|
พฤกษาสวาท : โศกนาฏกรรมบนความสัมพันธ์
หนมปังไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือนิยายไทย นอกจากเป็นโอกาสพิเศษจริงๆ หรือบางช่วงที่ความเบื่อละครพีคถึงขีดสุด อยากเสพความน้ำเน่าแบบโลดแล่นในจินตนาการแทน
แต่คราวนี้ไม่เหมือนกัน
หนมปังรู้ข่าวว่า คุณฉัตรชัย เปล่งพานิช (ดาราคนโปรด)รับเล่นละครเรื่อง พฤกษาสวาท (ชื่อเรื่องนี่) เอ๋! ชื่อเรื่องคุ้นๆ พอลองนึกย้อนไปตอนเด็กๆเคยดูสองสามตอนนี่นา ตอนนั้นคุณนพพล โกมารชุน(ดาราคนโปรดอีกคน)เป็นพระเอก แสดงดีมาก นางเอกหน้าเศร้าจำชื่อไม่ได้แล้ว เนื้อเรื่องก็สนุกใช้ได้นี่นะ
หนมปังค้นๆต่อไปก็พบว่าเป็นบทประพันธ์ของ กฤษณา อโศกสิน อืมมมม น่าสน
เย็นแก่ๆวันหนึ่งไม่นานมานี้ หนมปังเลยกำตังสองร้อยไปที่ร้านหนังสือใกล้บ้าน ตัดสินใจในวินาทีสุดท้ายอยู่นานเหมือนกัน ก่อนจะจ่ายตังซื้อไป
พอถึงบ้านก็เริ่มแกะพลาสติกเปิดอ่าน
อ่านจบแย้ว จะเล่าล่ะนะ
เปิดมาบทแรกหนมปังก็มึนซะละ เค้าเล่นบรรยายว่าพระเอกตัวสั้นเตี้ย จมูกโต ปากหนา เข้าขั้นขี้ริ้วขี้เหร่ทีเดียว
มันตรงกับพี่นกหรือพี่ตู่ตรงไหนฟะ(ยิ่งพี่ตู่ออกจะสลิม)
ยิ่งอ่านๆไปยิ่งรังเกียจตัวละครตัวนี้เกินกว่าจะรับได้ว่าเป็นพระเอก แถมกับนางเอกน่ารักใสซื่ออย่างนี้ด้วยแล้ว โอ้ย! มันไม่ได้ดั่งใจจริงๆ
พออ่านไปกลางเรื่องก็ค้นพบสัจธรรม (เพราะเพิ่งมาอ่านคำนำตอนนั้น)
ข้อหนึ่ง นี่ไม่ใช่นิยายรักข้ามรุ่นจี๋จ๋าหวานจ๋อย นี่คือโศกนาฏกรรมของเด็กสาวคนหนึ่งที่ไม่มีโอกาสเรียน ไม่มีโอกาสได้เล่นสนุกกับเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน ไม่มีโอกาสได้อยู่กับคนที่ตัวเองรัก
ในหนังสือเปรียบเธอเป็นต้นไม้ที่พระเอกปลูก และหวังจะได้กินผล แต่เธอไม่ใช่ต้นไม้ที่ถ฿กพรวนด้วยความรัก แต่ถูกพรวนด้วยความลุ่มหลงมัวเมาของผู้ชายคนหนึ่ง และนั่นคือที่มาของชื่อเรื่อง
เข้าใจว่าคุณกฤษณา อโศกสิน ตั้งใจให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์กับเด็กสาวที่ชิงสุกก่อนห่าม หรือเอาตัวเข้าแลกเงินตามสมัยนิยมโดยไม่คำนึงถึงผลตามมา เพราะฉากเข้าพระเข้านาง ทำเอาหนมปังกินข้าวไม่ลงเลย
ข้อสอง เรื่องนี้ไม่มีพระเอก ที่อยู่กับนางเอกตอนท้ายนั้นเราอาจจะเรียกว่าพระเอก แต่เมื่อหนมปังทบทวนสิ่งที่เขาทำมาทั้งหมดแล้ว ตาลุงนี่ไม่สมควรถูกเรียกว่าพระเอกอย่างยิ่ง เป็นตัวร้ายที่น่ายิงทิ้งซะมากกว่า เพราะเฝ้าพูดถึงแต่ผลประโยชน์ตัวเองฝ่ายเดียวทั้งเรื่อง กรอกหูนางเอกว่าเค้าเป็นคนเลี้ยง เค้าทุ่มกายทุ่มใจเลี้ยงมา เค้าจึงสมควรได้รับการตอบแทน
แมนนนนน! จนจบเรื่องมันยังไม่สำนึก
