Come Back to Blog ^^"
|
||||
Disnyland สวนสนุกที่ไปแล้วไม่อยากกลับ
                     จากมาเก๊าเมืองอารยธรรม สู่ เมืองแห่งความรุ่งเรือง ฮ่องกงสวรรค์ของนักช๊อป เย้ๆๆๆ
ออก แล้วค่ะ ออกเดินทางแล้ว นั่งเรือที่เรากัวนักกัวหนา ฮือ จะรอดมั้ย ลองดูเรานะ เราเป็นนักเดินทาง
อยู่บนเรือแล้วค่ะ  เค้ามีข้อควรระวัง ให้เราอ่ะ ดีเหมือนกันเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร   ผู้ร่วมคณะทัวร์ 4 ท่าน   มาถึงเมือศิวิไลแล้วค่ะ         สรุปเมืองนี้สวยมากๆ ติดใจแล้วนะ สุขสันต์ วันปีใหม่ ณ.ครัวที่ 2 หมู่บ้านสัมมากร
แล้วปีใหม่ก็มาถึง มาถึงแล้วก็ต้องเลี้ยงฉลองกันเนาะ พวกเราเลยนัดกันที่ ร้านอาหารครัวที่ 2 หมู่บ้านสัมมากร สุขาภิบาล 3 หุหุ เพื่อนๆ มันบ่นอยู่ว่าไกลมากๆ มาจากรังสิต เราก็จัดแจ้งนัด แล้วก็เข้าไป เซอร์เวย์ก่อน เพราะเราไม่เคยไปเหมือนกัน แต่เค้าเล่ากันว่าอาหารอร่อย เลยนัด เพื่อนๆ ลิ้มรองความอร่อยซะงั้น
ได้ฤกษ์กันวันที่ 5 มกราคม กว่าจะนัดกันได้ โห นานมาก คนนั้นก็ไม่ว่างคนนี้ก็ไม่ว่าง ขนาดมีกันอยู่แค่ 5 คนนะ แล้ในที่สุด เราก็หากันจนเจอ หุหุ กว่าจะมากันครบองค์ประชุม ก็ปาเข้าไป บ่าย แก่ ๆ มาก รูปไม่ครบองค์ประชุม เนื่องจากมีบางคนติดภาระถ่ายรูป หุหุ  ครบและ ให้น้องเด็กเสริฟ ถ่ายให้   กลับแล้วจ้า อิ่มน่ำสำราญดี รูปบรรยากาศด้านหน้าฝั่งลานจอดรถ   มารับแล้ว สงสัยคงต้องกลับละ บ้าย บาย  มาเก๊าเมืองอารยธรรม ในที่สุดก็ถึงซักที
ออกเดินทางโดย Taxi บ้านเราตั้งแต่เช้าเลย แต่ใจยังคิดอยู่ เช้าไปมั้ยอ่ะ หุหุ
 อยู่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วจ้า มาถึงตั้งแต่ไก่โห่เลย เย้ๆๆๆ เคาน์เตอร์ เช็คอินยังไม่เปิดเลย หุหุ  มาครบกันทั้ง 4 คนแล้วจ้าเตรียมออกเดินทางละ เข้ามาแล้ว เตรียมตัว shopping  อยู่บนเครื่องบินแล้ว กะลังจะถึงนะเท่าที่จำได้อ่ะ   เวนิชเชียน ที่ทุกคนเฝ้าฝัน หุหุ สวยอะไรจะปานนี้            ~อยู่บนรถไฮโซ~ ได้อานิสงฆ์มาจากพี่ที่ office ค่ะ เลยสบายไป  การเดินทางทั้งหมด ทั้งมวล ภายในมาเก๊านั้น ขอได้รับความขอบคุณจาก ครอบครัวน้องกำปั้น จ้า ตารางกำหนดการโดยสังเขป กรุงเทพฯ - มาเก๊า - ฮ่องกง
ในส่วนี้เป็นส่วนที่เราได้กำหนดก่อนออกเดินทาง เนื่องจากเราไม่เคยไป เราเลย ได้ศึกษาอย่างละเอียด จาก หนังสือ blog ของเพื่อนๆ ที่เดินทางไปมาแล้ว เลยได้รายละเอียดดังนี้นะจ๊ะ
