คนเราเกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ แล้วทำยังไง?? ให้รู้..ในสิ่งที่ควรรู้...
 
 

วอชิงตัน ดีซี (4) ตอนจบ

เรามาสำรวจเมืองวอชิงตัน ดีซี กันต่อในตอนสุดท้ายกันครับ

เรามาถึงอีกที่นึงที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ National Air and Space Museum ครับ ใครอยากรู้ว่าเครื่องบินบินได้ยังไงมาดูได้ที่นี่ครับ


ด้านข้างตึกมีแผงสามเหลี่ยมทำหยั่งกับพิพิธภัณฑ์ลูฟร์แน่ะ


มียานอวกาศ และเทคโนโลยีต่างๆ ให้ชมมากมาย นอกจากนี้ก็มีเครื่องบินลำใหญ่ๆ โชว์ด้วยนะ


Museum นี้ควรให้เวลาอย่างน้อยครึ่งวัน เพราะข้างในมีอะไรให้ชมเยอะมาก แถมเข้าฟรีอีกต่างหาก


พวกยานอวกาศต่างๆ จะมีอธิบายครบหมดใน Museum นี้


นี่ก็ยานอวกาศอีกรุ่น


ยานที่ลงจอดบนพื้นของดาวดวงอื่น


จำลองการทำงานของมนุษย์อวกาศ


ชุดมนุษย์อวกาศก็มีให้ชมมากมายหลายรุ่นของนาซ่า และของรัฐเซีย


ภาพเด็ดที่เป็นที่รู้จักจากการเหยียบดวงจันทร์เป็นครั้งแรกของมนุษยชาติ


เดินออกมาเราก็มาเจอน้ำพุหน้าตึก Museum อีกอัน


ซึ่งก็คือ National Museum of the American Indian


เราชมแต่ภายนอกตัวตึก ไม่ได้เข้าไปข้างใน


เดินเลยต่อไปเพื่อไปยัง U.S. Capitol


มายืนตรงกลางมีสระน้ำเรียกว่า Capitol Reflecting Pool


เราเดินข้ามสระน้ำเข้ามาใกล้อีกหน่อย วันนี้ไม่มีเวลาเดินเข้าไปชมภายใน จึงได้แต่ถ่ายรูปดูอยู่ข้างนอก


บริเวณตรงนี้เรียกว่า Ulysses S. Grant Memorial


ลองดูมุมนี้ เห็นโดมของ Capitol เป็นฉากหลัง


เก็บภาพอนุสาวรีย์ของที่แห่งนี้มาให้ชมกัน


มีสองฝั่งระหว่างกลางรูปปั้นบนหลังม้า


ลองดูใกล้ๆ เป็นรูปปั้นแสดงเกี่ยวกับการต่อสู้อะไรซักอย่าง


คราวนี้เราออกนอกเมืองมาชมจุดสุดท้ายในทริปนี้ก็คือ สวนสัตว์ ไปทางนี้นะ มีพี่ตำรวจมาคอยดูแลความปลอดภัยซะด้วย


ต้องนั่ง Metro ออกมานอกเมืองหน่อย ลงที่สถานีนี้นะ แล้วเดินต่ออีกนิดนึง


มาถึงแล้ว จุดขายของสวนสัตว์นี้คือหมีแพนด้า แหมทำยังกับเชียงใหม่!!


สวนสัตว์ก็เข้าฟรีนะ สบายใจจริงๆ อันนี้เป็นแผนที่ของสวนสัตว์ใหญ่โตดีเหมือนกันนะ


มีสัตว์ให้ดูเยอะเหมือนกัน แต่เราจะโชว์แต่ที่เราสนใจและเป็นจุดขาย เริ่มจากหมีแพนด้า


หมีแพนด้าที่นี่เชื่องนะ ให้หนูน้อยขึ้นไปขี่ได้ด้วย (ไม่ใช่แล้วม้าง!!)


ตัวจริงเสียงจริง หลบอยู่นี่ นั่งกินต้นไผ่สบายใจเฉิบ


แอบไปกินกันคนล่ะมุมเลย เค้าบอกว่าวันนึงหมีแพนด้ากินแต่ต้นไผ่ กินเยอะมากวันละเป็นสิบชั่วโมง เหตุที่กินเยอะก็เพราะว่า ต้นไผ่ไม่ค่อยมีประโยชน์ ไม่มีพลังงานเลยต้องกินเยอะ เมื่อต้องกินเยอะ ก็ใช้เวลาเยอะ ก็เลยกินกับนอน!!??


