Healthy&Delicious : Smart Shopping for long weekend and every other day (1): เนื้อสัตว์




สงกรานต์ดูแลบ้านคนเดียว
ต้องจัดการหาของกินSmileyให้สามหนุ่ม กับคุณยาย ซึ่งหนุ่มๆจะต้องมีเนื้อสัตว์
กับผักสดไว้ให้ ส่วนคุณยายก็ไม่ทานของเผ็ด และของแข็ง (เลยชอบพิซซ่า กับ แม็คฟิชเป็นพิเศษ
แต่มันไม่ดีกับน้ำหนัก ระดับน้ำตาล
และระดับไขมันอย่างแรงเลยเจ้าค่ะ
-_-“ ) วันอาทิตย์พอรู้ตัวว่าตู้เย็นที่บ้านไม่มีของกิน
เลยชวนน้องชายไปซื้อของสดที่ซุปเปอร์ฯ เน้นเนื้อสัตว์ กับผักที่เก็บไว้ได้นาน
ของที่ขาดไม่ได้ เวลาอยากจะทำอะไรที่เก็บไว้ได้หลายวันก็คือสะโพกหมู และข่า
เอามาทำหมูเค็มสูตรคุณป้าใหญ่ ซึ่งจะคล้ายๆกับหมูทอดเจียงฮายที่ขายตามแหล่งออฟฟิส
แต่จะไม่ใส่น้ำมันเลย ซึ่งเมนูนี้ เด็กที่บ้านถูกคุณป้าใหญ่บินมาสอนจนช่ำชอง
เราไม่ต้องเข้าไปจัดการ



ของอีกอย่างที่ซื้อประจำคือน่องไก่ติดสะโพก
ปกติจะเป็นคนชอบกินสะโพกไก่ เพราะเป็นเนื้อสีแดงที่นำมาทำอาหารได้หลายอย่าง
และไม่ต้องระมัดระวังในการทำ ไม่เหมือนอกไก่ที่เป็นเนื้อขาว ถ้าใช้ไฟแรงไป
หรืออยู่บนเตานานไปก็จะแข็งเหนียวแห้ง ส่วนตัวน่องก็เนื้อเหนียวอร่อย
แต่ก่อนไม่เคยซื้อน่องไก่เท่าไหร่ แต่มีครั้งนึง ซื้อน่องไก่แช่แข็งหนึ่งแพ็คมาไว้
เด็กที่บ้านชอบมาก กินไม่กี่วันก็หมด ก็เลยซื้อมาให้เค้ากินเป็นประจำ
ที่บ้านจะไม่หวงเรื่องกิน เพราะเค้าวันๆไม่ได้ออกไปเที่ยวไหน
เห็นอะไรน่ากินก็เลยจะซื้อมาฝาก



ตอนหลังเมื่อดูรายการทีวีเกี่ยวกับทำอาหารหลายรายการ
เช่น
Good Eats ของ Alton Brown และ
River Cottage ของ Hugh Fearnley-Whittingstall
ซึ่งพูดไปทำนองเดียวกันว่า การซื้อเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ๆมาหั่นเองก็ไม่ยาก
และโดยรวมแล้วราคาถูกกว่า ตอนแรกเราก็ค่อนข้าง
skeptical ว่าในอเมริกาหรืออังกฤษ
อาจจะเป็นจริงเพราะค่าแรงแพง แต่ในเมืองไทย มันไม่น่าเป็นไปได้
จากนั้นมาก็เริ่มสังเกตราคาของเนื้อสัตว์ จากประสบการณ์ของตัวเอง
เท่าที่สังเกตจากห้างที่ไป คือแม็คโคร โลตัส บิ๊กซี และท็อปส์
รู้สึกว่าถ้าเป็นราคาเนื้อหมู จะไม่ค่อยต่างกัน อาจจะต่างกันซักกิโลละบาท เห็นว่าเงินอาจจะน้อย
แต่ในภาวะดอกเบี้ยตกต่ำแบบนี้ รับรองว่าคุ้ม อาจจะมีคนถามว่าคุ้มยังไง
ก็จะขอใช้วิญญาณสาวแบงค์เก่า คำนวนออกมาได้ดังนี้



เนื้อหมูสด 110 บาท หากซื้อชิ้นใหญ่
จะประหยัดไป 1 บาท สมมติว่าอยู่คนเดียว เนื้อหมู 1 กิโลสามารถกินได้ 1 เดือน
จะคำนวนเป็นผลตอบแทนได้ดังนี้ (1/110)*100*12 เดือน
= Smiley11% !!!!!! เอาไปลงทุนอะไรถึงได้ผลตอบแทนเท่านี้ไม่มีอีกแล้วนะคะคุณแม่บ้าน
^-^



อย่างที่บอกว่า ราคาเนื้อหมูอาจไม่แน่นอน
บางทีก็ราคาเท่ากัน ดังนั้น เวลาไปเดินตลาด ก็คงต้องสังเกตเป็นคราวๆไป (ไม่แนะนำให้ตระเวณตรวจราคาหลายๆที่
เพราะเปลืองน้ำมัน
^-^ ) แต่ของที่ยังไงก็ราคาถูกกว่าแน่ๆก็คือเนื้อน่องติดสะโพก
แต่ก่อนตอนที่สังเกตแรกๆ ดูราคาไม่ต่างมาก แต่เดี๋ยวนี้
ราคาต่างกันอย่างเห็นได้ชัด อย่างวันก่อนที่ไปโลตัสมา ราคาเนื้อน่อง 7
x
บาท ราคาเนื้อสะโพก 56 บาท แต่ราคาเนื้อน่องติดสะโพก 52 บาท อย่างนี้
ถูกกว่ากันชัดเจน หากไปที่แม็คโคร จะพบว่า ราคาเนื้อสะโพก
กับน่องติดสะโพกจะเท่ากัน แต่เนื้อน่องจะแพงกว่า อย่างนี้
ยังไงซื้อเนื้อน่องติดสะโพกก็คุ้มกว่าอยู่ดี เวลานำกลับมาบ้าน ก็แค่เอามีดหั่นแยกจากกัน
แล้วก็แช่แข็งแยกกันเท่านั้น



