ฝ่าดงแขก

His Holiness Dalai Lama, 14th Tenzin Gyatso of Tibet.

หายไปนานครับ เพราะว่ากลับบ้านที่เมืองไทยไปหนึ่งเดือนเต็มๆ ก็แฮ๊ปปี้ดีมากครับ กลับมาก็ฝ่าฟันกับการสอบ เป็นการสอบครั้งแรกก็ตื่นเต้นดี เขียนจนปากกาหมดเป็นด้ามๆเลยครับ
ช่วงนี้ชีวิตมีแต่เรื่องครับ ไม่เจ็บตัวเล็กๆน้อยๆ ก็เสียตังค์แหละครับ ท่าทางจะชงแรงครับปีนี่ นี่ขาดไปแก้ชงมาแล้วนะนี่...

แต่เรื่องดีๆก็มีเหมือนกันนะครับ เมื่อวานนี้ได้มีโอกาสไปเข้าร่วมการเปิดอาคารเรียน หลังใหม่ของ SJC College ใกล้ๆกับมหาวิทยาลัย จริงๆแล้วแอบแจมเข้าไปน่ะครับ เพราะว่าครูสอนโยคะของผมเป็น Project Manager ของงานนี้ แล้วก็มาบอกว่า คุณจะไปก็ได้นะ เพราะว่าองค์ดาไลลามะ ท่านจะมากล่าวสุนทรพจน์ในงานนี้ด้วย

ก็ ตอบตกลงโดยไม่ลังเลเลยครับ กับโอกาสดีๆเช่นนี้ บางคนเดินทางมาครึ่งค่อนโลก เพื่ิอที่จะฟังธรรมะสดๆจากท่านที่ Dharmshala บางทีก็ได้ยินแต่เสียง เรามีโอกาสเห็นท่านแบบจะๆ แล้วก็ได้ฟัง speech สดๆด้วย ถือว่าอาจจะเป็นโอกาสเดียวในชีวิตก็ได้ กับบุคคลระดับโลกเช่นนี้

Photobucket

ผมไปก่อนงานเริ่มประมาณ สองชั่วโมงครับ แต่ปรากฎว่าคนมาจากไหนไม่รู้เยอะจริงๆ ที่นั่งจัดเป็นสามตอน ตรงกลางนั้นเต็มหมดแล้วครับ อาศัยบารมีครูหาที่นั่งแบบใกล้ที่สุด ก็ห่างประมาณร้อยกว่าเมตรแล้วครับ รอท่านประมาณชั่วโมงกว่าๆ แล้วท่านก็มาถึงครับ มีรถตำรวจนำมาสองคัน แล้วก็เป็นรถ Tata รุ่น Mask 3 สีขาวเก่าๆที่ท่านนั่งมา ปิดท้ายด้วยรถพยาบาลอีกหนึ่งคัน เรียบง่ายจริงๆ ซึ่งขัดกับธรรมเนียมปฏิบัติของแขกอย่างสิ้นเชิง แล้วก็มีพิธีการต้อนรับท่านตามธรรมเนียมแขกครับ คล้องมาลัย คล้องผ้า แล้วก็แลกของที่ระลึกกัน

Photobucket

แล้วท่านก็กล่าว Speech โดยทั่วไปก็เกี่ยวกับเรื่องการศึกษา และสันติภาพ โดยยกกรณีศึกษาในหลายๆประเทศที่มีความขัดแย้งทางด้านศาสนาและความเชื่อ ท่านบอกว่าโดยหลักๆแล้ว ไม่ว่าท่านจะไปบรรยายธรรมะที่ไหน ท่านจะพูดเรื่องอหิงสาด้วยเสมอๆ อินเดียเป็น Boss บองท่าน ส่วนท่านนั้นเป็นเพียง Messenger ที่นำเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่เท่านั้น และท่านก็ยังเน้นเรื่องการให้อภัยหรือ forgiveness ด้วยครับ ที่ประทับใจคือการที่ท่านพูดเรื่อง Peace ท่านบอกว่าที่ไหนๆก็มี conflict การที่เราจะมีสันติภาพจริงๆได้ ไม่ใช่จากการที่เราเข้าไปขจัดความขัดแย้งโดยตรง แต่เป็นการนำเอาวิธีการที่จะจัดการความขัดแย้งด้วยหลักอสิงหามากกว่า