มีเดินไปมาหาสู่กันด้วย ไม่รู้ว่าเค้าให้ชื่อว่าอะไรกัน


ดูท่ากินสิ นั่งหยั่งกะราชา กินเฉยใครจะถ่ายรูปถ่ายไป


นั่งกินเป็นนายแบบให้ซะอย่างดี


โชว์วิธีการกินให้ดูซะด้วย


มาเจอกะจ้าวป่า สิงโตเข้าให้แล้ว


ยืนเก็กท่าให้ถ่ายรูปด้วยนะ ท่าทางเอาเรื่องน่าดู


ส่วนตรงนี้มีเสือลายพาดกลอน


หรือจะเรียกว่าเสือโคร่งก็คงจะได้


กำลังนั่งพักผ่อนอยู่เลย


ส่วนนี่ก็สิงโตเหมือนกัน แต่เป็นสิงโตทะเล


นอนอาบแดดกันสบายใจเลย มีนอนหนุนกันด้วยวุ้ย!


ตัวนี้ก็แมวน้ำสีเทา หรือ Grey Seal นั่นเอง


ไม่อาบแดด แต่กำลังว่ายน้ำเล่น


จบแล้วครับทริปชิคาโก้และวอชิงตัน ดีซี แล้วเราก็เดินทางกลับสวีเดนด้วยความปลอดภัย ขอบคุณที่ติดตามชมคร้าบบ..




 

Create Date : 28 เมษายน 2550   
Last Update : 29 เมษายน 2550 2:22:36 น.   
Counter : 1596 Pageviews.  


วอชิงตัน ดีซี (3)

มาชมเมืองวอชิงตันกันต่อเลยครับ คราวนี้เรามาเดินไปทางทิศตะวันออกของเสาแท่งดินสอกัน ที่เรียกว่าสาย The Mall

ข้อดีของวอชินตัน ดีซี ก็คือ บรรดา Museum ต่างๆ เข้าฟรีหมด อันนี้ก็คือ National Museum of American History เสียดายที่ปิดปรับปรุงอยู่เลยเข้าไม่ได้


ก็คงต้องชมแต่ภายนอกไป


ต้องอันนี้ เดินถัดมาก็จะเจอ National Museum of Natural History ยิ่งใหญ่อลังการมากครับ มีพวกสัตว์ ไดโนเสาร์ เพชรพลอย และอีืนๆ อีกมากมาย ควรให้เวลากับที่นี่ครึ่งวัน ถึง หนึ่งวันเป็นอย่างน้อย เป็น Museum ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง คนเยอะมากแต่มีอะไรให้ดูเยอะมากเช่นกัน


เรามาฝั่งตรงข้ามกันจะเป็น Smithsonian Castle เป็นศูนย์บริการนักท่องเที่ยว


เข้ามาถ่ายใกล้ๆ หน่อย ปราสาทสวยงามดี


ขออีกสักมุมนะ มุมสูง ดูอลังการดี


มาดูด้านข้างกันบ้าง


เดินถัดมาจะเจอ Arts and Industries Building


ลองดูในมุมยาวๆ ดูบ้างสิ


อันนี้ชมแต่ข้างนอกไม่ได้เข้าไปข้างใน


ถัดมาก็จะเป็น Hirshhorn Museum ที่ๆ ผมว่างานศิลปะข้างนอกสวยกว่างานบนตึก ลองไปดูกัน


ข้างหน้าตึกก็จะมีรูปปั้นเงินแวววาวตรงนี้ก่อน


ลองดูมุมด้านข้างๆ จะเห็นบันไดทางเดินลงไปเป็นสวนแสดงงานศิลปะ


บริเวณสวน มีสระน้ำตรงกลางและล้อมรอบไปด้วยงานศิลปะ


ลูกโลกและดอกไม้


งานนี้คงไม่ใช่อุกกาบาตพุ่งชนซะจนทะลุไปถึงแกนโลกนะ


Mr. The Invisible Man ไม่รู้หายไปไหน


งานนี้ ดูไม่ออก งง งง!!


