Group Blog
 
All Blogs
 

โตโยต้า FT-CH

การประกาศเตรียมรุกตลาดรถยนต์ไฮบริดด้วยการนำรถยนต์ซับคอมแพ็กต์อย่างรุ่น แจ๊ซมาเป็นพื้นฐานในช่วงปลายปี 2010 นั้นทำให้เจ้าครองตลาดรถยนต์ประเภทนี้อย่างโตโยต้าอยู่นิ่งไม่ได้ และงานดีทรอยต์ มอเตอร์โชว์ 2010 แบรนด์รถยนต์หมายเลข 1 ของโลกก็เผยโฉมต้นแบบรุ่นใหม่ที่ว่ากันว่า น่าจะมีการผลิตขายในอนาคต เพื่อเป็นตัวสกัดความแรงของฮอนด้า แจ๊ซ/ฟิต ไฮบริด

ต้นแบบรุ่นนี้มีชื่อว่า FT-CH ซึ่งตามแนวคิดแล้วเป็นรถยนต์ไฮบริดราคาประหยัดที่ถูกวางระดับตลาดต่ำกว่าพริ อุส ซึ่งนั่นเท่ากับว่าพริอุสเป็นคู่แข่งของฮอนด้า อินไซต์แล้ว รุ่นจำหน่ายจริงของ FT-CH ก็คือคู่ปรับของแจ๊ซ/ฟิต ไฮบริดนั่นเอง ซึ่งทางโตโยต้าคาดหวังว่าเมื่อมีการผลิตขายจริง FT-CH จะสามารถเข้าถึงความต้องการของลูกค้าวัยรุ่นในตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกาได้ เป็นอย่างดี เช่นเดียวกับในยุโรป และเมื่อเป็นรุ่นต่ำกว่าพริอุส ราคาก็จะถูกกว่า 22,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 726,000 บาท ซึ่งเป็นค่าตัวของพริอุสรุ่นธรรมดาที่ขายอยู่ในปัจจุบัน

สิ่งที่น่าแปลกคือ แม้ว่าตัวรถจะถูกวางเป้าหมายในการเจาะลูกค้าในเมืองลุงแซม แต่งานออกแบบกลับเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน ED2 ของโตโยต้า ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศส โดยตัวรถเป็นแบบแฮทช์แบ็ก 5 ประตูและมีความยาว 3,886 มิลลิเมตร สั้นกว่าพริอุสรุ่นปัจจุบันอยู่ 22 นิ้ว หรือ 558 มิลลิเมตร ส่วนชื่อรุ่นคำว่า CH ไม่ได้มีนัย (หรืออาจจะมี) สัมพันธ์กับเลกซัส LF-CH ที่เปิดตัวในแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2009 โดยคำนี้ย่อมาจาก Compact Hybrid

แม้หน้าตาจะล้ำยุค แต่ในเรื่องการออกแบบระบบอำนวยความสะดวกภายในกลับออกแนวย้อนยุคเพราะทีมออก แบบนำเทคโนโลยีไมโครโปรเซสเซอร์ที่เรียกว่า 8-bit ซึ่งเคยได้รับความนิยมอย่างมากในทศวรรษที่ 1980 ในการผลิตวีดีโอเกมกลับมาใช้ในการออกแบบรถยนต์รุ่นนี้ ส่วนระบบไฮบริดก็ไม่ได้มีการเปิดเผยถึงรายละเอียดในการทำงานใดๆ

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้นแบบรุ่นนี้ถูกหมายหัวว่าจะมีการผลิตจริงในอนาคต นอกจากจะเป็นการตีข่าวในเรื่องการตอบโต้ฮอนด้า ฟิต/แจ๊ซ ไฮบริดแล้ว ยังเป็นการคาดการณ์ตามแนวโน้มในการเจาะตลาดไฮบริดของโตโยต้าด้วย โดยทางโตโยต้าวางเป้าหมายในการขายรถยนต์ไฮบริด ในตลาดทั่วโลกภายในช่วงต้นทศวรรษที่ 2010 เอาไว้ที่ 1 ล้านคัน ซึ่งตลาดหลักจะอยู่ที่อเมริกาเหนือ

