Group Blog
 
All blogs
 
หนึ่งมื้อกินเจ หมื่นชีวิตอยู่รอด (9 วัน 9 คืน ได้อะไร?)


หลังจากที่กินเจมา 9 วัน 9 คืน (11-19 ตุลาคม) วันนี้เป็นวันที่สองที่ทานปกติ
กินเจช่วงเทศกาลกินเจแบบนี้ 6 ปีแล้ว มีบางปีเว้น เนื่องจากป่วย


ทำไมต้องกินเจ?

โดยส่วนตัวแล้ว เมื่อก่อนก็ไม่ได้สนใจที่จะกินเจนัก
แต่มาช่วงหลังก็เริ่มคิดถึงสุขภาพ และก็เริ่มนึกถึงการทำบุญให้ทาน
ซึ่งเห็นว่าการกินเจก็เหมือนกับเป็นการล้างท้องเอาสารพิษออกปีละครั้ง
และการกินเจถือเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ ที่เหมือนกับการละเว้นและให้ชีวิตแก่สัตว์
ปีนึงล้างพิษและทำบุญปีละครั้ง ที่ทำได้ง่ายๆ โดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย

ช่วงวันแรกๆ ที่เริ่มกิน จะรู้สึกโหวงๆ มากร่างกายยังปรับตัวไม่ทัน
วันแรกกับวันที่สอง ตื่นตั้งแต่ตีสี่ เพราะหิวมากต้องออกมาหาของกินแต่เช้า
พอเข้าวันที่สามเป็นต้นมาก็จะอยู่ตัว ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
9 วันเหมือนจะนาน แต่ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว(เหมือนทดสอบความอดทนไงไม่รู้)
การกินเจต้องทำจิตใจให้บริสุทธิ์ คิดแต่ในสิ่งที่ดี ทั้งกาย วาจา ใจ
พยายามทำนะ แต่ชอบมีมารมาผจญอยู่เรื่อย ไม่อยากคิดมาก
คนที่คอยเบียดเบียน คนที่คอยรังควาญ แสดงว่าไม่มีความสุข

สมัยนี้ของกินหาง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก คนนิยมที่จะกินเจมากขึ้น
ร้านต่างๆ ช่วงเทศกาลก็มีอาหารเจบริการ เช่น S&P และก็ MK
ล่าสุดเพื่อนนัดเจอเลี้ยงข้าว บอกเจเลยไปกินสุกี้กัน ทั้งๆ ที่คนอื่นไม่กินเจ
อิ่มบุญ อิ่มใจ อิ่มท้อง แถมตังค์อยู่ครบอีกต่างหาก อิอิ

ตอนที่ทาน MK น้ำจิ้มเจจะแตกต่างจากน้ำจิ้มปกติของทางร้าน
ด้วยความสงสัยมานาน ว่าทำไมต้องแยกน้ำจิ้มด้วยในน้ำจิ้มมีอะไร
นอกจากผักชีที่ทานไม่ได้ก็ไม่ต้องใส่ แค่นี้ก็น่าจะทานได้แล้ว
ก็ได้รับคำตอบว่า ในน้ำจิ้มปกติ จะใส่ซอสหอยนางรม เลยทานไม่ได้
ก็เลยงงว่า ตกลงแล้วหอยนางรม เป็นอาหารเจหรือปล่าว?

เพราะเคยได้ยินตำนานหอยนางรมกับการกินเจ ว่า
พระถังซำจั๋งไปอัญเชิญพระไตรปิฎก ระหว่างทางที่ไปพบกับอันตรายต่างๆ มีครั้งหนึ่งที่พระถังซำจั๋งต้องทนทุกข์อยู่ที่เกาะ ไม่สามารถจะหาอาหารเจฉันได้ ท่านจึงอธิษฐานว่า ท่านจะปักไม้ลงไป อะไรก็ตามที่ติดไม้ขึ้นมา ขอให้สิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ท่านจะทานได้ หอยนางรมได้รับทราบถึงความลำบากของพระถังซำจั๋ง จึงเกิดศรัทธา ยอมสละชีวิตตัวเอง ไปเกาะที่ไม้ ตั้งแต่นั้นมาก็เลยถือว่า หอยนางรมเป็นอาหาร เจ
บ้างก็บอกว่า หอยนางรมไม่มีเลือด เลยถือว่าเจ
เลยไม่รู้ตกลงคือยังไงกันแน่

