Group Blog
 
All Blogs
 

มีความรู้ดีก็ยังหนีไม่พ้นก็ถูกตุ๋นได้

มหาวิทยาลัย เมืองอังกฤษได้ริเริ่ม ศึกษาค้นคว้า หามูลเหตุทางจิตวิทยา ที่ ทำให้ประชาชน ต้องตกเป็นเหยื่อของการต้มตุ๋น อย่างไม่ได้หยุดหย่อน

นักวิจัยของมหาวิทยาลัยเอกเซอเตอร์ ได้พบในการศึกษาว่า มีประชาชนที่อาจจะตก เป็นเหยื่อค่อนข้างง่ายถึงเกือบร้อยละ 20 ผู้ที่มีพื้นความรู้ดีในเรื่องที่ถูกต้ม แม้ แต่ผู้ช่ำชองในการลงทุน ก็ยังอาจตกเป็นเหยื่อได้ด้วยเหตุเพราะ "มี ความเชื่อมั่นตนเองมากเกินไป"

ผู้ตกเป็นเหยื่อไม่เชิงเป็นคนที่ตัดสินใจไม่ดีเสมอไป แม้แต่เป็นนักธุรกิจหรือนักการอาชีพที่ประสบความสำเร็จ ก็ยังโดนกันมาแล้ว เพราะพวกเขาเหล่านี้ มักจะเปิดให้ ใครมากลี้ยกล่อมชักจูงได้มากเกินไป และกลับควบคุมอารมณ์ตนเองได้น้อย

รายงานผลการศึกษาพบว่า โดยมากพวกนักตุ้มตุ๋น จะใช้เล่ห์กลของการโน้มน้าวใจต่าง ๆ และยุทธวิธีที่ใช้บ่อยอย่างหนึ่ง ก็คืออาศัยกิเลสพื้นฐานของมมนุษย์ เช่น การสร้างความตื่นเต้น หรือความกลัวขึ้น และทั้งยังจะอ้างความเชื่อถือในเจ้าหน้าที่ทางการ โดยมักจะทำให้ดูเป็นงานอันชอบด้วยกฎหมาย ของนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงหรือสถาบันทางการ

ที่มา thairath.co.th




 

Create Date : 12 เมษายน 2553    
Last Update : 12 เมษายน 2553 22:56:55 น.
Counter : 236 Pageviews.  

การวัดปริมาณน้ำฝน

ปริมาณน้ำฝนเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสิ่งหนึ่งในอุตุ นิยมวิทยา เพราะน้ำฝนเป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการกสิกรรมและอื่นๆ พื้นที่ใดจะอุดมสมบูรณ์และสามารถทำการเพาะปลูกได้หรือจะเป็นทะเลทรายก็ขึ้น อยู่กับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในบริเวณนั้น เราวัดปริมาณน้ำฝนตามความสูงของจำนวนฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าโดยให้น้ำฝนตกลง ในภาชนะโลหะซึ่งส่วนมากเป็นรูปทรงกระบอก มีเส้นผ่านศูนย์กลางของปากกระบอกเป็นขนาดจำกัด เช่น ปากกระบอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง ๘ นิ้ว หรือประมาณ ๒๐ เซนติเมตร ฝนจะตกผ่านปากกระบอกลงไปตามท่อกรวยสู่ภาชนะรองรับน้ำฝนไว้ เมื่อเราต้องการทราบปริมาณน้ำฝน เราก็ใช้ไม้บรรทัดหยั่งความลึกของฝน หรืออาจใช้แก้วตวงที่มีมาตราส่วนแบ่งไว้สำหรับอ่านปริมาณน้ำฝน เป็นนิ้วหรือเป็นมิลลิเมตร สำหรับประเทศไทยวันใดที่มีฝนตก ณ แห่งใด หมายความว่ามีปริมาณฝนตก ณ ที่นั้นอย่างน้อย ๐.๑ มิลลิเมตร ขึ้นไป เพราะฉะนั้นในเดือนที่มีฝนตกโดยมีจำนวนวันเท่ากันก็ไม่จำเป็นจะต้องมีปริมาณ น้ำฝนเท่ากัน และควรจะทราบด้วยว่า เมื่อทราบความสูงของน้ำฝน ณ ที่ใดแล้ว ก็อาจจะประมาณจำนวนลูกบาศก์เมตรของน้ำฝนได้ถ้าทราบเนื้อที่ของบริเวณที่มีฝนตก

