Group Blog All Blog
|
Slow Time in Singapore... Day 4 we love Singapore
![]() -------------------------------------------------------------------------------------------------------- วันที่ 4 ในสิงคโปร์ นอนหลับกันอย่างเต็มออิ่มจนถึงช่วงสาย นั่งคิดวนไปวนมาว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี สุดท้ายก็ลงตัวที่ City Tour แบบไม่ง้อไกด์ เพราะงานนี้เราพาคุณแฟนตะลอนทัวร์เองเลยค่ะ อิอิ ![]() เริ่มจากที่แรก Merlion Park ที่อ่าว Marina Bay โดยนั่งรถไฟฟ้าจากไชน่าทาวน์ไปลงที่ Dhoby Ghaut แล้วเปลี่ยนไปสายสีแดงลงที่สถานี Raffle Place แล้วเดินชมชีวิตหนุ่มสาวออฟฟิศไปด้วย เพลินดีค่ะ ![]() ![]() ![]() ทางเดินริมแม่น้ำบรรยากาศดีมาก แดดอ่อนๆ แถมลมพัดมาตลอด เย็นสบายยยยย ![]() ![]() ![]() ถึงแล้ว Merlion แสนขยัน พ่นน้ำบุ๋งๆๆๆๆๆ ไม่เหนื่อยบ้างเลย ![]() ![]() ![]() จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้าไปยังสถานี Bugis ย่านคนเดิยอดนิยม เจอคนไทยที่นั่นเยอะมากเลยด้วย ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ด้านในขายเสื้อผ้า รองเท้าแฟชั่นคล้ายๆ บ้านเราเลยค่ะ แต่แพงกว่าประมาณ 20% ได้ ![]() ![]() ![]() แวะทานข้าวกันที่ฟู้ด คอร์ทดีกว่า ที่นี่มีร้านข้าวมันไก่ร้านดังอยู่ด้วยล่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ข้าวมันไก่แสนอร่อย ![]() ![]() ![]() ข้าวมันไก่ย่าง อร่อยฝุดๆ ![]() ![]() ![]() อันนี้ชื่อหมี่สยาม (ซื้อจากอีกร้าน) รสชาติแปลกๆ ![]() ![]() ต่อด้วยไหว้พระที่วัดเจ้าแม่กวนอิมและวัดแขก ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() หลังจากนั้นก็เป็นมหากาพย์เดินชมเมืองค่ะ เดินไปเรื่อยๆ เจออะไรสวยก็แวะถ่าย ระยะทางประมาณ 3 - 4 กม. ได้ หอสมุดแห่งชาติสิงคโปร์ ![]() St. Josephs Church ![]() ถนน Seah ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() โรงแรม Raffles ![]() ![]() ![]() CHIJMES ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Good Sheperd Cathedral Chruch ![]() ![]() ![]() Saint Andrews Cathedral Chruch ![]() หลังจากนั้นก็เดินทางไปเอากระเป๋าที่ไชน่าทาวน์ ถือเป็นการจบทริปอย่างเป็นทางการค่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Slow Time in Singapore... Day 3 Happy at Sentosa Island