อีกอย่าง ผลพลอยได้จากการกินเจ สำหรับเราคือ ประหยัด
โดยปกติจะเป็นคนที่จอของกินจะซื้อดะ อยากทานอะไรก็ซื้อ
พอกินเจ ก็ต้องลดละ ที่จะไม่ซื้อ เพราะไม่ใช่อาหารเจ ประหยัด...

อ้อ! อีกอย่าง ใครว่ากินเจแล้วผอม ขอยืนยันว่าไม่จริง
เพราะอาหารเจ ไม่มีเนื้อสัตว์ก็จริง แต่แป้งเพียบ มันเยิ้มอีกต่างหาก
นอกจากคนที่จะทานเฉพาะพวกผักผลไม้ น่าจะผอมได้
แต่มันไม่ใช่จุดประสงค์ของการกินเจ


ความรู้ของการกินเจ

คำว่า เจ ในภาษาจีนทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายานมีความหมายเดียวกับคำว่า อุโบสถ ดังนั้นการกินเจก็คือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน เหมือนกับที่ชาวพุทธในประเทศไทยที่ถืออุโบสถศีล หรือรักษาศีล 8 โดยไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้ว

แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธฝ่ายมหายานที่ไม่กินเนื้อสัตว์ จึงนิยมนำการไม่กินเนื้อสัตว์ไปรวมกันเข้ากับคำว่ากินเจ กลายเป็นการถือศีลกินเจ ในปัจจุบันผู้ที่รับประทานอาหารทั้ง 3 มื้อแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ก็ยังคงเรียกว่ากินเจ ฉะนั้นความหมายก็คือคนกินเจมิใช่เพียงแต่ไม่กินเนื้อสัตว์ แต่ยังต้องดำรงตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ

เจียะ ในภาษาถิ่นใต้ หากใช้ในความหมายของคำกิริยา แปลว่า กิน

แจ แปลว่า บริสุทธิ์ ( อ้างตามปทานุกรมพุทธศาสนาฉบับ วัดฝอกวงซัน ,ไต้หวัน )

เจียะแจ หรือ ตรงกับคำไทยที่นิยมใช้กันว่า กินเจ จึงแปลว่า การกินอาหารที่บริสุทธิ์ตามความเชื่อ(ในลัทธิกินเจ) ซึ่งหมายความถึงอาหารที่ไม่คาวหรือไม่เจือปนซากผลิตภัณฑ์ของสัตว์ รวมทั้งไม่ปรุงใส่พืชผักต้องห้าม

ตำนานเกี่ยวกับการกินเจมีเยอะมาก ยกตัวอย่างสักสองตำนานดีกว่า

ตำนานที่ 1
ชาวจีนกินเจเป็นการบำเพ็ญกุศลเพื่อรำลึกถึงวีรชน 9 คน ซึ่งเรียกว่า “หงี่หั่วท้วง” ซึ่งได้ต่อสู้กับชาวแมนจูอย่าง กล้าหาญถึงแม้จะแพ้ก็ตาม ชาวบ้านได้พากันถือศีลกินเจนุ่งขาวห่มขาวเพราะเชื่อว่าการปฏิบัติเช่นนี้จะ ช่วยชำระจิตวิญญาณเกิดความเข้มแข็งทางร่างกายและจิตใจ