นั่นเท่ากับว่าโตโยต้าจำเป็นจะต้องเพิ่มทางเลือกในตลาดจากที่มีอยู่ใน ปัจจุบัน และตอนนี้มีการเผยว่าจะมีรถยนต์ไฮบริดใหม่ออกสู่ตลาดมากถึง 8 รุ่นช่วง 2-3 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว และนอกจากโปรเจกต์ออริส ไฮบริดที่จะเริ่มผลิตขายในยุโรปปลายปีนี้แล้ว ผลผลิตที่มาจากต้นแบบรุ่น FT-CH ก็น่าจะถูกรวมให้เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

นายจิม เลนซ์ ประธานของโตโยต้า อเมริกาเหนือยังกล่าวอีกว่า "โตโยต้ากำลังวางกลยุทธ์ทางด้านการตลาดให้กับรุ่นพริอุสด้วยการพัฒนาผลผลิต ที่ต่อเนื่องและรวมอยู่เป็นเพื่อนร่วมสายพันธุ์ของพริอุสเพื่อขายในตลาด อเมริกาเหนือ ซึ่งตรงนี้จะเป็นการสร้างความได้เปรียบในเชิงการตลาดโดยอาศัยจุดเด่นของแบ รนด์พริอุส ซึ่งมีภาพลักษณ์ที่ดีและมีความเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ไฮบริด และ FT-CH ก็ถูกพิจารณาถึงการผลิตอยู่ในตอนนี้"




 

Create Date : 21 มกราคม 2553    
Last Update : 20 มีนาคม 2558 19:31:55 น.
Counter : 296 Pageviews.  

EVT โชว์ผลิตภัณฑ์โอทอป ไฮเทค “รถพลังงานไฟฟ้า รุ่นแรก รุ่นเดียวของประเทศไทย”

บริษัท รถไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมงานและเป็นผู้สนับสนุนการจัดงาน สีลม เฟสติวัล 2010 หรือเทศกาลแห่งความสุขบนถนนสีลม พร้อมนำผลิตภัณฑ์ “โอทอป ไฮเทค รถพลังงานไฟฟ้า” หวังให้คนไทยหันมาใช้ และสนับสนุนผลิตภัณฑ์ฝีมือของคนไทย และยังช่วยให้โลกสดใส ไร้มลพิษ

คุณณัฐฎา วสุรัตน์ ประธานกรรมการ บริษัท รถไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยว่า “บริษัทฯเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงาน และร่วมออกบูธในครั้งนี้ ซึ่งงานจะปิดถนนช่วงระหว่างแยกศาลาแดงไปจนถึงแยกนราธิวาสราชนครินทร์ รวมระยะทางยาว 1 กิโลเมตร (ไปกลับ 2 กิโลเมตร) โดยมีจัดกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายให้ได้ชมตลอดเส้นทาง และในส่วนของบริษัทฯ ได้นำ “ผลิตภัฑ์โอทอป ไฮเทค” รถโดยสารไฟฟ้าทั้ง 4 รุ่นมาร่วมพิธีเปิดงาน “สีลม เฟสติวัล 2010” ได้แก่ อีวีที ซาวีโอ รถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า 2 ล้อ, อีวีที คลาสิก รถกอล์ฟ 4 ที่นั่ง, อีวีที สามล้อไฟฟ้า และอีวีที ชาเลต์ รถไฟฟ้าอเนกประสงค์ 14 ที่นั่ง เพื่อให้ผู้บริหารของกรุงเทพมหานครทุกท่าน และประชาชนทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติได้มีโอกาสทดลองนั่งรถพลังงานในครั้งนี้ตลอดทั้งงาน

และงานนี้ยังถือโอกาส นำรถพลังงานไฟฟ้าอเนกประสงค์ “อีวีที เมอคิวรี” ซึ่งเป็นพระเอกของงานเป็นคันแรก และคันเดียวในประเทศไทยที่ได้นำมาอวดโชว์ ให้สัมผัสก่อนใคร รถรุ่นนี้ ออกแบบเพื่อประโยชน์หลากหลายจำนวน 15 ที่นั่ง เป็นยานพาหนะไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยพลังงานแบตเตอรี่ รักษาสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อมลภาวะทางอากาศและเสียง ประหยัดพลังงาน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และรถพลังงานทุกรุ่นของบริษัทฯ เป็นนวัตกรรมใหม่ที่อยากจะบอกว่า รถพลังงานไฟฟ้าผลิตภายใต้เทคโนโลยีด้านวิศวกรรมไฟฟ้าโดยฝีมือคนไทย เพื่อความภาคภูมิใจของคนไทย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ได้

ฝ่ายขาย บริษัท รถไฟฟ้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร.02 236-2020




 

Create Date : 21 มกราคม 2553    
Last Update : 20 มีนาคม 2558 19:29:59 น.
Counter : 491 Pageviews.  

