My Girl โฆษณาที่โดนใจแห่งยุค กับคำถามลูกสาวของพ่อ คนนอกของสังคม?
“พ่อ หนูขอโทษ ...” ภาพของ หญิงสาวพนมมือกล่าวขอโทษพ่อ ด้วยน้ำตาอาบแก้ม ในฉากหนึ่งของโฆษณาชุด “My girl” บริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งทำให้ผู้ชมจำนวนมากพูดถึงโฆษณาชุดนี้อย่างกว้าง ขวาง กระแสส่วนใหญ่พูดถึงความประทับใจที่มีต่อตัวละคร เด่น คือ “พ่อ” แต่โฆษณาชุดนี้มีสิ่งอื่นที่มองเห็นมากกว่าจากจอโทรทัศน์ สิ่งเหล่านี้คืออะไร?? โฆษณาประกัน กับ การตั้งครรภ์ในวัยเรียน??? แม้โฆษณาชุด My Girl จะสร้างความประทับใจให้กับหลายๆคน แต่ My Girl ก็ทำให้คนส่วนหนึ่งเกิดความไม่เข้าใจบางประการ หนึ่งในนั้นคือสงสัยว่าเรื่องการตั้งครรภ์ในวัยเรียนเกี่ยวข้องอะไรกับโฆษณา ประกันชีวิต ผศ.กัลยกร วรกุลลัฏฐานีย์ อจารย์คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่าโฆษณาชุดที่ผ่านๆ มาของบริษัทเน้นการนำเสนอเรื่องความไม่มั่นคงในชีวิต และการหาหลักประกันให้กับครอบครัว โฆษณาชุดก่อนๆ จึงมุ่งขายตัวผลิตภัณฑ์ ในขณะที่โฆษณาชุด My Girl เน้นส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรมากกว่าการขายผลิตภัณฑ์ โฆษณาชุดนี้พัฒนาตัวสารให้หนักแน่นขึ้น โดยนำเสนอประเด็นปัญหาในสังคม พร้อมทั้งสื่อสารภาพลักษณ์องค์กรว่าเข้าใจและห่วงใยสังคมได้อย่างกลมกลืน โฆษณานี้สื่อสารได้ชัดเจนมากในเรื่องการเข้าใจวัยรุ่นและการเรียนรู้ที่จะ ให้อภัยกันในครอบครัวหากลูกทำผิดพลาด โฆษณานี้จึงเข้าถึงผู้ชมได้ไม่ยาก ส่วนเหตุที่โฆษณานี้สามารถจับใจคนได้จำนวนมาก เนื่องจากการเลือกประเด็นปัญหาในครอบครัว ซึ่งเป็นสถาบันที่คนไทยผูกพันมาก อีกทั้งยังเป็นเรื่องของอารมณ์ความรู้สึกซึ่งกระทบใจผู้ชมได้ง่าย โฆษณาสามารถดึงเรื่องการตั้งครรภ์ในวัยเรียนให้ใกล้ชิดกับผู้ชมได้ ว่าเรื่องนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว นอกจาก นี้โฆษณานี้ยังทำให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมโดยการเป็นส่วนหนึ่งในโฆษณา โดยเลือกได้ว่าจะเป็นพ่อแม่แบบไหน แบบที่เข้าใจลูกหรือไม่เข้าใจ หากโฆษณานี้มีภาคต่อ... ตอนจบของโฆษณา My Girl ทำให้ผู้ชมซาบซึ้งใจ จนกระทั่งบางคนอาจหลั่งน้ำตาให้กับความรักของพ่อที่มีต่อลูก ทว่าในชีวิตจริง เรื่องราวคงไม่จบลงเพียงเท่านี้ ชีวิตของตัวละครยังมีฉากต่อที่ต้องก้าวผ่านไป สมวงศ์ อุไรวัฒนา รองผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ (ACCESS) กล่าวว่าโฆษณานี้จบลงด้วยความสุข ผู้เป็นพ่อยอมรับและจะดูแลลูกต่อไป แต่ในชีวิตจริงอาจจะไม่จบลงด้วยความสุขเช่นนี้ เพราะทางเลือกในเชิงปฏิบัติมันมีหลายแบบ สถานการณ์จริงอาจจะไม่เป็นไปตามทางเดินของโฆษณาก็ได้ โฆษณานำเสนอเพียงมุมมองเดียวและเสนอเพียงความคิดเดียว ไม่มีความคิดอื่นๆ ต่อเนื่องไปจากนั้น เช่น โฆษณาไม่ได้บอกเลยว่า หากเด็กเลือกที่จะทำแท้งจะเป็นอย่างไร ต่อไปชีวิตของเด็กคนนี้จะดูแลชีวิตใหม่ที่จะเกิดขึ้นอย่างไร