ตำนานที่ 2
เพื่อเป็นการประกอบพิธีกรรมเพื่อสักการบูชาพระพุทธเจ้าในอดีตกาล 7 พระองค์และพระมหาโพธิสัตว์อีก 2 พระองค์ รวมเป็น 9 พระองค์ด้วยกัน หรืออีกนัยหนึ่งเรียกว่า “ดาวนพเคราะห์” ทั้ง 9 ได้แก่ พระอาทิตย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพุธ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู และพระเกตุ ในพิธีกรรมบูชานี้สาธุชนในพระพุทธศาสนาสละเวลาทางโลกมาบำเพ็ญศีลงดเว้นเนื้อสัตว์และแต่งกายด้วยชุดขาว

กินเจเพื่ออะไร?
ผู้ที่กินเจอาจจะมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างกันไป แต่จุดประสงค์หลักสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทดังนี้

1. กินเพื่อสุขภาพ อาหารเจเป็นอาหารประเภทชีวจิต เมื่อกินติดต่อกันไปช่วงเวลาหนึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดการปรับตัวให้อยู่ในสภาวะสมดุล สามารถขับพิษของเสียต่างๆ ออกจากร่างกายได้ ปรับระบบไหลเวียนโลหิต ระบบทางเดินอาหารให้มีเสถียรภาพ
2. กินด้วยจิตเมตตา เนื่องจากอาหารที่เรากินอยู่ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยเลือดเนื้อของสรรพสัตว์ ผู้มีจิตเมตตา มีคุณธรรมและมีจิตสำนึกอันดีงามย่อมไม่อาจกินเลือดเนื้อของสัตว์เหล่านั้น ซึ่งมีเลือดเนื้อ จิตใจและที่สำคัญมีความรักตัวกลัวตายเช่นเดียวกับคนเรา
3. กินเพื่อเว้นกรรม ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งย่อมตระหนักว่าการกินซึ่งอาศัยการฆ่าเพื่อเอา เลือดเนื้อผู้อื่นมาเป็นองเราเป็นการสร้างกรรม แม้ว่าจะไม่ได้เป็นผู้ลงมือฆ่าเองก็ตาม การซื้อจากผู้อื่นก็เหมือนกับการจ้างฆ่าเพราะถ้าไม่มีคนกินก็ไม่มีคนฆ่ามา ขาย กรรมที่สร้างนี้จะติดตามสนองเราในไม่ช้าทำให้สุขภาพร่างกายอายุขัยของเรา สั้นลงเป็นบ่อเกิดของโรคภัยไข้เจ็บ เมื่อผู้หยั่งรู้เรื่องกฎแห่งกรรมนี้จึงหยุดกินหยุดฆ่าหันมารับประทานอาหาร เจ ซึ่งทำให้ร่างกายเติบโตได้เหมือนกัน โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยช่วงเวลาสั้นๆ เพียงแค่อาหารผ่านลิ้นเท่านั้น

ประโยชน์ของการกินเจ
การกินอาหารเจ นอกจากจะเป็นการถือศีลและรักษาประเพณีแล้ว ยังให้ประโยชน์ต่อร่างกายดังนี้

