เที่ยวเกาะหมาก ทะเลสวย น้ำใส@เกาะหมากรีสอร์ท(2) หลังจากตอนที่1ที่เกริ่นนำไว้ว่าวันที่ 2 เราจะไปดำน้ำและไปเที่ยวเกาะขาม ตีสามของเช้าวันใหม่ ต้องตื่นขึ้นมาเพราะเสียงฝน ภาวนาให้ตกหนักๆ ไปเลย ตอนเช้าจะได้ไม่ต้องตกอีก ตื่นเช้ามาอากาศไม่แจ่มใส ยังมีเมฆฝนอยู่ และฝนตกปรอยๆ แต่ก็ยังออกไปเดินเล่น กางร่มเดินริมหาด หาดตอนเช้าน้ำลดค่อนข้างมาก ตอนั้นเวลาประมาณ 7.00 น. ภาวนาให้ฝนหยุดตกและแดดออก เพราะจะต้องไปดำน้ำกัน 10.00 น. ฟ้ามีเมฆบังอยู่จางๆ วันนี้ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี มองเห็นแค่ในระยะไม่ไกลมาก แต่ทะเลก็ยังสีสวยอยู่ สะพานเกาะหมากโคโค่เคป พระอาทิตย์ถูกเมฆบัง เดินอยู่สักพักฝนก็หยุดตก เริ่มมองเห็นได้ไกลขึ้น เมฆกลุ่มนั้นลอยต่ำมาก สะพานเกาะหมากยามเช้า หลังฝนตก วันนี้อาหารมื้อเช้าคือข้าวต้มทะเล เกรงว่าจะไม่อิ่ม เพื่อนบางคนก็สั่งอาหารเช้าอื่นมาทานเพิ่ม หลังจากทานข้าวเสร็จ ก็เตรียมตัวไปดำน้ำกัน วันนั้นไป Late นิดหน่อย ตอนนี้ฝนไม่ตก ฟ้าเริ่มเปิดนิดหน่อย แต่แดดยังไม่แรง ออกไปดำน้ำที่เกาะรัง และเกาะยักษ์ โลกใต้ท้องทะเล มีปลาเยอะพอสมควร ปะการังเขากวาง กับปลาต่างๆ ที่ที่ไปดำที่แรกคนไม่ค่อยเยอะเท่าไร ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมง ปะการังก็มีให้เห็นอยู่บ้าง พกถุงกันน้ำไปด้วยเลยถ่ายใต้น้ำได้ ขนาดใส่ชุดดำน้ำ เป็นเสื้อแขนยาว แดดก็ไม่ร้อน แถมทาครีมกันแดด ส่วนที่ไม่อยู่ในเสื้อ ดำอย่างเห็นได้ชัด ฝูงปลาตัวเล็กๆ แดดไม่ดีเลยเห็นไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ละอย่างไม่ทราบว่าเรียกว่าอะไรบ้าง ที่เกาะที่ไปที่แรกมีไม่ค่อยเยอะเท่าไร น้ำแรงไม่รู้ตัว แต่จะค่อยๆ พัดออกจากเกาะไปเรื่อยๆ ถ้าดำเพลินก็จะไปไกลมาก ต้องระวัง ที่ที่สองที่ไปดำคือเกาะยักษ์ คนเยอะมากๆ ตรงที่ที่ปะการังสวย คนเป็นร้อย แทบไม่มีช่องว่าง พี่คนเรือเลยไปจอดอีกด้าน แต่ไม่ค่อยมีปะการังสวยๆ เท่าฝั่งที่คนเยอะๆ เพราะเคยมาครั้งก่อนแถบนั้นสวยดี แต่ถ้าไปด้านนั้น นอกจากปะการังจะเยอะ ปลาเท้าก็คงจะเยอะเหมือนกัน เลยดำดูอยู่แต่แถวนี้ ปลาตัวเล็กๆ สีสันสดใส อยู่ใกล้ๆ ปะการัง ดูใกล้ๆ บ้าง ดอกไม้ทะเล มีปลาการ์ตูนด้วย แต่เป็นตัวแดงๆ ออกน้ำตาล คาดขาว ไม่ใช่พันธุ์เดียวกับเจ้านีโม่ที่เป็นหนังการ์ตูน ดงหอยแม่น น่ากลัวจริงๆ ถ่ายรูปใต้น้ำยากเหมือนกัน เพราะตัวเราจะไม่นิ่ง ภาพจะเบลอ อีกอย่างนึงคือมองไม่เห็นภาพบนจอ LCD ตรงนี้ดำแป๊บเดียวเอง ประมาณ 10 กว่านาทีก็เรียกกลับเรือ งงมาก กลับแล้วหรอ ทำไมเร็วจัง ตอนไปเกาะเต่าดำทั้งวัน ตั้งแต่เช้าถึงเย็น รู้สึกว่าเรือ Speed Boat ที่พาเราไปดำน้ำ จะต้องกลับมารับคนจากรีสอร์ทขึ้นฝั่ง รอบ 13.00 น. กลับมาที่รีสอร์ทประมาณเที่ยง รวมเวลาที่ไปดำน้ำ ประมาณ 2 ชั่วโมง ตรงนี้เร็วไปหน่อย จริงๆ น่าดำสักครึ่งวันเช้า ออกแต่เช้าดีกว่า กลับมาทานมื้อเที่ยงที่รีสอร์ท เป็นแบบเซ็ทเมนูกับข้าว 4 อย่างเหมือนเคย เริ่มจาก ทะเลนึ่งมะนาว มีกุ้ง เนื้อปลา และปลาหมึก ตกแต่งด้วยมะเขือเทศฝานบางๆ ใครที่ชอบมะเขือเทศคงชอบ ต่อมาเป็นปลาราดพริก หรือปลาฉู่ฉี่ไม่ทราบ ปลาน่าจะตัวใหญ่มาก ที่เห็นนี่คือชิ้นนึงของปลา เมนูนี้อร่อยดี ฝรั่งโต๊ะข้างๆ เห็นยังสั่งตาม ไม่รู้จะทานได้ไหม ปลาหมึกย่าง น้ำจิ้มซีฟู้ด ทุกมื้อมีปลาหมึก ทานจนเอียนเลย มื้อนี้ทานปลาหมึกย่างไม่หมดด้วย สุดท้าย ต้มข่ากุ้ง ทุกมื้อที่เป็นน้ำแกง โต๊ะเราขอเติมน้ำแกงตลอด แม่ครัวก็ปรุงน้ำให้ใหม่ และยังใจดีแถมเนื้อมาให้ด้วย ^-^ ทานข้าวอิ่มก็ได้เวลาข้ามไปเที่ยวเกาะขาม ยังเสียดายอยู่ว่า ถ้ามาวันแรกอากาศดีดี ฟ้าใสๆ เกาะขามคงจะสวยกว่านี้แน่ๆ เพราะตอนที่เราไป ฟ้ามืด เมฆฝนตั้งเค้ามาแต่ไกล แต่ก็ยังสวย น้ำใสมากๆ ตอนไปนั่งเรือเล็ก