34 เคล็ดลับในการทำขนม

Ref : //www.bkkmenu.com/tips/index.html

ขนมต่างๆ

1. บัตเตอร์มิลค์เทียม


บัตเตอร์มิลค์ (buttermilk) เป็นส่วนผสมที่มักจะใช้ในการทำขนมจำพวกเค้กทั้งหลายค่ะ จำได้ไหมคะว่าใน Recipes ก็เคยมีสูตร Best Buttermilk Pancake ด้วย คุณๆสามารถหาซื้อได้ตามซูเปอร์มาเก็ตหรือร้านขายอุปกรณ์ทำขนมใหญ่ๆ แต่ว่าถ้าใครหาซื้อไม่ได้จริงๆก็ใช้สูตรนี้แทนแล้วกันค่ะ เตรียม นมหวาน 1 ถ้วย แล้วใส ่น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ ลงไป คนให้เข้ากัน ส่วนผสมนี้สามารถนำไปใช้แทน ครีมเปรี้ยว (sour cream) หรือบัตเตอร์มิลค์ ได้ค่ะ

2. เก็บคุกกี้ให้อร่อยนาน

งานเลี้ยงปีใหม่ที่ผ่านมาคงมีหลายคนได้คุกกี้เป็นของขวัญและของฝาก ถ้าเยอะจนทานไม่หมดล่ะก็
เรามีวิธีเก็บคุกกี้มาฝากกันค่ะ

การเก็บคุกกี้ชนิดเนื้อนิ่ม
การเก็บคุกกี้เนื้อนิ่ม ควรเก็บไว้ในภาชนะที่มีฝาปิดมิดชิด เวลาเก็บก็ให้ใส่ ขนมปัง ลงไปในกล่องเก็บด้วย หนึ่งแผ่น ขนมปังจะช่วยรักษาความนิ่มของคุกกี้นี้ไว้ได้นานขึ้นค่ะ

การเก็บคุกกี้ชนิดกรอบ
ให้เก็บไว้ในกล่องปิดฝาสนิทเช่นเดียวกัน แต่ ไม่ต้องใส่ขนมปังแผ่น และถ้าเก็บคุกกี้กรอบไว้มากๆ นานๆ นั้นมีวิธีการ คือ ก่อนเก็บคุกกี้ใส่ภาชนะ จะต้องอบใหม่อีกครั้งหนึ่งใช้เวลาอบราว 4 นาที และใช้ไฟร้อน 300 องศาฟาเรนไฮท์ อย่าอบนานกว่านี้นะคะ เพราะคุกกี้จะเกรียมมากเกินไปค่ะ

3. ลูกเกดหายไปไหน ?

สำหรับคุณๆที่เป็นนักทำขนม แล้วประสบปัญหาลูกเกดที่ผสมในขนมเค้ก มักจมลงก้นถาด มีวิธีแก้ง่ายๆค่ะ ลูกเกดหรือผลไม้เชื่อมมีส่วนผสมของน้ำหวานเคลือบอยู่ ซึ่งเมื่อถูกความร้อนจทำให้ลื่นไหล จมลงก้นถาด ดังนั้นจึงต้องแก้ไขโดยการ แช่ทิ้งไว้ในน้ำร้อนแล้วรินน้ำทิ้ง ใช้ผ้าขาวบางซับให้แห้ง แล้วคลุกด้วยแป้งขนมเค้กบางๆ เท่านี้ก็ใช้ได้แล้วค่ะ

4. เคล็ดลับการละลายช็อคโกแล็ต

เมนูของหวานส่วนใหญ่จะมี ช็อคโกแล็ต เป็นส่วนประกอบ เคยพบปัญหาเวลาต้อง ละลายช็อคโกแล็ต บ้างไหมคะ ลองปฎิบัติตามคำแนะนำเล็กๆน้อยๆข้างล่างนี้อาจช่วยได้ค่ะ