รูปคนยืนถือไม้อะไรไม่รู้


ส่วนใหญ่จะเป็นงานแกะสลักรูปคน


นี่ก็ทรงแปลกๆ ดูแปลกตาดีเหมือนกัน


หยั่งกะนักกล้ามหญิง


นอนเอกเขนกเลยเชียว


นั่งคอยใครอยู่เหรอ?


แก็งค์นี้มาเป็นทีม


อันนี้ดูน่ากลัวเหมือนกัน กลางคืนคงไม่มีชีวิตนะ


ท่านกำลังต่อสู้ หรือกำลังห้ามทัพ?


แต่คู่นี้คงเป็นคู่ที่น่าอิจฉาที่สุดในสวน ดูมีความสุขดี


อืม คนนี้กล้ามไม่เยอะเหมือนคนเมื่อกี้นี้


ส่วนท่านนี้ก็ทรงผอมเพรียวเชียว


The Tree of Wish ใครอยากอธิษฐานอะไรก็ไปเขียนไว้ได้เลย


เอาซะหน่อย มาแล้วก็อธิษฐานซะหน่อย เขียนว่าอะไรเหรอ? (ไม่บอก ฮา)


เราเดินกลับเข้ามาที่ฝั่งตัวตึก Museum มีลานน้ำพุกลางตึก เพราะตึกเป็นวงกลม ตรงกลางจะเปิดโล่ง


แต่ก่อนจะเข้าตึก แวะดูงานศิลปะรอบๆ ตึกก่อน


ตรายางแสตมป์นั่นเอง อันเบ้อเริ่มเทิ่มเลย


ตุ๊กตาล้มลุกกำลังคุยกันอยู่ในสวน


สามคนนี้กำลังปรึกษากัน กลางคืนจะไปเที่ยวไหนดี!!??


นี่ไง สภาพภายในตึกที่ดูแล้ว สวยไม่เท่าข้างนอก


จะมีงานชิ้นเล็กๆ ให้เราดูกัน เรียงรายเต็มไปหมด


พร้อมด้วยรูปภาพโชว์อีก ก็เข้าฟรีนิ เข้าไปชมซะให้หมด เดี๋ยวไปต่อกันภาคสี่ ตอนจบครับ




 

Create Date : 28 เมษายน 2550   
Last Update : 29 เมษายน 2550 1:40:15 น.   
Counter : 832 Pageviews.  


วอชิงตัน ดีซี (2)

หลังจากชมดอกซากุระกันแล้ว ก็มาเดินเล่นชมวิวทิวทัศน์ของวอชิงตัน ดีซี กัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของอเมริกา

นั่งรถ Metro มาโผล่บริเวณตึกนี้ครับ ลองเดินดูรอบๆ กันหน่อยสิ


มีแท่งอะไรด้วย คล้ายๆ ใบพัดเลย


รูปทรงตึกก็สวยดีเหมือนกันนะ


ดอกกุหลาบเงินขนาดใหญ่


ข้างๆ กันก็เป็นดอกชบาเงิน


รูปปั้นบริเวณหน้า Freedom Plaza เรียกว่า Pulaski


นี่ครับ ลานกว้าง Freedom Plaza


เราจะเดินตามทางนี้ไป สำรวจเมืองไปเรื่อยๆ


สภาพตึกระหว่างทางเดิน


มีสัญลักษณ์รูปปั้นอะไรก็ถ่ายหมด


ตรงนี้เรียกว่า Sherman


Sherman ในมุมใกล้


ตึกหน่วยงานราชการข้างๆ The White House


นี่ครับ The White House ทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐ ระบบรักษาความปลอดภัยเข้มข้นทีเดียว ให้ถ่ายแต่ระยะไกล


เดินมาเรื่อยๆ ก็จะพบอนุสาวรีย์อะไรสักอย่าง แต่สะดุดตาตรงสวนทิวลิป


จัดตกแต่งเป็นรูปสี่เหลี่ยมซะด้วย ดอกทิวลิปสีชมพู


American National Red Cross


Organization of American States


รูปปั้นนี้ที่ฐานอ่านไม่ออก ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ!!


