Group Blog
 
All Blogs
 
นกน้อยตัวหนึ่งนั้น

นกน้อย

ผมเห็นนกน้อยตัวหนึ่ง บินผ่านไปทางด้านหลังบ้าน จึงเดินตามเข้าไปดู มันเกาะอยู่บนขื่อที่ทำจากไม้แดงซึ่งเก่าคร่ำคร่าแล้ว หัวเล็ก ๆ ของมันส่ายไปมา มองไปทางซ้ายบ้างขวาบ้าง บางครั้งก็เอาซุกไซร้กับแนวขนสีขาวใต้ซอกปีกที่เป็นสีน้ำตาลอ่อน ปากของมันร้องจิบ ๆ อยู่ตลอดเวลา สุดท้ายจึงขยับปีกบินจากไป

ผมไม่ได้สนใจมันอีกเลยและไม่นึกว่าว่าจะต้องไปเกี่ยวข้องอะไรกลับมันอีก จนกระทั่งในวันหนึ่งเมื่อออกไปนั่งเล่นทางหลังบ้าน ผมได้ยินเสียงของมันอีกครั้ง เสียงจิบ ๆ ของมันยังคงกังวานใส เมื่อหันมองไปยังต้นเสียงก็เห็น ร่างเล็ก ๆ ร่างนั้น คราวนี้มันไม่ได้กระโดดย่องเหยงไปมา แต่กำลังซุกตัวอยู่ในรังน้อย ๆ สีเดียวกับตัวของมันที่หลบซ่อนอยู่ในมุมอับของขื่อ

กระไดไม้ถูกวางพาดขนานขึ้นไปกับเสา เจ้านกน้อยตกใจโผบินไปจากบ้าน ผมปีนขึ้นไปเพื่อพิจารณารังของมันใกล้ ๆ รังนั้นสร้างขึ้นมาจากเส้นหญ้าเล็ก ๆ หลายร้อยเส้นที่คงจะผ่านการเลือกสรรมาแล้วเป็นอย่างดี เส้นหญ้าเหล่านั้นดูมีขนาดเท่ากันไปเสียทุกเส้น มันคงจะคัดสรรมาเพื่อสรรสร้างวิมานน้อยแห่งนี้ และอีกไม่นานคงจะมีชีวิตน้อย ๆ ออกมาจากไข่สีขาวขุ่นสามใบที่วางอยู่เรียงราย

กระไดไม้ไม่ได้ถูกยกออกไป ผมตั้งใจที่จะมาสังเกตความเป็นอยู่ของมันทุก ๆ วัน และเฝ้ารอที่จะได้เห็น ลูกนกตัวน้อย ๆ ไร้ขนร้องขออาหารจากแม่ของมัน แต่ผมกลับไม่พบเห็นแม่นกตัวนั้นอีกเลย แม้ว่าเวลาจะผ่านไปอีกหลายวันและไข่ก็ยังไม่ฟักออกมา ไม่มีแม้แต่เสียงจิบ ๆ ไม่มีแม้แต่เงาร่างเล็ก ๆ ของเจ้าของเสียง เจ้านกน้อยเอย เจ้าหายไปที่ใด...

ความเรียง

อาคารเรียนแห่งนี้ไม่ใหญ่มากนักมันทำขึ้นมาจากไม้สักทั้งหลังและตั้งยื่นเข้าไปในบึงน้ำสีเขียว ในตัวอาคารมีห้องเรียนทั้งหมดหกห้องด้วยกัน พื้นที่ปูด้วยไม้ปาเก้ถูกขัดด้วยแก้วกระดาษไขจนมันวาวด้วยฝีมือของนักเรียน บนกระดานดำสีเขียวเข้มที่แปดเปื้อนไปด้วยฝุ่นชอล์กสีขาวในห้อง ๆ หนึ่งนั้นมีข้อความตัวโตปรากฏอยู่กลางกระดานว่า จงเขียนเรียงความเรื่อง “สิ่งที่ประทับใจของข้าพเจ้า” ความยาวหนึ่งหน้ากระดาษ โดยใช้ตัวบรรจงครึ่งบรรทัด