ต่อไปเขาจะได้กลับไปเรียนหนังสือไหม พ่อของเด็กจะเป็นอย่างไร จะกลับมาแต่งงานกับแฟน หรือว่าจะหายหน้าไปเลยทิ้งให้ผู้หญิงรับผิดชอบคนเดียว แล้วญาติ เพื่อน ครูของเขาที่โรงเรียนจะว่าอย่างไร นี่คือความคิดต่อเนื่องที่โฆษณาไม่ได้นำเสนอ นอกจากนี้โฆษณายังบอกให้เห็นว่า เด็กในวัยเรียนก็ตั้งครรภ์ได้ ทั้งๆ ที่ครอบครัวก็ดูอบอุ่น นั่นแสดงว่าการมีครอบครัวอบอุ่นหรือครอบครัวแตกแยกก็อาจเกิดปัญหาได้เท่า เทียมกัน ประเด็นสำคัญที่ตามมาที่ผู้ชมควรคิดต่อ คือการแก้ไขและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีกอย่างถูกวิธี จะต้องให้ความรักและรู้จักเรียนรู้ซึ่งกันและกัน Ending ที่ไม่ Happy อย่างในโฆษณา ถ้าชีวิตจริงจบอย่าง Happy Ending เหมือนในโฆษณาได้ก็คงดี แต่เด็กสาวที่ตั้งครรภ์ในวัยเรียนยังต้องพบอุปสรรคในชีวิตอย่างต่อเนื่อง ปัญหาสำคัญเรื่องหนึ่งคือเรื่องการศึกษา ซึ่งสำคัญที่สุดสำหรับอนาคตของเยาวชน อาจารย์ฝ่าย ปกครอง (ขอสงวนนาม) โรงเรียนมัธยมศึกษา กรุงเทพฯ ให้ความเห็นว่า ถ้าหากครูทราบว่าเด็กมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว จะเกิดคำถามขึ้นมาเลยว่า เด็กท้องแล้ว หรือยังไม่ท้อง?ถ้าท้อง โรงเรียนต้องเชิญผู้ปกครองมาคุย ถ้ายังไม่มีใครในโรงเรียนรู้เรื่องนี้ก็ดีไป โรงเรียนจะช่วยปิดข่าวให้ เด็กก็จะมีทางเลือกสองทาง คือ ถ้าอยากเรียนที่โรงเรียนต่อก็ต้องไปทำแท้ง จึงจะกลับมาเรียนได้ แต่ถ้าจะเอาลูกไว้ก็ต้องลาออกไป แม้จะไปคลอดลูกแล้วโรงเรียนก็ไม่รับกลับเข้ามาเรียนอีก เพราะเป็นกฎของโรงเรียน ถ้าอยากเรียนก็ต้องไปเข้าการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) เอา เด็กกับผู้ปกครองต้องเลือกว่า จะเอาชีวิตลูกในท้องหรือเอาอนาคตเด็กไว้ แต่ส่วนใหญ่ของเด็กที่ตัดสินใจคลอดมักจะไม่ได้กลับมาเรียน เพราะติดพันที่ต้องเลี้ยงลูกต่อ ส่วนถ้ายังไม่ท้อง แต่โรงเรียนสืบได้ว่าเด็กมีเพศสัมพันธ์กัน ถึงแม้จะไปมีอะไรกันนอกโรงเรียน โรงเรียนก็ต้องเรียกมาจัดการอยู่ดี เชิญผู้ปกครองมารับทราบด้วย ถ้าคุยกันรู้เรื่อง โรงเรียนก็อาจจะแค่ทำทัณฑ์บนไว้ การช่วยแก้ปัญหาให้เด็กของโรงเรียนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าเป็นเด็กดีโรงเรียนก็อยากช่วยเต็มที่ แต่ถ้าเด็กมีปัญหามีความประพฤติไม่ดี โรงเรียนก็อาจให้ออกตั้งแต่คราวแรก และในกรณีที่เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงเป็นนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน ตามกฎโรงเรียนจะให้ออกจากโรงเรียนทั้งคู่ แต่ในความเป็นจริง เราจะให้เลือกให้คนใดคนหนึ่งออก ส่วนใหญ่ก็มักเป็นเด็กผู้หญิง เพราะทนอายจนอยู่ไม่ได้ การลงโทษขั้นให้ออกจาก โรงเรียน ถ้ายังไม่จบการศึกษาภาคบังคับ คือ มัธยมต้น โรงเรียนจะช่วยหาโรงเรียนใหม่ให้ แต่พอไปอยู่ที่ใหม่แล้ว ทั้งโรงเรียนเดิมและโรงเรียนใหม่จะติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด ถ้าทำผิดอีกก็เจอโทษหนัก ส่วนนักเรียนมัธยมปลาย ต้องให้ไปเข้า กศน. มิฉะนั้นก็หาโรงเรียนใหม่เอง โรงเรียนเดิมจะไม่รับผิดชอบ แหก กฎ - ให้โอกาส การตั้งครรภ์ในวัยเรียน ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง จนถึงกับต้องปิดกั้นโอกาสที่เยาวชนจะได้แก้ไขตัวเอง ดังนั้นเสียงจากเยาวชนส่วนหนึ่ง จึงเรียกร้องโอกาสทางการศึกษาสำหรับเด็กที่ตั้งครรภ์ในวัยเรียน พัช ระ ติกวัฒนานนท์ - นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่ากรณีที่เด็กนักเรียนมีเพศสัมพันธ์กัน โรงเรียนไม่ควรมีบทลงโทษถึงขนาดไล่ออก แค่เรียกมาตักเตือนว่าการกระทำนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไรก็น่าจะเพียงพอ และคิดว่าการมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ถ้าถึงกับท้องขึ้นมา โรงเรียนอาจต้องขอให้พักการเรียน พอคลอดแล้วหรือพร้อมกลับมาเรียน ก็ควรรับกลับเข้ามาเรียนได้ที่โรงเรียนเดิม ซึ่งเราน่าจะมีโรงเรียนสำหรับคนที่ท้องแล้วโดยเฉพาะ ถ้าเด็กที่ไปคลอดลูกแล้วกลับมาเรียนแต่ไม่สามารถเข้ากับสังคมในโรงเรียนได้ ก็ไม่ควรเป็นสาเหตุสำหรับการที่ต้องหมดโอกาสทางการเรียน “การ ศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ คนไร้การศึกษาเสียอีกที่เป็นบ่อเกิดของปัญหาหลายอย่างในสังคม เพียงเพราะเขามีปัญหา หากกีดกันให้เขาออกไปเผชิญปัญหาตามลำพัง อาจก่อให้เกิดปัญหาสังคมตามมา หรือพอเขามีปัญหา คุณจะช่วยหาทางลดปัญหานั้นลง เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาต่อเนื่องไปอีกเรื่อยๆ ทางไหนที่ดีกว่ากัน” เด็กที่ท้องก็ควรมีโอกาสสำหรับ อนาคต ไม่ควรตัดสินอนาคตอีกทั้งชีวิตของเขาจากความผิดพลาดในวัยเด็กเพียงครั้ง เดียว แม้ความรักความเข้าใจในครอบครัว และสถานศึกษาจะเป็นส่วนสำคัญสำหรับการแก้ไขเรื่องการตั้งครรภ์ในวัยเรียน สังคมเองก็เป็นส่วนสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน เมื่อคนในสังคมสามารถเข้าใจ ยอมรับ และให้โอกาส โลกอันสวยงามในโฆษณาก็อาจปรากฏให้เห็นได้ในชีวิตจริง เรื่อง...โดย ปิยสุดา อาชาสันติสุข, นวลนภา รุจิรามงคลชัย และ ณัฐ ฉมามหัทธนาคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งนี้ รายงานชิ้นนี้ เป็นผลงานของนักศึกษา ที่ร่วมทีมบรรณาธิการจัดทำหนังสือพิมพ์รายวัน “เสียงเยาวชน” ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมศักยภาพและการมีส่วนร่วมของเยาวชน ผ่านการจัดทำหนังสือพิมพ์เผยแพร่แก่ผู้ร่วมประชุมวิชาการเพศศึกษาครั้งที่ ๓, ๒๕-๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๙ ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น จัดโดย โครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การแพธ
โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์
Create Date : 29 มีนาคม 2553 | | |
Last Update : 29 มีนาคม 2553 14:41:24 น. |
Counter : 291 Pageviews. |
| |
|
|
|