ขึ้นได้ทีละ 5 คน เกินกว่านี้ไม่ได้ คนขับไม่ยอม รู้สึกดีที่ห่วงความปลอดภัย เกาะขามอยู่ตรงหน้า นั่งเรือประมาณสัก 10 นาทีก็ถึงเกาะขาม หินภูเขาไฟตั้งอยู่เรียงราย ตอนนี้ที่เกาะขามเห็นกำลังมีการกั้นรั้วเขียวก่อสร้าง คาดว่าน่าจะเป็นที่พักแบบใหม่ รู้สึกว่าน้ำจะเริ่มขึ้นแล้ว แถมฟ้าฝนช่างไม่เป็นใจเอาซะเลย ค่าขึ้นเกาะเราต้องเป็นคนจ่ายเอง ไม่รวมอยู่ในเพคเก็จ เคยดูรีวิวบอกว่าค่าขึ้นเกาะ 60 บาท แต่วันนั้นจ่ายไปคนละ 100 บาท ไม่รู้ขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ จะมีน้ำอัดลมให้คนละกระป๋อง กองหินภูเขาไฟ เดินออกไปได้ เพราะมีสันทรายยาวตลอด น้ำใสมากๆ มีชิงช้าให้นั่งเล่น ชมทะเลด้วย ถ้ามาวันฟ้าใสๆ แดดดีดี คงสวยมากๆ นี่ขนาดฟ้าฝนไม่เป็นใจ แดดไม่มียังเห็นความสวยงาม ฝนเริ่มใกล้เข้ามาทุกที แต่พวกเราก็ไม่หวั่น ออกไปเล่นน้ำกันตรงปลายสันทรายในทะเล น้ำใสน่าดำผุดดำว่ายมากๆ วันนั้นไม่ค่อยมีคน มีแต่พวกเรากับอีกครอบครัวนึง ที่พักที่เกาะหมากโคโค่เคป มีเตียงให้นอนชมวิว แค่ดูวิวก็มีความสุขแล้ว แต่พวกเรามีความสุขมากกว่า เพราะลงไปดำผุดดำว่าย เมฆฝนน่ากลัวมากๆ สี่โมงเรือมารับกลับเกาะ โชคดีที่มาถึงเกาะหมากก่อนฝนจะตก อาบน้ำและออกไปทานข้าวมื้อเย็นที่ร้านอาหาร เป็นแบบเซ็ทเมนูเหมือนเคย คราวนี้กับข้าว 5 อย่าง สังเกตว่ามื้อกลางวันจะ 4 อย่าง มื้อเย็นกับข้าวจะ 5 อย่าง ถ้วยแรกแกงจืดสาหร่าย ฟองเต้าหู้ และเต้าหู้ไข่ ใส่หมู ดีใจมากที่มีหมู เพราะเอียนอาหารทะเล ต่อมาก็เป็นทอดมัน ทอดมันอะไรไม่ทราบแยกรสชาติไม่ออก รู้แต่อร่อยดี ผัดพริกหยวก กุ้ง เห็ดหูหนู จานนี้ชอบมากทานแต่เห็ด ต่อมา ปูอบวุ้นเส้น ปลาราดพริก สังเกตดวงไฟดีดี ว่ายี่ห้ออะไร จบมื้อเย็น เราก็ไปนั่งกันต่อที่แถวๆ หน้ารีสอร์ท จะมีชา กาแฟ ไอศครีมวอลล์ มีทั้งแท่งๆ และแบบตัก ลูกละ 25 บาท แต่ลูกใหญ่ดี พวกซันเดย์ บานาน่าสปิทก็มี สะพานตอนกลางคืน มีคนมายืนตกหมึกด้วย เห็นได้ 2 ตัว แต่บอกว่ากว่าจะได้นานมาก ป้ายรีสอร์ทตอนกลางคืน หมดไปอีกวันสำหรับวันนี้ พรุ่งนี้กลับ กรุงเทพฯ 13.00 น. จะพาไปเดินสำรวจหาดอีกด้าน และพาไปกระโดดน้ำที่สะพานค่ะ วันนี้ฟ้าฝนไม่เป็นใจ แต่พรุ่งนี้ฟ้าใสค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม อย่าลืมแวะมาอีกนะคะ   Create Date : 08 พฤศจิกายน 2551     Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 22:36:09 น. Counter : 3898 Pageviews.   9 comment Share Tweet

เที่ยวเกาะหมาก ทะเลสวย น้ำใส @ เกาะหมากรีสอร์ท (1) หลังเรียนจบตั้งใจไว้ว่า จะไปฉลองด้วยการไปเที่ยวทะเล ที่ที่ทะเลสวย น้ำใส มีหาดให้เล่นน้ำ เหมาะกับการพักผ่อนสบายๆ ไม่ต้องใช้เวลานานมากในการเดินทาง ค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาท ก็มาสรุปที่ทะเลตราด ทีแรกมี 3 ที่ที่คิดกันไว้คือ เกาะกูด เกาะมันนอก เกาะหมาก แต่เกาะมันนอกค่าใช้จ่ายแพง ก็เหลือเกาะกูดกับเกาะหมาก เริ่มหาที่พักของสองเกาะนี้โดยหาข้อมูลใน BP เกาะกูดที่พักที่เล็งไว้คือ ปีเตอร์แพนกับกัปตันฮุก ถ้าไม่ได้ก็เป็นเนเวอร์แลนด์ เกาะหมาก ที่เล็งไว้คือ เกาะหมากรีสอร์ท กับ เกาะหมากโคโค่เคป ในที่สุดก็มาลงตัวที่เกาะหมาก เนื่องจากที่พักเกาะกูดเต็ม เลือกเกาะหมาก กลัวเหมือนกันว่าจะไม่สวยเท่าเกาะกูด เพราะอ่านจากข้อมูลหลายๆ ข้อมูลทรายไม่ขาวเหมือนเกาะกูด แต่ก็ยังสามารถข้ามไปเที่ยวเกาะขามได้ เพราะดูจากรูปเกาะขามสวย จากนั้นก็เลือกที่พัก เน้นติดหาดก็ลงตัวที่เกาะหมากรีสอร์ท จริงๆ มีที่พักอีกด้านก็น่าสนใจ แต่จากข้อมูลอีกด้านทรายจะแดงกว่า ก็โทรจองห้องพักที่เกาะหมาก เลือกเป็นแบบเพคเก็จ 3 วัน 2 คืน เนื่องจากต้องการความสะดวกทุกอย่างรีสอร์ทจัดให้ ราคา 4,900 บาท รวมค่า เรือ Speed