1 อย่าใช้ช้อนที่ทำด้วยไม้คนช็อคโกแล็ต เพราะจะทำให้ช็อคโกแล็ตเกิดกลิ่นและชื้น
2 ระวัง อย่าให้น้ำหยด ลงไปเด็ดขาด
3 เทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้ในการวัดอุณหภูมิของช็อคโกแล็ต ต้องเป็นเทอร์โมมิเตอร์สำหรับช็อคโกแล็ตโดยเฉพาะ เพราะจะสามารถวัดความร้อนที่เปลี่ยนแปลงไปแม้เพียงเล็กน้อย ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นมากทีเดียว
4 เวลาวัดอุณหภูมิของช็อคโกแล็ต ต้อง ระวังไม่ให้เทอร์โมมิเตอร์ไปสัมผัสกับก้นภาชนะหรือหม้อ เพราะจะทำให้ผลที่ได้ออกมาคลาดเคลื่อนได้
5 วางภาชนะที่ใส่ช็อคโกแล็ตไว้บน แผ่นความร้อน เพื่อป้องกันไม่ให้ช็อคโกแล็ตเย็นเร็วจนเกินไป

5. เคล็ดลับเค้กอร่อย

จะทำขนมเค้กให้อร่อยมีเคล็ดลับที่ควรจำดังนี้ คือ ถ้าจะให้เค้กเบานิ่มให้เติมน้ำเดือด 1 ช้อนโต๊ะ ลงในส่วนผสมก่อนนำเข้าเตาอบ ใช้ น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะแทนไข่ 1 ฟอง ถ้าเค้กร่วนแตกให้ใช้กระดาษทาด้วยน้ำมันพืชรองก้นเตาอบก่อนจะนำเค้กเข้าเตาอบค่ะ

6. เคล็ดลับทำเค้กให้อร่อย

สิ่งสำคัญในการทำเค้กให้อร่อยก็คือ การตีเนยกับน้ำตาล ถ้าเนยกับน้ำตาลตีขึ้นดีจะมีลักษณะเป็นฟองนวล เวลาตีจะรู้สึกเบามือ เวลาใส่แป้งควรใช้ไม้พายคนเบาๆ แล้วคนไปในทางเดียวกันตลอดขณะที่ลงมือทำส่วนผสม ควรจะเตรียมเปิดเตาอบไว้ก่อนให้ได้อุณหภูมิตามที่ต้องการ เมื่อเทส่วนผสมลงในพิมพ์แล้วจะได้นำเข้าเตาอบทันที เพื่อขนมจะได้ขึ้น ไม่หนักหรือฟูจนล้นค่ะ



7. เคล็ดลับการทำเค้ก


มือใหม่หัดทำเค้กอ่านทางนี้ค่ะ ถ้าอยากทำเค้กให้ออกมาถูกใจทั้งคนทำและคนทาน เวลาทำเค้กก็เบาๆมือหน่อยนะคะ อย่าใส่น้ำตาลมากเกินไป เพราะจะทำให้ตีเนยไม่ขึ้น แล้ว เค้กที่ได้ก็จะเละติดมือ ไม่สุก และเนื้อเค้กแน่นหนักเกินไปด้วยค่ะ



8. อุ่นขนมปังให้กรอบนอกนุ่มใน

ทุกครั้งที่คุณอุ่นขนมปังฝรั่งเศส ให้ใช้น้ำพรมหรือลูบให้ทั่วตัวขนมปังก่อนนำเข้าเตาอบ ค่ะ เพราะจะทำให้ ขนมปังออกมาน่ารับประทานแถมยังกรอบนอกนุ่มใน อีกด้วย

9. เคล็ดลับการนึ่งขนมปุยฝ้าย

ถ้าใครอยากทำขนมที่ต้องการความฟู อย่าง ขนมปุยฝ้าย จำเคล็ดลับนี้ไว้สักนิดค่ะ คุณ ไม่ควรที่จะเปิดฝาดูบ่อยๆ เพราะจะทำให้อุณหภูมิลดลงมาก ซึ่งจะทำให้ขนมสุกช้า และเนื้อขนมยุบตัวลง ด้วยค่ะ และอีกอย่าง เมื่อขนมได้ที่แล้ว เวลาเปิดฝาหม้อ ต้องระวังน้ำหยดใส่หน้าขนม ด้วยนะคะ เพราะจะทำให้หน้าขนมบุ๋ม ไม่สวยค่ะ

10.ตรวจเค้กอย่างไรว่าสุกแล้ว

การตรวจเค้กว่าสุกหรือยังนั้น สังเกตได้จากสีของเค้ก เค้กที่สุกผิวหน้าจะเปลี่ยนจากสีเหลืองนวลเป็นสีน้ำตาล ขอบของเนื้อเค้กจะเริ่มหดตัว ถ้าทิ้งไว้ให้หดมากๆ เค้กจะแห้งเกินไป หรือ อีกวิธีนึง ใช้นิ้วมือแตะบนผิวหน้าเค้กเบาๆ ถ้าเป็นรอยบุ๋มตามนิ้วมือ แสดงว่ายังไม่สุก ถ้าปล่อยนิ้วมือแล้วเนื้อเค้กดันกลับขึ้นมา ผิวหน้าเรียบเหมือนเดิม แสดวงว่าสุกแล้ว ค่ะ


ขอขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ สิ่งที่แม่บ้านควรทราบ 2



11. กรุบกรับเฟรนช์ฟรายกรอบ


มันฝรั่งทอดชิ้นเล็กๆ ยาวๆ (French-Fried Potatoes) ทอดแล้วตักใส่ถุงกระดาษเติมเกลือป่นตามต้องการ แล้วเขย่า ถุงจะช่วยดูดน้ำมันส่วนเกิน และ ช่วยให้มันฝรั่งเคลือบเกลือได้ทั่วกัน


12. เคล็ดลับการอบขนมปัง


เมื่ออบขนมปัง ให้วางจานใส่น้ำไว้ในเตาอบ ด้วยนะคะ จะช่วยให้เปลือกขนมปังไม่แข็ง ค่ะ


13. เค้กผลไม้จะอร่อยกว่าเดิมด้วยวิธีง่ายๆ



กลเม็ดเคล็ดลับในการทำเค้กผลไม้ง่ายนิดเดียวเองค่ะ เค้กผลไม้จะอร่อยได้ เมื่อนำเค้กทั้งชิ้นออกมาจากเตา ทิ้งไว้สักครู่ให้เย็นก่อน แล้วจึงนำออกจากพิมพ์ ฉีดด้วยเหล้ารัมให้ทั่วชิ้นเค้ก ห่อเค้กด้วยกระดาษฟรอยด์ นำเข้าตู้เย็นประมาณ 3-7 วัน จึงนำมาตัดรับประทาน จะมีรสชาติอร่อยกว่าทานทันทีเมื่อสุกใหม่ๆ



14. วิธีแกะขนมเค้กจากถาดพิมพ์ขนม



ถ้าขนมเค้กจนเอาออกจากถาดพิมพ์ขนมยาก ให้ยกถาดขนมเค้กแช่ในอ่างน้ำร้อน จะทำให้ไขมันที่ติดก้นถาดละลาย และเคาะเอาขนมเค้กออกมาได้ง่าย