ในการรายงานปริมาณน้ำฝนนั้น จะรายงานว่าฝนตกเล็กน้อย ฝนตกปานกลาง ฝนตกหนัก หรือฝนตกหนักมาก แต่การที่จะตั้งเกณฑ์สากลที่เรียกว่าฝนตกเล็กน้อย หรือตกปานกลางเป็นจำนวนเท่าใดหรือกี่มิลลิเมตรนั้น ไม่อาจจะกระทำได้ เพราะเหตุว่าสภาพของฝนแต่ละประเทศนั้นมีปริมาณไม่เหมือนกัน

เครื่องวัดน้ำฝนมีอยู่หลายชนิด เช่น

๑. เครื่องวัดน้ำฝนแบบธรรมดาหรือแบบแก้วตวง (ordinary raingage)
๒. เครื่องวัดน้ำฝนแบบบันทึก (recording raingage) เป็นชนิดที่มีปากกาเขียนด้วยหมึก สำหรับบันทึกปริมาณน้ำฝนไว้เป็นเวลา ๒๔ ชั่วโมง หรือตลอดสัปดาห์หรือนานกว่านี้ ซึ่งมีทั้งแบบชั่ง (weighing raingage) และแบบกาลักน้ำ (siphon raingage)




 

Create Date : 09 เมษายน 2553    
Last Update : 9 เมษายน 2553 18:01:40 น.
Counter : 425 Pageviews.  

ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้?

อาจารย์ราม ติวารี นักวิชาการสาขาฟิสิกส์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เล่าถึงหลักการทรงตัวของเครื่องบินกระดาษว่า ต้องอธิบายการลอยของกระดาษ 1 แผ่นก่อน เมื่อเราปล่อยกระดาษจากที่สูงในแนวราบ กระดาษจะร่อนและลดระดับไปเรื่อยๆ สิ่งที่ทำให้เคลื่อนที่คือน้ำหนัก แรงดึงคือน้ำหนัก แรงที่ทำให้ลอยคือแรงต้านของอากาศ

และเมื่อนำกระดาษมาวางบนมือแล้วพุ่งไปข้างหน้า กระดาษจะเคลื่อนที่ไปในระยะสั้นมากและไม่มีทิศทาง ก่อนจะหล่นลงมาภายใต้เงื่อนไข คือแรงโน้มถ่วง แรงอากาศ และแรงผลักหรือแรงพุ่งไปข้างหน้า

เมื่อเรานำกระดาษเอ 4 โค้งเป็นตัวยูทั้งหัวและท้าย โดยไม่มีรอยพับ จับกระดาษทั้ง 2 ข้างพุ่งไปข้างหน้า แผ่นกระดาษจะมีแรงต้านลดลง และพุ่งไประยะทางเพิ่มขึ้น แต่ทิศทางไม่แน่นอนเหมือนกัน แต่เมื่อทำรูปแบบเดิมคือทำให้กระดาษโค้ง แต่กรีดเป็นรอยพับแนวยาวแล้ว พุ่งไป จะไปได้ไกลขึ้น ขณะที่กระ ดาษกางออกจะไม่เป็นแผ่นแต่จะเป็นรูปตัววี ซึ่งเป็นเชฟหรือรูปแบบที่เคลื่อนที่ในอากาศได้ง่าย

อาจารย์รามบอกว่า การพับเครื่องบินไม่ว่าจะเทคนิคอะไร ตัววีเหมือนจรวด มีหัว มีปีกลู่ไปด้านหลังแล้วพุ่งไปด้านหน้า แรงที่กระทำจะเหมือนเดิม แต่แรงแหวกอากาศจะดีกว่า หลักการนี้ไม่ว่าจะเป็นสัตว์น้ำอย่างปลาหรือเครื่องบิน สิ่งใดๆ ก็ตามที่เคลื่อนผ่านของไหล (ของเหลว ก๊าซหรืออากาศ) จะเคลื่อนที่ได้ไกลแม้จะมีแรงต้านหรือแรงพุ่ง