ดูๆไปตาลุงนี่น่าจะเป็นตัวแทนของความมัวเมาได้อย่างดี ไม่มองซ้ายขวา ไม่ลืมหูลืมตา ไม่คิดถึงเหตุถึงผล ตะบี้ตะบันจะเอาชนะท่าเดียว คิดอย่างเดียวว่านี่ของช้านนะเฟ้ย น่านแหละ ค.รัก(รึป่าว)ทำให้คนตาบอด
นางเอกในเรื่องก็หัวอ่อนจนไม่สามารถชักจูงใครได้สักคน ไม่สามารถให้เหตุผลที่หนักแน่นกับใครได้สักคน พูดกันตามตรงว่าเธอเองก็มีส่วนทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหมือนกัน เพราะความประมาท และการมองปัญหาและคนไม่ทะลุ
สุดท้ายเจ้าหล่อนจึงต้องมีความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เย็นชาตลอดชีวิต เพราะลูกที่เป็นเหมือนห่วงผูกคอ
เรื่องนี้แม้จะเก่า แต่สะท้อนสังคมในปัจจุบันได้หลายๆแง่มาก ตั้งแต่วัยรุ่น จนถึงสถาบันครอบครัว
หากความรักเป็นเหมือนต้นไม้ เราบำรุงพรวนดินต้นไม้ของเราด้วยอะไร ความหลง ความมัวเมา ความห่วงใยที่เกินพอดี ความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ความเร่งรัด การตามใจ หลับหูหลับตาตัดกิ่งก้านใบตามต้องการโดยไม่คำนึงว่าต้นไม้จะขาดวิ่นแหว่งตรงไหนบ้าง
หากแต่เราลืมไปบางอย่างว่า ความรักนั้นคือความเชื่อ และความหวังอยู่เสมอ ความรักไม่ได้มีจุดศูนย์กลางที่ตัวเอง แต่อยู่ที่คนที่เรารัก และความรัก ก็ให้อภัยได้เสมอ
เมื่อหนมปังอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ก็พบว่าหนมปังผิดหวังที่จะได้อ่านนิยายรักหวานซึ้งข้ามรุ่น(เหมือนที่ตัวละครทีวีนำเสนอ) แต่กลายเป็นได้อ่านภาพสะท้อนการบิดเบี้ยวในความรักที่วนเวียนในสังคมปัจจุบันแทน
ใครนึกอยากอ่านนิยายรักวีดวิ้ว ขอเตือนว่าอย่าหยิบเรื่องนี้มาอ่านเลย แต่ถ้าคุณพร้อมสำหรับโศกนาฏกรรมสะท้อนสังคมในด้านความสัมพันธ์ ก็อ่านเถอะ ขอแนะนำว่าอย่ากินอะไรไปด้วยเวลาอ่านฉากเข้าพระเข้านาง เพราะคุณอาจเบื่ออาหารกะทันหันได้(หมายเหตุ ขึ้นอยู่กับพลังจินตนาการของคุณ)
ปล. หนมปังยังอยากดูฉบับพระเอกหล่ออยู่ดี และก็ยังชอบเวอร์ชั่นพี่ตู่เหมือนเดิม
Create Date : 22 สิงหาคม 2550 |
Last Update : 22 สิงหาคม 2550 17:32:09 น. |
|
6 comments
|
Counter : 2139 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ฟ้าคงสั่งมา วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:18:12:15 น. |
|
|
|
โดย: vlovethai วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:20:06:12 น. |
|
|
|
โดย: แพร (bookofpear ) วันที่: 22 สิงหาคม 2550 เวลา:22:49:18 น. |
|
|
|
โดย: butbbj วันที่: 14 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:54:58 น. |
|
|
|
โดย: luk (รักรออยู่ ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:46:57 น. |
|
|
|
| |
|
|
เพลงประกอบโดย คุณสาธิยา ศิลาเกษ เพราะมากมาก