Photobucket

พอจะเสร็จพิธี ผมก็รีบออกมาก่อน เพราะไม่อยากเบียดแขกครับ แล้วผมก้เห็นรถท่านมาจอดรอครับ ก็เลยว่าจะอยู่ต่อก่อน ขอเห็นท่านแบบจะๆอีกครั้งเถอะนะ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสอีกเมื่อไหร่ แล้วสักพักท่านก็ออกจากเวทีพิธีการครับ แต่ท่านไม่ได้ขึ้นรถครับ ท่านเดินตรงมาเพื่อจะเข้ามาในตึกครับ ผ่านที่ผมยืนอยู่แค่ประมาณเมตรเดียวเท่านั้น ตอนนั้นผมตื่นเต้นมาก ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยครับ พอท่านเดินผ่านหน้าผม ผมก็เรียก่านว่า His Holiness...ท่านหันมาหาครับ ผมก็ยกมือไหว้ท่าน แล้วผมเห็นท่านยิ้มแล้วก็ยกมือตอบผม

Photobucket

โอ้โฮ...หัวใจพองเลยครับ อารมณ์ประมาณว่าสุดๆอ่ะครับ ปลื้มมากๆ แล้วผมก็กลับมาโม้ต่อกับแอนตี้ ที่ร้านชาครับ แกขำใหญ่เลย บอกว่าผมนี่ท่าจะเป็นเอามาก ฮ่าๆๆๆ คนมันปลื้มครับ

Photobucket

คืนนี้ท่าจะนอนหลับฝันดี....




 

Create Date : 20 กุมภาพันธ์ 2552   
Last Update : 20 กุมภาพันธ์ 2552 12:15:29 น.   
Counter : 515 Pageviews.  

นาฬิกาเดินช้า ที่เมืองแขก...

ช่วงนี้เวลาเดินไปช้ามาก อ้อยอิ่งเหลือเกิน เหนือนกับกำลังหยอกล้อกับสภาพอากาศเย็นที่กำลังมาเยือนไมซอร์ พร้อมม่านฝนเบาบางที่โปรยปรายเหมือนกับกำลังจะเยาะเย้ยคนขี้เกียจอย่างผมว่า เฮ้ย..จะมัวเถลไถลไปถึงไหน อาทิตย์หน้าจะสอบย่อยแล้วนะ แล้วรายงานน่ะเสร็จหรือยัง..? ฝนก็พรำอยู่ออกไปไหนไม่ได้ก็ทำรายงานสิ !

แต่ผมกลับแกล้งทำเป็นเหมือนไม่สนใจคำเย้ยหยันของสายฝน กลับเดินหน้าทำกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการศึกษาสักเท่าไหร่อย่างเพลิดเพลิน โดยไม่สนใจเวลาที่เดินผ่านไปอย่างช้าๆพร้อมรอยยิ้ม ช่วงเดือนที่ผ่านมานั้นมีเรื่องราวมากมายทั้งสนุกสนาน ตื่นเต้น เหงา เศร้า เคล้าน้ำตา ประดังประเดเข้ามาอย่างครบรสเหมือนกับกำลังเพิ่มสีสันและเครื่องเทศให้ชีวิตผมที่เมืองแขกนี้มีความหมายเข้มเข้าไปอีก แต่ปรากฎการณ์พระจันทร์ยิ้มที่เมืองแขก (อันที่จริงก็เห็นกันทั่วโลก =’=) ก็ทำให้ชีวิตที่เมืองแขกของผมนั้นมีความหมายเพิ่มขึ้นจริงๆ ไม่ว่าพระจันทร์จะยิ้มหวานให้กำลังใจ หรือว่ายิ้มเยาะผมอยูในทีก็ตาม