การที่เครื่องบินกระดาษร่อนอยู่ในอากาศได้ยาวนานนั้น ไม่ว่าจะพับรูปแบบไหนผู้ร่อนต้องสังเกตขณะร่อน ทฤษฎีหนึ่งที่เข้ามาเกี่ยวข้องคือ ทฤษฎีจุดศูนย์ถ่วงหรือจุดรวมน้ำหนัก ถ้าหาจุดศูนย์ถ่วงได้หัวจะไม่ปักพื้น นอกจากนี้เมื่อร่อนแล้วต้องสังเกตว่าถอยหลังหรือไม่ ถ้าถอยหลังแสดงว่าจุดศูนย์ถ่วงค่อนไปด้านหลังมากเกินไป ต้องปรับให้ได้ตำแหน่งที่พอเหมาะ

วิธีการปล่อยเครื่องร่อนในมุมต่างๆ รวมถึงท่าทางการขว้าง หากเป็น การเล่นกอล์ฟจะเรียกว่ามีท่าสะวิง ซึ่งน้องหม่องเขามีวงสะวิงของเขาเอง วงสะวิงเป็นตัวสำคัญทำให้เครื่องร่อนโค้งในอากาศ ไม่มีแรงอื่นมากระทำ คือแรงน้ำหนักกับแรงต้านอากาศ

ท่าส่งของผู้เล่นบวกกับมุมเงยมุมต่ำผสมกันทำให้เครื่องร่อนที่ปล่อยออกจาก มือเคลื่อนที่ไปในอากาศได้นานที่สุด การควบคุมเครื่องบินกระดาษได้ดีต้องอยู่ในสถานที่ที่อากาศไม่เคลื่อนที่ ดังนั้นเวลาแข่งขันต้องอยู่ในห้องปิด ไม่เช่นนั้นจะบังคับทิศทางไม่ได้ จะไปตามแรงลม น้องหม่องทดลองในห้องปิด ไม่ใช่กลางแจ้ง เพราะถ้ามีลมแล้วจะควบคุมไม่ได้

น้องๆ บางคนอาจรู้จัก "หางเสือ" หางเสือเครื่องบินหรือหางเสือเรือมีไว้เพื่ออะไร

อาจารย์รามให้ความรู้ว่าการติดหางเสือในรูปแบบต่างๆ เป็นการบังคับทิศทางให้เลี้ยวได้ เป็นการเคลื่อนที่ผ่านของไหล อย่างเช่นหางเสือของเรือ ขณะที่เครื่องร่อน การติดหางเสือมีผลต่อการเลี้ยวผ่านของไหลคืออากาศ

ส่วนหัวเครื่องบิน ที่เรามักพับให้เป็นแหลมๆ รูปตัววีจะช่วยตัดลม ส่วนปีกใช้ในการประคองให้บินในแนวระนาบนานที่สุด คือกินลมได้นานที่สุด ซึ่งต้องทดลองดู เพราะไม่มีรูปแบบตายตัว การเล่นเครื่องร่อนเป็นศาสตร์ที่ต้องทดลองด้วยตัวเอง

ด้าน นายประเสริฐ เฉลิมการนนท์ หัวหน้าโครงการสร้างความตระหนักและแนวคิดเชิงวิทยาศาสตร์ด้วยกิจกรรมเครื่อง บินกระดาษ ศูนย์เอ็มเทค แนะนำเทคนิคการพับเครื่องบินกระดาษให้ร่อนในอากาศได้ยาวนานว่า อย่าทำให้กระดาษยับเพราะจะทำให้อากาศที่ผ่านเครื่องบินแปรปรวน ซึ่งจะมีผลต่อการอยู่ในอากาศของเครื่องบิน นอกจากนี้ผู้พับอาจต้องทดลองร่อนเครื่องบินเพื่อศึกษาดูว่ามีข้อบกพร่องตรง ไหน ซึ่งช่วยให้เรียนรู้กระบวนการทางวิทยา ศาสตร์อย่างเป็นขั้นตอนด้วย