--------------------------------------------------------------------------------- วันที่ 3 ในสิงคโปร์ วันนี้เราจะไปตะลุยเกาะหรรษาเซ็นโตซ่ากันค่ะ เริ่มออกเดินทางกันตอน 9 โมงเช้า แล้วก็นั่งรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากChinatown ไปอีก 2สถานีก็จะถึงปลายทางที่ Habourfrount ครั้งนี้เราเลือกจะนั่ง cable car มากกว่ารถไฟฟ้า เพราะอยากพาคุณแฟนดูวิวไปด้วยค่ะ ![]() มาถึงแล้วก็เดินมายังตึก World Trade Centre แล้วก็จัดการซื้อตั๋วก่อนเพราะไม่ได้เตรียมมาจากเมืองไทย สนนราคาคนละ 29 ดอลลาร์สำหรับนั่งไปและกลับภายในหนึ่งวัน จากนั้นก็ขึ้นลิฟท์ไปต่อคิวนั่งกระเช้าสู๊งงงง สูงกันเลย ![]() กระเช้า 1 อันต้องนั่ง 4 คนค่ะ เราร่วมทางไปกับคู่สามี ภรรยาชาวจีนมาเลย์คู่นึง หลังจากผลัดกันถ่ายรูป 2 3 รอบก็ได้คุยกันนิดหน่อย เค้าทายว่าเราเป็นอินโดซะอย่างงั้น พอบอกว่าเป็นคนไทยก็แปลกใจพร้อมกับบอกว่าคนไทยไม่ค่อยพูดอังกฤษ เลยไม่นึกว่าเราจะเป็นคนไทย (แอบเจ็บเหมือนกันนะเนี่ย) ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() การเดินทางมายังเซ็นโตซ่า สามารถมาได้ทั้ง Cable Car รถรางไฟฟ้า Sentosa Express (ขึ้นที่ Vivo City) และทางรถเมล์ ซึ่งบนเกาะเองก็จะมีรถบัสบริการฟรี โดยมีทั้งหมด 3สายด้วยกัน วิ่งครอบคลุมทั่วทั้งเกาะเลยล่ะ ![]() ลงจาก cable car เราก็ตระเวนไปทั่วเกาะเซนโตซ่า แต่ไม่ได้เข้า Universal นะคะเพราะคนเยอะขี้เกียจรอ อิอิ เริ่มเดินทางจาก Imbiah Station Sentosa บริเวณโดยรอบก็จะมีทั้ง Luge & Skyline สวนผีเสื้อและแมลง และ Sky Tower แต่เราไม่ได้แวะเล่นอะไรเลย เดินไปรอรถบัสฟรีที่ป้ายเพื่อไปยัง Resort World ค่ะ อธิบายก่อน ภายในเซ็นโตซ่าเค้าขะแบ่งออกเป็น 4 โซนใหญ่ๆ คือ Imbiah Station Sentosa, Beach, Siloso Point และResort World ค่ะ ![]() ![]() เดินเล่น+ถ่ายรูปที่ Resort World ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ถ่ายรูปกับ Daddy Merlion ![]() ![]() Siloso Beach มีวัยรุ่นชาวสิงคโปร์มาพักผ่อนกันเยอะเลยค่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() หลังจากนั้นเรานั่งรถทัวร์ทั่วทั้งเกาะเลยค่ะ แต่แบตกล้องจะหมดเลยไม่ได้ถ่ายอะไรมาเลย (แหะ แหะ) ประมาณบ่ายสามเราก็นั่งกระเช้ากลับกันแล้ว เพราะค่อนข้างจะเหนื่อยมากๆ เลย ![]() ![]() ![]() แอบไปงีบที่โรงแรมจนถึงหกโมงก็ออกไปถ่ายรูปไฟคริสต์มาสที่ถนนออร์ชาร์ตกันต่อค่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() เดินจนสุดถนนแล้วก็นั่งรถเมล์กลับมาไชน่าทาวน์ ไปหม่ำติ่มซำร้านดัง Tak Po กันดีกว่า ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ขนมจีบกุ้งมังกร ![]() ฮะเก๋า ![]() อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆ สนนราคามื้อนี้ 24 ดอลลาร์ค่ะ อิ่มแล้วก็เข้าโรงแรมนอนเพื่อเอาแรง ก่อนถึงวันสุดท้ายในสิงคโปร์....... ![]() ![]() Slow Time in Singapore...Day2 Shopping time