ยอดจำหน่ายฮอนด้าปีที่แล้วเพิ่ม 3%

         บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งยอดจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในเดือนธันวาคม 2552 มีจำนวน 11,851 คัน และมียอดจำหน่ายรวมของปี 2552 จำนวน 93,409 คัน ซึ่งคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 17% ของตลาดรถยนต์โดยรวม (548,871 คัน) โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้น 3% จากปีที่ผ่านมา

        ยอดจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในเดือนธันวาคม 2552 แบ่งเป็นรุ่นต่างๆ ดังนี้ ฮอนด้า ซิตี้ 4,117 คัน ฮอนด้า แจ๊ซ 2,074 คัน ฮอนด้า ซีวิค 3,813 คัน ฮอนด้า แอคคอร์ด 788 คัน และฮอนด้า ซีอาร์-วี 1,059 คัน สำหรับยอดจำหน่ายรวมของรถยนต์ฮอนด้าในปี 2552 แบ่งเป็นรุ่นต่างๆ ตามลำดับดังนี้ ฮอนด้า ซิตี้ มียอดจำหน่ายรวม 35,155 คัน คิดเป็น 37.6% ฮอนด้า ซีวิค มียอดจำหน่ายรวม 29,149 คัน คิดเป็น 31.2% ฮอนด้า แจ๊ซ มียอดจำหน่ายรวม 18,188 คัน ฮอนด้า แอคคอร์ด มียอดจำหน่ายรวม 5,611 คัน และฮอนด้า ซีอาร์-วี มียอดจำหน่ายรวม 5,284 คัน คิดเป็น 19.5%, 6.0% และ 5.7% ตามลำดับ

        ทั้งนี้ฮอนด้า ซิตี้ มีส่วนแบ่งตลาด 28.9% และฮอนด้า แจ๊ซ มีส่วนแบ่งตลาด 15.0% ในกลุ่มรถยนต์นั่งประเภทซับคอมแพ็กต์ ส่วน ฮอนด้า ซีวิค มีส่วนแบ่งตลาด 39.2% ซึ่งเป็นส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในกลุ่มรถยนต์นั่งประเภทคอมแพ็กต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด มีส่วนแบ่งตลาด 22.2% ในกลุ่มรถยนต์นั่งประเภทแฟมิลี่ และฮอนด้า ซีอาร์-วี มีส่วนแบ่งตลาด 14.4% ในกลุ่มรถยนต์นั่งประเภท SUV/PPV




 

Create Date : 21 มกราคม 2553    
Last Update : 20 มีนาคม 2558 19:28:37 น.
Counter : 279 Pageviews.  

ตลาดมอเตอร์ไซค์หดตัว 7%

         ตลาดรถจักรยานยนต์เดือนตุลาคม ยอดขายหดตัวลง 7% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายนที่ผ่านมา คาดการณ์ 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะกลับมาคึกคัก เพราะหลายค่ายรถรุกกระตุ้นตลาดเต็มที่

        นายธีระพัฒน์ จิวะพงศ์ กรรมการบริหารฝ่ายขาย บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด เปิดเผยว่า รถจักรยานยนต์ประเภทรถแบบครอบครัว มีอัตราเติบโตลดลงน้อยที่สุด เพราะมีจุดเด่นที่เครื่องยนต์เป็นระบบหัวฉีดที่ประหยัดน้ำมันสูง ทำให้ได้รับความนิยมสูงมาตลอด โดยเดือนตุลาคมที่ผ่านมา รถตระกูลเวฟระบบหัวฉีด รุ่นเวฟ 110 ไอ ครองยอดขายอันดับ 1 ทางด้าน "สกู๊ปปี้ ไอ" ก็ทำสถิติขึ้นชาร์ตเป็น New Entry ในเดือนเดียวกัน ที่สำคัญฮอนด้าได้เปิดตัวรถรุ่นใหม่ระดับเวิลด์คลาสที่ผสานเทคโนโลยีสุดล้ำหน้าล่าสุด Honda PCX เป็นที่แรกของโลกอีกด้วย