Boat ค่าดำน้ำเกาะยักษ์ เกาะรัง อาหาร 7 มื้อ ห้องพักแอร์ 2 คืน เรือข้ามไปเที่ยวเกาะขาม พาทัวร์รอบเกาะหมาก จองไว้ตั้งแต่กลางปี เลื่อนหลบหน้ามรสุมมานาน ในที่สุดก็ได้ไป ทีแรกแอบหวั่นใจกลัวไม่สวย แต่จองไปแล้วก็ต้องลองดู ภาวนาขออย่าให้มีฝนเพราะช่วงนั้นฝนตกติดต่อกันตลอด เกาะหมาก อยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะกูด จะต้องเดินทางไปขึ้นเรือที่แหลมงอบ ท่าเรือกรมหลวงชุมพรฯ เรือที่จะเดินทางเป็น Speed Boat ของรีสอร์ทรอบ 9.30 น. ออกเกินทางจาก กรุงเทพฯ 5.00 น. เผื่อเวลาไว้สักนิด ถึงชลบุรีฟ้าสว่างพอดี วันนั้นหมอกลงจัด มองแทบไม่เห็นทาง มีให้หวาดเสียวเป็นระยะ เนื่องจากทางด้านหน้าแทบมองไม่เห็น พอหมอกจางลง หายเกร็งก็เก็บภาพสักหน่อย นึกว่ากำลังขึ้นเหนือ หมอกลงตลอดเส้นทางชลบุรี-ระยอง ผ่านมาหน่อยแดดออก ฟ้าเริ่มใส ค่อยโล่งอก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงถึงแหลมงอบ ถึงเวลา 9.00 น. ไปหาขนมตุนอีกรอบก่อนเลี้ยวไปท่าเรือ เราใช้บริการรถตู้ใบไม้สีเขียว วันนั้นคุณนนท์เป็นคนขับ มืออาชีพจริงๆ ตอนที่หมอกลงจัดลุ้นมาก แต่ก็ถึงโดยสวัสดิภาพ มีท่าเรืออีกท่าอยู่ไกลๆ เรือที่เราจะไปเกาะหมาก เป็นเรือเร็ว ชื่อเรือปาหนัน พอใกล้เวลาก็ขนของขึ้นเรือ เรือออกตรงเวลามาก กัปตันเรือของเรา วันนั้นฟ้าใส ทะเลราบเรียบ นั่งเรือลมเย็นๆ เรือวิ่งเลียบเกาะช้าง มุ่งหน้าสู่เกาะหมาก เรือวิ่งผ่านน้ำทะเลสีคราม แตกเป็นฟองขาวๆ สวยดี ระยะทางจากแหลมงอบถึงเกาะหมากประมาณ 38 กิโลเมตร 45 นาทีผ่านไป ก็มาถึงท่าเทียบเรือเกาะหมากรีสอร์ท มองลงไป น้ำที่ท่าเรือใสมากๆ ทางรีสอร์ทจะมีคนมารับที่ท่าเรือ และมีรถเข็นมาเข็นสัมภาระไปให้ที่ห้อง ด้านซ้ายของบริเวณที่เรือ ดูน้ำติ้นและใสมากๆ เห็นแล้วน่ากระโดดไปดำผุดดำว่ายจริงๆ สะพานท่าเรือ ป้ายรีสอร์ท ดู Classic จริงๆ บ้านที่เราพักเป็นบ้านหลังที่ 2 ถัดจากที่ Ckeck In เป็นบ้าน A2 มี 2 ห้องนอน มาดูห้องนอนกันบ้าง ผ้าปูสีเหลืองสดใสมาก ผ้าเช็ดตัวม้วนอยู่บนที่นอน ด้านข้างจะเป็นกระจกมองออกไปเห็นทะเล เป็นกระจก 2 ด้านด้านปลายเตียงกับด้านข้าง เปิดม่านแล้วนอนบนเตียงจะมองเห็นทะเล ได้บรรยากาศจริงๆ ที่ระเบียงหน้าบ้านจะมีเตียงผ้าใบให้ 4 ตัว ไว้นอนเล่น ภาพนี้คือ วิวที่มองจากระเบียง มาดูอีกห้องนึงบ้าง เตียงเป็นเตียงคู่ ภายในห้องของทั้งสองห้องในบ้านนี้ จะมีตู้เสื้อผ้า(ไม่มีราว) ตู้เย็น ทีวี(มี UBC ด้วยชัดแจ๋ว) ส่วนห้องน้ำจะแยกเป็น ห้องส้วม กับห้องอาบน้ำ 2 ห้อง ซึ่งมีห้องเล็กๆ ทางเดิน ที่เชื่อมสองห้องเข้าด้วยกัน สามารถเปิดประตูถึงกันได้ มาดูบ้านแบบอื่นๆ บ้าง บ้าน B1 B2 จะเป็นแบบเดียวกัน 1 บ้านมี 1 ห้องนอน บ้านจะเป็นลักษณะนี้ มีเตียงผ้าใบ 2 เตียงหน้าบ้าน เตียงภายในห้อง ด้านข้างจะเป็นห้องเล็กๆ มีตู้เสื้อผ้ากับอ่างล้างหน้า น่าแปลกห้องนี้ยังไม่มีกระจก กับตู้เย็น สงสัยยังไม่ได้เอาลง เนื่องจากห้องที่เราเข้าพัก เป็นห้องที่เพิ่งปรับปรุงใหม่ ยังได้กลิ่นสีอยู่เลย เป็นกระจก 2 ด้านมองเห็นทะเลเหมือนกัน อีกบ้านนึง บ้านแต่ละหลังไม่ใกล้กันมาก มีความเป็นส่วนตัว ที่สำคัญ Sea View ทุกหลัง มาดูบ้านแต่ละแบบกันบ้าง แบบนี้เป็นกระจกเกือบรอบด้าน Sea View ทุกหลังจริงๆ พื้นที่ของรีสอร์ทยาวขนานไปกับหาด ซึ่งยาวมาก ทางเดินในรีสอร์ท เนื่องจากไปถึงก่อนเที่ยง แขกยังไม่ Check Out เลยเดินเก็บภาพตามหาดไปพลางๆ ทิวมะพร้าวหน้ารีสอร์ท ที่นี่ต้นมะพร้าวเยอะมาก ไม่รู้ว่าเกาะหมาก มาจากหมากพร้าว? เก็บภาพทะเลสวยๆ น้ำใสๆ เกาะที่อยู่ด้านหน้าคือเกาะขาม ท่าเรือกับฟ้าใสๆ โชคดีที่ฝนไม่ตก แดดแรง ฟ้าใส ทะเลก็สวยตาม บริเวณหาด ที่เห็นไกลๆ คือเกาะหมากโคโค่เคป ต้นมะพร้าว มันคงอยู่มานานแล้วเพราะสูงมากๆ เกาะขาม