My blog
 
 

สรุปดอกเบี้ยออมทรัพย์.... ณ.วันที่ 20/02/07

ทิสโก้ให้ 3.5 เปอน์เซ็นต์ ต่อ ปี
ส่วนอาคารสงเคราะห์ 3 เปอร์เซ็นต์ ต่อ ปี แต่ต้องเป็นแบบ ออมทรัพย์พิเศษนะครับ
เพิ่ม กระแสรายวันด้วยแล้วกัน ได้ยินข้าวว่า ธนาคารสินเอเชีย ให้ 3.5 เปอร์เซ็นต์ ลองไปถามรายละเอียดดูนะครับ




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2550   
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2550 18:33:30 น.   
Counter : 263 Pageviews.  


ฝากเงินอย่างไรดีช่วงนี้

ขอเสนอแนวทางการฝากเงินหน่อยครับ
ในช่วงดอกเบี้ยกำลังจะลงอยู่นี้ ถ้ามีเงินเก็บแบบเย็น ควรจะฝากระยะยาว เราจะได้ดอกเบี้ยสูง นานนาน ซึ่งตอนนี้ที่มียาวแล้วอัตราค่อนข้างดี ก็จะมี ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ส่วนที่ใครอยากได้แบบยาว แล้วแถมประกันด้วย ลองโทรไปถาม ธนาคารออมสิน ยาวดี มีประกัน
ส่วนกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐและยาวนี้ก็น่าสน ส่วนภาคเอกสนอาจจะต้องใส่ใจกันสักนิดคิดดีดี
ส่วนใครที่ชอบฝากสั้น สั้น
เงินฝาก ธนาคาร สั้น ก็จะอยู่ในช่วง 3.75-4.75%ต่อปี
ส่วนคนที่ชอบแบบออมทรัพย์ ก็ลองติดต่อ ธนาคารทิสโก้ ออมทรัพย์ของเขาน่าดู แต่ว่าสาขาอาจน้อยหน่อย หรืออาจจะไปลงทุนกองทุนตราสารหนี้ ประเภทชายได้ทุกวัน ก็น่าสนใจ
อย่าลืม การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ครับ ขอบคุณ




 

Create Date : 20 พฤศจิกายน 2549   
Last Update : 20 พฤศจิกายน 2549 21:15:38 น.   
Counter : 374 Pageviews.  


ระวังเรื่องการซื้อกองทุนรวมตราสารหนี้

เมื่อวานเดินผ่านธนาคารแห่งหนึง เห็นฝ่ายการตลาดชอของธนาคารแนะนำลูกค้าซื้อกองทุน โดยเห็นบอกแต่ผลตอบแทน ไม่ค่อยลงรายละเอียดของกองทุน อยากให้เพื่อระวังหน่อย เรื่องการลงทุนในกองทุน มีความเสี่ยง ไม่เหมื่อนการฝากเงิน
เหตุที่ต้องตื่นให้ระวังเพราะ
กองทุนที่ออกใหม่มาตอนนี้ มีบางส่วนลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนด้วย ซี่งจะทำให้กองทุนให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ก็จะมีความเสี่ยงสูงขึ้น
อยากให้นักลงทุนโปรดระวังเรื่องการลงทุนด้วย




 

Create Date : 25 ตุลาคม 2549   
Last Update : 25 ตุลาคม 2549 21:11:00 น.   
Counter : 333 Pageviews.  


มนุษย์เงินเดือนเฮครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีหักค่าใช้จ่าย60%

ผู้จัดการรายวัน 2 สิงหาคม 2549 10:58 น. - มนุษย์เงินเดือนเฮ ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินหักลดหย่อยค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็น 60% แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท
จากเดิม 40% แต่ไม่เกิน 6 หมื่น ผู้มีเงินเดือนต่ำกว่า 19,166 บาทต่อเดือนไม่ต้องเสียภาษี


พอดีข่าวมันยาวกลัวจะไม่อ่านกัน
ก็เลยเอาสรุปข้อมูลมาให้อ่านกัน
เป็นการคำนวณภาษีเงินได้เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น
ว่ามีวิธีคำนวนการอย่างไรและมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราได้ประโยชน์อะไรบ้าง


การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

เดิม ( 15,833 / เดือน) ใหม่ ( 19,166 / เดือน)

(1) เงินได้พึงประเมินทุกประเภทรวมกันตลอดปีภาษี
190,000.00 230,000.00

(2) หัก ค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด
60,000.00 100,000.00
(ร้อยละ 40 ไม่เกิน 60,000.-) (ร้อยละ 60 ไม่เกิน 100,000.-)

(3 ) = (1)-(2) เหลือเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย

130,00000 130,000.00

(4) หัก ค่าลดหย่อนต่าง ๆ (ลดหย่อนผู้มีเงินได้ 30,000.-)
30,000.00 30,000.00

(5 )= (3)-(4) เหลือเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนต่าง ๆ
100,000.00 100,000.00

(6) หัก ค่าลดหย่อนเงินบริจาค ไม่เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด
0.00 0.00

(7) = (5-6) เหลือเงินได้สุทธิ
100,000.00 100,000.00

นำเงินได้สุทธิตาม (7) ไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

จำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

0.00 0.00

ผู้มีเงินได้เท่ากับหรือน้อยกว่า 19,166 ต่อเดือนหรือ 230,000 ต่อปี หักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนเพียง 2 รายการนี้เท่านั้น ก็ไม่ต้องเสียภาษีแล้ว )

สรุปผลประโยชน์ที่ได้รับ

ผู้ที่ต้องเสียภาษี 5% รายได้ ไม่ต้องเสียภาษี (เหมือนเดิม)
ผู้ที่ต้องเสียภาษี 10% รายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 4,000 บาทต่อปี
ผู้ที่ต้องเสียภาษี 20% ของรายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 8,000 บาทต่อปี
ผู้ที่ต้องเสียภาษี 30% ของรายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 12,000 บาทต่อปี
และผู้ที่ต้องเสียภาษี 37% ของรายได้จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 15,000 บาทต่อปี


อันนี้เป็นเนื้อหาข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการครับ

มนุษย์เงินเดือนเฮครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีหักค่าใช้จ่าย60%

ผู้จัดการรายวัน 2 สิงหาคม 2549 10:58 น.- มนุษย์เงินเดือนเฮ ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินหักลดหย่อยค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็น 60% แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท จากเดิม 40% แต่ไม่เกิน 6 หมื่นล้าน ผู้มีเงินเดือนต่ำกว่า 19,166 บาทต่อเดือนไม่ต้องเสียภาษี พร้อมออกตัวไม่ใช่นโยบายหาเสียงเป็นเรื่องที่สรรพากรหารือมานานแล้ว

น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วานนี้ (1ส.ค.) อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรและร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน หลังจากนี้ให้ส่งเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่หลังการเลือกตั้งอีกครั้งก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ต่อไป

ทั้งนี้ ตามหลักการของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว กระทรวงการคลังจะให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าลดหย่อนที่กำหนดเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันได้กำหนดให้สามารถหักค่าลดหย่อนได้ 40%ของรายได้ แต่ไม่เกิน 60,000 บาท โดยเพิ่มเป็น 60% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อให้ประชาชนมีรายได้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปและให้ผู้เสียภาษีมีภาระน้อยลง รวมทั้งมีความเท่าเทียมกันในสังคมมากขึ้น แม้จะทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ไปบ้าง เนื่องจากผู้เสียภาษีสามารถหักค่าลดหย่อนเพิ่มขึ้นได้ก็ตาม

ขณะเดียวกันยังมีการปรับปรุงจำนวนเงินสำหรับการขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นกิจการรายย่อยที่ไม่จำเป็นต้องออกใบกำกับภาษีให้มีจำนวนสูงขึ้นจากเดิมไม่เกิน 1,000 บาท เพิ่มเป็นไม่เกิน 5,000 บาท นอกจากนี้ ยังปรับปรุงจำนวนเงินสำหรับการชำระราคาสินค้าและบริการและผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะที่ต้องออกใบรับตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดให้มีจำนวนสูงขึ้นจากเดิมไม่เกิน 1,000 บาท เป็นไม่เกิน 5,000 บาทเช่นกัน