เหลือบไปมองฝั่งอาหารแช่แข็งกันบ้าง
เนื้อสัตว์แช่แข็งเองก็มักจะถูกกว่าเนื้อสด
แล้วถ้าหากบ้านไหนที่ซื้อเนื้อสัตว์มาเยอะๆแล้วแบ่งแช่เข็งไว้อย่างบ้านเรา
เราก็ขอแนะนำให้ซื้อเนื้อสัตว์แช่แข็งโดยตรงจะดีกว่า เพราะการแช่มาจากโรงงานจะมีกระบวนการที่ดีกว่า
ทำให้เซลล์ของเนื้อสัตว์ไม่ถูกผลึกน้ำแข็งทำลายมากเท่ากับการแช่แข็งด้วยตู้เย็นที่บ้าน
ในเมืองไทย ห้างที่เนื้อสัตว์แช่แข็งก็คงมีแต่แม็คโคร และจากที่เราสังเกต
ราคามักจะเท่ากัน บางทีแพงกว่า บางทีถูกกว่าเนื้อสด ถ้าราคาเท่ากันหรือถูกกว่า
เราก็ซื้อเนื้อแช่แข็งจะดีกว่า มุขนี้ จะใช้ได้ดีถ้าอยู่ต่างประเทศ
ตอนที่อยู่อังกฤษ พวกเนื้อแช่แข็งจะราคาต่างกับเนื้อสดอย่างเห็นได้ชัด
อย่างที่ซื้อประจำก็คงเป็น
T-bone ของแกะแช่แข็ง ถ้าจะไม่ผิดน่าจะถุงละ 1
กิโล ประมาณ 2-3 ปอนด์ แต่ถ้าไปซื้อสดๆ มันน่าจะเกิน 5 ปอนด์อยู่แล้ว



สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการเก็บและการใช้เนื้อสัตว์
เมื่อกลับมาจากตลาด เราก็จะนำเนื้อต่างๆมาแบ่งใส่กล่องพลาสติก
เล็กใหญ่ตามปริมาณการใช้ แล้วค่อยแช่ช่องแข็ง อย่างเนื้อหมูก้อน
ถ้าเป็นสันนอกที่มักซื้อมาตุนไว้เวลาผัดข้าวผัดหรือผัดผัก ก็จะหั่นเป็นก้อน ประมาณ
100 กรัม (ประมาณ 2นิ้ว
x 1.5นิ้ว x 1.5นิ้ว)
แต่อย่างเนื้อสะโพกที่เอามาทำหมูเค็ม เวลาทำครั้งนึงก็หนึ่งกิโล อย่างนี้ก็ไม่ต้องหั่น
ถ้าจะหั่นก็หั่นเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ เอาไว้เตรียมหมักไปเลย
อย่างนี้ก็จะดีตรงที่เวลาแช่แข็ง สามารถใส่ถุงพลาสติกแล้วแผ่ให้บางหน่อย
จะแข็งเร็ว เวลาละลายก็ละลายได้เร็วกว่าเป็นก้อนโตๆ เนื้อไก่น่องติดสะโพกก็เช่นกัน
ก็หั่นน่องกับสะโพกแยกกันก่อนค่อยแช่แข็ง
เวลาแช่ก็พยายามจับชิ้นแต่ละชิ้นให้ห่างๆกัน อย่าให้เป็นก้อน
ทำอย่างนี้เวลาละลายน้ำแข็งจะทำได้ง่ายกว่า



เมื่อเวลาจะใช้ วิธีที่ดีที่สุดคือการนำออกจากช่องแข็งมาไว้ในช่องธรรมดาข้ามคืน
จะสังเกตว่าหน้าตาเนื้อสัตว์
จะดูดีกว่านำจากช่องแข็งแล้วออกมาวางไว้ในอุณหภูมิห้อง หรือนำไปแช่น้ำ



เอ้า!
มาสรุปกันอีกรอบ ว่าเวลาซื้อเนื้อสัตว์ ให้สังเกตดังนี้ 1.
เนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ที่ต้องมาแล่เอง ถูกกว่าเนื้อที่เค้าแล่มาให้แล้วหรือไม่ 2.
ไม่ได้แนะนำให้ต้องตระเวณไปหลายที่ก่อนซื้อ เพราะเปลืองน้ำมัน
ไปที่ไหนก็ซื้อที่นั่นแหละค่ะ 3. สังเกตราคาของเนื้อสัตว์แช่แข็งด้วยเพราะบางครั้งจะถูกกว่าเนื้อสด



หวังว่าเพื่อนๆจะได้ไอเดียในการช้อปปิ้งของเข้าบ้านกันบ้างนะคะ
คราวหน้าจะมาคุยกันต่อเรื่องผักและขนมปังนะคะSmiley




Create Date : 15 เมษายน 2553
Last Update : 15 เมษายน 2553 14:05:55 น. 2 comments
Counter : 1258 Pageviews.

 


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:14:43:03 น.  

 
ตมมาดูค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ ที่ให้ความรู้ ในการซื้อเนื้อค่ะ สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ




โดย: ชีวิตยังมีพรุ่งนี้เสมอ วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:16:25:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 
 

booklovers
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add booklovers's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com