1. ร่างกายสามารถขับถ่ายของเสียออกได้หมดทำให้ไม่มีสารพิษตกค้างอยู่ภายใน สารอาหารที่มีคุณค่าในพืชผักและผลไม้จะช่วยให้ระบบขับถ่ายและการย่อยเป็น ปกติ
2. เมื่อรับประทานเป็นประจำโลหิตจะถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ต่างๆ ของร่างกายเสื่อมสลายช้าลงทำให้อายุยืนยาวมีผิวพรรณสดชื่นผ่องใส นัยน์ตาแจ่มใสไม่พร่ามัวร่างกายแข็งแรงรู้สึกเบาสบายไม่อึดอัด มีสุขภาพพลานามัยดี
3. อวัยวะหลักสำคัญภายใน ได้แก่ หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด และอวัยวะประกอบคือ ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ กระเพาอาหาร ถุงน้ำดี แข็งแรงทำงานได้เป็นปกติสมบูรณ์
4. ร่างกายสามารถต้านทานต่อสารพิษต่างๆ ได้แก่
1. สารเคมี ยากำจัดศัตรูพืช ยาฆ่าแมลง สารดีดีที
2. มลภาวะและก๊าซพิษที่เกิดจากการเผาไหม้ในอุตสาหกรรม ไอเสียจากเครื่องจักร เครื่องยนต์ซึ่งแพร่กระจายปะปนไปในอากาศที่เราหายใจอยู่เป็นประจำและยังพบ ว่ามีปะปนอยู่ในแหล่งน้ำดื่มด้วย
3. กัมมันตภาพรังสีที่เกิดจากการทดลองระเบิดนิวเคลียร์และในการทำสงคราม สารอาหารในพืชผักช่วยให้เซลล์ต่างๆ ในร่างกายสามารถทนต่อการทำลายจากรังสีต่างๆ
5. ร่างกายสามารถต้านทานต่อสารพิษต่างๆ ได้สูงกว่าคนปกติธรรมดาสารพิษที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ในบรรดาผู้ที่กินอาหารเจ อาหารพืชผักและผลไม้เป็นประจำความเจ็บไข้ได้ป่วยมักไม่มีปรากฏโดยเฉพาะโรค ที่รุนแรงหรือเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคไต ไขข้ออักเสบ โรคเก๊าส์ โรคเบาหวานฯลฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคที่เกี่ยวกับระบบขับถ่าย ย่อยอาหารและทางเดินอาหาร เช่น โรคริดสีดวงทวาร มะเร็งในกระเพาะและลำไส้ โรคกระเพาะ อาหารไม่ย่อย โรคเหล่านี้จะไม่พบเลยในกลุ่มคนผู้ที่รับประทานอาหารเจ อาหารพืชผักและผลไม้เป็นประจำ

หลักธรรมในการกินเจ
ในทัศนะของคนกินเจ การกินที่ทำให้ชีวิตผู้อื่นต้องเดือดร้อนล้มตายนั้น “มันมากเกินไป” ทั้งๆ ที่มนุษย์กินแต่อาหารพืชผักก็สามรถมีชีวิตอยู่ได้

การกินเจตั้งมั่นอยู่บนหลักธรรมสำคัญ 2 ประการคือ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ไม่เบียดเบียนตนเองและดำรงชีวิตอยู่ด้วยอาหารที่ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น กล่าวคือ

1. ไม่เอาชีวิตของสัตว์ทั้งหลายมาต่อเติมบำรุงเลี้ยงชีวิตของตน
2. ไม่เอาเลือดของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเลือดของตน
3. ไม่เอาเนื้อของสัตว์ทั้งหลายมาเป็นเนื้อของตน

การรับประทานสิ่งใดก็ตามที่ทำลายสุขภาพร่างกายของตนให้ทรุดโทรม คือ การเบียดเบียนตนเอง ปัจจุบันวิทยาการเจริญก้าวหน้าได้พิสูจน์ยืนยันว่าเลือดและเนื้อของสัตว์ ที่ถูกฆ่าตายเต็มไปด้วยพิษภัยมากมาย

ดังนั้นการกินเจจึงไม่ใช่เพื่อให้เกิดผลดีต่อจิตใจเท่านั้นแต่ยังครอบ คลุมไปถึงการมีสุขภาพพลานามัยที่ดีอีกด้วย ร่างกายและจิตใจเป็นของคู่กันมีความสัมพันธ์ส่งผลถึงกันคนเราย่อมไม่อาจจะ รู้สึกเบิกบานสดชื่นร่าเริงได้ในขณะที่ร่างกายเจ็บป่วยทรุดโทรมย่ำแย่

การปฏิบัติตนในช่วงกินเจ
ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน ผู้ที่ต้องการกินเจอย่างครบถ้วยสมบูรณ์ตามประเพณีการกินเจ จะต้องปฏิบัติดังนี้