เดินมาถึง World War II Memorial ตรงนี้เป็นฝั่งมหาสมุทร Atlantic


ฝั่งโน้นเป็นมหาสมุทร Pacific


ล้อมรอบไปด้วยเสาและพวงมาลาประดับของแต่ละรัฐในอเมริกา


ที่เห็นไกลๆ นั่นคือ Lincoln Memorial เดี๋ยวเราจะเดินไปให้ถึงในวันนี้


ฝั่งตรงข้ามกันก็ยังเป็นเสาแท่งดินสออยู่ระหว่างกลาง ทิศเหนือของเสาคือ The White House ที่เราเพิ่งเดินผ่านมา ตอนนี้เราอยู่ฝั่งตะวันตก ไปทาง Lincoln Memorial อีกฝั่งทางตะวันออกของเสาแท่งดินสอจะเป็น U.S. Capitol ซึ่งระหว่างทางเดินไป U.S. Capitol นั้นก็คือ The Mall เรียงรายไปด้วย Museum ต่างๆ มากมาย ส่วนทางตอนใต้ของเสาก็จะเป็นบริเวณชมดอกซากุระและ Thomas Jefferson Memorial ที่เราเดินชมกันในตอนแรก


กลับมาดูบรรยากาศใน World War II Memorial กันต่อครับ


มีบ่อน้ำและดาวเรียงรายเต็มไปหมด เข้าใจว่าแทนทหารผู้เสียชีวิตระหว่างสงคราม


ใครอยู่รัฐไหนมาเที่ยวก็หาเสารัฐของตัวเองให้เจอนะ เรามาพัก Virginia ก็ต้องหาชื่อรัฐเค้าให้เจอ


หลังจากนั้น เราก็ออกเดินทางไปทางตะวันตก เพื่อไปชม Lincoln Memorial กัน


หนทางอีกยาวไกล สระน้ำนี้เรียกว่า The Reflecting Pool นึกถึงหนังเรื่อง Forrest Gum


หลังจากเดินมาเรื่อยๆ เราก็มาถึงหน้า Lincoln Memorial กันสักที


หันกลับไปมองทางเสาแท่งดินสอ ในที่สุดเราก็มาถึงตรงจุดที่ Forrest Gum เจอกับ Jenny หลังจากไปสงครามเวียดนามกลับมา ตรงนี้แหล่ะ กอดกันกลางสระเลย


อืม นักท่องเที่ยวมากันเยอะแยะมากมายจริงๆ


เราเดินขึ้นบันได้กัน เพื่อจะเข้าไปชมบริเวณภายในกัน


รูปปั้นอนุสาวรีย์ประธานาธิบดี Lincoln ที่เรามักจะเห็นในหนังฮอลีวู้ด


เค้าว่ากันว่า ท่านเป็นประธานาธิบดีที่ยิ่งใหญ่คนนึงในประวัติศาสตร์อเมริกาเลยนะ


มีคำพูดของท่านสลักลงเป็นแผ่นหินขนาดใหญ่ด้วย


หลังจากนั้นเราก็เดินออกวนไปทางด้านขวา ไม่ให้ทับเส้นทางเดิมที่เราเดินมา


เราก็จะมาพบอนุสรณ์สถานสงครามเกาหลี


มีรูปปั้นทหารยืนเรียงรายเต็มไปหมด


Freedom is not FREE ถูกต้องนะคร้าบ!! ดังนั้นควรยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในสงครามด้วย


ประเทศไทยเราก็เป็นพันธมิตรในการส่งทหารเข้าร่วมรบเช่นกันในสงครามนี้


เดินมาเรื่อยๆ เราก็จะมาเจอ D.C. War Memorial ทริปนี้ยังไม่จบครับ ไปต่อกันภาคสามเลยครับ




 

Create Date : 28 เมษายน 2550   
Last Update : 29 เมษายน 2550 1:04:20 น.   
Counter : 1440 Pageviews.  