![]() หลังจากอิ่มจากอาหารเช้าและนอนต่อจนหนำใจแล้ว ก็ถึงเวลาออกเที่ยวซะที โดยวันที่สองของเราขออุทิศให้กับการช้อปปิ้งอย่างเต็มที่ อิอิ เริ่มที่แรกด้วยOutlet ยอดนิยมอย่าง Anchorpoint บนถนนAlexander การเดินทางของเราคือMRT สีม่วงไปลงที่ Outram Park แล้วเปลี่ยนไปขึ้นสายสีเขียวมุ่งหน้าไปยังสถานี Queen town ซึ่งตลอดเส้นทาง รถไฟฟ้าจะสลับขึ้นมาวิ่งด้านบน ทำให้เราสามารถชมวิวทิวทัศน์ย่านชานเมืองได้เต็มที่ บรรยากาศบนMRT ตอนเช้าวันอาทิตย์ ![]() เมื่อถึงQueen town ก็ลงมารอรถเมล์สาย 33 ไปอีก 2ป้าย ลงที่ป้ายหน้า IKEA แล้วข้ามฝั่งไปได้เลย ![]() ![]() ![]() หลังจากนั้นก็ไปช้อปต่อกันที่IMM Building โดยขึ้นรถเมล์สาย33ที่หน้าAnchorpoint ไปลงที่MRT Queentown แล้วนั่งต่อไปลงที่สถานีJurong East แล้วยืนรอshuttle bus ฟรีของทางห้างได้เลย แต่เราใจร้อนไปนิดก็เลยเลือกจะเดินไปแทน(ติ๊ต่างเองว่ามันใกล้นิดเดียว) เล่นเอาเหนื่อยเกือบเป็นลมเลยลืมถ่ายรูปซะสนิท แหะแหะ ที่IMM Buildingนี้ เป็นห้างขนาดกลางรวมกับตึกออฟฟิศ ซึ่งมีoutletแบรนด์ดังอยู่มากถึง13 shopด้วยกัน แต่.......เอาเข้าจริงแล้วเรากลับไม่ได้อะไรติดมือเลยค่ะ เพราะราคามันไมได้ถูกซักเท่าไร แถมแบรนด์ที่เล็งๆ ไว้ก็ดันปิดหนีไปอีก เซ็งสุดๆ เลยหนีไปเดินDaiso ร้านดังจากญี่ปุ่นแทน ขอบอกว่าที่นี่ใหญ่และของเยอะมากเลย ![]() หลังจากนั้นก็แว้บไปทานข้าวกันที่Food Court ของห้าง เจอเมนูแปลกเลยขอลองซะหน่อย คือร้านจะให้เราหยิบพวกลูกชิ้น เนื้อสัตว์ เต้าหู ผัก ฯลฯ ตามที่เราต้องการ แล้วเอาไปต้มจนสุกและราดด้วยน้ำซุป(ซุปใสหรือแกงเผ็ดแบบแขก) ทานคู่กับข้าวหรือหมี่ลวก เซตนี้สนนราคาSGD8.50 ทานได้สองคนเลยค่ะ รสชาติดีด้วย เผ็ดนิดๆ ทานกับหมี่คลุกซอสแล้วเยี่ยมมากเลย ![]() ![]() หลังจากอิ่มแล้วก็นั่งshuttle Busฟรีไปลงที่อีกหน้านึง ชื่อว่าJ Cube (ก็ห้างธรรมดานี่แหละ) ที่หน้าห้างเป็นต้นทางรถเมล์สายJurong East ทุกสาย สามารถไปได้ทั่วทุกทิศตามต้องการเลยค่ะ เดินออกมาหน่อยฝนก็เทลงมาซะแล้ว เลยยืนรอรถเมล์ไปดูฝนตกไปด้วย โดยรถที่เราขึ้นก็คือสาย97 จุดหมายปลายทางที่Marina Bay ซึ่งเราจะใช้เวลาช่วงเย็น-ค่ำที่นั่นกันค่ะ ![]() ![]() มาถึงแล้วก็ต้องช้อปปิ้งก่อนตามคอนเซ็ปต์ มุ่งหน้าเข้าไปในThe Shoppes by Marina Bay Sand ห้างซึ่งรวมแบรนด์ดังๆ และหรูหราจากทั่วโลกไว้ที่นี่ที่เดียวเลย