มายก๊อด...สำรวจมารยาทชาวโลก คนเอเชียได้คะแนนต่ำสุด
หนังสือชื่อดัง "รีดเดอร์ส ไดเจสท์" ออกสำรวจ 35 ประเทศทั่วโลก เพื่อดูว่าคนทั่วโลกมีมารยาทแค่ไหน ผลการสำรวจพบว่าส่วนใหญ่ยังคงมีมารยาทและน้ำใจในเกณฑ์ที่น่าพอใจ
แม้ว่าเอเชียจะเป็นภูมิภาคที่ได้คะแนนต่ำที่สุด โดยกรุงเทพฯ ได้คะแนนรวมจากการทดสอบอยู่ที่ร้อยละ 45 เป็นอันดับ 25 จาก 35 ประเทศ
การสำรวจนี้ทีมงานหนังสือรีดเดอร์ส ไดเจสท์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวไปกับประชาชน เพื่อประเมินความเป็นสุภาพชนของผู้คนในมหานครของประเทศนั้นๆ ด้วยการทดสอบ 3 ข้อ โดยเดินตามผู้คนเข้าประตูอาคารเพื่อดูว่าพวกเขารั้งประตูไว้ให้คนข้างหลังหรือไม่ ซื้อของจากร้านค้า และบันทึกว่าคนขายกล่าวคำ "ขอบคุณ" หรือไม่ และแกล้งทำแฟ้มเอกสารหนาเตอะหล่นในละแวกที่ผู้คนพลุกพล่าน เพื่อดูว่ามีใครช่วยเก็บเอกสารหรือไม่ จากนั้นให้คะแนนสำหรับการตอบรับในแง่บวก บันทึกคะแนน และเปรียบเทียบผลในแต่ละเมือง
รีดเดอร์ ไดเจสท์ อ้างว่าการสำรวจครั้งนี้เป็นการสำรวจระดับโลกครั้งใหญ่ที่สุดในช่วง 84 ปี ของการดำเนินงานของนิตยสารรีดเดอร์ส ไดเจสท์ โดยผลการสำรวจจะตีพิมพ์ในนิตยสารรีดเดอร์ส ไดเจสท์ ฉบับเดือนกรกฎาคมนี้พร้อมกันทั่วโลก โดยทางหนังสือดังกล่าวแจ้งว่าการทดสอบนี้ไม่ได้มุ่งสำรวจตามหลักวิทยาศาสตร์ แต่ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้คนในมหานครของแต่ละประเทศที่ทำการสำรวจได้อย่างน่าสนใจ
เกียรติสุดา สุริยยศ บรรณาธิการบริหารนิตยสารรีดเดอร์ส ไดเจสท์ สรรสาระ กล่าวว่า การสำรวจนี้เป็นการทดสอบมารยาททั่วๆ ไปในชีวิตจริงครั้งใหญ่ระดับโลก ซึ่งทีมสำรวจของเราทดสอบพฤติกรรมของบุคคลตามความเป็นจริงรวมกว่า 2,000 ครั้ง ซึ่งผลสำรวจเป็นภาพสะท้อนหนึ่งของการใช้ชีวิตร่วมกันของคนในสังคมที่จะนำไปสู่การจุดประกายความคิดได้มากมาย
ในเอเชีย 8 ใน 9 เมืองรั้งอันดับความเป็นสุภาพชน 11 ประเทศสุดท้าย ทุกเมืองยกเว้นฮ่องกงอยู่ใน 10 อันดับท้ายตารางสำหรับการรั้งประตูให้คนข้างหลัง และไม่มีเมืองใดเลยที่ได้คะแนนมากกว่าร้อยละ 40 ชาวเอเชียหลายคนไม่ได้รวมการเปิดประตูค้างไว้เป็นหลักมารยาท หญิงวัยรุ่นเดินเข้าห้างสรรพสินค้าที่พลุกพล่านแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ และปล่อยมือจากประตู เหวี่ยงโดยไม่หันมองด้านหลัง "ฉันไม่เคยเหลียวมองแล้วจับประตูให้คนที่เดินตามข้างหลังมาก่อนเลย ไม่ค่อยคุ้นว่าควรทำแบบนี้" เธอกล่าวกับทีมสำรวจของเรา
ส่วนที่กรุงมอสโกของรัสเซีย และบูคาเรสต์ของโรมาเนียรั้งอันดับท้ายตารางของสุภาพชนในยุโรป เมื่อสตรีคนหนึ่งไม่ผ่านการทดสอบเรื่องการรั้งประตูในอาคารแห่งหนึ่ง เธอตวาดกลับว่า "ฉันไม่ใช่พนักงานเปิดประตูนะ ไม่ใช่หน้าที่ของฉันสักหน่อย ถ้าใครเจ็บตัวล่ะก็แสดงว่าเขาควรก้าวเท้าให้ไวขึ้น"
ชาวนิวยอร์กติดอันดับ 1 ใน 5 ของแบบทดสอบทั้ง 3 ข้อ ตามด้วยกรุงซูริกของสวิตเซอร์แลนด์ (อันดับ 2) เมืองโตรอนโตของแคนาดา (อันดับ 3) เบอร์ลินของเยอรมนี ซาเกร็บของโครเอเชีย และบราซิเลียของบราซิล (อันดับ 4 เท่ากัน) ชาวเมืองซาเกร็บเป็นแชมป์ของการช่วยเก็บเอกสาร ชายคนหนึ่งก้มลงเก็บเอกสารให้ทีมงาน แม้เขาจะมีปัญหาไขข้ออักเสบและปวดหลังก็ตาม "ผมช่วยคนที่กำลังเดือดร้อนเสมอ" เขากล่าว
พนักงานโดยเฉพาะในกรุงซูริกและสตอกโฮล์มของสวีเดนมีความเป็นสุภาพชนมาก พนักงานขายในทุกร้านที่เราเข้าไป กล่าวขอบคุณเมื่อเราซื้อสินค้า ในเซาเปาโลแม้แต่คนทำผิดกฎหมายก็ยังมีมารยาท ระหว่างที่เราซื้อแว่นกันแดดราคาถูกจากพ่อค้าที่ตลาดขายสินค้าเลียนแบบแห่งหนึ่ง มีเสียงตะโกนเตือนว่าตำรวจกำลังมา พ่อค้าคนนั้นเก็บข้าวของเพื่อหนีตำรวจ แต่ก็ไม่ลืมขอบคุณสำหรับเงินค่าสินค้า 2 เหรียญฯ ของเรา ความเป็นสุภาพชนเฉลี่ยร้อยละ 55 และในบางเมืองก็ได้คะแนนสูงกว่านี้มาก ถ้ามารยาททั่วไปเป็นน้ำมันหล่อเลี้ยงสังคม ถ้าเช่นนั้นการตรวจวัดระดับมารยาททั่วโลกนี้ก็ชี้ให้เห็นว่าพื้นที่ส่วนใหญ่มีน้ำมันหล่อเลี้ยงจำนวนมาก แต่บางเมืองอาจต้องเติมให้เต็ม.
ข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ |
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2549 |
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2552 10:46:20 น. |
|
1 comments
|
Counter : 404 Pageviews. |
|
|
|
โดย: hayashimali วันที่: 3 ธันวาคม 2549 เวลา:1:12:00 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|