15. เคล็ดลับกับเค้ก



มีดที่ใช้ตัดเค้กควรแช่มีดในน้ำอุ่นก่อนตัด และล้างมีดหลังจากตัดแต่ละครั้ง จะได้เนื้อเค้กเป็นชิ้นเรียบสวย และหากไม่ใช่เนื้อเค้กแน่นและหนัก หรือมีผลไม้ในตัวเค้ก ก็ไม่จำเป็นต้องใช้มีดฟันเลื่อยก็ได้ค่ะ หากเป็นเค้กที่ทำเอง อาจเปลี่ยนจากการใส่หน้าเค้กด้วยครีม หรือผลไม้ลงไปบนตัวเค้กเลย เป็นแยกหน้าเค้กไว้เติมต่างหาก เช่น วิพครีม วานิลลาซ้อส หรือช็อคโกแลตฟัดจ์ ซึ่งการทำหน้าเค้กไว้เติมภายหลังจะทำให้ เราสามารถเก็บเค้กได้หลายวัน มากขึ้นค่ะ


16. การเลือกซื้อขนมปัง



ให้เลือกซื้อแต่ขนมปังที่เพิ่งทำเสร็จใหม่ๆ หรือสังเกตดูจากวันหมดอายุ หากรับประทานไม่หมด ให้ใส่ไว้อย่างเดิมและ ปิดปากถุงให้เรียบร้อย แล้วเก็บไว้ในช่องแช่แข็งจะได้ไม่ขึ้นรา เมื่อต้องการรับประทานก็ให้เอาออกมาจากตู้เย็น ทิ้งไว้ให้น้ำแข็งละลายหรือนำไปอุ่นในไมโครเวฟ แค่นี้ขนมปังของคุณก็จะยังคงความนุ่มสดใหม่อยู่เสมอ



17. เก็บขนมปังในตู้เย็นทำให้ใหม่



ขนมปังที่เอาออกจากห่อแล้ว เมื่อทิ้งไว้นานมักจะแห้งแข็ง ถ้าจะให้ขนมปังใหม่ ควรนำขนมปังใส่ไว้ในตู้เย็นช่องน้ำแข็งทำอย่างนี้ขนมปังอาจจะแข็ง เมื่อจะกินก็เอามาปิ้งในเตาปิ้ง ขนมปังก็จะนุ่มเหมือนเดิม

--------------------------------------------------------------------------
แป้งและเครื่องปรุงต่างๆ

18 แป้งข้าวโพดปราบแมลงสาบ


มีวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยกำจัดเจ้าแมลงสาบตัวร้าย ด้วยการใช้แป้งข้าวโพดหรือ ข้าวโอ๊ต ผสมปูนปลาสเตอร์ ในอัตราส่วนเท่าๆกัน โรยบริเวณที่แมลงสาบชอบมากวน เมื่อแมลงสาบกินเข้าไป ปูนปลาสเตอร์จะแข็งตัว แมลงสาบก็จะสูญสิ้นไปค่ะ

19 ทำเนยแข็งๆ ให้อ่อนนุ่มลง


เนยแข็งที่เก็บไว้ในตู้เย็นจนแข็ง มีวิธีแก้ปัญหาง่ายๆโดยการ หาชามมาหนึ่งใบเอาขนาดที่ครอบเนยแข็งก้อนที่จะใช้ จากนั้นเทน้ำเดือดลงในชามแล้วเทน้ำร้อนออก เอาชามร้อนๆใบนั้นไปครอบเนยแข็งไว้สักครู่ ก็จะช่วยให้เนยแข็งอ่อนนุ่มลงได้

ปล. เราเอาไปเป่าพัดลมให้นิ่มค่ะ ง่ายดี

20 น้ำตาลทรายแดงเป็นก้อน


ถ้าต้องการรีบทำขนม แต่น้ำตาลทรายแดงที่จะนำมาทำติดกันเป็นก้อนแข็ง ให้ใช้ที่ขูด ขูดอย่างรวดเร็ว น้ำตาลทรายแดงจะล่อน นำมาทำขนมได้ในเวลาที่ต้องการค่ะ


21 เก็บเนยแข็งไม่ให้ขึ้นรา


การที่จะเก็บเนยแข็งไม่ให้ขึ้นรานั้น มีเคล็ดลับอยู่นิดนึงค่ะ เพียงใส่น้ำตาล 1 ก้อน ในกล่องเก็บเนยแข็งแล้วปิดฝาให้แน่น แค่นี้ก็จะ ไม่ทำให้เกิดเชื้อรา ค่ะ

