มนุษย์เงินเดือนเฮครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีหักค่าใช้จ่าย60%
ผู้จัดการรายวัน 2 สิงหาคม 2549 10:58 น. - มนุษย์เงินเดือนเฮ ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินหักลดหย่อยค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็น 60% แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท จากเดิม 40% แต่ไม่เกิน 6 หมื่น ผู้มีเงินเดือนต่ำกว่า 19,166 บาทต่อเดือนไม่ต้องเสียภาษี
พอดีข่าวมันยาวกลัวจะไม่อ่านกัน ก็เลยเอาสรุปข้อมูลมาให้อ่านกัน เป็นการคำนวณภาษีเงินได้เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ว่ามีวิธีคำนวนการอย่างไรและมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราได้ประโยชน์อะไรบ้าง
การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เดิม ( 15,833 / เดือน) ใหม่ ( 19,166 / เดือน)
(1) เงินได้พึงประเมินทุกประเภทรวมกันตลอดปีภาษี 190,000.00 230,000.00
(2) หัก ค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนด 60,000.00 100,000.00 (ร้อยละ 40 ไม่เกิน 60,000.-) (ร้อยละ 60 ไม่เกิน 100,000.-)
(3 ) = (1)-(2) เหลือเงินได้หลังจากหักค่าใช้จ่าย
130,00000 130,000.00
(4) หัก ค่าลดหย่อนต่าง ๆ (ลดหย่อนผู้มีเงินได้ 30,000.-) 30,000.00 30,000.00
(5 )= (3)-(4) เหลือเงินได้หลังจากหักค่าลดหย่อนต่าง ๆ 100,000.00 100,000.00
(6) หัก ค่าลดหย่อนเงินบริจาค ไม่เกินจำนวนที่กฎหมายกำหนด 0.00 0.00
(7) = (5-6) เหลือเงินได้สุทธิ 100,000.00 100,000.00
นำเงินได้สุทธิตาม (7) ไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
จำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
0.00 0.00
ผู้มีเงินได้เท่ากับหรือน้อยกว่า 19,166 ต่อเดือนหรือ 230,000 ต่อปี หักค่าใช้จ่ายและหักลดหย่อนเพียง 2 รายการนี้เท่านั้น ก็ไม่ต้องเสียภาษีแล้ว )
สรุปผลประโยชน์ที่ได้รับ
ผู้ที่ต้องเสียภาษี 5% รายได้ ไม่ต้องเสียภาษี (เหมือนเดิม) ผู้ที่ต้องเสียภาษี 10% รายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 4,000 บาทต่อปี ผู้ที่ต้องเสียภาษี 20% ของรายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 8,000 บาทต่อปี ผู้ที่ต้องเสียภาษี 30% ของรายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 12,000 บาทต่อปี และผู้ที่ต้องเสียภาษี 37% ของรายได้จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 15,000 บาทต่อปี
อันนี้เป็นเนื้อหาข่าวจากหนังสือพิมพ์ผู้จัดการครับ
มนุษย์เงินเดือนเฮครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีหักค่าใช้จ่าย60%
ผู้จัดการรายวัน 2 สิงหาคม 2549 10:58 น.- มนุษย์เงินเดือนเฮ ครม.อนุมัติเพิ่มวงเงินหักลดหย่อยค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็น 60% แต่ไม่เกิน 1 แสนบาท จากเดิม 40% แต่ไม่เกิน 6 หมื่นล้าน ผู้มีเงินเดือนต่ำกว่า 19,166 บาทต่อเดือนไม่ต้องเสียภาษี พร้อมออกตัวไม่ใช่นโยบายหาเสียงเป็นเรื่องที่สรรพากรหารือมานานแล้ว
น.ส.ศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วานนี้ (1ส.ค.) อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรและร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการกำหนดค่าใช้จ่ายที่ยอมให้หักจากเงินได้พึงประเมิน หลังจากนี้ให้ส่งเรื่องต่อสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และนำเสนอคณะรัฐมนตรีชุดใหม่หลังการเลือกตั้งอีกครั้งก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรชุดใหม่ต่อไป
ทั้งนี้ ตามหลักการของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว กระทรวงการคลังจะให้ผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สามารถนำค่าลดหย่อนที่กำหนดเป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งปัจจุบันได้กำหนดให้สามารถหักค่าลดหย่อนได้ 40%ของรายได้ แต่ไม่เกิน 60,000 บาท โดยเพิ่มเป็น 60% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อให้ประชาชนมีรายได้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปและให้ผู้เสียภาษีมีภาระน้อยลง รวมทั้งมีความเท่าเทียมกันในสังคมมากขึ้น แม้จะทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ไปบ้าง เนื่องจากผู้เสียภาษีสามารถหักค่าลดหย่อนเพิ่มขึ้นได้ก็ตาม
ขณะเดียวกันยังมีการปรับปรุงจำนวนเงินสำหรับการขายสินค้าและบริการของผู้ประกอบการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเป็นกิจการรายย่อยที่ไม่จำเป็นต้องออกใบกำกับภาษีให้มีจำนวนสูงขึ้นจากเดิมไม่เกิน 1,000 บาท เพิ่มเป็นไม่เกิน 5,000 บาท นอกจากนี้ ยังปรับปรุงจำนวนเงินสำหรับการชำระราคาสินค้าและบริการและผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะที่ต้องออกใบรับตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนดให้มีจำนวนสูงขึ้นจากเดิมไม่เกิน 1,000 บาท เป็นไม่เกิน 5,000 บาทเช่นกัน
ด้านนายไชยยศ สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการเพิ่มวงเงินในการหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จาก 40% แต่รวมกันต้องไม่เกิน 60,000 บาท เป็น 60% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งจะส่งผลให้ผู้มีเงินได้ 230,000 บาทต่อปี หรือ 19,166 บาทต่อเดือน ไม่ต้องเสียภาษี จากเดิมมีเงินได้ 190,000 บาทต่อปี หรือ 15,833 ต่อเดือน ไม่ต้องเสียภาษี
ทั้งนี้ การเพิ่มวงเงินดังกล่าวจะทำให้ผู้ที่ต้องเสียภาษีมีรายได้เหลือเก็บออมมากขึ้น โดยผู้ที่ต้องเสียภาษี 10% รายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 4,000 บาทต่อปี ผู้ที่ต้องเสียภาษี 20% ของรายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 8,000 บาทต่อปี ผู้ที่ต้องเสียภาษี 30% ของรายได้ จะมีเงินเหลือ 12,000 บาทต่อปี และผู้ที่ต้องเสียภาษี 37% ของรายได้ จะมีเงินเหลือจากการเสียภาษี 15,000 บาทต่อปี
Create Date : 27 สิงหาคม 2549 |
| |
|
Last Update : 27 สิงหาคม 2549 16:17:32 น. |
| |
Counter : 208 Pageviews. |
| |
|
|