อาจารย์รามแนะนำคุณพ่อคุณแม่ต่อยอดการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ให้ลูกๆ ผ่านของเล่นด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการจุดประกายทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่จำเป็นต้องมีทุน หรือราคา อย่างน้องหม่องเขาเรียนรู้จากการติดดินและพุ่งขึ้นฟ้าได้เหมือนเครื่องร่อน ของเขา เขาเองก็ไม่ได้มีต้นทุนมาก แต่สังคมยังมองว่าของเล่นก็ยังเป็นของเล่น ทั้งที่การเล่นนั้นเป็นสื่อการเรียนการสอนธรรมชาติที่มีวิทยาศาสตร์ สาขาต่างๆ ซ่อนอยู่มาก เพราะของเล่นผลิตขึ้นมาพัฒนาความคิดตามอายุในการเรียนรู้ ธรรมชาติของเด็ก

"ของเล่นทุกชนิดมีวิทยาศาสตร์ซ่อนอยู่ แต่เล่นแล้วต้องมีคำถาม อย่างเด็กทั่วไปเล่นลูกข่าง แต่คำถามไม่เคยมีคือทำไมลูกข่างตั้งตรงได้เวลาหมุน มันดูเหมือนง่าย ทุกคนมองเห็นแต่ตอบยาก

หรืออย่างเหรียญบาทบางๆ หากเอาสันตั้งกับโต๊ะจะตั้งได้ยาก แต่ถ้าเรากลิ้งไป 100 ครั้ง ก็ไม่ล้ม 100 ครั้ง

จึงอยากจุดประกายให้เห็นว่า สิ่งที่เห็นนั้นเราอย่ามองผ่าน เพราะทุกอย่างมหัศจรรย์ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในธรรมชาติหรือทำขึ้นเอง"




 

Create Date : 09 เมษายน 2553    
Last Update : 9 เมษายน 2553 17:52:09 น.
Counter : 240 Pageviews.  

นิยามของวิชาต่างๆ ...

Cub Cadet Zero Turn Mowers Cheap Corded Electric Mowers Cub Cadet Riding Mowers Cub Cadet Zero Turn Mower Snapper Pro Mowers Rechargeable Electric Mowers Murray Riding Lawn Mowers Cub Zero Turn Mowers Cordless Reel Mower Cordless Reel Mowers Battery Operated Mower Battery Operated Mowers McLane Front Throw Mower John Deere Riding Mower John Deere Riding Mowers John Deere Riding Lawn Mower Electric Reel Mower John Deere Riding Lawn Mowers Toro 50 Zero Turn Mower Gas Powered Reel Lawn Mowers Gas Powered Reel Mower McLane Gas Powered Reel Mower Murray 22 Inch Lawn Mower Electric Reel Mowers Craftsman Electric Mower Snapper Commercial Mowers Solaris Cordless Mower Yard Pro Mower Yard Pro Lawn Mower Electric Riding Mower Electric Riding Lawn Mower Electric Riding Mowers MTD Riding Lawn Mowers Black and Decker Cordless Lawn Mower Toro Electric Mower Electric Riding Lawn Mowers Bag Replacement Honda Mower Toro Zero Radius Mowers Black & Decker Cordless Lawn Mower Black and Decker Cordless Lawn Mowers Great States Reel Mower Great States Reel Mowers Neuton CE 6 Lawn Mower Home Depot Lawn Mowers Old Lawn Mowers Home Depot Lawn Mower Black & Decker Cordless Mower Snapper Rear Engine Mower Honda Self Propelled Mower Home Depot Mowers

1. คณิตศาสตร์

-
  ศาสตร์ที่ว่าด้วยการจับตัวเลขมาป่นปี้ และระยำมันจนน่าเวียนหัว

2. วิทยา ศาสตร์

-
  ศาสตร์ที่ว่าด้วยการค้นพบของมนุษย์ที่น่าตกใจ และมนุษย์คนนั้นไม่น่า เกิดมาเลย

3. เคมี

-
  ศาสตร์ที่ว่าด้วยการผสมน้ำยาล้างจานกับโค้กเข้า ด้วยก ัน และสังเกตมันระเบิดก่อนที่เราจะต้องมานั่นคำนวณตามสูตรเคมีอีก