1. งดเว้นเนื้อสัตว์หรือทำอันตรายต่อสัตว์
2. งดนม เนย และน้ำมันที่มาจากสัตว์
3. งดอาหารรสจัด ซึ่งหมายถึงอาหารเผ็ด หวานมาก เปรี้ยวมาก เค็มมาก
4. งดผักหรือเครื่องเทศที่มีกลิ่นแรง เช่น ผักชี กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กุยช่าย รวมทั้งใบยาสูบ สิ่งเสพติดและของมึนเมาต่างๆ
5. รักษาศีลห้า
6. รักษาจิตใจให้บริสุทธิ์ รักษาอารมณ์
7. ทำบุญทำทาน
8. นุ่งขาวห่มขาว

สำหรับผู้ที่เคร่งครัดเพื่อการกินเจให้เป็นไปอย่างบริสุทธ์โดยแท้ จะเพิ่มการปฏิบัติโดยการกินอาหารเฉพาะที่คนกินเจด้วยกันเป็นผู้ปรุงเท่านั้น รวมถึงจะล้างหม้อไหจนสะอาดเอี่ยมแยกภาชนะสำหรับการปรุงอาหารเจไว้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังจุดตะเกียงไว้ 9 ดวงตลอดช่วงเทศกาลกินเจ 9 วัน โดยไม่ปล่อยให้ดับเพื่อเป็นพุทธบูชาและรำลึกถึงบุญคุณของพ่อแม่ญาติพี่น้อง ตลอดจนผู้ที่มีบุญคุณต่อผืนแผ่นดินเกิด


Create Date : 21 ตุลาคม 2550
Last Update : 21 ตุลาคม 2550 9:13:45 น. 5 comments
Counter : 754 Pageviews.

 
ขอบคุณที่เอาความรู้ใหม่ๆมาเสนอน้า


โดย: K_chang วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:9:34:29 น.  

 

กินเพื่อสุขภาพตัวเองมากกว่าจะเอาจริงเอาจังเรื่องการทำบุญทำทาน
คิดว่า คิดดี เจตนาดี และทำดี ก็เพียงพอแล้วสำหรับชีวิตนี้

กินเจตั้งแต่ 9-19 ค่ะ

ปกติทานข้าวกลางวันมื้อเดียวเป็นประจำ
วันแรก โหยมาก จนตอนค่ำต้องย่องไปต้มมาม่าเจ
วันที่สองและวันต่อมา ปกติค่ะ

รู้สึกตัวเบา ๆ สบาย ๆ (เราไม่ทานหมี่กึงค่ะ ทานแล้วท้องอืดไม่ชอบ)

ทานเจแบบนี้มาหลายปีแล้วค่ะ
ทานได้ตลอด เจไม่เคยแตกค่ะ





โดย: %u0E1E%u0E34%u0E21%u0E1E%u0E4C%u0E0A%u0E37%u0E48%u0E2D%u0E02%u0E2D%u0E07%u0E04%u0E38%u0E13%u0E17%u0E35%u0E48%u0E19%u0E35%u0E48%u0E04%u0E23%u0E31%u0E1A (Big Spender ) วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:10:45:25 น.  

 
เราก้กินตั้งแต่ 9-20 ก็รู้สึกดีนะ ร่างกายก็สอาดด้วย
แล้วเราทำอาหารเอง


โดย: null (aitai ) วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:11:07:44 น.  

 
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ไอซ์ยังไม่ออกเจเลย เพราะว่าเริ่มทานช้ากว่าคนอื่นเนื่องจากไปเที่ยวค่ะ

รู้สึกว่าการทานเจสมัยนี้สบายขึ้นเยอะมากๆ จริงๆ ค่ะ อาหารเจมีให้เลือกเยอะแยะมากมาย

^^


โดย: Clear Ice วันที่: 21 ตุลาคม 2550 เวลา:11:32:07 น.  

 
หอยนางรม เป็นของต้องห้ามสำหรับคนรับประทานกินเจหรือไม่
//www.myrestaurantpal.com/Vegetarian-Food-Recipes/It-Is-OK-For-Vegans-To-Eat-Oysters.html


โดย: Umi Kanaka IP: 223.204.250.6 วันที่: 28 เมษายน 2559 เวลา:22:12:19 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bombik
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add bombik's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.