ตารางการเดินทาง กรุงเทพฯ-มาเก๊า-ฮ่องกง ............Day 1 วันเดินทาง วันที่พฤหัส 6 ธันวาคม 2550 10.00 พร้อมกันที่สนามบินสุวรรณภูมิอาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ แถว E สายการบิน THAI AIR ASIA เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกในการตรวจเช็คเอกสาร สัมภาระ 12.25 เดินทางสู่มาเก๊า 16.10 ถึงสนามบินนานาชาติมาเก๊า บนเกาะไทปา ที่ได้รับการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว และยังเป็นที่ตั้งของหน่วยงานสำคัญ เช่น มหาวิทยาลัยมาเก๊า สนามกีฬามาเก๊า เป็นต้น หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว 17.45 ออกเดินทางเข้าที่พัก โดยน้องเขยพี่เจจะมารับ 17.45 เดินทางไปสัมผัสความอลังการของเมืองมาเก๊า เดอะ เวเนเซี่ยน (Venetian) ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบเรเนซ้องส์ เวนิส อันโดดเด่นด้วยการจำลองสถานที่อันโด่งดังในเวนิส อาทิ จัตุรัส เซนต์มาร์ก, พระราชวังดอร์ช, หอคอยแคมพาไนล์ และคลองในร่มสามแห่ง พร้อมทั้งเรือกอนโดล่าและคนพายเรือที่คอยร้องเพลงขับกล่อม ภายในแบ่งเป็นโซนต่างๆ เช่น Grand Canal Shop มีร้านอาหาร ร้านค้าแบรนด์เนมหลากหลาย, Casino สำหรับท่านที่ชอบคาสิโน ที่นี่ก็ยังมีให้ท่านเลือกเล่นได้ 4โซน, ล่องเรือ Condola ได้ชมท้องฟ้าจำลองเสมือนจริง (ค่าล่องเรือประมาณ HK$ 120 ต่อท่าน/ ต่อรอบ นั่งได้ 4 ท่าน) ตลาดกลางคืน - จนได้เวลาอันสมควรข้ามกลับไปยังที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย ...............Day 2 วันเดินทาง วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม 2550 . ชมวัดอาม่า A-MA Temple(ศาลเจ้าแม่ทับทิม) ตั้งอยู่บริเวณเขาบาร์ร่า สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายให้กับองค์เทพธิดาแห่งท้องทะเลอาม่า ภายในจะมีศาลเจ้าและก้อนหินขนาดใหญ่ซึ่งแกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าบริเวณนี้ คือจุดแรกที่เจ้าแม่อาม่าย่างเท้าก้าวขึ้นสู่ผืนดินมาเก๊า บริเวณด้านหน้าวัดมีรูปปั้นสิงโตหินอยู่ 2 ตัว เชื่อกันว่าหากใครได้หมุนลูกแก้วที่อยู่ในปากสิงโตไปทางขวา 3 ครั้ง พร้อมกับตั้งจิตอธิษฐานแล้วจะสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา นอกจากนั้นยังมีความเชื่อเกี่ยวกับโชคลาภอีกมากมาย เช่น ชาวมาเก๊าจะใช้เหรียญลูบหลังเต่า แล้วทำท่าเก็บเงินเข้ากระเป๋า เพราะเชื่อว่าจะนำโชคลาภมาให้ เป็นต้น โบสถ์เซนต์ ดอมินิค ( St.Dominic's Church ) เป็นโบสถ์ที่ได้ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ A Abelha da China เป็นภาษาโปรตุเกสแห่งแรกในจีนซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1590 และได้รับการยกย่องว่าเป็นโบสถ์ที่มีศิลปกรรมทางศาสนาที่งดงามที่สุด คือมีลักษณะการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลและบารอค หอระฆังด้านหลังอาคารได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กแสดงงานศิลปะที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนามากถึง 300 ชิ้น เปิดให้เข้าชม 10.00-18.00 น. ซากประตูโบสถ์เซ็นต์ปอล (Ruins of St.Paul's ) สร้างขั้นเมื่อต้นศตวรรษที่ 17 นับเป็นสถานที่ซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และเป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองมาเก๊า โบสถ์แห่งนี้เคยเป็นโรงเรียนสอนศาสนาแห่งแรกของชาวตะวันตกในดินแดนตะวักออกไกล ต่อมาในปีค.ศ.1835 ได้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง ทำให้โบสถ์เซนต์ปอลคงเหลือแค่เพียงบานประตู และบันไดทางเข้าด้านหน้าที่สง่างาม หลังจากมีการบูรณะขึ้นใหม่ในปีค.ศ.1991 ด้านหลังของซากโบสถ์แห่งนี้มีการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์ทางศาสนาขึ้น เพื่อรวบรวมภาพเขียน และจัดแสดงอุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หลุมฝังศพของบาทหลวง วาลิคนาโน ผู้ก่อตั้งโบสถ์ ตลอดจนโครงกระดูกของชาวคริสต์ญี่ปุ่น และเวียดนามที่เสียชีวิตเมื่อคราวที่เกิดเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ จากนั้นนำท่านมายังย่านการค้าสำคัญของมาเก๊า หรือเซ็นเตอร์พอยท์มาเก๊า เรียกว่า เซนาโด้ สแควร์ Senado Squareซึ่งโดดเด่นด้วยพื้นถนนที่ปูลาดด้วยกระเบื้องเป็นลอนคลื่น ล้อมรอบด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์โปรตุเกสอิสระให้ท่านได้เดินเที่ยวและแวะซื้อสินค้าที่มีชื่อเสียงและสินค้าแผงลอยมากมาย จนได้เวลาอันสมควรข้ามกลับไปยังที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย ออกเดินทางจากมาเก๊า สู่ฮ่องกง โดย Macau FerryTerminal - Kong Ou Maacute Tau China เพื่อข้ามไปยังฮ่องกง โดยบริการของ Turbo Jet ชั้น Econ . Class ค่าตั๋ว $142 ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ไปจอดที่ท่าเรือ Hong Kong Ferry Terminal) รับประทานอาหารกลางวันบริเวณท่าเรือหรือห้าง New Yaohan ถึงท่าเรือ Hong Kong Ferry Terminal เดินตามป้ายบอกทาง All arrivals ผ่านด่าน ตม.ที่ฮ่องกงเดินออกไปยังศูนย์การค้า Shun Tak Centre เพื่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน Sheung Wan (แต่หากหาไม่เจอเดินออกนอกตึกก็ เลี้ยวซ้าย เจอทางลง MTR แล้ว อ้อ อย่าลืมหยิบแผนที่ฮ่องกงจากท่าเรือมาด้วย และซื้อบัตร One-day-pass $50 และ Octopus card $150 เพื่อใช้สำหรับการเดินทางในวันนี้ ) ลงที่สถานี Admiralty ก็ได้ เพื่อเปลี่ยนเป็นสายสีแดงหรือสาย Tsuen wan มาลงสถานี Yau Ma Tei Check in โรงแรม เวลาประมาณ 12.00 น. เก็บกระเป๋า ออกเดินทางไปยัง Chi Lin Nunnery : วัดนางชี เดินทางออกจากโรงแรม ดูจากสายรถไฟแล้วเราจะใช้การไล่เข้ามาจากไกลมาเรื่อยๆ มาลงที่ MTR Diamond Hill : Exit C2 พอก้าวออกจากสถานีสามารถไปได้ 2 ทางคือห้าง กับไม่เข้าห้าง แต่ทั้งสอง วิธีให้เดินตามป้ายบอกทางเลย ตั้งแต่ออกจากวัดนางชี ให้เดินออกทางขวา แล้วเดินข้างๆ ห้าง ข้ามถนน 1 ครั้ง ก็ตรงเห็นเด่นอยู่ข้างหน้า วัดที่เงียบสงบมาก กำหนดการเปิด 9.00-16.30 น. ส่วนอาราม 6.30.