4. ฟิสิกส์

-
  ศาสตร์ที่ว่าด้วยการตีความอันโหดร้ายจากการเคลื่อนที ่ของสิ่งต่างๆในโลก

5. ชีววิทยา

-
  ศาสตร์ที่ว่าด้วยการศึกษาชีวิตของสัตว์ซึ่งหาความจำเ ป็นไปได้ยาก

6. สังคมศึกษา

-  ศาสตร์ที่ว่าด้วยก้นบึ้งของสังคมที่มีความซับซ้อนสูง และ น่าเบื่อเกินกว่าจะศึกษา

7. พละศึกษา

 -  ศาสตร์ที่ ว่าด้วยการ(ฝืน)บิดเบี้ยวร่างกายไม่ให้เป็น ไปตามธรรมชาติ ทำให้ปวด เมื่อยตามกล้ามเนื้อ

8. พระพุทธ ศาสนา

 -  ศาสตร์ที่ว่าด้วยหลักความดีต่างๆที่ถูกนำ เสนอโดยภาษา บาลีที่อ่านยากและเข้าใจยากยิ่งนัก

9. ภาษาไทย

 -  ศาสตร์ที่ว่าด้วย การเรียนภาษาประจำชาติที่กำลังจะวิบัติลงไปทุกๆวันโดยการจดในชีททุกตัว อักษรและถ่ายเอกสารแปะสมุด

10. ภาษาอังกฤษ

-  ศาสตร์ที่ว่าด้วยภาษาที่เกิดจากนิสัย ซาดิสก์ของฝรั่ง ที่คิดหลักไวยากรณ์ได้เป็นแสน และที่กำลังเข้ามาแทนที่ภาษาไทยในอนาคตนู่น

11. ภาษาจีน

 - ศาสตร์ที่ว่า ด้วยภาษาที่ต้องขยับปากในการพูดมากจนเหนื่อยและจะต้องเหนื่อยมือในการ เขียนด้วย

12. ภาษา ญี่ปุ่น

-  ศาสตร์ที่ว่าด้วยภาษาที่จะทำให้ลิ้นพัน กันได้ง่ายๆ และกำลังมีบทบาทมากในประเทศไทย

13.ภาษาฝรั่งเศษ

-
  ศาสตร์ที่ว่าด้วยภาษาที่คล้ายคลึกภาษาอังกฤษ แต่ต้องเหนื่อยปากมากเวลาพูด





 

Create Date : 07 เมษายน 2553    
Last Update : 7 เมษายน 2553 17:42:03 น.
Counter : 236 Pageviews.  

[เคล็ดลับ] เรียนภาษาอย่างไร ให้ได้ผล?

1. ยอมรับความจริง

ไม่มีใครพูดภาษาที่สองได้ตั้งแต่เกิด ทุกคนต้องใช้เวลาในการเรียนรู้กัน ทั้งนั้น ฉะนั้นอย่าคาดหวังว่าจะต้องเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่เริ่ม ต้น

2. เรียนรู้ทีละนิด

จากการ ศึกษาพบว่า การทบทวนเป็นระยะเวลาสั้นๆ อย่างเช่น ในระหว่างทานอาหารเช้า ในขณะอาบน้ำ หรือในขณะเดินทาง จะส่งผลให้คุณจดจำ ได้ดีกว่า

3. ท่องศัพท์

ยิ่งคุณรู้ศัพท์มากเท่าไหร่ คุณก็สามารถพูดและเข้าใจได้มากขึ้นเท่านั้น เทคนิคในการจดจำคำศัพท์ คือ พกการ์ดใบเล็กๆ ที่เขียนคำศัพท์ (ที่มีคำแปลอยู่ด้านหลัง) ไปกับคุณทุกที่