Photobucket

กิจกรรมที่เป็นปลื้มที่สุดคือการร่วมมือร่วมใจกันของนักศึกษาไทยในไมซอร์จัด งานฉลองวันพ่อเล็กๆแต่เปี่ยมไปด้วยความหมายกับคนไกลบ้านอย่างเรามาก โดยเราสละเงินคนละเล็กละน้อยมาจัดงานกันที่ดาดฟ้าของบ้านเพื่อนของเราพร้อม ทั้งเชิญเพื่อนชาวลาว เวียดนาม อินโดนีเซีย แลที่ขาดไม่ได้คือสหายชาวภารตะของพวกเรา มาพร้อมใจกันจุดเทียนถวายพระพร พร้อมด้วยร้องเพลงเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติของพ่อหลวงของพวกเรา พร้อมทั้งรับประทานอาหารร่วมกัน เป็นข้าวผัดไก่ และแกงจืดพร้อมด้วยผลไม้นาๆชนิด สำหรับชาวมังสวิรัติเราก็ได้รับการอนุเคราะห์จากครอบครัวเพื่อนของเรา ให้การสนับสนุนข้าวยี่หร่าแบบแขกมาถึงหนึ่งหม้อใหญ่ โดยอาหารเหล่านี้ยังได้เผื่อแผ่ไปยังพี่น้องแขกที่ขาดแคลน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอีกด้วย เป็นงานเล็กๆง่ายๆ แต่เปี่ยมไปด้วยความหมายแก่พวกเรามากจริงๆ

Photobucket






 

Create Date : 10 ธันวาคม 2551   
Last Update : 10 ธันวาคม 2551 2:26:22 น.   
Counter : 207 Pageviews.  

สุขสันต์วันลอยกระทงครับ...

ลืมไปเลยว่าวันนี้วันลอยกระทง...จนเพื่อนโทรมาคุยว่า กำลังลอยกระทงกันอยู่เป็นที่สนุกสนาน อยู่ที่นี่เงียบเหมือนเช่นทุกวัน ไฟก็ดับใช้เทียนอ่านหนังสือจนปวดตา (ฟังดูน่าสงสาร แต่ที่จริงเป็นดินพอกหางหมู ที่ต้องส่งวันพรุ่งนี้ต่างหาก 555) คว้ากล้องออกไปถ่ายพระจันทร์วันเพ็ญมาอวยพรลุง ป้า น้า อา พี่ น้อง ที่น่ารักทั้งหลายที่เข้ามาเยี่ยมขอจงมีความสุข สงบ ร่มเย็นอย่างจันทร์วันเพ็ญคืนนี้นะครับ

สุขสันต์วันลอยกระทงครับ...

Photobucket




 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551   
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 0:58:17 น.   
Counter : 355 Pageviews.  

Rangoli

ทุกๆเช้า แม่บ้านชาวอินเดียใต้เกือบทุกคนนั้นมีหน้าที่หุงหาอาหารและทำงานบ้านในชีวิตประจำวันต่างๆนาๆ ไม่ต่างจากแม่บ้านชาวไทยอย่างเราๆนัก แต่หนึ่งในกิจกรรมที่น่าสนใจของแม่บ้านชาวอินเดียใต้นั้นคือการวาด Rangoli ไว้ที่หน้ารั้วประตูบ้านของตนเองนั่นเอง Rangoli นั้นไม่มีรูปแบบตายตัว อาจจะเป็นรูปดอกไม้ รูปสัตว์ หรือว่ารูปทรงเรขาคณิตต่างๆ ก็ได้