22 วิธีเก็บน้ำผึ้ง


หากต้องการจะเก็บรักษา น้ำผึ้ง ให้มีกลิ่นหอมหวานและคงไว้ซึ่งสรรพคุณตามธรรมชาติ ก็ให้เอาน้ำผึ้ง ใส่ขวดหรือกระปุกพลาสติกแช่เย็นในช่องแช่แข็ง จะเก็บได้นานเป็นปีๆ และมื่อจะใช้ก็ปล่อยให้ละลายในอุณหภูมิปกติค่ะ


23 เบคกิ้งโซดาไล่มด


บ้านที่ประสบปัญหาที่เจ้ามดจอมยุ่ง มาสร้างความเดือดร้อนให้เป็นประจำโดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องครัว ลองใช้ เบคกิ้งโซดาแทนชอล์กไล่มดโดยให้คุณโรยไปตามเส้นทางเดินของมด ที่บัวพื้นใกล้กับผนัง หรือประตูทางเข้าบ้านจะช่วยป้องกันมดได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายเลยค่ะ

24 ทดสอบน้ำผึ้งแท้


จะรู้ได้อย่างไรว่า น้ำผึ้ง ที่ซื้อมาเป็นน้ำผึ้งแท้หรือไม่ทำได้ไม่ยาก ให้คุณทดสอบโดยการ เทน้ำผึ้งประมาณ 1 ช้อนชา ลงในน้ำอุ่น เมื่อละลายดีแล้วให้สังเกตุดูว่าน้ำผึ้งนั้นเกิดการเปลี่ยนสีหรือไม่ หากเป็นน้ำผึ้งแท้ก็จะไม่เปลี่ยนสีค่ะ

25 เก็บแป้งทำขนมให้ใช้สะดวก


แป้งทำขนมหรือเค้ก นั้นมักจะบรรจุมาในถุงพลาสติกธรรมดาแล้วใส่ในกล่องกระดาษอีกชั้นหนึ่ง หากคุณนำมาใช้แล้ว เพื่อความสะดวกในการใช้ครั้งต่อไปให้ เทแป้งที่เหลือมาใส่ไว้ในถุงพลาสติกที่มีปากรูดเพื่อป้องกันอากาศเข้า นอกจากช่วยรักษาแป้งให้ใช้ได้นานแล้ว ยังไม่ทำให้แป้งหกเลอะเทอะด้วย

26 มาตวงเนยกันถอะ


คนที่ทำอาหารด้วยเนยเป็นประจำ บางครั้งอาจสับสนกับการชั่งหรือตวงเนย เพราะบางครั้งแต่ละสูตรก็ใช้มาตราในการชั่งหรือตวงต่างกัน ดังนั้นให้ควงง่ายๆ ตามนี้ค่ะ เนยหรือมาการีนที่มี น้ำหนัก 4 ออนซ์ จะเท่ากับ 1/2 ถ้วย ส่วน เนยหรือมาการีนครึ่งก้อน จะเท่ากับ 1/4 ถ้วย ซึ่งจะหนักประมาณ 50 กรัมค่ะ ฟังดูงงๆแต่ก็ไม่ยากเกินไปใช่ไหมคะ

27 โซดาทำอาหารเก่าหรือยัง?


โซดาทำอาหารที่ซื้อมานานแล้ว มันเก่าแค่ไหน? ทดสอบได้ค่ะ เทน้ำส้มสายชูหรือน้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา ลงบนโซดาทำอาหาร ถ้าไม่เกิดฟอง ขึ้นมาแสดงว่าโซดาทำอาหารนั้นเก่าเก็บเกินไปแล้ว ไม่ควรนำมาใช้ทำอาหาร ค่ะ แต่อย่าเพิ่งโยนทิ้งไปซะนะคะเปิดฝากล่องทิ้งเอาไว้แล้วนำไปวางไว้ในตู้เย็นจะสามารถ ดูดกลิ่นอาหารที่ไม่ปรารถนา ในตู้เย็นได้ค่ะ

28 ใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลได้รึเปล่า?


ใช้น้ำผึ้งทำอาหารแทนน้ำตาลในขนมอบได้ค่ะ ให้ใช้ น้ำผึ้ง 1 ถ้วยแทนน้ำตาล 1 ถ้วย โดยลดส่วนผสมที่เป็นของเหลวในเมนูนั้นลง 1/4 ต่อน้ำผึ้ง 1 ถ้วย ทีใส่ลงไป หรือถ้าจะให้ง่ายขึ้นแทนที่จะลดส่วนผสมอย่างที่บอกข้างต้นก็ให้ใส่ โซดาทำขนม ลงไปแทน โดยใส่เพิ่ม 1/2 ช้อนชาต่อน้ำผึ้ง 1 ถ้วย และอย่าลืมลดอุณหภูมิในการอบลงด้วย เพราะขนมที่ทำจากนำผึ้งจะ เกรียมได้ง่ายกว่าขนมทั่วไป


29 น้ำผึ้งหนืดๆ


เคยไหมคะ? เวลาเอาน้ำผึ้ง ไปแช่ตูเย็นไว้นานๆ มันจะเหนียวหนืดเหลือเกิน วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้เทนำผึ้งได้ง่ายขึ้น คือ นำขวดน้ำผึ้งใส่ไว้ในหม้อที่มีน้ำอยู่พอประมาณแล้วนำไปตั้งไฟ จากนั้นก็ให้ใช้พายพลาสติกค่อยๆ ตักออกมา ส่วนภาชนะที่จะใช้ในการผสมน้ำผึ้งก็ให้ ทาน้ำมันไว้บางๆ จะช่วยให้ผสมได้ง่ายขึ้นค่ะ

30 เบคกิ้งโซดารักษาท่อตัน


ให้เตรียม เบคกิ้งโซดา 1/4 ถ้วยและน้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย ค่อยๆเทเบคกิ้งโซดาลงไปก่อนแล้วตามด้วยน้ำส้มสายชู ปิดฝาท่อไว้จนกว่าฟองปุดๆจะหายไป จากนั้นจึง เทน้ำร้อนลงไปประมาณ 1 ถัง เฮ้อ ..เท่านี้ก็เรียบร้อย

31 น้ำมันถั่วเหลืองที่ดีพิสูจน์ได้


น้ำมันถั่วเหลืองที่ดีต้องดูใสสะอาด คว่ำแล้วต้องไม่มีตะกอนค่ะ ทดสอบได้โดยเอาไปแช่ใน ตู้เย็นช่องธรรมดา ไม่ใช่ช่องแข็งนะคะ ทิ้งไว้ 4 - 5 ชั่วโมง ถ้า ไม่เป็นไขและไม่ขุ่น ก็แสดงว่าใช้ได้ค่ะ

32 เมื่อต้องทอดด้วยเนย


การทอดแพนเค้ก เครป ขนมปังชุบไข่ หรืออาหารคาวที่ต้องการใช้เนยแทนน้ำมันให้ใช้ Clarified Butter ซึ่งได้จากการนำเนยตั้งไฟร้อนปานกลางให้เนยละลายให้หมด จนได้ ส่วนใสที่มีลักษณะเป็นน้ำมัน ให้ใช้เฉพาะส่วนนี้นะคะ หรือถ้าต้องการสะดวกมากขึ้น จะนำเนยเข้าไปละลายในเตาไมโครเวฟก็ได้ค่ะ