ข้อเสียก็คือ ที่นี่ไม่มีเคาท์เตอร์Tax Refund ให้บริการค่ะ ซื้อของแล้วต้องขอใบrefundเพื่อไปยื่นที่สนามบินอีกที ![]() ภายในห้างตกแต่งน่ารักดี คนก็เยอะมากสมเป็นบ่ายวันอาทิตย์ เจ๋งตรงมีเรือที่คล้ายๆ กับกอนโดร่าให้นั่งด้วยล่ะ ![]() ![]() โชว์ปล่อยน้ำลงมาจากอ่างด้านบน ![]() ร้านสุดเลิฟของสาวๆ หมดตัวกันที่นี่แหละ ![]() ![]() ช้อปจนตัวเบาแล้ว ก็ออกมาเดินเล่นริมแม่น้ำกัน ![]() ![]() แอบซูมขึ้นไปที่จุดชมวิวหัวเรือMarina Bay Sand คนเยอะใช้ได้นะเนี่ย ![]() ซูมไปที่ฝั่งตรงข้าม Merlion เพื่อนเก่ากำลังทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจ ![]() นั่งกินลมชมวิวจนแสงอาทิตย์มืดลง อาคารโดยรอบเริ่มเปิดไฟสว่างสดใสกันแล้ว เราก็เริ่มออกเดินไปยัง The Helix Bridge สะพานรูปเกลียว สถานที่ยอดนิยมอีกแห่งของสิงคโปร์ ด้วยดีไซน์ที่แปลกตาและเก๋ไก๋ทำให้ที่นี่เป็น 1 ใน 12 สะพานที่น่าทึ่่งของโลก ![]() สะพานไม่ยาวมาก เดินไปเก็บภาพไปไม่เหนื่อยเท่าไรก็มาถึงฝั่งตรงข้ามแล้ว ![]() เมื่อข้ามมาก็เจอกับ Esplanade หรืออาคารหนามทุเรียน วันที่เราไปมีคอนเสิร์ตเล่นที่แพริมน้ำด้วย คนแน่นเช่นเคย ![]() ฝั่งถนนRaffle ![]() จากนั้นก็เดินข้ามสะพานเพื่อไปยัง Merlion Park ระหว่างนั้นก็ถึงเวลาแสดงโชว์ของMarina Bay Sand เรือลำยักษ์ริมอ่าวพอดี....สวยสมคำร่ำลือจริงๆ ![]() ![]() ทักทายMerlion เพื่อนเก่าซะหน่อย ![]() ![]() Baby Merlion ![]() แล้ววันนี้ก็จบทริปที่Merlion Park กับบรรยากาศชิลๆ สบายๆ ของริมแม่น้ำ~ ~ ~ ![]() อ่่านต่อๆ Slow Time in Singapore...Day1 Chinatown - Clarke Quay Slow Time in Singapore... Day 3 Happy at Sentosa Island Slow Time in Singapore... Day 4 we love Singapore Slow Time in Singapore...Day1 Chinatown - Clarke Quay
![]() ทริป4วัน4คืนที่สิงคโปร์รอบนี้ เราจะแบ่งรีวิวที่ละวันนะคะ แม้จะไม่ได้โดดเด่นอะไรมากมายแต่ก็อยากให้เห็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของเมืองน่ารักแห่งนี้ด้วยค่ะ ผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องยังไง ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ Day1 BKK-CHANGI-Chinatown-Mustafa-Clarke Quay เดินทางสูสิงคโปร์ด้วยเที่ยวบินTR2115 ของTiger Air เที่ยวสุดท้าย 3ทุ่ม45นาที ของศุกร์ที่7 ธ.ค.ที่ผ่านมา เรียกว่าเลิกงานก็เปลี่ยนชุด สะพายเป้ แล้วออกเดินทางกันเลย (ที่ออฟฟิศตกใจกันพอสมควร แบบว่าที่นี่เค้าไม่รู้จักการBackpack กันเลย) วันนี้น้องเสือไม่งอแงไม่เกเร แม้จะเลื่อนเวลาเปิดgate เล็กน้อย แต่ไฟลท์นี้ไม่มีDelay อิอิ สภาพในเครื่องก็ประมาณนี้ค่ะ ![]() ![]() ถึงสิงคโปร์ประมาณตีหนึ่งเศษที่T2 ทำเรื่องและผ่านต.