ผมนั่งคิดอยู่นานว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี ในเมื่อบ้านของผมเป็นร้านค้าขายของชำและอาหารตามสั่ง แม่ต้องทำงานไม่มีวันหยุดเวลาพักขึ้นอยู่กับว่ามีลูกค้ามากหรือน้อย ส่วนพ่อเป็นเสมียนโรงเลื่อยไม้หยุดแค่วันอาทิตย์วันเดียว เรื่องการจะได้ไปเที่ยวที่ไหนไกล ๆ ก็เลยกลายเป็นความฝัน นอกจากโอกาสพิเศษจริง ๆ ซึ่งมันก็ผ่านมาเนิ่นนานกว่าที่เด็ก ป.5 อย่างผมในตอนนั้นจะเก็บเกี่ยวรายละเอียดจนนำมาเขียนให้ครบหนึ่งหน้ากระดาษได้ ผมหันไปมองเพื่อน ๆ ที่กำลังก้มหน้าก้มตาใช้ปากกาลูกลื่นขีดเขียนข้อความลงไปในสมุดเบื้องหน้าแล้วก็ให้นึกอิจฉาอยู่ในใจ หลายคนคงกำลังเขียนเรื่องไปเที่ยวพักร้อนชายทะเลในช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา

ผมเคยบอกกับพ่อว่าอยากไปเที่ยวทะเลบ้าง โดยให้เหตุผลว่าตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยได้สัมผัสน้ำเค็มเลย พ่อตอบกลับมาว่าทำไม่จะไม่เคย ตอนสาม-สี่ขวบพ่อเคยพาผมกับแม่ไปบางปูมาแล้วผมยังเคยบอกว่าอยากได้นกนางนวลเลย แล้วพ่อก็ออกท่าทาง เอามือไขว่ขว้าอากาศพร้อมออกเสียงอ้อแอ้ “ป้อ ป้อ หนูจะเอานก” อย่างไรก็ตามพ่อสัญญาว่าได้โบนัสครั้งหน้าจะพาไปบางแสน ซึ่งผมว่ามันก็ยังดีกว่าที่แม่บอกว่าไว้ถูกหวยแล้วจะพาไป

ผมเริ่มคิดถึงสิ่งรอบข้างว่าหยิบอะไรขึ้นมาเขียนดี มองออกไปทางหน้าต่างด้านข้างเห็นนกเขาคู่หนึ่งเกาะอยู่บนต้นหางนกยูงที่รากแผ่ขยายทะลุตลิ่งดินจนลงไปจุ่มน้ำ ภาพของนกน้อยที่ทิ้งรังปรากฎขึ้นมาในห้วงคำนึงและถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษรลงบนหน้ากระดาษเนื้อหยาบ มันกลายเป็นเรียงความที่ได้คะแนน 10 เต็มฉบับเดียวของชั้น และเป็นเรียงความที่ก่อให้เกิดความฝัน ถ้าใครถามผมว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไรในช่วงนั้นผมจะตอบกลับไปว่าอยากเป็นนักเขียน มันทำให้ผมตระหนักว่า เจ้านกน้อยตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่ในใจของผมตลอดมา...

โชคชะตา

เวลาผ่านไปอีกหลายปี ผมยังไม่ได้ไปบางแสนและไม่ได้เดินไปตามทางที่ฝันไว้แม้แต่นิดเดียว แม้ว่าทุกครั้งที่อาจารย์ให้เขียนเรื่องสั้น เรียงความหรือกาพย์กลอนงานของผมจะได้รับการยอมรับจากเพื่อน ๆ และอาจารย์เสมอมา แต่ผมรู้ดีว่ามันไม่ใช่งานที่จะนำไปประกอบเป็นอาชีพได้ ตัวผมเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่ไม่ทำกินก็จะมีใช้ ทุกวันหลังจากเลิกเรียนผมต้องกลับบ้านไปช่วยแม่ขายของและเลี้ยงน้องที่มีตามมาอีก 5 คน ด้วยเหตุนี้ความฝันเป็นอันพับเก็บไป ผมเลือกเรียนไปในทางที่คิดว่าจะมีอนาคตและหาเงินได้ดีที่สุด

ผมตั้งใจเรียนเป็นอย่างดี และดีใจมากเมื่อผลทดสอบพรีเอนทรานซ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ ด้วยคะแนนระดับนี้ผมสามารถเลือกเข้าในคณะที่ต้องการได้อย่างสบาย ๆ อาจารย์ผู้ทำหน้าที่แนะแนวยังพูดว่าในบรรดานักเรียนของโรงเรียนครูคิดว่าเธอมีสิทธิ์มากกว่าใคร แม้ผมจะรู้ว่านั่นเป็นวิธีการสร้างกำลังใจให้นักเรียนรูปแบบหนึ่งแต่มันก็นำมาซึ่งความปลาบปลื้มไม่น้อย …ทีนี้ก็เหลือแค่สอบจริงเท่านั้น