-19.00 บริเวณสระบัว Nan Lian Garden อยู่ไกล้ ๆ วัดนาชี เพิ่งเปิดใหม่ ถ้าจะไปให้ออกที่ MTR Diamond Hill : Exit C1 แนะนำให้แวะที่นี่ก่อน แล้วค่อยไปวัดนางชีเข้าไป แล้วจะมาโผล่ที่วัดได้เลย ข้างในจะเป็นสวนต้นไม้ มีพิพิธภัณฑ์ ร้านน้ำชา ร้ายขายของที่ระลึก เข้าฟรี Wong Tai Sin : วัดหวังต้าเซียน เดินออกจากวัดนางชี นั้งรถ MTR แค่ 1 ป้าย เพื่อมาลง MTR Wong Tai Sin : Exit B พอเดินออกมาจาก exit B เราเลี้ยวซ้ายเข้าห้างก่อนเพื่อกินข้าวร้าน Cafa de Rocal ถ้าไปก่อน 11 โมงจะเป็น อาหาร Breakfast เสร็จแล้ว เดินลอดใต้ทางเดินขึ้นบันใดก็ถึงหน้าวัดหวังต้าเซียน สังเกตง่าย เพราะคนจะเยอะมากๆ ไม่เหมือนวันนางชี ให้ไล่ตั้งแต่ทางซ้าย วนไหว้ขึ้นไป ตามเข็มนาฬิกานะ กำหนดการเปิด : 7.00 19.30 น. เดินทางโดยรถ Wong Tai Sin MTR สายสีเขียว ที่ Ya ma Tai แล้วต่อด้วย MTR สีแดงลงที่ Central ขึ้นทางออก G เพื่อ Shopping ห้าง The Landmark (ห้างปิดทุ่มครึ่ง) มีห้างรอบเล็ก ๆ ดูแถวๆ นั้น ไปที่ ถนนคอนเนาว์เวิกค์ แล้วไปยังสถานี Edinburgh Place นั้งรถเมล์สาย 15C (รีบต่อคิว แล้วเลือกนั่งชั้นบน ค่ารถ 3.2 เหรียญ) ลงที่ Peak Tem Terminus แล้วขึ้น Peak Tem (รถราง) ไป-กลับ 30 เหรียญ ขึ้น The Peak กลับลงมาโดยนั้งรถ Edinburgh Place นั้งรถเมล์สาย 15C ย้อนกลับไปยัง MTR สถานี Central นั้งรถสายสีแดงไปลง Shi Sa Jui ทางออก F เพื่อชมวิวทิวทัศน์ แล้วเดินเลียบ ถนนนาธาน ไปยัง Avenue Of Star ชมการแสดง Symphony of light (20.00 น.) เสร็จ แล้วเดินเล่นหาของกิน อยู่แถวๆ นั้น โห๊ะๆๆ (ถนน นาธาน) Temple street Night Maket หาข้าวกิน อาหารเด็ดคือ ข้าวอบหม้อดิน จะมีหลายร้านบริเวณนี้ ที่แนะนำตามเขามาอีกทีคือ ร้าน Hing Kee จะมีข้าวอบหม้อดินปรุงจากครัวหน้าร้านให้เห็น ๆ และมีข้าวอบหมูเค็ม หมูสับ ออส่วน ตกจานละ 20 -25 HK แนะนำว่าควรเสียเวลามากิน เพราะดูจากที่อื่น ก็มีไม่เยอะ เท่าที่นี่ ส่วนของขายก็เป็นประมาณคลองถมบ้านเรา กินเสร็จ เดินเล่น แล้วกลับโรงแรม Day 3 วันเดินทาง วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม 2550 . ไหว้พระโปลิน เนื่องจากกระเช้าปิดไม่สามารถขึ้นโดยกระเช้าด้วย ต้องออกเดินทางจากที่พักตั้งแต่เวลา 7.00 น. ขึ้นรถไฟฟ้า MTR ไปลงที่ MTR Lai King เพื่อต่อสายสีส้ม ไปลง MTR Tung Chang ไปลงสุดสายเลย MTR สายนี้เป็นแบบลอยฟ้า วิวสวย คนในรถ MTR