ถ้าข้ามไปวันนี้คงจะสวยใสมากๆ สะพานมุมไกลอีกสักรูป หาดที่นี่ค่อนข้างกว้างและทอดแนวยาวมาก ถ้าอยากได้ที่วิ่งเล่นกว้างๆ เป็นส่วนตัว แนะนำให้ไปที่นี่ รู้สึกว่าตรงนี้จะเรียกว่าอ่าวสวนใหญ่ อีกสักภาพ อยากให้เห็นว่าน้ำทะเลใสมากๆ ทะเลเขียว คราม กับฟ้าสีครามสวยๆ ถ่ายรูปจนไม่รู้เบื่อ ถ่ายมุมไหนก็ดูสวยไปหมด วันนั้นแดดแรงมาก แป๊บเดียวดำเป็นช่วงๆ เดินถ่ายภาพไปเรื่อยๆ ตามหาด แวะนั่งชิงช้าตรงนี้สักพัก ไม่รู้ใครมาทำไว้ เป็นแผ่นไม้ธรรมดาๆ เอาแตะข้างจิ๋วมาวาง ถ่ายรูปซะหน่อย เดินไปเรื่อยๆ ผ่านหน้าร้านอาหาร จนถึงหน้าสระว่ายน้ำ ต้นมะพร้าวคู่หน้าสระว่ายน้ำ สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ว่ายไปมองทะเลไป แต่ตอนนี้ร้อนมากๆ ยังไม่มีใครลงว่ายเลย สระน้ำริมทะเล มองเห็นเป็นระนาบเดียวกับทะเล มีร่มแต่ไม่มีที่นั่ง แต่ก็ทำให้เก๋ดี ได้เวลาอาหารกลางวัน ก็ไปทานที่ร้านอาหาร มุมหน้าร้านอาหาร บริเวณร้าน ด้านข้างร้านอาหาร ที่นั่งด้านข้าง เห็นฝรั่งชอบมานั่งดื่มบริเวณนี้ ทานไป ดูทะเลไป ได้อารมณ์ทะเล อาหารมื้อแรกของเราเป็นแบบ Set Menu ค่าอาหารรวมอยู่ใน แพคเก็จแล้ว กับข้าว 4 อย่าง กับข้าวอย่างแรก ทะเลผัดฉ่า หรือ ขี้เมาทะเลไม่ทราบ ต้มยำน้ำข้นทะเล ปูนึ่ง น้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติดี ทอดมันกุ้ง มื้อนี้มี 4 อย่างรู้สึกไม่ค่อยอิ่มเท่าไร คงเป็นเพราะหิวมาก เดินกลับไปที่หน้ารีสอร์ทเพื่อไปทัวร์รอบเกาะ ระหว่างทางเห็นมีการก่อสร้าง น่าจะเป็นที่พักแบบใหม่ เป็นบ้านพักหลังใหญ่ มานั่งทานไอติมรอที่บริเวณด้านหน้า ที่นี่จะมีร้านค้าเล็กๆ ขายขนมและของใช้ กับขายเครื่องดื่ม มีกาแฟ ชา และไอศรีมวอลล์ ทั้งแบบแท่งและแบบตัก นั่งใต้ต้นหูกวาง ชมวิวทะเล รถที่จะพาเราไปทัวร์รอบเกาะ ที่นั่งเป็นไม้ ออกจากรีสอร์ทมาแล้ว ถนนช่วงนี้เป็นคอนกรีต ด้านข้างเป็นสวนยาง คนเกาะหมาก ส่วนใหญ่เป็นเขมรเชื้อชาติไทย ที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานเมื่อครั้งเมืองประจันตคีรีเขตร พ.ศ. 2447 มีอาชีพทำสวนยางพารา และสวนมะพร้าว เป็นส่วนใหญ่ สวนมะพร้าว แวะมาไหวพระที่วัดแห่งเดียวบนเกาะ พระพุทธรูปผินหน้าออกทะเล ร้านอาหารเก่า และสะพานท่าเรืออีกด้านของเกาะ กุฏิพระ ต้นโพธิ์ใหญ่มาก ด้านล่างมีมอสขึ้นเต็มไปหมด จากนั้นก็ลงมาที่ท่าเรือที่เห็นจากด้านบน เมื่อสักครู่ น้ำที่นี่สีต่างจากที่อื่น เป็นสีเขียว เหมือนอยู่ในสระน้ำ ดูแล้วเป็นท่าเทียบเรือขนาดใหญ่เหมือนกัน แต่เงียบเหงา ที่นี่มีปลาเยอะมาก หลากหลายสายพันธุ์ สีของน้ำเป็นแบบนี้จริงๆ เห็นแล้วน่าลงไปว่าย จากนั้นก็ผ่านด้านหลังรีอสร์ทต่างๆ หลายรีสอร์ท จนมาชมวิวที่ Holiday Beach Resort ดูแล้วน่าพักเหมือนกัน บริเวณร้านอาหาร หาดด้านนี้ไม่สวยเท่าด้านเกาะหมากรีสอร์ท ชื่อหาดว่า Holiday Beach ที่เห็นไกลๆ คือสะพานท่าเรือของ มักกะธานีรีสอร์ท สังเกตว่าทรายด้านนี้จะเหลืองกว่านิดหน่อย มีเกาะเล็กๆ อยู่หน้ารีสอร์ท รีสอร์ทนี้อยู่เกือบสุดหาด ดูแล้วเป็นส่วนตัวดี น้ำทะเลไม่ค่อยสวย หรืออาจจะเป็นเพราะมาบ่ายแล้วก็ได้ ไม่รู้ว่าตอนกลางวันแดดดีดี จะสวยไหม หลังจากชมทะเล และถ่ายรูปสักแป๊บ ก็กลับที่พัก วนมาอีกด้าน ถนนช่วงนี้เป็นดินแดง คนขับบอกว่าถ้าฝนตก ขับมาไม่ได้แน่เพราะถนนลื่น ถนนบนเกาะไม่ยาวมาก ขับไม่นานก็รอบเกาะแล้ว ระหว่างทางก็เจอรีสอร์ทนี้ บ้านหลังใหญ่มาก ชื่อพุทธๆ อะไรสักอย่างจำไม่ได้ ทรงไทยหลังใหญ่มีหลายหลัง กลับมาที่พักแดดร่มลมตก มานั่งดูทะเลต่อที่สะพาน แดดร่มทะเลไม่สวยเท่าตอนกลางวัน ตอนเย็นน้ำขึ้นมาก ทะเลเปลี่ยนไปได้ทุกวันเวลาจริงๆ มีสาหร่ายหรือต้นอะไรไม่ทราบ มาติดที่ชายหาดเยอะมาก เดินเล่นที่ทะเลแป๊บก็ไปต่อกันที่สระว่ายน้ำ ทางเดินหลังสระ ด้านหลังเป็นธารน้ำเล็กๆ ด้วย ที่นอนอาบแดดข้างสระว่ายน้ำ ไม่รู้ว่าสองคนนี้หาอะไรกัน ที่นี่มีปลาหมึกเยอะ ด้านหลังเป็นป่า(สวน)มะพร้าว ทะเลยามเย็น โชคดีที่พระอาทิตย์ตกด้านนี้ แต่โชคไม่ดีตรงที่เมฆฝนเริ่มตั้งเค้ามาแล้ว เมฆลอยต่ำมากๆ เลยไม่ได้เห็นแสงสวยๆ ของพระอาทิตย์ตกเลย จริงๆ หาดนี้ตามความคิดเราเป็นหาดที่ทำเลดีที่สุดก็ว่าได้ ว่ากันว่าเป็นรีสอร์ทของเจ้าของเกาะ ซึ่งเป็นกำนันของเกาะหมาก ชื่อนายจักรพรรดิ์ ตะเวทีกุล ซึ่งรุ่นนี้เป็นทายาทรุ่นที่ 4 ของ หลวงพรหมภักดี ที่มาเป็นผู้ครอบครองเกาะหมาก เป็นคนแรก ที่บนเกาะเกือบทั้งหมดเป็นของคนในตระกูล ตะเวทีกุล เกือบทั้งสิ้น แสงยามพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ถ้าไม่มีเมฆคงสวยกว่านี้มาก ที่สะพานเริ่มเปิดไฟ ได้เวลาอาหารมื้อเย็นเป็นแบบ Set Menu เช่นเดิม จานแรก ยำทะเล อาหารมื้อนี้รสชาติเป็นไทยๆ กว่ามื้อเมื่อกลางวัน เพราะมื้อกลางวันรสชาติจะออกแนวให้ต่างชาติทาน เข้าใจว่าอาจจะไม่ทราบว่าแขกที่พักเป็นไทยทั้งหมดหรือไม่ จานต่อมา ปลากระพงนึ่งมะนาว ปลาหมึกผัดผงกะหรี่ ถ้าใครจะสั่งปูผัดผงกะหรี่ ต้องสั่งล่วงหน้า 1 วัน แกงจืดปลาหมึกยัดไส้ พวกต้มยำ กับแกงจืด ขอเติมน้ำทุกรอบ ผัดผักรวมมิตร มื้อกลางวันจะมีกับข้าว 4 อย่าง มื้อเย็นจะกับข้าว 5 อย่าง แต่เนื่องจากเมื่อกลางวันไม่ค่อยอิ่ม เลยสั่งไข่เจียวปูเพิ่มอีก 1 จานแต่ปูไม่มีเลยเป็นไข่เจียวกุ้ง เรียกเก็บเงินไข่เจียวที่สั่งเพิ่ม พนักงานบอกไม่คิดเงิน ดีจริงๆ มื้อนี้ก็อิ่มอร่อย เดินกลับไปนับเลขที่ห้องพัก หมดไปแล้ว 1 วันสำหรับการใช้ชีวิตบนเกาะหมาก พรุ่งนี้เช้าจะพาไปดำน้ำ ดูปะการัง ที่เกาะยักษ์ เกาะรัง และไปเที่ยวและเล่นน้ำที่เกาะขามค่ะ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม อย่าลืมแวะมาอีกนะคะ   Create Date : 06 พฤศจิกายน 2551     Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 22:34:55 น. Counter : 7518 Pageviews.   19 comment Share Tweet

ลมทะเลรีสอร์ท ที่พักน่ารักๆ @ เกาะล้าน พัทยา ไปเกาะล้านเป็นรอบที่สอง เมื่อต้นเดือนที่แล้ว คราวนี้พาพี่ที่ทำงานไปหา Location ถ่ายรูปแต่งงานสวยๆ เน้นที่พักน่ารักๆ ที่จะสามารถถ่ายทำ VDO เก็บบรรยากาศตั้งแต่ตื่นนอน ทีแรกเล็งบ้านฟ้าใสไว้ โทรติดต่อคุณณรงค์ก่อนล่วงหน้านานมาก ได้ทราบว่าที่พักเต็ม แต่พอคุยไปคุยมา ก็ให้ไปถ่ายได้โดยไม่ต้องพัก แต่ให้มาก่อนแขกจะ Check In สัก 1-2 ชั่วโมง แต่เอาเข้าจริง ช่วงบ้านฟ้าใสและบ้านเฉลียงลมเป็นที่นิยม มีแขกเข้าทุกวัน จึงไม่สามารถที่จะไปถ่ายก่อนได้ คุณณรงค์จึงแนะนำที่พักอีกที่ ชื่อลมทะเลรีสอร์ท และให้เบอร์โทรติดต่อคุณธนิต ซึ่งเป็นเจ้าของมา พอรู้ชื่อรีอสร์ท เราก็เข้าไปดูในเว็บ เพื่อดูว่าเป็นไปตามที่ต้องการไหม //www.lomtalayresort.com เข้าไปดูแล้วที่พักน่ารักใช้ได้ จึงโทรจองกับทางคุณธนิต และบอกว่าคุณณรงค์บ้านฟ้าใสแนะนำมา ซึ่งได้ทราบจากคุณธนิตว่า คุณธนิตกับคุณณรงค์เป็นเพื่อนกัน มีห้องว่างอยู่ 3 ห้อง จึงจองห้องสีฟ้า และแจ้งว่าจะไปถ่ายภาพแต่งงาน ราคาค่าห้อง 1,500 บาทมัดจำ 50% 750 บาท วันเดินทาง คุณธนิตโทรเช็คว่าเราจะไปเรือรอบกี่โมง ถึงหรือยัง พอถึงท่าเรือคุณธนิต ก็มารับให้ขึ้นรถสองแถวไปที่รีสอร์ท อยู่ห่างจากท่าหน้าบ้านประมาณ 400-500 เมตรได้ ถึงก่อนบ้านเฉลียงลม ถึงแล้วค่ะ ลมทะเลรีสอร์ท เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ประมาณ 5 เดือน มีบ้านพักสองหลัง หลังละ 2 ห้อง แต่ละห้องก็มีสีแตกต่างกันออกไป ประตูรั้ว เดินเข้าไปด้านซ้ายขวาเป็นบ้านพักสองหลัง มู่ลี่หอยที่ประตู เป็นรูปหัวใจโรแมนติกดี ที่พักอยู่ติดทะเล แต่ไม่มีหาด บ้านพักหลังทางซ้าย ชื่อ บ้านแสนสุข เข้าไปจะอยู่ซ้ายมือ มีสองห้อง