ม.ในเวลาไม่นาน หลังจากนั้นก็ตะเวนหาที่นอนหลับพักผ่อน จนมาลงตัวที่โซนทางลงMRTเข้าเมือง ตรงนี้จะมืดๆ หน่อยและมีที่ว่างมากพอสมควร มีBackpackerนอนเป็นหลักให้ก่อนแล้ว เราก็ไม่รอช้าวางเป้แล้วเอาหัวพาดหลับโลด ![]() แต่....บุญมีแต่กรรมบังเล็กน้อย พอถึงตี5 เค้าก็เปิดไฟสว่างจ้าจนต้องลุก เลยตกลงว่าจะไปถ่ายรูปเล่นที่T3กันก่อนเข้าเมือง คิดแล้วก็แจ้นไปขึ้นรถไฟที่เดินทางระหว่างT2 และT3 ซึ่่งเป็นTerminalล่าสุดของสนามบินนานาชาติชางกี และเรายังไม่เคยขึ้นเครื่องที่นี่มาก่อน ใหญ่โตอู้ฟู่สุดพลัง ได้ภาพมาประมาณนี้... ![]() ![]() ![]() ![]() หลังจากถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว เราก็นั่งรถไฟกลับสู่T2 เพื่อขึ้นMRTเข้าเมืองกัน ซึ่งตลอดทางก็ทำให้เราได้เห็นวิวยามเช้าของสิงคโปร์ที่เงียบสงบ(แน่ล่ะ เช้าวันเสาร์ใครเค้าจะแหกขี้ตาตื่นล่ะ!!) และในที่สุดก็ถึงจุดมุ่งหมายที่สถานีChinatown นั่นเอง ![]() ![]() ![]() ![]() เดินเล่นถ่ายรูปจนหนำใจแล้วก็เข้าที่พักกันค่ะ ทีพักของเราในคราวนี้คือ5 FootwayInn Project Chinatown1 ซึ่งอยู่บนถนนPagoda เอาง่ายๆ เลยก็ออกจากMRT Chinatown มาปุ๊บ เดินออกมาซัก30 ก้าวก็ถึงแล้วค่ะ 5555+++ เป็นHostel เล็กๆ สะอาดสะอ้านดี เมื่อก่อนเราทำงานพิเศษที่ร้านอาหารจีนในChinatown เคยเดินมาส่งอาหารที่นี่บ่อยๆ ![]() ![]() ![]() ![]() หลังจากพยายามอ้อนวอนขอเช็คอินก่อนเวลาเพราะง่วงมากๆ (ที่จริงเมลมาแจ้งไว้กอนแล้ว) พนักงานที่น่ารักก็ไม่สามารถให้เราเข้าห้องพักได้ เนื่องจากห้องพักเต็มแน่นมาก ต้องรอเช็คอินบ่ายสามเท่านั้น เศร้าจริงๆ ![]() ![]() ![]() ![]() Nanyang Old Coffee ร้านกาแฟและของว่างชื่อดัง ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องแวะมาทาน ของขึ้นชื่อได้แก่Kopi(กาแฟโบราณแบบสิงคโปร์แท้ๆ ) และKaya(สังขยาทาขนมปัง) แต่บังเอิญว่าแฟนเราไม่ทานทั้งสองอย่าง เราเลยเปลี่ยนมื้อเช้าเป็นพวกนี้แทน... Bak Kuh Teh น้ำสีออกดำรสเครื่องยาจีนเข้มๆ (แต่ไม่เข้มเท่าที่มาเลย์นะ) พร้อมข้าวสวยร้อนๆ ![]() Bau ไส้หมูสับลูกบิ๊กเบิ้มไส้เยิ้มๆ Swee Kueh แป้งก้อนโตทานคู่กับไชโป๊วเค็มๆ (อันนี้แฟนอยากลองของแปลก) ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() หลังจากนั้นก็ไปช้อปที่มุตตาฟาให้ตาสว่างเล็กน้อย(ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะคนเยอะเกิ๊นนน) ก่อนกลับมาเตร็ดเตร่ที่Chinatown