ยากเย็นแสนเข็ญ
ถ้าใครอยากรู้วิธีและขั้นตอนวีซ่าเข้าอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าท่องเที่ยว คู่หมั้น คู่สมรส หรืออะไรก็แล้วแต่ เข้าไปหาข้อมูลได้ที่ //www.usvisa4thai.com นะคะ
เราขอไม่เขียนขั้นตอนนะ เพราะมันยุ่งยากและเยอะมาก

จะขอเล่าคร่าวๆ ว่ากว่าจะได้วีซ่ามานี้มันลำบากลำบนขนาดไหน
จำได้ว่าเริ่มส่งเรื่อง สมัครขอวีซ่าคู่สมรสไปที่ Uniter States Citizenship and Immigration Service (USCIS) ตั้งแต่เมษา 2010 ช่วงประมาณก่อนสงกรานต์ หลังจากนั้นก็รออย่างเดียว รอว่าเคสจะ approve รึป่าว
ขยายความนิดนึงนะกัน เผื่อใครไม่เข้าใจว่า approve ในที่นี้หมายถึงอะไร มันก็หมายความว่า เค้าจะตรวจเช็คประวัติของเรากับสามีและดูว่าเรามีคุณสมบัติที่จะสมัครวีซ่าคู่สมรสหรือไม่ ของเรากว่าจะได้ approve ก็ประมาณเดือนตุลา รวมเวลาก็ประมาณ 6 เดือนกว่าแน่ะ ไม่รู้ทำไมถึงนานขนาดนี้ ของบางคน แค่เดือนกว่าสองเดือนก็ได้แล้ว วันที่เคส approve เรามีเซ้นต์บางอย่าง ไม่รู้เหมือนกันนะ มันรู้สึกแปลกๆ นอนไม่หลับ เลยตื่นแต่เช้ามาเช็คเมล เพราะคิดในใจว่ามันนานขนาดนี้แล้ว วันนี้แหละต้องได้แน่ๆ และแล้วฝันก็เป็นจริง เย้ๆ approve ซะดี ดีใจมาก

พอเคส approve แล้ว USCIS เค้าจะส่งเรื่องต่อไปให้ National Visa Center (NVC) เพื่อทำเรื่องเกี่ยวกับวีซ่าต่อไป ขั้นตอนที่ NVC นี่รวมระยะเวลาจริงๆก็ไม่นานหรอกนะ แต่ของเรามันติดปัญหาเรื่องรายได้ของสามี
เอกสารทุกอย่างส่งไปครบหมด และ NVC ได้รับประมาณเดือนธันวา 2010 ยกเว้นเอกสารเกี่ยวกับภาษีและรายได้ของแฟน แฟนเรารายได้น้อย ไม่ถึงเกณฑ์ที่เค้ากำหนด ต้องใช้คนอื่นมาเป็นสปอนเซอร์ให้ NVCเลยอยากได้เอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายได้ของแฟนและของสปอนเซอร์ ทีแรกเราก็คิดว่าไม่น่าเกินเดือนสามเดือน เราคงได้วีซ่ามาครอบครองแน่ๆ แต่ก็คนมาเป็นสปอนเซอร์ไม่ได้เลย จนเวลาผ่านไป 6 เดือน เราไม่ได้ทำอะไรเลยเรื่องเอกสาร แอบหมดหวังไปก็หลายรอบ คิดหย่ากับสามีก็หลายที เพราะไม่ได้เจอกันมาเป็นปี และไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกทีเมื่อไร เค้าก็ทำงาน ถ้ามาหาเราก็ลางาานไม่ได้ต้องลาออกอย่างเดียว

อยู่ๆวันนึง วันที่ 9 มิถุนา 2011 เราก็เช็คเมลจากที่ทำงานในระหว่างพักเที่ยง โอ้ว....แม่เจ้า เราได้เมลนัดสัมภาษณ์วีซ่าจาก NVC ให้ไปสัมภาษณ์ที่กรุงเทพในวันที่ 22 กรกฎา ทั้งตกใจและดีใจ ทำอะไรไม่ถูกนอกจากกรี๊ดตื่นเต้นอยู่คนเดียว หุหุ สิ่งที่นึกอยู่ในหัวตอนนั้น คือขออย่าให้เป็นความผิดพลาดของระบบหรือคนดูแลเคสเลย เอ..แล้วเราจะไปสัมภาษณ์ดีป่าวหว่า เกิดไปแล้วหน้าแตกทำไง

เนื่องจากไม่แน่ใจ เราเลยไปตั้งกระทู้ถามในเว็ป usvisa4thai แล้วก็ได้คำตอบมาว่า เคสเราอาจจะค้างอยู่ที่ NVC นานเกินไปจนเค้าปัดมาที่สถานทูต ยังไงก็เตรียมเอกสารทุกอย่างเท่าที่มีไปให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก็แล้วกัน

ช่วงระยะเวลาเดือนกว่าที่รอไปสัมภาษณ์นี้ เราก็เตรียมเอกสารความสัมพันธ์ ทั้งรูปถ่าย ใบเสร็จที่สามีส่งเงินมาให้ อีเมล แชท การ์ด เอกสารของลูก และทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามี จัดใส่แฟ้ม และจัดหมวดหมู่ ขอบอกว่าอีเมลเยอะมาก แอบไปปริ้นท์ที่ทำงานวันละนิดละหน่อยจนครบ อิอิ

ตื่นเต้นเหมือนกันนะ แต่ก็คิดในใจว่าจะทำไงดีหว่า อ่านเงื่อนไขเกี่ยวกับรายได้และสปอนเซอร์ ซ้ำไปซ้ำมา นึกๆๆๆๆ นึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าจะหาใครมาเป็นสปอนเซอร์ได้ เพราะญาติพี่น้องของสามีก็ล้วนแต่มีภาระ รายได้ของแต่ละคนก็ไม่ถึงเกณฑ์ อ่านวนไปวนมาหลายรอบมาก แต่อยู่ๆ ก็ปิ๊งไอเดีย เพราะมันมีข้อความที่ว่า สามารถรวมรายได้ของสามีเข้ากับคนที่เป็นพี่น้องของสามีได้ ถ้าอาศัยอยู่บ้านเดียวกัน ถ้าเรารวมรายได้ของสามีกับพี่สาว มันก็เกินเกณฑ์มาเยอะเลย แต่ปัญหามันติดอยู่ที่ว่า สามีกับพี่สาวไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน

เลยโทรคุยกับสามี แล้วสามีก็พูดขึ้นมาว่า จะไปยากอะไรล่ะ เค้าก็ย้ายที่อยู่ไปอยู่บ้านพี่สาว แค่นั้นแหละ (แต่ตัวยังอยู่ที่เดิม ย้ายแค่ในนาม) อืม.........จะถือว่าให้ข้อมูลเท็จมันก็นิดนึงอ่ะนะ เราก็ เป็นไงเป็นกัน ส่งเมลไป NVCและสถานทูตแจ้งเปลี่ยนที่อยู่ของสามี

และแล้วเราก็ไปสัมภาษณ์ตามวันนัด.............
ไปอ่านต่อได้ใน "สัมภาษณ์วีซ่า" นะจ๊ะ



Create Date : 21 ธันวาคม 2554
Last Update : 21 ธันวาคม 2554 14:23:10 น.
Counter : 366 Pageviews.

1 comments
  
โดย: winzar2 วันที่: 21 ธันวาคม 2554 เวลา:18:41:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apichypom
Location :
Santa Ana  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]