ห้องแรกที่เห็นในภาพซ้ายมือคือห้องสีฟ้า ขวามือคือห้องสีเขียว กั้นด้วยม่านที่ทำมาจากหอย ระเบียงหน้าห้อง ระเบียงหน้าบ้านสนุกสนาน บ้านแสนสุขจะคั่นด้วยม่านหอย แต่บ้านนี้คั่นด้วย ม่านหอย กับรั้วเล็กๆ หน้าห้องของทุกห้อง จะมีโต๊ะเก้าอี้ตั้งไว้ให้ 1 ชุด บันไดทางขึ้น แต่ละห้องจะมีบันไดทางขึ้นแยกกัน ดังนั้นแต่ละบ้านจะมีบันไดขึ้นสองทาง ระเบียงหน้าบ้าน ม่านหอย กั้นระเบียงสองห้องออกจากกัน เป็นลายดอกไม้ ป้ายชื่อบ้าน แขวนอยู่หน้าบ้าน ตอนแรกอย่างที่บอกไว้จองห้องสีฟ้า แต่พอดูแล้ว เกิดเปลี่ยนใจ เพราะห้องสีส้มน่ารักกว่า แต่ตอนนั้นห้องว่างอยู่ 3 ห้อง เลยเดินสำรวจดูทุกห้อง ในห้องก็จะมีเตียง(กว้างมาก) โต๊ะที่หัวเตียง และโซฟาเล็กๆ ทางด้านซ้ายมือสุดในภาพ จะเป็นห้องเล็กๆ หน้าห้องน้ำ ผ้าปูที่นอน หมอนเข้ากับสีห้อง มีผ้าเช็ดตัววางบนเตียง ห้องเล็กๆ หน้าห้องน้ำ ด้านซ้ายมือจะเป็นตู้เย็น จานชาม ที่ล้างจาน ขวามือเป็นตู้เก็บพวกที่นอนเสริม ผ้าห่ม หมอน ห้องน้ำ ค่อนข้างกว้าง กระจกบานใหญ่มาก ภายในห้องมีเครื่องทำน้ำอุ่น ต่อมาเป็นห้องสีเขียว ห้องนี้อยู่บ้านเดียวกับห้องสีฟ้า ห้องเขียวจะอยู่ริม ทุกห้องตกแต่งเหมือนกัน ต่างกันที่โทนสีเท่านั้น โซฟาเล็กๆ ในห้อง ต่อมาเป็นห้องสีส้ม เลือกห้องนี้เพราะมีโซฟาน่ารัก ถูกใจวัยรุ่นกว่าห้องอื่น อิอิ โซฟากับหัวใจสองดวง เข้ากับ Concept ที่มาวันนี้จริงๆ ทุกห้องด้านหน้าเป็นกระจกใส มองเห็นทะเลชัดทุกห้อง มาดูห้องเล็กๆ หน้าห้องน้ำอีกครั้ง ในตู้เปิดไฟได้ สังเกตว่าบังตา จะมีสีสันตามห้องที่พัก อุปกรณ์ครัวที่มีในห้อง มองจากห้องเล็กออกไปด้านนอก ตรงปลายเตียงจะเป็นที่วาง TV แต่ละบ้านมีจานรับสัญญาณ ไม่ได้เปิดทีวีดูไม่ทราบว่ามี UBC ให้ดูหรือไม่ ที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจหน้ารีสอร์ท ศาลาหน้าบ้าน นั่นรบลมทะเลสบายๆ ตรงนี้ก็เก๋ดี ถ้าแดดร่มคงจะนอนรับลมสบายๆ แต่ตอนที่ถ่ายประมาณบ่ายสอง ถ้านอนคงเกรียมแน่ๆ สไตล์ล้านนา(ไหมนะ) ศาลาอีกรูป เกาะด้านหน้าคือเกาะครกค่ะ บาร์เล็กๆ อยู่ตรงกลางระหว่างหน้าบ้านทั้งสอง แต่ยังไม่ได้ทำเป็นบาร์นะคะ เอาไว้ Check In ที่นี่ก็จะมีคนดูแลรีสอร์ทค่ะ คงเป็นชาวบ้านแถวนั้น ส่วนคุณธนิตจะกลับฝั่งพัทยาตอนเย็นๆ ไม่ได้ค้างบนเกาะ ที่หน้าบ้านอีกบ้าน ก็มีที่นั่งอีกชุด ตอนบ่ายๆ น้ำเริ่มขึ้น หน้าบ้านก็น้ำใสค่ะ มีชิงช้าให้นั่งเล่นด้วย เรือนี้น่าจะเป็นเรือตกหมึก เห็นมีไฟด้วยน่าจะไว้ล่อปลาหมึก แล้วช้อนขึ้นมา ที่เห็นหาดไกลๆ ตรงนั้นเป็นหาดเล็กๆ ของบ้านเฉลียงลม ศาลาหน้าบ้านสนุกสนาน เป็นอีกสไตล์ ประตูรีสอร์ท รั้วรีสอร์ท ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม อย่าลืมแวะมาอีกนะคะ   Create Date : 03 พฤศจิกายน 2551     Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 22:33:44 น. Counter : 21772 Pageviews.   47 comment Share Tweet

Trip นี้อบอวลด้วยไอรัก @ หาดเทียน เกาะล้านพัทยา ไปเกาะล้านเป็นครั้งที่ 2 แต่ครั้งนี้ไปเช้าเย็นกลับ ที่ว่าอบอวลไปด้วยความรัก เพราะไปถ่ายรูปแต่งงานกับพี่ที่ทำงาน เก็บภาพในบ้านน่ารักๆ และชายหาด มาทำ VDO Presentation เลือกหาดเทียน เนื่องจากเงียบสงบ และพระอาทิตย์ตกดินที่นี่ แล้วก็ถึงวันเดินทาง ไปเกาะล้าน เพิ่งจะทราบว่า มีท่ารถตู้ีอีกท่า ที่ไปท่าเรือเกาะล้าน อยู่แถวๆ อนุสาวรีย์ เหมือนกัน ท่าที่เราไปครั้งที่แล้ว อยู่ข้างๆ เซ็นจูรี่ ราคา 150 บาท เที่ยวแรก 6.30 น. ออกทุก 30 นาที อีกที่นึงที่เราเพิ่งทราบ ท่ารถจะอยู่ใต้ทางด่วน(แถวๆ หลังตึกร้านก๋วยเตี๋ยวอนุสาวรีย์) ทางถนนพหลฯ ราคา 170 บาท รถออกทุกชั่วโิมง มีที่นั่งรอเป็นห้องแอร์ ถึงท่าเรือ 11.15 รอไปเรือรอบ 12.00 น. คิดว่านักท่องเที่ยวไม่น่าเยอะ เพราะเป็นวันธรรมดา