|
รวบอดีตสามี จ้างสาดกรด 'ผช.พยาบาล' แค้นคบฝรั่ง
รวบอดีตสามี จ้างสาดกรด 'ผช.พยาบาล' แค้นคบฝรั่ง - มือน้ำกรดที่ก่อเหตุบุกสาดหน้าผู้ช่วยพยาบาลสาวยอมเข้ามอบตัวตำรวจแล้ว ในสภาพถูกน้ำกรดกระเด็นใส่ใบหน้าและมือเป็นแผลพุพอง ซัดทอดอดีตสามีเป็นคนว่าจ้างด้วยเงิน 500 บาท อ้างไม่รู้ว่าเป็นน้ำกรด ขณะที่ตำรวจคว้าตัวอดีตสามีไปเค้นสอบ สุดท้ายยอมเปิดปากรับสารภาพ อ้างทำไปเพราะความแค้น หลังจับได้ว่าอดีตภรรยาแอบมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับฝรั่งคนหนึ่งที่รู้จักกันทาง อินเตอร์เน็ตโปรแกรม "hi 5" จนทำครอบครัวแตกแยก
กรณีนางจันทร์จิรา พิณเพชร อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 10 ต.เหมืองหม้อ อ.เมืองแพร่ ทำงานเป็นผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลแพร่ราม ถนนยันตรกิจโกศล ต.ในเวียง อ.เมืองแพร่ ถูกคนร้ายเป็นชายบุกสาดน้ำกรดบริเวณประตูทางเข้าโรงพยาบาลจนใบหน้าเละอาการ สาหัส เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือคนใกล้ชิดเกิดความหึงหวง เนื่องจากผู้บาดเจ็บเป็นแม่ม่ายและเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี มีหนุ่มมาติดพันหลายคน โดยเฉพาะเพื่อนใหม่ที่รู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต พร้อมนำตัวนายพัดยา หรือโก ปานฉาย อายุ 44 ปี อดีตสามี ผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำ แต่นายพัดยายังให้การปฏิเสธ ทำให้ตำรวจต้องปล่อยตัวไปชั่วคราว ล่าสุดอดีตสามีสาวเหยื่อน้ำกรดยอมเปิดปากสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ว่าจ้างให้คน นำน้ำกรดไปสาดใส่อดีตภรรยา
โดยเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 11 มี.ค. พล.ต.ต.ฉลองชัย บุรีรัตน์ ผบก.ภ.จ.แพร่ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สิโรฒม์ ภาคพิชเจริญ ผกก.สภ.เมืองแพร่ พ.ต.ท.พินิจ คำบุญมา รอง ผกก.(สส.) พ.ต.ท.ประชัน เขื่อนเก้า สว.สส. นำตัวนายพัดยา อดีตสามีของนางจันทร์จิรา และนายศราวุธ อุดทา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 หมู่ 5 ต.แม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ผู้ต้องหาที่ร่วมกันใช้น้ำกรดสาดหน้านางจันทร์จิรามาแถลงข่าว โดย พล.ต.ต.ฉลองชัยแถลงว่า คดีนี้หลังเกิดเหตุตำรวจได้เชิญตัวนายพัดยา อดีตสามีนางจันทร์จิรา มาสอบปากคำ ในชั้นต้นนายพัดยาให้การปฏิเสธ ทำให้ตำรวจต้องปล่อยตัวไปชั่วคราว ต่อมานายศราวุธผู้ต้องหาอีกคนได้เข้ามอบตัวกับตำรวจให้การรับสารภาพว่าเป็น มือสาดน้ำกรดใส่นางจันทร์จิรา และยังให้การซัดทอดว่านายพัดยาเป็นผู้ว่าจ้าง ตำรวจจึงเชิญนายพัดยามาสอบปากคำอีกครั้ง กระทั่งนายพัดยาจำนนต่อหลักฐานยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้บงการ เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหาทั้งคู่ทำร้ายร่างกายให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส
นายศรายุทธมือน้ำกรดเปิดเผยว่า วันเกิดเหตุนายพัดยาเดินทางไปพบพร้อมนำถังบรรจุน้ำ อ้างว่าเป็นน้ำยาล้างห้องน้ำผสมน้ำมีความเจือจ้าง พร้อมว่าจ้างให้ไปสาดใส่หน้านางจันทร์จิรา อดีตภรรยา ในราคา 500 บาท ประกอบกับนายพัดยาเคยมีบุญคุณคอยช่วยเหลือเรื่องเงินทองจึงยอมรับงาน นำถังน้ำไปดักที่ประตูทางเข้าโรงพยาบาลแพร่ราม รอจนกระทั่งนางจันทร์จิราขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงาน สบจังหวะใช้น้ำในถังสาดใส่หน้า ก่อนจะวิ่งไปซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายพัดยาที่จอดรอรับอยู่บริเวณใกล้ เคียงหลบหนี เมื่อกลับมาถึงบ้านพบว่าน้ำในถังกระเด็นถูกใบหน้าและมือ ทำให้ผิวหนังมีรอยไหม้พุพอง เชื่อว่าน้ำในถังต้องเป็นน้ำกรดอย่างแน่นอน และคิดว่านางจันทร์จิราคงจะบาดเจ็บสาหัส ทำให้รู้สึกสำนึกผิดประกอบกับกลัวถูกตำรวจไล่ล่า จึงปรึกษาญาติก่อนจะเข้ามอบตัวเพื่อชดใช้ความผิดที่ก่อขึ้น
ในขณะที่ นายพัดยา ปานฉาย อดีตสามีนางจันทร์จิรา เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทำธุรกิจเต็นท์รถมือสองและรับจัดไฟแนนซ์ที่ กทม. หลังพบรักกับนางจันทร์จิราจึงย้ายไปอยู่ จ.แพร่ ทำธุรกิจเปิดร้านขายโทรศัพท์มือถือ มีลูกสาวกับนางจันทร์จิรา 2 คน คนโตอายุ 15 ปี คนที่ 2 อายุ 12 ปี ระยะแรกไม่มีปัญหาอะไร แต่ช่วงหลังนางจันทร์จิราหันไปเล่นอินเตอร์เน็ตและรู้จักกับฝรั่งคนหนึ่งทาง โปรแกรม "hi5" หลังจากนั้นมีการ "แชต" ติดต่อกัน ตนจับได้หลายครั้งทำให้มีปากเสียงทะเลาะกันเรื่อยมา จนตนเกิดความเครียดต้องเข้าโรงพยาบาล สุดท้ายต้องแยกทางกัน นางจันทร์จิราหอบเสื้อผ้าไปพักที่โรงพยาบาล แต่ตนก็ยังรับผิดชอบส่งเสียลูกทั้ง 2 คน เคยร้องเรียนไปยังรายการ "ผู้หญิงถึงผู้หญิง" นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี และนางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช อดีต ส.ว.ขอนแก่น เพื่อให้สังคมรับรู้ถึงพฤติกรรมของอดีตภรรยา แต่ไม่เป็นผล ทำให้ต้องกินยานอนหลับทุกวัน เมื่อต้นเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว จับได้ว่าอดีตภรรยาพาลูกสาวเดินทางไปพบฝรั่งคนดังกล่าวที่ กทม. ทำให้เกิดความโกรธแค้น นำน้ำยาเคมีกัดสนิมซึ่งมีส่วนผสมของน้ำกรดใส่ถังว่าจ้างให้นายศรายุทธนำไป สาดหน้านางจันทร์จิราเพื่อระบายแค้น ก่อนจะพากันหลบหนีกระทั่งถูกจับกุม
ที่มา thairath.co.th
Create Date : 18 มีนาคม 2553 |
Last Update : 18 มีนาคม 2553 16:07:08 น. |
|
0 comments
|
Counter : 367 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|