วอชิงตัน ดีซี (1) ดอกซากุระบานที่ ดีซี

เป็นทริปต่อเนื่องมาจากชิคาโก้ครับ เรามาเดินทางสำำรวจเมืองหลวงของอเมริกากันต่อเลยครับ เิริ่มจากต้นฤดู Spring ที่คนเค้าจะมาชมดอกซากุระบานกันที่วอชิงตัน ดีซี ปีนึงจะมีแค่หนเดียวช่วงสั้นๆ เรียกกันว่า Cherry Festival คนจะแห่มาชมกันมาก ทั้งคนในประเทศเองและนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ตามไปชมกันเลยครับ

จากชิคาโก้เราก็จับเครื่องบิน บินตรงมายัง Ronald Reagan Washington National Airport สนามบินในประเทศของเมืองวอชิงตัน ดีซี


จะไปทางไหนดีล่ะนี่ นั่งรถไฟ Metro สำหรับเดินทางในเมืองได้มีตั๋ว One day นั่งได้ตลอดทั้งวัน


จุด Stop แรกของเรา ท่ามกลางฟ้าใสยังกะน้ำทะเล Washington Monument ครับ เสาแท่งดินสอ


มีธงชาติสหรัฐอยู่รอบๆ ที่ฐานด้วยทำเป็นวงกลม


เป็นลานกว้างๆ สำหรับคนมาเที่ยวเดินเล่นพักผ่อน


เข้าไปถ่ายใกล้ๆ เสาแท่งดินสอขนาดใหญ่มากเมื่อเทีียบกับคนจริงๆ สามารถขึ้นไปชมวิวบนยอดได้นะ แต่คิวยาวมาก


เสาแท่งดินสอกับดวงตะวัน


อ่ะ อ่ะ ยังไม่ใช่ดอกซากุระ ดอกอะไรไม่รู้ แต่เห็นมีอยู่ทั่วไป ดอกสวยดีด้วย


ดูกันใกล้ๆ ดอกไม้สวยจริงๆ นะ


เห็นกันชัดๆ สวยงามมาก


นี่ ต้นซากุระต้องเป็นแบบนี้ นี่ของจริงดอกซากุระกำลังบาน


มันต้องบานเต็มที่เป็นช่อแบบนี้ ถึงจะสวย สวยจริงๆ เลย


มุมเดียวกัน ลองซูมไปข้างหลังมั่งสิ


ลองดูดอกซากุระ และมีฉากหลังเป็นเสาแท่งดินสอกัน


ดอกซากุระบานเต็มที่ ออกดอกเต็มต้นเลย


พยายามเก็บหลายๆ มุม


วันนี้อากาศดีมาก ฟ้าแจ่มใส


ดอกซากุระกับเสาแท่งดินสออีกมุม


ซูมเข้าไปหน่อย ลองดูสิดอกซากุระใกล้ๆ หน้าตาเป็นยังไง (ยังไม่ค่อยชัด)


รูปนี้ล่ะ ชัดเจนหน้าตาเป็นแบบนี้เอง


ต้องดูที่มันออกดอกพร้อมกันเยอะๆ ถึงจะสวย


ทั้งต้นมีแต่ดอก ไม่มีใบ


แหม โรแมนติกจังวุ้ย! อิจฉา อิจฉา (ตาเริ่มร้อนๆ)