แต่เรือเที่ยวนั้นนักท่องเที่ยวเต็มลำ ทั้งนั่งกับพื้นและยืน อาจจะเป็นเพราะช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม 45 นาทีก็มาถึงท่าหน้าบ้าน ถ่ายรูปบ้านฟ้าใสอีกอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ได้ใช้บริการบ้านฟ้าใส เนื่องจากบ้านฟ้าใสไม่ว่าง คุณณรงค์เลยแนะนำบ้านเฉลียงลม ของคุณธนิตที่เป็นเพื่อนกันให้ ด้านซ้าย ลารีน่ารีสอร์ท กับ 7 Eleven ที่เดียวบนเกาะ อ้อ! ก่อนไปเกาะล้านเตรียมเงินไปให้พอใช้จ่ายนะคะ เพราะบนเกาะไม่มี ตู้ ATM ออกจากท่าเรือ เลี้ยวขวาเพื่อเดินไปขึ้นรถของทางรีสอร์ท ผ่านร้านพิชซ่าร้านนี้ เดินมาขึ้นรถที่หน้าวัดใหม่สำราญ วัดแห่งเดียวบนเกาะ ทางรีสอร์ทเอารถสองแถวมารับ บริการฟรี คุณธนิตโทรถามตั้งแต่อยู่บนรถตู้ ดูเป็นห่วงลูกค้าดี จากนั้นก็ไป Check In ที่ลมทะเลรีสอร์ท และก่อนจะเริ่มทำงานก็ ไปเติมพลังที่ร้านเกาะล้านอาหารทะเล ซึ่งอยู่ติดกับลมทะเลรีสอร์ทเลย บริเวณลานกว้างของร้านด้านนอก ที่อยู่ติดกับทะเล ตกแต่งได้บรรยากาศดี ถ้าเป็นตอนเย็นคงนั่งชมทะเลสบายๆ แต่ตอนที่เราไปทานเป็นช่วงบ่าย แดดกำลังจัด ไปนั่งคงสุกแน่ๆ เมนูอาหาร เป็นร้านเดียวกับที่มีเมนูอยู่ในห้องของบ้านฟ้าใสค่ะ ราคาอาหารก็ไม่แพง ราคาปกติแบบตามร้านอาหารทั่วไป สั่งมาหลายอย่างเหมือนกัน อาหารรสชาติดีทุกอย่าง ถ้าพักที่อื่นก็สามารถโทรสั่งได้ มีบริการส่งฟรีถึงที่พัก เริ่มจากต้มยำรวมมิตรทะเล แกงจืดทะเล หอยแมงภู่นึ่ง น้ำจิ้มอร่อยดี กุ้งผัดบล็อคโคลี่ ยำรวมมิตรทะเล กุ้งผัดผงกะหรี่ ปลาหมึกทอด ที่เห็นเป็นวงๆ คือหอมใหญ่ ที่เป็นชิ้นๆ คือปลาหมึกชุบแป้ง มีน้ำจิ้มคล้ายน้ำจิ้มทอดมันให้จิ้ม ไม่เคยทานปลาหมึกชุบแป้งทอดแบบนี้ ถ่ายรูปด้านนอกของห้องน้ำมาด้วย ตกแต่งด้วยหอย อาหารมื้อนี้หมดไปประมาณ 1.000 บาท ซึ่งบางจานก็สั่งเบิ้ล หลังจากเติมพลังแล้ว ก็ Move ไปหาดเทียน โดยคุณธนิตโทรตามรถสองแถวให้ เสียค่ารถคนละ 60 บาท ไป-กลับ ถึงหาดเทียนแล้ว ต้องเดินต่อเข้าไป สะพานที่เดินเข้าไปที่หาด น้ำทะเลใสเหมือนหาดอื่นๆ ด้านหลังเป็นภูเขา มีเตียงผ้าใบด้วย แต่ไม่แน่นเหมือนหาดตาแหวนกับหาดแสม ริมหาดจะมีต้นเทียนขึ้นอยู่หลายต้น เดินต่อไปอีก ก็จะเจอหาดกว้างๆ แบบนี้ ตอนนั้นไปเย็นแล้ว แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย ว่าที่เจ้าสาวและว่าที่เจ้าบ่าวก็เก็บภาพบรรยากาศและถ่าย VDO ทรายหาดนี้ไม่ขาวและละเอียดเหมือนหาดตาแหวน ลักษณะหาดจะคล้ายๆ กับหาดแสม ตรงที่คลื่นแรง หาดค่อนข้างกว้าง และดูไม่แออัดมาก คนน้อย วันนั้นแดดไม่ค่อยมี ท้องฟ้าไม่เปิด เลยถ่ายรูปไม่ค่อยสวย ร้านอาหารหาดเทียน เงียบมากๆ ไม่รู้ยังเปิดให้บริการอยู่ไหม หาดเทียนรีสอร์ท ที่พักที่เดียวที่หาดเทียน อยู่ติดหาดเลย ดูเงียบสงบเป็นส่วนตัวดี ออกมาจากที่พักก็วิ่งลงทะเลได้เลย ดอกของต้นเทียน น้องหมาตัวนี้เดินเล่นชายหาด และกระโดดน้ำอย่างมีความสุข ท้องฟ้าไม่เปิด เลยไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ตกดิน น่าเสียดาย ไม่งั้นแสงคงสวย ให้ว่าที่บ่าวสาวถ่ายรูปกัน น้องหมาทะเลอีกตัว ว่ายน้ำสนุกสนาน น้ำขึ้นแล้ว ตอนนั้น 5 โมง ต้องกลับที่พัก เพื่อไปรอขึ้นเรือรอบ 6 โมง กังหันลมปั่นไฟ ถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย 18.45 น. ตอนค่ำๆ ได้สีสันไปอีกแบบ รถที่รับจ้างที่บริการพาเที่ยวรอบพัทยา จบไปอีก Trip ซึ่งให้ชื่อว่า Trip สีชมพู ตอนหน้าจะรีวิวบ้านเฉลียงลม ที่พักน่ารักๆ บนเกาะล้าน ไว้เจอกันอีกนะเกาะล้าน ยังเที่ยวไม่ครบทุกหาดเลย ไปคราวหน้าต้องไปให้ครบ แล้วจะไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่หาดเทียนให้ได้ ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม อย่าลืมแวะมาอีกนะคะ   Create Date : 31 ตุลาคม 2551     Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 22:30:39 น. Counter : 6224 Pageviews.   10 comment Share Tweet