น้อยมากกว่าสายในตัวเมือง วิธีการมาไหว้พระโปลิน นั้ง MTR มาลงที่ Tung Chung Exit B 1. เดินตามป้ายมาขึ้นทางซ้ายมือ หากระเช้า Ngong ping 360 จะมีราคา แบบแพคเกจ รวมพร้อมโชว์ 2 ชุด(Walking with Buddha กับ Monkeys tale Theatre) ราคา 145 HK ไป-กลับ เที่ยว Ngong ping 360 ในราคา 55 HK ไป หรือ กลับอย่างละเที่ยวเดียว ในราคา 58 HK 2. เดินไปทางขวา ข้าง Post Office หาป้าย 23 Polin Mongteary เดินเลียบไปหาป้ายรถบัส สาย 23 (รถสีเขียว) ค่าโดยสารราคาวันธรรมดา 16 HK ส่วนวันหยุด 25 HK โดยใช้เวลาขาขึ้นประมาณ 45-50 นาที ขาลงประมาณ 40 นาที หมายเหตุ ถ้ากระเช้าเปิด สำหรับคนที่อยากนั้นกระเช้านั้นควรมาเช้ามาก เนื่องจากคนเยอะมาก ใช้เวลาต่อแถวขึ้นกระเช้า Ngong ping 360 ถึง 1.00-1.30 ชม. หลักการ ถ้ามาถ่ายรูป ไหว้พระธรรมดา ไม้ต้องเสียเงิน นอกจากห้องใต้ฐานที่จะต้องเสียเงินตรงเชิงบันใด นั่นแหละ นอกนั้นเดินผ่านกระถางขึ้นโลด เขาบอกมาว่าให้เดิน ทักษิณาวรรค แบบว่าเดินวนให้พระอยู่ทางด้านขวามือเราตลอด ออกจากวัด โปลิน มาถึงสถานี MTR Tung Chung อีกครั้ง หาของกิน เดินข้ามสะพานลอยเห็น Cafe de Rocal เป็นอาหารชุด ราคาประมาณ 17-20 HK ตรงแถวนี้จะมี Outlet Citygate Disneyland : Hong kong ออกจาก Citygate มาถึง Disneyland ประมาณ 12.30 น. โดยนั้งรถ MTR Sunny Bay ออกมา 1 ป้าย และเดินข้ามาอีกฝังเพื่อรอรถไฟ MTR Disneyland Resort เมื่อลงจากสถานี ก็เดินออกไปข้างนอก จะเห็นทางแนวยาว มีซุ้มประตู Welcome to Disneyland Hong Kong ให้ถ่ายรูปก่อนเข้า เมื่อเดินเข้าไปแล้วก็เจอ Micky กับปลาวาฬโต้คลื่นกลางสระให้ถ่ายรูป และก็มาถึงทางเข้า ค่าผ่านประตู : วันธรรมดา 295 HK วันหยุด 350 HK เวลาทำการ : เปิดทุกวันตตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 การแสดงพาเหรด : เวลาประมาณ 15.00 น. ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที การแสดงพลุ แสง สี เสียง : ทุกวัน เวลา 20.00 น. ยกเว้นวันศุกร์ เวลาประมาณ 21.00 น. Fastpass : เป็นระบบจองเครื่องเล่นที่เป็น Hillight ของ Disneyland โดยเราจะต้องนำบัตรผ่านประตูมาเสียบช่องเข้าที่ตู้ Fastpass เพื่อจองเวลาล่วงหน้า แล้วเราก็ไปต่อหรือทำกิจกรรมอย่างอื่นก่อนได้ เมื่อถึงเวลาก็มาเล่น แต่ใช้ได้ที่ละครั้งต้องรอให้หมดเวลารอบที่จองก่อนถึงจะใช้ได้อีกครั้ง Hong Kong Disneyland เป็น Disneyland เปิดล่าสุดเป็นลำดับที่ 5 ในโลกเท่านั้นเองนะครับ เป็นลำดับที่ 2 ในเอเชียต่อจาก ญี่ปุ่น ที่เหลืออยู่ในอเมริกา 2 แห่ง และฝรั่งเศส 1 แห่ง ถือว่ายังเป็นน้องใหม่ในเอาเซีย อยู่ประมาณ 2 ปีเองในการเปิดใช้แบ่งเป็น 4 โซนหลัก1 1.Main street USA จุดรวมร้านค้าต่าง ๆ ของที่ระลึกไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งขามาและขากลับ ทั้งซ้ายและขวา ถ้าหลุดเข้ามาตรงนี้อาจจะใช้เวลาประมาณชั่วโมง กว่าจะหลุดออกไปได้ รวมถึงการส่ง Postcard กลับมาเป็นที่ระลึกด้วยจะอยู่ข้างหน้าสุด (หลังจากยื่นบัตร) ตอนเดินเข้ามาทางซ้ายมือราคากลับไทย 4 HK เองแต่ Postcard ประมาณ 20 HK 3 ใบ ให้เราเลือกตราประทับด้วย ไม่มีของเล่นหลักแต่มีรถไฟ นั่งชมรอบ ๆ Disneyland ห้ามพลาดเด็ดขาด 2.Fantasy Land เป็นดินแดนแห่งความฝัน รวมการจิตนาการและพวกเรื่องเล่านิทานต่างๆ ของ Disney ของเล่นจะหนักไปทางจิตนาการไม่ค่อยหวือหวา หนักไปทางโชว์ เช่นหมีพูห์ รถรางเล่านิทานจะเป็นฉากๆ Hilight ของแดนนี้น่าจะเป็น Golden Mickey จะเป็นโรงละครสามารถจุคนได้ค่อนข้างแยอะแต่ก็ไม่พอต่อรอบ (ให้นั้งตรงกลางอย่านั้งหน้ามาก) 3.Tomorrow Land เป็นการจิตนาการโลกแห่งอนาคต มีของเล่นค่อนข้างเยอะ มีพวก บ้าน Stitch Hola Hola, Autopia รถรางวิ่งตามรางเพลินขมวิวจากมุมสูง UFO เหมือนกับ Dreamworld บ้านเราที่นั้งยาน UFO แล้วหมุนปืนยิงกัน เล่น บัดไลท์เยียร์ จะเป็นการแข่งยิงปืนจากที่นั่ง สะสมแต้มแข่งกันแต่ฉากข้างในสวยมาก Space Mountain เป็นยานอวกาศวนไหลด้วยความเร็ว และความมืดมาก เสียวในระดับคนกลัวได้ 4.Adventure Land เป็นดินแดนแห่งการผจญภัย ตื่นเต้น ให้หัวใจเต้นเพิ่มขึ้น โดยมี บ้านทาร์ซาน ให้เราเดินปีนป่าย ถ่ายรูป นั่งเรือลอ่งแม่น้ำ ชมวิวที่เขาจัดขึ้น Hilight ของแดนนี้น่าจะเป็นแบบ 360 องศา ถ่ายรูปได้ห้ามใช้ Flash สุดท้ายคือ กิจกรรมยิงพลุ น่าจะออกมารอบริเวณนอกตรงสถานีรถไฟ จะดีที่สุด เนื่องจากเวลาถ่ายรูปจะเห็นปราสาทเทพนิยาย แล้วเบื้องหลังเป็น พลุไฟ ยิงขึ้นฟ้า มากก่อนซัก 15 นาที เพื่อเลือกที่นั่งกำลังดี พอเลิกหมดก็เดินออกมาเป็นชุดแรกด้วยสำหรับคนที่ไปก็เตรียม ร่ม อาหาร น้ำไปด้วยก็ดี ของขายข้างในค่อนข้างแพงพอสมควร เมื่อจบจากการแสดงมาแล้ว เราก็นั่งรถไฟข้ามเกาะกลับมาที่เกาะเกาลูนเหมือนเดิม เวลาประมาณ 22 นาฬิกา ลงที่สถานีเยามาไต๋ เพื่อมาเก็บตลาดกลางคืน ออกที่ประตู Exit C เดินข้ามเลี้ยวขวามาเพื่อเดิน Day 4 วันเดินทาง วันอาทิยต์ ที่ 9 ธันวาคม 2550 . - แวะพิพิธภัณฑ์ HK Cultural centre, HK spaces museum, HK Museum of Art - แวะพิพิธภัณฑ์ HK Museum of history, HK Heritage Museum - ขึ้น The Peak - Shopping ย่าน Causeway bay - - บันไดเลื่อนที่ยาวที่สุด Long Escalators - ถ่ายรูป Holly wood road , cat street - Shopping ย่าน Central , Causeway bay 
|
boaonline
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Group Blog All Blog
Friends Blog |
|||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
||||