ไปเดินดูดอกซากุระของเราต่อดีกว่า


ชมบรรยากาศกันไปเรื่อยๆ ล่ะกันนะครับ


ดูหลายๆ มุมหลายๆ ฉากของต้นซากุระ


ดอกสีขาวบริสุทธิ์ พันธุ์นี้จะเยอะที่สุดเท่าที่เห็นในวอชิงตัน ดีซี


ดูกันใกล้ๆ กลีบดอกเป็นยังไง


ต้นนี้สีชมพูเข้มกว่าต้นอื่นๆ เลยทำให้ดูเด่นขึ้นมาเลย


ถ่ายภาพตัดกับท้องฟ้าสดใส


ดอกสีชมพูเข้ม แต่ไม่ค่อยชัดแหะ


มาเดินชมต้นซากุระกันต่อ มีให้ชมมากมายจริงๆ


เดินมาเรื่อยๆ ฉากหลังเริ่มเห็น Thomas Jefferson Memorial แล้ว


จะเดินไปถึงไหมเนี่ย มีทะเลสาปกั้นอยู่ด้วย ไกลเหมือนกันนะ


มุมนี้สวย องค์ประกอบลงตัว คงเดินไปไม่ถึงละล่ะ


ซูมข้ามทะเลสาป ไปชมล่ะกัน เดินจนเหนื่อย


ดอกซากุระบานเต็มที่จะมีให้ดูอาทิตย์เดียวในหนึ่งปีนะครับ


อยากเห็นมันบานสวยงามอย่างนี้ ต้องมาต้นเดือนเมษายนที่วอชิงตัน ดีซี


จะเห็นมันบานเต็มที่เต็มต้นแบบนี้


ลมแรงพัดกลีบดอกร่วงหมดเลย ปีนี้ดอกซากุระบานสั้นมาก เพราะวันรุ่งขึ้นจากที่เราได้เดินสำรวจถ่ายรูปมาจากข้างบนนี้ วันรุ่งขึ้นฝนตก ดอกซากุระเลยร่วงหายไปหมดเลย


ส่งท้ายตอนนี้ด้วยฉากพระอาทิตย์สาดแสงแรงจ้ากลางทะเลสาป ที่ล้อมรอบไปด้วยต้นซากุระ




 

Create Date : 28 เมษายน 2550   
Last Update : 28 เมษายน 2550 17:04:45 น.   
Counter : 2201 Pageviews.  


ชิคาโก้ Chicago (2) ตอนจบ

ต่อภาคสองครับ เราก็มาเดินชมเมืองชมวิวกันต่อครับ ด้วยเวลาที่จำกัดที่เรามี ก็คงต้องเก็บเฉพาะจุดสำคัญๆ ที่อยู่บนเส้นทางเดินก็แล้วกันนะครับ

มาถึงแล้วครับ ตึก Sear Tower เป็นหนึ่งในบรรดาตึกที่สูงที่สุดในโลก


เดินมาจนถึงจนได้ เค้าว่าสูงแพ้ตึกที่มาเลเซียกับที่ไต้หวันนะ (จริงอ่ะเปล่า ไม่ยืนยันนะ)


จุดชมวิวข้างบนเรียกว่า Skydeck มาแล้วเอาซะหน่อย ขึ้นไปดูหน่อย


ขึ้นลิฟต์ด้วยเวลาไม่ถึง 5 นาที ลิฟต์นิ่งมาก ขึ้นทีละ 10 ชั้นมาโผล่ที่ชั้น 103 เจ๋งมาก มีกล้องให้ดูวิวด้วย (แต่ต้องหยอดตังค์ อีกแล้ว)


วันนี้อากาศไม่เคลียร์เท่าที่ควร เลยได้เห็นแต่วิวใกล้ๆ


เค้าว่ากันว่า ถ้าวันที่อากาศเคลียร์มากๆ มองเห็นได้ไกลถึงรัฐอื่นเลยนะ


แค่นี้ก็หรูแล้วเรา ไปยืนชมวิวอยู่บนยอดตึกที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในตึกที่สูงที่สุดในโลก


อืม ตึกนี้วงกลมผ่าครึ่ง แบ่งกันครึ่งบนครึ่งล่าง สวยแปลกดีเหมือนกัน


บริเวณยอดตึกที่ชมวิว ด้านนึงเป็นกระจกชมวิวรอบๆ อีกด้านก็เป็นเรื่องราวประวัติต่างๆ ของเมือง


เดินได้รอบดูได้ครบทุกทิศเหนือใต้ออกตก พร้อมเรื่องราวต่างๆ ของชิคาโก้


ชิคาโก้ 101 มีเรื่องราวอะไร? (พอดีไม่ได้อ่าน)


ปีนี้แหละ ไฟไหม้ใหญ่ทั้งเมืองจนเหลือแค่ตึก Water Tower อย่างเดียวไง


ชมวิวจากด้านบนเสร็จ เรามาเดินสำรวจเมืองกันต่อ ตู้หนังสือพิมพ์เรียงรายเต็มท้องถนนไปหมด


ร้านหนังสือ คู่แข่งคนสำคัญของ Amazon.com


แล้วเราก็เดินต่อมาจนถึง Art Institute of Chicago


คนรอเข้าคิวกันยาวล้นออกมาข้างนอก เราไม่มีเวลาอยู่รอ ก็เลยไม่ได้เข้าไปข้างใน


อัตราค่าเข้าชม บัตรนักเรียนลดได้นะ ใครจะไปจะมาอย่าลืมพกบัตรนักเรียนมาด้วย


ชมแต่ภายนอกล่ะกัน สระน้ำข้างๆ ตัวตึก


เดินมาก เราก็พักเหนื่อยกันหน่อยด้วยโกโก้ร้อนอันลือชื่อของ Ghirardelli ซึ่งมาจากซานฟรานซิสโก ขอบอกว่าอร่อยมากๆๆๆ เข้มข้น