เดินเที่ยวหาของกิน ที่ตลาดดอนหวาย&ทานกลางวันที่แพท่าจีน นครปฐม เมื่ออาทิตย์ก่อนไปทำงานที่ศาลายา นครปฐม 3 วัน วันสุดท้ายไหนๆ ก็มาแล้ว มื้อกลางวันเลยออกไปหาของกินที่ดอนหวาย จากศาลายาขึ้นทางวนข้ามแยก มุ่งหน้าไปนครปฐม ทางเข้าตลาดจะอยู่ซ้ายมือ สามารถเข้าได้ 2 ทาง แต่ทางที่คุ้นเคยจะเป็นแยกก่อนถึงสะพานแม่น้ำท่าจีน เลี้ยวซ้ายเข้าไปตลาดอยู่ขวามือ จากศาลายาไม่กี่นาทีก็ถึงตลาดน้ำดอนหวาย ใครที่เคยไปวันธรรมดา จะรู้ว่าเดินสบายกว่าวันเสาร์อาทิตย์มาก มาเดินหาของกินกันดีกว่า เป็ดพะโล้นายหนับ เจ้าดัง จริงๆ มีเป็ดอร่อยๆ หลายร้าน ต่อมาก็เป็นลูกชิ้นปิ้ง วันธรรมดาร้านก็ขายเหมือนเดิม จะมีแค่ร้านสองร้านที่ไม่เปิด คนไม่แออัด เดินเลือกของกินสบายๆ วีณาเจลลี่ จริงๆ มันก็คือวุ้นในลูกมะพร้าวแหละ ขนมสอดไส้ผู้พัน และขนมต้ม อันนี้ซื้อมาทาน อร่อยดีทั้งขนมต้มและขนมสอดไส้ ห่อหมกปลาช่อน ปลาส้ม ปลาทูเค็ม กาละแม ข้าวเหนียวแดง เห็นแล้วคิดถึงบ้าน เพราะเมื่อก่อนที่บ้านชอบทำข้าวเหนียวแดงทาน ปั้นสิบ กระยาสารท โมจิ ซ่าหริ่ม ทับทิมกรอบ มีแต่ขนมน่าทานทั้งนั้น มองไปทาไหนก็มีแต่ขนมอร่อยๆ ร้านนี้ขนมตาลป้าไข่ อร่อยดี ไปทีไรต้องซื้อติดไม้ติดมือมาฝากคนอื่นทุกที ขนมโก๋ ข้าวตัง และขนมไทยอื่นๆ มาที่กับข้าวบ้าง ปลาเค็ม จากปลาชนิดต่างๆ ขนมจาก ปลาทูต้มเค็ม ปลาตะเพียนต้มเค็ม มีขายอยู่หลายร้าน ไม่รู้เหมือนกันว่าร้านไหนอร่อย ก็ต้องผลัดกันซื้อครั้งละร้าน ระหว่างทางเดินมีของขายน่าทานๆ ทั้งนั้น และก็มีทางลง ที่จะไปทานอาหารตามร้านอาหารที่แพริมน้ำต่างๆ นี่ก็ร้านปลาทูต้มเค็มอีกร้าน ขนมบ้าบิ่น ขนมนี้ของโปรดเลย ชื่อมันเข้ากับเราดี :D อันนี้ซื้อมาทานเหมือนกัน ขนมอะไรชื่อดุ แต่รสชาดอร่อย เดินดูของกินจนตาลาย ที่ซื้อส่วนใหญ่จะเป็นขนม เอาของและขนมไปเก็บที่รถ แล้วก็ไปลงแพทานกลางวันกัน มื้อนี้ฝากท้องไว้ที่แพท่าจีน แพแรกสุดที่เดินจากวัด ตอนเดินผ่านเห็นปลาทอดน่าทานมากๆ ตรงทางเข้าแพ โชคดีคนไม่มาก ได้นั่งโต๊ะริม ได้บรรยากาศ ที่เห็นไม่ใช่ฝนตก แต่เป็นน้ำจากหลังคาเพื่อให้ความเย็น ด้านล่างปลาสวายตัวใหญ่ๆ เยอะมาก ถ้ามีขนมปังก็เอามาโยนให้มันกินได้ นั่งทานกลางวัน ริมแม่น้ำท่าจีน มื้อนี้ได้บรรยากาศจริงๆ รออาหารไม่นาน อย่างแรกก็มาเสิร์ฟ ปลาทอดกระเทียม เนื่องจากเห็นปลาด้านหน้า ก็เลยบอกว่าเอาปลาทอดแบบนั้น ก็เลยจัดมาเป็นปลาทอดกระเทียมตัวใหญ่ กรอบอร่อย น้ำจิ้มก็อร่อย ต่อมาคือทอดมันกุ้ง รสชาดใช้ได้ ปลาทอดกรอบๆ น้ำจิ้มแซ่บๆ กับข้าวสวยร้อนๆ :P ต่อมาเป็นต้มยำรวมมิตร เป็นต้มยำน้ำข้น :P รสชาดดี สั่งมาทั้งหมด 3 อย่าง ข้าว 1 โถ ราคา 400 กว่าบาท อิ่มอร่อย ราคาก็ไม่แพงมาก ระหว่างทาน ก็มีแม่ค้าพายเรือมาขายผลไม้จากสวน ก่อนออกจากร้านมองดูบนเพดาน มีชื่อโต๊ะติดอยู่ด้านบน แต่ละโต๊ะก็เป็นผลไม้ต่างๆ เข้าใจคิดจริงๆ ฝรั่งร้านนี้น่าทานมากๆ ผิวสวยเชียว ดูชื่อแล้วไม่ใช่สัญชาติไทย น่าจะเป็นจีน มิน่าผิวสวย :D คอกาแฟ ก็มีร้านกาแฟสดให้ซื้อด้วย มาดูกัน ว่าซื้ออะไรกันมาบ้าง ขนมต้ม ขนมสอดไส้ ขนมตาล ขนมบ้าบิ่น ปลาต้มเค็ม เนื้อทอด ขนมจาก ถั่วเคลือบน้ำตาล ฝรั่งกิมจู เดินเที่ยวสบายๆ กับหาของกินอร่อยๆ บรรยากาศดีดี ตลาดริมน้ำดอนหวายก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม อย่าลืมแวะมาอีกนะคะ   Create Date : 16 ตุลาคม 2551     Last Update : 19 พฤษภาคม 2552 22:24:13 น. Counter : 5078 Pageviews.   9 comment Share Tweet

• Webmaster - BlogGang

• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• 
• BlogGang.com