4. ฝึกหัดอย่างจริงจัง

อย่าแค่ทำปากขมุบขมิบหรือท่องเอาไว้ใส่ใจ พูดหรืออ่านออกมาดังๆ ในทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อจะได้ฝึกปากของคุณให้เคยชินกับการออกเสียง

5. ทำการบ้าน

การทำการบ้าน คือการฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาให้เป็นไปอย่างแม่นยำ จนกลายเป็ความชำนาญ และสามารถทำออกมาได้อย่างอัตโนมัติในที่สุด

6. จับกลุ่มเรียน

หาเวลาทบทวน ทำการบ้าน หรือแค่ฝึกพูดภาษานั้นๆ กับเพื่อนๆ เป็นประจำ ซึ่งจะช่วย แก้ไขข้อบกพร่องให้กันและกันได้ แถมยังทำคุณจดจำได้แม่นยำยิ่งขึ้นด้วย

7. หาจุดอ่อน

ควรหาจุดอ่อนในการเรียนของตัวเองให้เจอ เพื่อที่จะได้เพิ่ม ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นคนเงียบๆ และไม่ค่อยมี ส่วนร่วมในชั้นเรียน ก็บังคับตัวเองให้เลือกที่นั่งแถวหน้าในห้องเรียน ซะ

8. หาโอกาสในการใช้ภาษา

เพื่อสร้างความคุ้นเคยกับภาษานั้นๆ ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การพูดคุยกับเจ้าของภาษาเช่าหนังที่พูดภาษานั้นๆ มาดูหรือแม้กระทั่งหา แฟนที่เป็นเจ้าของภาษานั้นซะเลย

9. ทุ่มความสนใจ

พูดง่ายๆ ก็คือ หายใจเข้าออกก็ให้เป็นภาษานั้น เรียนรู้ภาษานั้นๆ ทั้งในและนอกห้องเรียนอย่างจริงจังและเต็มที่ ถึงขนาดถ้าฝันได้ก็อาจฝัน เป็นภาษานั้นๆ ด้วย

10. ปรึกษาผู้รู้

ถ้ามีปัญหาหรือติดขัดอะไร ก็ต้องสอบถามครูผู้สอนหรือเจ้าของภาษานั้น ทันที เพื่อทำลายกำแพงที่เป็นอุปสรรคในการเรียนออกไปให้เร็วที่สุด คุณ จะได้ไม่ต้องสะดุดอยู่นานเกินไป ซึ่งอาจทำให้คุณเกิดความเบื่อหน่ายได้

Rustic Bedding Lodge Little Girls Bedding Tropical Bedding Sets Porta Crib Bedding Boys Bedding Cars Boys Car Bedding Cowboy Western Bedding Black and White Nursery Bedding Horse Baby Bedding Retro Baby Bedding XL Twin Luxury Bedding Purple Flower Bedding Oriental Bedding Crib Bedding Set Sale Ladybug Crib Bedding Girls Sports Bedding Girls Sport Bedding Leopard Print Bedding Kathy Ireland Bedding Crib Bedding for Girls Organic Kids Bedding Quilted Baby Bedding Cars Toddler Bedding Country Baby Bedding Luxury Organic Bedding Ladybug Kids Bedding Dora The Explorer Bedding Olive Kids Pirate Bedding Nautica Crib Bedding Girls Luxury Bedding Discount Cal King Bedding Twin Zebra Bedding Elegant Baby Bedding Ladybug Nursery Bedding Nursery Bedding Dogs Nursery Bedding for Girl Nursery Bedding Girl Nursery Bedding Rustic Nursery Bedding Sail Boats Nursery Rhyme Baby Bedding Bell Island Bedding By Nautica Nautica Bedding Grover Beach Nautica Bedding Products Nautica Bedding Sidney Nautica Daybed Bedding Horse Kid Bedding Christmas Bedding Holiday Christmas Holiday Bedding Black and White Crib Bedding Brown Zebra Bedding




 

Create Date : 07 เมษายน 2553    
Last Update : 7 เมษายน 2553 14:16:10 น.
Counter : 242 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

DeWalt
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add DeWalt's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.