ด้านนายไชยยศ สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการเพิ่มวงเงินในการหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 40% แต่รวมกันต้องไม่เกิน 60,000 บาท เป็น 60% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งจะส่งผลให้ผู้มีเงินได้ 230,000 บาทต่อปี หรือ 19,166 บาทต่อเดือน ไม่ต้องเสียภาษี
จากเดิมมีเงินได้ 190,000 บาทต่อปี หรือ 15,833 ต่อเดือน ไม่ต้องเสียภาษี

ทั้งนี้ การเพิ่มวงเงินดังกล่าวจะทำให้ผู้ที่ต้องเสียภาษีมีรายได้เหลือเก็บออมมากขึ้น โดยผู้ที่ต้องเสียภาษี 10% รายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 4,000 บาทต่อปี ผู้ที่ต้องเสียภาษี 20% ของรายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 8,000 บาทต่อปี ผู้ที่ต้องเสียภาษี 30% ของรายได้ จะมีเงินเหลือ 12,000 บาทต่อปี และผู้ที่ต้องเสียภาษี 37% ของรายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 15,000 บาทต่อปี







 

Create Date : 27 สิงหาคม 2549   
Last Update : 27 สิงหาคม 2549 16:17:32 น.   
Counter : 208 Pageviews.  


ฟันธงต่างชาติเข้าซื้อหุ้นต่อ ดัชนีฯปรับฐานเพื่อทะยาน คาดบาทแกว่ง 37.40-37.70 โดย กระแสหุ้น

ฟันธงตลาดหุ้นหลังปรับฐานทะยานขึ้น เชื่อแรงซื้อต่างชาติไม่หมด ประเมินดัชนีแกว่งตัวในกรอบ 700 -720 จุด ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทคาดอ่อนค่าเล็กน้อย เคลื่อนไหวระดับ 37.40 - 37.70 บาทต่อดอลลาร์ ผลจากการแทรกแซงของแบงก์ชาติ

นางวิริยา ลาภพรหมรัตน ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด หรือ KKS ประเมินแนวโน้มตลาด (21 ส.ค.) ว่า ปัจจัยที่จะส่งผลต่อตลาดน่าจะเป็นเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง และทิศทางค่าเงินบาท หากค่าเงินบาทอ่อนค่าลงน่าจะส่งผลให้ตลาดปรับตัวลงตามด้วย

"มองแนวรับที่ 708-705 จุด และแนวต้านมองที่ 712-715 จุด ส่วนปัจจัยตอนนี้ยังไม่มีอะไรใหม่นอกจากเรื่องของราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงมา ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานถดถอยลงมาด้วย และอีกเรื่องคือค่าเงินบาทที่ตอนนี้ยังแข็งค่าอยู่ โดยคาดว่าถ้าเงินบาทอ่อนตัวลง น่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดทำให้ตลาดปรับตัวลงมาด้วย แต่ประเด็นที่ยังต้องตามคงเป็นเรื่องการเมือง" แนะนำนักลงทุนว่า ถ้าเป็นนักลงทุนที่เล่นเก็งกำไรให้ซื้อขายในกรอบทางเทคนิคที่ให้ไว้ โดยถ้าตลาดดีดตัวขึ้นมาให้ขายทำกำไรระยะสั้นออกมา

นายสิทธิเดช ประเสริฐรุ่งเรือง ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีมิโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ ZMICO กล่าวให้ความเห็นว่า ตลาดน่าจะพักฐานลงมาก่อนเล็กน้อยที่แนวรับ 700-705 จุด และแนวต้านที่ 715 จุด จากการที่ตลาดยังคงกังวลเรื่องของนักลงทุนต่างประเทศที่อาจจะมีการขายออกมา หลังจากที่ผ่านมามีการซื้อสุทธิ และค่าเงินบาทที่เริ่มจะมีแนวโน้มอ่อนตัวลงมา ประกอบกับเหตุการณ์ในประเทศเรื่องการเมืองที่ยังไม่แน่ชัดว่าจะเลื่อนการเลือกตั้งออกไปหรือไม่ แต่ทั้งสัปดาห์คาดว่าจะแกว่งในกรอบ 690-720 จุด