ประมาณบ่ายสองโมงกว่าๆ เพื่อฆ่าเวลาก่อนเช็คอินตอนบ่ายสาม บรรยากาศคึกคักมาก คนเยอะร้านค้าก็เปิดกันแน่นเต็มถนนเลย ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() และแล้วในเวลาบ่ายสามโมงครึ่งเราก็ได้เข้าห้องพักจนได้ เย้!!! ครั้งนี้เราจองห้องDormแบบ 6 เตียงเอาไว้ค่ะ ห้องสะอาดสะอ้านดีมาก คู่เราได้นอนเตียงตรงประตู ซึ่งทางพนง.จัดให้เองโยที่เลือกไม่ได้ค่ะ ตอนแรกเราแอบไม่พอใจนะเพราะอยากนอนเตียงด้านในซึ่งใกล้หน้าต่าง แต่มารู้ทีหลังว่านอนเตียงตรงประตูทำให้ไม่มีคนนอนเตียงตรงข้ามและแอบดูเรานอนไม่ได้ด้วย (ที่จริงคนที่มาพักห้องเดียวกันเล่าว่า พนง.แจ้งเลยว่าในห้องมีผู้หญิงนะ ให้เกียรติเธอด้วย อะไรแบบนี้) ถือว่าใส่ใจกันเกินร้อยเลยล่ะ ![]() ![]() ![]() ข้างๆ เตียงเป็นประตูเข้าห้องและกระจกแบบนี้ ![]() มีล็อกเกอร์ใส่ของให้ด้วยนะคะ โดยทางพนง.จะเก็บมัดจำตู้ละ10เหรียญ พร้อมกับเงินมัดจำคีย์การ์ดอีกอันละ10เหรียญ และจะคืนเงินให้ตอนเราเช็คเอาท์ค่ะ ![]() วิวนอกหน้าต่าง... ![]() หลังจากนั้นเป้นมหากาพย์นอนยาวววววว ของเราค่ะ อิอิ ตื่นมาอาบน้ำแต่งตัวอีกทีก็ทุ่มนึงโน่นนน ซึ่งพวกเราเลือกจะไปเดินตะลอนๆ ริมแม่น้ำที่Clarke Quay โดยข้ามไปขึ้นรถที่หน้าตึกPeople Complex นั่งรถสาย124 ไปป้ายนึงก็ถึงแล้ว!! มีวิวสวยๆ ให้ดูระหว่างเดินด้วย ![]() ![]() ![]() แล้วก็ถึงClarke Quay ในที่สุด เดินสำรวจและเก็บภาพสวยๆ ไปเรื่อย เหนื่อยก็นั่งรับลมริมแม่น้ำกันไป ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() แล้วก็เจอกับของโปรด นั่นคือไอติมตัดอันละ1เหรียญ วิธีก็คือคุณลุงคนขายจะตัดไอติมเป็นชิ้นแล้วประกบบน-ล่างด้วยเวเฟอร์ อร่อยอย่าบอกใครเลย มาสิงคโปร์แล้วไมได้หม่ำเจ้านี่ เราว่าเหมือนมาไม่ถึงเลยล่ะ ![]() ![]() ![]() สักสี่ทุ่มเราก็นั่งMRTกลับมายังChinatown แล้วเดินย้อนไปที่Smith Street เพื่อทานมื้อค่ำกัน เพราะทริปนี้เราเน้นกินเที่ยวชิลๆ ไม่ได้ทานหรู+นอนห้องแพงๆ แต่อย่างใด มื้อนี้เราก็เลยทานMini Pot ร้อนๆ พร้อมข้าว+บะหมี่ผัดซอส สนนราคาก็8.50 เหรียญด้วยกัน (ไม่ได้ถ่ายของกินมาเลย.....) ปิดท้ายคืนแรกที่สิงคโปร์ด้วยภาพถนนอาหารSmith Street นะคะ ![]() ![]() ![]() |
ต๊องต๊อง กะ บ๊องบ๊อง
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Just a little step in the Big World โลกกว้างใหญ่ มีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก ต๊องต๊อง กะ บ๊องบ๊อง All rights reserved [สงวนลิขสิทธิ์ ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539] Link |