Photobucket

Rangoli ถือเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่งที่สตรีชาวอินเดียใต้เกือบทุกคนนั้นต้องมีวิชาติดตัวเอาไว้ ไม่มีสอนในโรงเรียนนะจ๊ะ แต่ว่าจะถ่ายทอดมาทางครอบครัว คือแม่สอนลูกสาว พี่สาวสอนน้องสาวเป็นต้น Rangoli เป็นภาษาถิ่นของรัฐ Karnataka ซึ่งรัฐอื่นๆก็อาจมี Rangoli เหนทือนกัน แต่เรียกแตกต่างกันไป อันนี้ฉานก็ไม่รู้นะนายจ๋า การวาด Rangoli นั้นเริ่มจากการเอาน้ำมาราดพื้นที่จะวาดให้เปียกๆ จากนั้นนำผงแป้งสีขาวๆ มาโรยกำหนดจุดไว้คร่าวๆก่อน แล้วจึงโรยแป้งเชื่อมจุดแต่ละจุดเข้าด้วยกันอีกครั้งให้กลายเป็นลวดลายที่สวยงาม อาจจะมีการใช้แป้งสีเข้ามาด้วยก็ได้ แต่จะเห็นเค้าใช้กันเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น ตามประวัติแล้ว การวาด Rangoli นั้นสืบย้อนกลับไปได้ถึงสมัยต้นๆ ของศิลปะอินเดียเลยทีเดียว (แต่สมัยไหนไม่รู้นะ อยากรู้ก็ลองศึกษาดูนะนายจ๋า) มีตำนานหลากหลายมาก บ้างก็ว่ามีพระราชาองค์หนึ่ง (ไม่รู้ว่าราชาชูรสหรือเปล่า?)ได้สูญเสียลูกชายอันเป็นที่รักไป จึงไปอ้วนวอนขอพระพรหมให้ปลุกชีพเจ้าลูกชายนั้นให้ฟื้นขึ้นมา พระพรหมก็ใจดี๊ใจดี บกว่างั้นไปวาดรูปลูกชายมา เอาให้เหมือนเลยนะ แล้วจะเป่าลมใส่ในรูปวาด เพื่อคืนชีวิตให้กับลูกชายของพระราชา แล้วจากนั้นอีตาเจ้าชายที่ฟื้นกลับมานี้ก็เลยใช้วิธีเดียวกันนี้วาดรูปหญิงอันเป็นที่รัก ที่โดนกีดกันไม่ให้แต่งงานกัน จึงเป็นธรรมเนียมนการวาดรูปหญิงงามสืบเนื่องต่อกันมา (เอ๊...มันเกี่ยวกันไม่วะนี้) ข้อมูลนี้ห้ามเอาไปอ้างอิงนะนายจ๋า เพราะว่าได้มาจากเจ้า Nargis & Rajini สองศรีพี่น้องที่เอามาโม้ให้ฟัง
วันนั้นไปเดินเล่นงาน Dasara ที่ในเมืองมา เห็นมีอุปกรณ์ทำ Rangoli แบบเร่งรัดขายด้วย เป็นสักษณะท่อเจาะรูด้านข้าง แล้วเอาผงแป้งใส่ลงไป จากนั้นก็กลิ้งลงที่พื้น ผงแป้งจะไหลออกมาตามรูที่เจาะไว้เป็นลวดลสยที่สวยงามเหมือนกัน แต่ฉานว่าไม่มีเสน่ห์เท่า Rangoli แบบง่ายๆ ที่ตั้งใจทำโดยสาวน้อย Rajini แน่นอน.......




 

Create Date : 12 ตุลาคม 2551   
Last Update : 12 ตุลาคม 2551 13:01:00 น.   
Counter : 381 Pageviews.  

Aida Pooja

วันนี้ตื่นมาเพราะเสียงเคาะประตูตั้งกะสิบโมง อารายว๊า....วันหยุดแท้ๆ ใครมาหาอีกล่ะนี่ เปิดประตูไปจ๊ะเอ๋กับคุณน้าเจ้าของห้องพร้อมมาดามภรรยา ยิ้มกว้าง ส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก ส่งถาดขนมมาให้ บอกว่าของไหว้บูชา (ที่เมืองแขกจะเรียกการบูชาต่างๆนี้ว่า Pooja) เอามาให้กินจะได้โชคดี หรือว่าเฮงๆ ตามประสาเมืองไทยบ้านเรา ในถาดมีแอ๊บเปิ้ล 2 ลูก (หรูนะนี่ มีให้แอปเปิ้ลด้วย) แล้วก็ขนมจากร้านขนมแขกชื่อดังของไมซอร์ คือร้าน Sree Mahalakshmi เจ้าเก่า 3 ซอง ขนมแขกก็จะประมาณ หวานมาก ถึงมากที่สุด มีถั่วบดคลุกเนย หรือไม่ก็เนยคลุกถั่วบด แต่ที่เป็นเอกลักษณ์จริงๆเลย ของขนมแขกก็คือ ความหวานครับ พ่อแม่พี่น้อง... มันจะหวานอะไรได้ซะขนาดนั้น หวานแสบไส้ หวานจนเสียวฟัน และหวานหาป้อหาแม่เลยล่ะครับ
คุณมาดามก็ชี้ไปที่รถจักรยานคู่ชีพ บอกว่าได้แต่งเสริมเติมสวยให้เรียบร้อยแล้ว ฮั่นแน่...ให้ความสำคัญจะน้องเฮอร์คิวลิสของเราด้วย มาดามเอาดอกไม้เหลืองๆ คล้ายๆดอกดาวเรือง แต่ไม่ใช่ พร้อมพริกกับมะนาวห้อยไว้เสร็จสรรพ (ไม่ได้เอามายำจักรยานนะ แต่เค้าเชื่อว่าเป็นเครื่องรางของที่นี่ ตามพื้นที่วัดฮินดูที่นี่ก็จะมีมะนาววางไว้ตามมุมต่างๆ เหมือนกัน) มีเจิมด้วยนะ ขอบอก เจิมทั่วทั้งคันเลย ล๊อกเอย ล้อหน้า พร้อมล้อหลัง กระดิ่ง แฮนด์ มาดามเจิมให้หมด ท่าทางวันนี้จะโชคดีจริงๆ ที่เมืองแขกทางใต้นี้ เมื่อมีการบูชาแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ใบมะม่วงและต้นกล้วย เค้าว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต้องเอามาประกิบการบูชาเสมอ วันนี้พิเศษคือมีการเอาแตงอ่อน หรือ ฟัหฃกลูกกลมๆ มาทุบแล้วโรยสีแดง วางไว้ที่มุมประตูบ้านทั้งซ้ายขวาด้วย ประมาณว่าเป็นการบูชายัญ ประมาณนั้น เนื่องจากผู้คนทางใต้นี้เป็นมังสวิรัติ กันเสียส่วนมาก จึงมีการเอาแตงอ่อนหรือฟักมาแทนหัวของแพะ แล้วเอาสีแดงมาโรยเป็นนัยว่านี่คือเลือดนะจ๊ะอี่นายจ๋า....
aida pooja 1