        ยอดจดทะเบียนสะสมของรถระบบนี้ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากต้นปีที่มีเพียง 23% เดือนตุลาคมนี้มีถึง 47% ขณะที่รถระบบหัวฉีดของทุกค่ายมีปริมาณยอดจดทะเบียนรวมกันอยู่ที่ 518,602 คัน


        สำหรับยอดจดทะเบียนสะสมตั้งแต่ต้นปีนี้-ตุลาคม 2552 อยู่ที่ 1,257,919 คัน ลดลง 14% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แม้สัดส่วนการเติบโตโดยรวมจะลดลง แต่เป็นการลดลงในภาวะชะลอตัว อย่างไรก็ตามจากมาตรการการส่งเสริมการอุปโภคบริโภคของภาครัฐบาลและเอกชนที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ช่วยสนับสนุนให้รถครอบครัวสุดประหยัดรุ่น "ฮอนด้าเวฟ 110 ไอ" ครองอันดับ 1

        ทางด้านรถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัวในตระกูลฮอนด้าเวฟ ที่ได้รับความนิยมตลอดกาลสูงสุด เดือนตุลาคมมียอดจดทะเบียนเป็นอันดับ 1 จำนวน 44,346 คัน โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์รุ่นฮอนด้าเวฟ 110 ไอ จำนวน 26,715 คัน, ฮอนด้าเวฟ 100 จำนวน 9,911 คัน, ฮอนด้าเวฟ 125 ไอ จำนวน 3,632 คัน และฮอนด้าเวฟซีรีส์อื่นๆ อย่าง R, S, X และ Z จำนวน 4,088 คัน

        ขณะที่กระแสรถแบบเอ.ที. รถรุ่นใหม่ "ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ" ก็กระโดดก้าวขึ้นเป็นรถรุ่นใหม่ยอดนิยมที่ไต่อันดับขึ้นชาร์ตเป็น New Entry ของเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตามด้วย "ฮอนด้า คลิก" ที่ทำยอดขายทะลุเกินล้านคันไปเมื่อไม่นานมานี้ พร้อมกับการแนะนำ "คลิก ไอ ลายใหม่" ออกมาเขย่าตลาดอย่างต่อเนื่อง


        ยอดการจดทะเบียนสะสมตั้งแต่ต้นปี-ตุลาคม รถจักรยานยนต์ประเภทครอบครัวเป็นรถยอดนิยมตลอดกาล มียอด 620,564 คัน สัดส่วนตลาด 49% โดยค่ายฮอนด้าครองตลาดถึง 84% ส่วนรถประเภทอื่นๆ มียอดการจดทะเบียนสะสมตั้งแต่ต้นปี-ตุลาคม คือ รถแบบเอ.ที. 585,659 คัน ครองตลาด 47% รถแบบครอบครัวกึ่งสปอร์ต 30,768 คัน ครองตลาด 2% รถแบบสปอร์ต 9,604 คัน ครองตลาด 1% และอื่นๆ 11,324 คัน สัดส่วนตลาด 1%

        ถ้าแบ่งเป็นยอดจดทะเบียนตามประเภทผู้ผลิต รถจักรยานยนต์ฮอนด้า 826,269 คัน เทียบเท่าอัตราครองตลาด 66% ยามาฮ่า 354,846 คัน อัตราครองตลาด 28% ซูซูกิ 53,164 คัน อัตราครองตลาด 4% คาวาซากิ 11,762 คัน อัตราครองตลาด 1% เจอาร์ดี 1,436 คัน แพลททินั่ม 856 คัน ไทเกอร์ 851 คัน และอื่นๆ 8,735 คัน




 

Create Date : 21 มกราคม 2553    
Last Update : 20 มีนาคม 2558 19:25:20 น.
Counter : 231 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

DeWalt
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add DeWalt's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.