โกโก้ร้านนี้ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง ขายไอศกรีมด้วย และทุกอย่างที่ทำจากโกโก้


ทำเลอยู่ข้างๆ ร้านหนังสือ Borders บนถนน Michigan Ave. ร้านหนังสือ Borders นี้เป็นร้านหนังสือที่มีที่นั่งภายในให้นั่งอ่านหนังสือได้


ไปกันต่อครับ เราก็มาถึง Millennium Park


ชมบรรยากาศรอบๆ กันครับ


เป็นลานสนามหญ้ากว้างๆ เรียกว่า Great Lawn และมีโครงเสาเป็นโดมรอบๆ


บริเวณนี้เค้าจะเรียกว่า Jay Pritzker Pavilion - Frank Gehry Architect ครับ


บริเวณสนามหญ้านี้ก็เรียกว่า Great Lawn อยู่หน้า Pavilion และตึกสูงของเมืองเป็นฉากหลัง


เรามาถึงจุดที่ทุกคนต้องมาเมื่อมาที่ Millennium Park บริเวณ SBC Plaza และไอ้เจ้าสิ่งนี้ก็เรียกว่า Cloud Gate


เข้ามาดูกันใกล้ๆ เป็นสถาปัตยกรรมอีกอันที่ดูสวยงามด้วยเงาสะท้อน


จะเห็นได้ว่าอยู่ไม่ไกลจาก Great Lawn และ Pavilion ซึ่งอยู่ฉากหลัง


เอ้า โชว์รูปตัวเองซะหน่อย ถ่ายเองกะมือเลย เห็นไหมน่ะ


เดินมาถ่ายอีกมุม จะเห็นวิวตึกที่สะท้อนออกมาจากตัว Cloud Gate


อ้าว ดันกันใหญ่ แบกกันใหญ่ มันคงไม่ล้มมาหรอก


บริเวณฐานตรงกลาง Gate หยั่งกะหลุมดำแน่ะ มันจะดูดกลืนทุกสิ่งเข้าไปไหมเนี่ย


เข้าไปดูกันใกล้ๆ การสะท้อนของภาพและแสงทำให้เราได้มุมมองแบบนี้


เข้าไปยืนตรงใจกลาง แหงนหน้าขึ้นไป แล้วเก็บภาพมาได้แบบนี้ครับ


เดินเลยจาก Cloud Gate มาหน่อยก็จะมาเจอบริเวณที่โชว์ภาพกราฟฟิคหน้าคน


หน้าจะเปลี่ยนและเคลือนไหวได้ อาจจะยิ้ม ขยับปาก กรอกลูกตา เหมือนมีใครมายืนมองคุณอยู่


เปลี่ยนเป็นหน้าเด็กๆ หน่อย ตรงผิวกำแพงจะเป็นกระจก แต่ข้างในจะมีไฟวงจรต่างๆ ประกอบออกมาเป็นภาพหน้าขนาดใหญ่ อย่างที่เราเห็นกัน


หมดเวลาที่ชิคาโก้กันแล้ว ระหว่างเดินทางกลับก็เจอกับเหตุการณ์ไฟไหม้กลางเมืองชิคาโก้ รถดับเพลิงวิ่งกันให้วุ่น เราเลยต้องลาจากชิคาโก้ เราจะไปต่อกันที่วอชิงตันดีซีครับ ไปชมดอกซากุระบานกันที่วอชิงตันดีซี




 

Create Date : 28 เมษายน 2550   
Last Update : 28 เมษายน 2550 19:58:37 น.   
Counter : 1128 Pageviews.  


1  2  3  4  5  

Bluefriday
 
Location :
Umea Sweden

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ปี 2522 ผมยังเด็กอยู่เลย ตอนนี้อายุเท่าไหร่แล้วหว่า!!
[Add Bluefriday's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com