โรคชิคุนกุนยา
โรคชิคุนกุนยา (Chikungunya) เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชิคุนกุนยาที่มี ยุงลายเป็นพาหะนำโรค มีอาการคล้ายไข้เดงกี แต่ต่างกันที่ไม่มีการรั่ว ของพลาสมาออกนอกเส้นเลือด จึงไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงมากจน ถึงมีการช็อก
แรกเริ่มเดิมทีนั้นโรคชิคุนกุนยานั้น เกิดขึ้นในทวีปแอฟริกาในพรมแดนระหว่างประเทศโมแซมบิกและ แทนซาเนียในปัจจุบัน จากนั้นก็พบการระบาดของเชื้อชิคุ นกุนยาเป็นครั้งคราวในทวีปแอฟริกา เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับในทวีปแอฟริกานั้นมีการแพร่เชื้อ 2 วงจร คือ ชนิด วงจร ชนบท คน-ยุง-ลิง ซึ่ง มีลิงบาร์บูนเป็นโฮสต์ และอาจทำให้มีผู้ป่วยจากเชื้อนี้ ประปราย หรืออาจมีการระบาดเล็ก ๆ ได้เป็นครั้งคราว และ วงจรในเมือง คน-ยุง จากคนไปคน โดยยุงลายเป็นพาหะ
อาการของโรค
ผู้ป่วยจะ มีอาการไข้สูงอย่างฉับพลัน มีผื่นแดงขึ้นตาม ร่างกายและอาจมีอาการคันร่วมด้วย พบตาแดง แต่ไม่ค่อยพบจุดเลือดออกในตาขาว ส่วนใหญ่แล้วในเด็กจะมีอาการไม่รุนแรงเท่าในผู้ใหญ่
ในผู้ใหญ่อาการที่เด่นชัดคือ อาการปวดข้อ ซึ่งอาจพบข้ออักเสบได้ ส่วนใหญ่จะเป็น ที่ข้อเล็ก ๆ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า
อาการปวดข้อจะพบได้หลาย ๆ ข้อเปลี่ยนตำแหน่งไปเรื่อย ๆ อาการจะรุนแรงมากจนบางครั้ง ขยับข้อไม่ได้ อาการจะหายภายใน 1 - 12 สัปดาห์ ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดข้อเกิดขึ้นได้อีกภายใน 2 - 3 สัปดาห์ต่อมา และบางรายอาการปวดข้อจะอยู่ได้นานเป็นเดือนหรือเป็นปี
ไม่พบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงถึงช็อก ซึ่งแตกต่างจากโรคไข้เลือดออก อาจพบ tourniquet test ให้ผลบวก และจุดเลือดออกบริเวณผิวหนังได้ ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาที่จำเพาะเจาะจงสำหรับโรคชิคุนกุนยา ส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการและ ประคับประคอง เช่น ยาลดอาการไข้ ปวดข้อ และการพักผ่อน ซึ่งการป้องกันโรคชิคุนกุนยาที่ดีที่สุดคือ ป้องกันไม่ให้ถูกยุง ลายกัด ไม่ว่าจะเป็นการใช้สารไล่ยุง สวมใส่เสื้อผ้าที่ป้องกันไม่ให้ยุงกัด ยาทากันยุงชนิดที่มีส่วนผสม ของไพรีธรอยด์ช่วยป้องกันได้พอสมควร
นอกจากนี้ อย่าลืมหมั่นตรวจตราบริเวณบ้าน ไม่ให้มีแหล่งน้ำขัง และต้องหมั่นกำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงภายในบริเวณบ้านก็จะช่วยได้ค่ะ
Create Date : 16 มิถุนายน 2553 |
Last Update : 16 มิถุนายน 2553 18:59:25 น. |
|
0 comments
|
Counter : 534 Pageviews. |
|
|
|
| |