33 กะทิไม่มีวันบูด


ก่อนที่จะคั้นกะทิ ให้นำมะพร้าวที่ขูดแล้วนั้น มานึ่งให้อุ่น
ซะก่อน แล้วจึงนำมาคั้นด้วยน้ำอุ่น หรือเมื่อคั้นเสร็จแล้วให้นำน้ำกะทิที่ได้มาตั้งไฟให้ร้อน
เสียก่อน จึงนำไปทำขนมค่ะ

34 ตัดเนยให้ขาด

เวลาที่จะต้องใช้เนยแข็งแล้วตัดยากมาก เคล็ดลับง่ายๆ ถ้าอยากจะตัดเนยแข็งให้ขาดได้ดั่งใจ แค่เพียงเอามีด ไปจุ่มลงในน้ำร้อน พอมีดร้อน แล้วลองนำมาตัดดู และจะรู้ว่าตัดได้สบาย เหมือนตัดเนยเหลวเลยค่ะ







Create Date : 31 มกราคม 2551
Last Update : 23 กันยายน 2551 11:37:47 น. 12 comments
Counter : 22643 Pageviews.  

 


โดย: โสมรัศมี วันที่: 31 มกราคม 2551 เวลา:18:16:35 น.  

 
อ่านเพลินเลย ได้ความรู้ดีค่ะ


โดย: น้านก IP: 66.245.193.59 วันที่: 31 มกราคม 2551 เวลา:18:28:28 น.  

 
ขอเซฟเก็บไว้นะคะ


โดย: เอ๊กกี่ วันที่: 31 มกราคม 2551 เวลา:19:36:28 น.  

 
มาอ่านเคร็ดลับในการทำขนมค่ะ


โดย: whitelady วันที่: 31 มกราคม 2551 เวลา:21:38:56 น.  

 
ได้ความรู้มากกก.... ขอเก็บเป็นข้อมูลเวลาทำขนมนะคะ
มือใหม่หัดทำค่ะ ขอบคุณมากๆ


โดย: เรไร IP: 58.8.180.153 วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:14:54:32 น.  

 
สุดยอดเลยคะ


โดย: ployzZZZa IP: 202.149.25.197 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:16:02 น.  

 
ช่วยส่งสูตรการทำของหวานแบบไทยๆหน่อยได้ไหมค่ะ จะขอบคุณเป็นอย่างยิ่งเลย เพราะตอนนี้กำงลังตกงานอยู่พอดี เลยต้องการหารายได้ค่ะ


โดย: toleh@sanook.com IP: 114.128.73.79 วันที่: 11 มีนาคม 2552 เวลา:18:45:29 น.  

 
ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับต่างๆค่ะ


โดย: ฮา..มวย IP: 203.150.234.153 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:23:51 น.  

 
ขอบคุณมากกกกกที่แบ่งปันความรู้ จะลองนำไปใช้ดู ขอให้มีความสุขยิ่งๆขึ้นไปนะคะ


โดย: น้อยหน่อย IP: 125.24.70.210 วันที่: 10 กันยายน 2554 เวลา:6:24:34 น.  

 
ขอบคุณสำหรับ Tips ค่ะ


โดย: Joy IP: 202.122.130.31 วันที่: 6 พฤศจิกายน 2555 เวลา:11:20:13 น.  

 
ทำอย่างไรให้ฐานรองขนมจ่ามงกุฎไม่หนืดและชื้น


โดย: เพชรรัตน์ IP: 27.55.25.124 วันที่: 7 กรกฎาคม 2558 เวลา:12:22:50 น.  

 
ขอบคุณมากๆๆเลยคะ ข้อมูลมีประโยชน์มากๆๆๆ


โดย: เอ IP: 192.95.30.51 วันที่: 25 พฤษภาคม 2559 เวลา:19:44:09 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Blog_angel
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 143 คน [?]




ขอบคุณค่ะ ที่มาเยี่ยมชม หวังว่าจะเขียนสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประสบการณ์ที่มีนะคะ
[Add Blog_angel's blog to your web]