ส่วนเรื่องราคาน้ำมันเชื่อว่า แม้ราคาจะปรับลงมาที่ 70 เหรียญสหรัฐฯ แต่ยังไม่เห็นปัจจัยลบที่จะทำให้ราคาลงมาได้มากกว่านี้ หุ้นกลุ่มพลังงานเองที่ปรับตัวลงมาน่าจะปรับตามราคาน้ำมัน ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นไปใน

คาดต่างชาติเข้าเก็บหุ้นต่อเนื่อง
ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ที่ปรึกษา สำนักวิจัย ธนาคาร ไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มตลาดเงิน ตลาดทุน ว่า คาดว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ 700 - 720 จุด จะยังคงได้รับแรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อสุทธิ

อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นไทยจะยังคงถูกกดดันจากระดับราคาน้ำมันและตลาดหุ้นต่างประเทศที่ยังคงผันผวนค่อนข้างสูง รวมถึงการขึ้นเครื่องหมาย XD ของบริษัทจดทะเบียน โดยคาดว่าดัชนีหุ้นไทยในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 700 - 720 จุด สำหรับมูลค่าการซื้อขายคาดว่าจะอยู่ในระดับปานกลาง ทั้งนี้นักลงทุนบางส่วนรอดูการรายงานตัวเลขดุลการค้าเดือน ก.ค.ของกระทรวงพาณิชย์ ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยคาดว่าดุลการค้าจะยังคงขาดดุลต่อเนื่อง โดยกลยุทธ์การลงทุนทางเทคนิคในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นการซื้อเก็งกำไรระยะสั้น สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจในสัปดาห์นี้ คือกลุ่มหลักทรัพย์ (KEST,PHATRA,ZMICO)และกลุ่มธนาคาร (BBL,KBANK,SCB)

ประเมินบาทแกว่งระดับ 37.40 - 37.70
ฝ่ายวิจัยประเมินทิศทางค่าเงินบาท มองว่าจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อนหรืออ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวที่ระดับ 37.40 - 37.70 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากเงินบาทถูกกดดันจากการเข้าแทรกแซงของ ธปท. เพื่อชะลอการแข็งค่าขึ้นของค่าเงินบาท กอปรกับแรงซื้อคืนดอลลาร์ของนักลงทุนในตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตามการคาดการณ์ของตลาดว่า Fed อาจตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป หลังการเปิดเผยตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่ปรับตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ ประกอบกับแรงซื้อเงินบาทของผู้นำเข้า จะเป็นปัจจัยหนุนให้ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นได้

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯมีแนวโน้มอ่อนลง จะส่งผลให้เงินสกุลต่างๆรวมทั้งเงินบาทไทยมีทิศทางแข็งค่าขึ้นจากการที่ดัชนีเศรษฐกิจของสหรัฐฯชี้แนวโน้มว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะชะลอตัวลงในครึ่งปีหลังและอัตราเงินเฟ้อก็มีแนวโน้มลดลงด้วย ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯจะไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกในครึ่งปีหลัง ประกอบกับการที่สหรัฐฯยังขาดดุลการค้าสูงอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะกับจีน ทำให้ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนรวมทั้งการไหลเข้าออกของเงินทุนระยะสั้นเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจอีกครั้ง โดยเฉพาะประเทศที่เป็นตลาดเกิดใหม่เช่นประเทศไทยที่ตลาดการเงินมีขนาดเล็ก การเปลี่ยนแปลงเข้าออกของเงินทุนเพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้ค่าเงินผันผวนได้มาก

ทั้งนี้คาดการณ์ว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯจะอ่อนลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักต่างๆ เช่น เยน ยูโร และหยวน ซึ่งผลของการที่เงินสกุลต่างๆแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ฯย่อมจะทำให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นตามไปด้วยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯโดยเฉพาะในระยะสั้นถึงปานกลาง




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2549   
Last Update : 21 สิงหาคม 2549 20:04:45 น.   
Counter : 206 Pageviews.  



หมูสีฟ้า
 
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add หมูสีฟ้า's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com