า) เพื่อนที่ไปซื้อเหล้าก็กลับมา ไม่รู้ว่าซื้อ + ขนมาได้ยังไง เยอะมากๆ ตอนแรกเราก็ไม่กิน เพราะว่าแค่ซังกรีย่าที่บาร์สามแก้วก็มึนๆ แล้ว ยืนๆ ยังต้องกอดเสาเลย

แต่เพื่อนก็อุตส่าห์ผสมให้กิน เป็นเตกีล่า ผสมกับโค้ก เพื่อนบอก ผสมนิดหน่อย แต่ตอนเท ใส่เตกีล่าไปซะครึ่งแก้ว เพื่อนอีกคนเห็นเรากิน ก็เลยอุตส่าห์ผสมให้อีกแก้ว เป็นเหล้าอะไรไม่รู้ ที่ทำจากกีวี่ ผสมกับแฟนต้าเลม่อน ก็อร่อยดีอ่ะนะ กินไอ้นี่ไปแก้วนึง แล้วก็เตกีล่าผสมโค้กอีกสองแก้ว (แก้วที่สองผสมเอง ใส่เตกีล่าน้อยๆ แล้วนะ แต่เพื่อนหันมาเห็นเลยเทให้อีกตั้งเยอะ)


หลังจากดื่มๆ กันแล้ว เพื่อนหลายคนก็เริ่มๆ เมา คนนึงเมาแล้วก็อารมณ์ดี เดินทักคนนู้นคนนี้ไปทั่ว อีกคนเมาแล้วก็ร้องไห้ โวยวายเรื่องรองเท้าสกปรก (ที่พูดมาเนี่ย เป็นผู้หญิงทั้งสองคนเลยนะ)

นั่งดื่มกันอยู่ที่สวน กว่าจะได้ฤกษ์ไปดิสโก้เธคก็เกือบตี 2 แล้วก็ยังเลือกไปดิสโก้ที่อีกเมืองนึง ชื่อเมือง Silla ซึ่งก็อยู่ไกลออกไปอีก ต้องนั่งมินิบัส หรือบ้านเราก็คือรถตู้นั่นแหละ ไป เสียคนละ 3 ยูโร ไป-กลับ


ไปถึงก็เข้าไปดิสโก้ที่นึง (แถบนั้นมีหลายที่มากๆ 3-4 ที่ได้มั้ง) แล้วเค้าก็เต้นๆ กัน เราก็เต้นๆ ไปด้วย แต่สู้เค้าไม่ได้ เค้าเต้นพลิ้วๆ แบบฟลาเมงโก้อ่ะ เต้นกันสวยมากๆ จะว่าไป เพื่อนเราแต่ละคนก็เต้นกันสวยๆ ทั้งนั้นเลย สวยกว่าคนอื่นที่อยู่ในดิสโก้อีก


แล้วก็เริ่มเข้าๆ ออกๆ ดิสโก้แถบนั้นทุกที่ หลังจากเราเต้นๆ ไปซักพักก็เริ่มหายมึนๆ จากเหล้า ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเต้นเยอะ ได้ออกกำลังกาย หรือว่าเสียงเพลงดังๆ หรือว่าเพราะฉี่ออกไปเยอะ ก็เลยหายเมา แต่พอตี 5 ก็ออกมารอรถมินิบัสที่นัดไว้ กว่ารถจะมาก็เกือบตีห้าึครึ่ง


สรุปกลับไปถึงบ้านได้นอนก็ 6 โมงเช้าพอดี นอนได้สี่ชม. ก็ต้องตื่นไปเรียนเปียโน กลับมาก็ไปแคมปิ้งกับครอบครัว แล้วก็หลับยาวตลอดบ่าย (กินข้าวกลางวันเสร็จก็นอนเลย) อดไปเดินเล่นตอนบ่ายเลย โฮสต์แดดที่พาหมาไปเดินเล่นบอกว่า เจอกระต่ายด้วย (ที่ๆ ไปเดินเล่นเป็น Natural Park แต่โดนไฟไหม้ไปเมื่อหลายปีก่อน เป็นทางเดินไปชายหาด) พอเราไปเช้าวันรุ่งขึ้น อากาศก็เย็นๆ แล้วอ่ะ เพราะฝนจะตก เลยอดเห็นกระต่ายเลยอ่ะ เสียดายยยยยย



Create Date : 26 มกราคม 2548
Last Update : 26 มกราคม 2548 0:18:50 น. 0 comments
Counter : 363 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Arms of Venus
Location :
Picassent, Valencia Spain

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Arms of Venus's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.