วันนี้ไม่ว่าไปทางไหนก็จะมีการคบแต่งยานพาหนะทุกชนิด รวมถึงเครื่องมืออุปกรณ์ทุกชนิดด้วย สอบถามมาจากพ่ที่ร้านขายผักได้ความว่าวันนี้ เรียกว่า Aida Pooja คือการบูชาเครื่องไม้เครื่องมือทุกชนิดที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน ที่ร้านแกก็มีมาลัยสีเหลืองมาห้อยที่ตาชั่งด้วย อยากจะบอกว่า อี่นายจ๋า..บูชาตาชั่งแล้ว วันหน้าช่วยคิดตังค์ฉานให้ตรงตามกิโลด้วยนะจ๊ะ..รถออโต้ก็มีการประดับกันสุดฤทธิ์ ไม่เข้นแม้แต่รถเมล์ เครื่องโทรศัพท์ ตู้เย็น ทุกสรรพสิ่งแม้กระทั่งมิเตอร์ไฟฟ้าก็ตาม (ปอลอ. ฉานขอสวงนสิทธิ์ห้ามเอาไปอ้างอิงนะจ๊ะ ผิดถูกไม่รู้ พี่ขายผักบอกมานะจ๊ะ) ไปเจอ Probir เพื่อนชาวบังคลาเทศ ที่ร้านน้ำชา พี่เค้าเลยขออาสาถ่ายรูปเรากับจักรยานสักหนึ่งแช๊ะ! อ่ะๆ เต็มที่เลยพี่ กี่รูปก็ตามใจเลย

เด๋วเย็นนี้จะลองอาบน้ำด้วยสบู่ใหม่เป็น Mysore Sandal Soap หรือสบู่กลิ่นไม้จันทร์หอมอันมีชื่อเสียงของที่นี่นั่นเอง ไม้จันทร์นะจ๊ะ ไม่ต้องไปเติมดอกข้างหน้าล่ะ ยังไม่ตายยยยยย....
aida pooja 2




 

Create Date : 08 ตุลาคม 2551   
Last Update : 8 ตุลาคม 2551 21:32:10 น.   
Counter : 421 Pageviews.  

1  2  

เจ๊กอ้วน
Location :
Mysore India

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เมืองคนใช้หัว เมืองให้ผัวเฝ้าห้างเมืองเดินทางต้องทำใจ เมืองวัวเป็นใหญ่ นักเลงโต เมืองสุดโอ่วรรณะ เมืองมีพระแก้ผ้า เมืองคงคาแสนบรรเจิด เมืองบ่อเกิดปรัชญา เมืองศาสดากำเนิด เมืองเลิศสุดสุด เมืองพุทธอันยิ่งใหญ่...
[Add เจ๊กอ้วน's blog to your web]