Group Blog
 
All Blogs
 
พรานใจชั่ว วางยาเสือ3ตัวแม่ลูกเจอเก้งอาบยาพิษ



อนาถพรานใจโหดวางยาพิษฆ่าเสือห้วยขาแข้ง อุทัยธานี 3 ตัวแม่ลูก ใช้เนื้อเก้งผสมยาพิษชนิดรุนแรงวางล่อตามด่านสัตว์ เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนป่าไปเจอในสภาพถูกถลกหนัง เลาะเอากระดูกไปหมด และยังเผชิญหน้า 3 คนร้ายใจเหี้ยมที่วิ่งเตลิดหนีเข้าป่า อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชสั่งล่าตัวมาลงโทษเรื่องราวพรานใจโหดฆ่าเสือ 3 แม่ลูกของป่าห้วยขาแข้ง เป็นที่น่าสลดใจ ถูกเปิดเผยเมื่อวันที่ 11 มี.ค.

โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายสุนทร ฉายาวัฒนะ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี ว่า

จากการที่ชุดตรวจลาดตระเวนป่าได้เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่กลางป่าลึกของห้วยขา แข้ง พบซากเสือโคร่ง จำนวน 3 ตัว ถูกวางยาเบื่อตาย โดยเสือ 1 ตัว คาดว่า น่าจะเป็นเสือตัวแม่ สภาพถูกถลกหนัง เลาะเอากระดูกไปหมดแล้ว ถูกทิ้งไว้เหลือแต่ซากเนื้อที่มีอุ้งเท้าติดอยู่ เมื่อตรวจรอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบเสือโคร่งขนาดเล็กอีก 2 ตัว คาดว่าอายุประมาณ 1 ปี นอนตายอยู่ใกล้กัน สันนิษฐานว่าเสือทั้ง 3 ตัวเป็นเสือแม่ลูก ถูกนายพรานวางยาเบื่อชนิดรุนแรง จนทำให้เสือตาย เมื่อกินเหยื่อที่พบคือซากเก้งที่เจอไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังพบตัวเหี้ยก็โดนยาเบื่อตายอยู่ในบริเวณนั้นด้วย

นายจตุพรกล่าวต่อว่า ได้ขนซากเสือโคร่งทั้ง 3 ตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์มาส่งให้สถาบันสุขภาพสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับทีมสัตวแพทย์กรมอุทยานฯ เร่งตรวจสอบพิสูจน์ซากเสือ และได้กำชับให้หน่วยลาดตระเวนออกสแกนพื้นที่ล่าตัวเพื่อเตรียมเข้าจับกุมผู้ ต้องหามาลงโทษแล้ว เนื่องจากทราบว่าก่อนหน้าที่จะพบซากเสือ เจ้าหน้าที่ได้เผชิญหน้ากับคนร้ายจำนวน 3 คนที่วิ่งหนีไป

ด้านนายชัชวาลย์ พิศดำขำ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า จากการลงตรวจสอบพื้นที่ พบว่าคนร้ายมีการวางแผนฆ่าเสือโคร่งในห้วยขาแข้งมาเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการฆ่าเก้งโดยนำขาและเนื้อเก้ง ผสมยาพิษมาวางไว้ตามด่านสัตว์ เจ้าหน้าที่เดินลาดตระเวนไปเจอเนื้อและขาเก้งที่ริมทางด่านสัตว์ มีเถาวัลย์พันอยู่ และมีตัวเหี้ยนอนหงายท้องตายผิดปกติ จึงได้ระวังตัว จนกระทั่งได้เผชิญหน้ากับพราน 3 คนพร้อมอาวุธครบมือ ที่วิ่งหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไป ขณะนี้ กำลังตรวจสอบว่ายังมีซากสัตว์อื่นๆ ที่หลงกินยาพิษเข้าไปหรือไม่ เพื่อเก็บนำมาเผาทำลายก่อนที่สัตว์ชนิดอื่นๆ จะตายเพิ่มจากยาดังกล่าว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเสือ 3 ตัว ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ ยังไม่ทราบว่าเสือแม่ลูกที่ตายไปอยู่ในโครงการวิจัยเสือที่ทีมวิจัยเสือได้ ติดปลอกคอวิทยุส่งสัญญาณไว้หรือไม่ เพราะหลักฐานจากลายของแม่เสือก็ไม่หลงเหลือแล้ว

นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน ประจำกรมอุทยานแห่งชาติฯ และว่าที่ ร.ต.ไชยพร ซารีแสน หัวหน้า กลุ่มจัดการสุขภาพสัตว์ป่า ร่วมกันเปิดเผยว่า ได้รับการประสานงานจากนายสัตวแพทย์ไปศิลป์ เล็กเจริญ นายสัตวแพทย์ประจำสถานีวิจัยสัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ว่าพบเสือโคร่งตาย 3 ตัว จึงเดินทางไปชันสูตรซากเสือในที่เกิดเหตุพบซากเสือโคร่ง 3 ตัว ตัวแรกเหลือเพียงเศษเนื้อเศษหนัง ไขมัน และกระดูก คาดว่าถูกนายพรานแล่เอาไปแล้ว ห่างกันไม่ไกลพบซากเสืออีก 2 ตัว เป็นตัวเมียโตเต็มวัย และลูกเสือเพศผู้ น่าจะเป็นแม่ลูกกัน ทั้ง 2 ตัว นอนตายในสภาพชักเกร็ง ม่านตาขยาย อ้าปากค้าง กล้ามเนื้อผิวหนังบางจุดมีสีแดง ลักษณะการตายผิดธรรมชาติ ตายมาประมาณ 5-7 วัน

นายสัตวแพทย์ภัทรพลกล่าวต่อว่า บริเวณพื้นที่พบซากเสือโดยรอบ ยังพบร่องรอยการดิ้นอย่างทุรนทุรายเพราะความเจ็บปวดเป็นวงกว้าง จากยาพิษในเนื้อเก้งที่กินเข้าไป และยังมีร่องรอยการกัด ข่วนต้นไม้ ก่อนที่นายพรานจะแกะรอยตามแล่เอาหนัง เนื้อ กระดูก อวัยวะเพศไปขายทำยาโด๊ป ส่วนเสือลูกอีก 2 ตัวคงมากินเหยื่อแล้วดิ้นตาย แต่พรานหาไม่เจอจนเริ่มเน่า นับว่าเป็นครั้งแรกที่พบว่านายพรานล่าเสือ เปลี่ยนวิธีการล่าจากการใช้ปืน สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้กับสัตว์อื่นที่มากินเหยื่อที่พรานทิ้งไว้ อีกหลายชนิด ส่วนผู้ที่นิยมบริโภคอาจได้รับสารพิษเข้าไปด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างอาหารในกระเพาะ กล้ามเนื้อ ผิวหนัง ไขมัน และหนอนที่มากินซากเสือ ตัวเสือ เพื่อพิสูจน์ยืนยันผลทางพิษวิทยาทางสัตวแพทย์ ที่สถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติกรมปศุสัตว์

ที่มา: hunsa.com



Create Date : 18 มีนาคม 2553
Last Update : 18 มีนาคม 2553 16:04:46 น. 0 comments
Counter : 711 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

quosego
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add quosego's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.