แต่โชคชะตาไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ ผมไข้ขึ้นในวันสอบ สมองมึนงงไปหมดเวลาทำโจทย์แต่ละข้อ จึงรู้ผลที่จะตามมาเป็นอย่างดี ผมไม่โทษใครได้แต่โทษตัวเองที่หักโหมจนเกินไป อย่างไรก็ดีชีวิตไม่อับจนสิ้นหนทางเมื่อเข้ามหาวิทยาลัยรัฐบาลไม่ได้ผมก็เบนเข็มมาเข้ามหาลัยเอกชนแม้จะรู้ว่าต้องสร้างความลำบากให้ครอบครัวอีกไม่น้อย แต่ผมจะไม่รออยู่เฉย ๆ อีกปีเป็นแน่

สามปีครึ่งในมหาวิทยาลัยผมจบออกมาพร้อมกับใบประกาศนียบัตรใบหนึ่งและตระหนักถึงวรรคทองของ อาจารย์วิทยากร เชียงกูล ในบทประพันธ์เพลงเถื่อนแห่งสถาบัน ผมยังงง ๆ อยู่ว่าได้อะไรมาจากมหาวิทยาลัยบ้าง นอกจากวิชาที่เอาไว้ “ศึกษาต่อ” กับทฤษฎีที่มีอยู่เต็มหัวสมอง ผมมองขึ้นไปบนท้องฟ้าซึ่งมืดมัวและรำพึง เจ้านกน้อยเจ้าอยู่แห่งหนใด ช่วยบอกทางฉันที

งาน

ผมแสวงหางานอยู่เกือบปี หลายแห่งแสดงท่าทีชัดเจนว่าถ้าคุณไม่ใช่พวกฉัน ไม่ได้มีเลือดสีเดียวกัน จงอย่าเข้ามา ผมไม่เข้าใจว่าทำไม เราไม่ใช่คนเหมือนกันหรือ ลองกรีดเลือดมาดูไยมิใช่แดงดั่งเดียวกัน หรือเลือดคุณเป็นสีดำ จึงสูบฉีดหล่อเลี้ยงพาให้ใจเปลี่ยนสีไปด้วย ผมเพียงแค่ต้องการโอกาสเท่านั้น อย่างน้อยก็ดูผลงานที่ผมนำมาบ้างสิ

ในที่สุดก็มีที่ให้ผมอยู่แม้จะถูกกดอัตราค่าจ้างไปบ้าง แต่ก็ยังดีกว่าออกไปเดินจนรองเท้าสึกโดยไร้จุดหมาย งานเป็นเหมือนสิ่งใหม่ที่เข้ามาในชีวิต ผมหมกมุ่นและศึกษามัน การเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยไม่ได้ช่วยอะไรมากมายนอกจากการสอนให้มีความคิดที่เป็นระบบกับพื้นฐานอีกนิดหน่อย ที่เหลือเป็นการศึกษาเพิ่มเติมและประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นตามอายุงาน ผมทำงานได้สองปีมีผลงานมากมาย ผลงานสูงสุดมีผู้นำประเทศได้ผ่านตา ต่ำสุดรับใช้แม่ค้าชาวประชา ผมคิดว่าถึงเวลาเรียกร้องในสิ่งที่ควรจะได้แล้ว เพียงขอเงินเดือนเพิ่มอีกนิด จะมีปัญหาอะไร

เหมือนฟ้าผ่าหลังควายตอนกลางวัน นายจ้างรับลูกด้วยเท้าขวา ก่อนซัดเปรี้ยงด้วยเท้าซ้ายข้างถนัด บอลลอยพุ่งละลิ่วทะลุตาข่ายไปนอนสงบนิ่งอยู่บนเตียงที่บ้าน ผมนอนเอามือก่ายหน้าผาก ขาเกยไขว่ห้าง พยายามคิดในแง่ดีอย่างน้อยปีนี้ก็ได้ดูบอลโลกเต็มอิ่มหล่ะวะ

แต่ชีวิตก็ยังไม่เลวร้ายเกินไปนัก ช่วงเวลาที่ผ่านมากับบริษัทเดิมของผมไม่สูญเปล่า อย่างน้อยก็ได้ออกงานพบปะผู้คนมากมาย และหนึ่งในนั้นมีโปรเจ็คที่น่าสนใจ เขาติดต่อเข้ามาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการแข่งขัน ผมสนใจเป็นอย่างยิ่งเพียงติดอยู่ประการเดียว ประการที่จะต้องออกเดินทางจากบ้านไปไกลและนานพอดู แต่ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจได้ ..ไปก็ไปวะ ไปดูการแข่งนัดสุดท้ายในต่างแดนก็ไม่เลว.. ผมเหลือบมองโลโก้ รูปนกของบริษัทใหม่ที่อยู่ด้านบนขวาของเอกสารในมือ มันทำให้ผมนึกถึงเจ้านกน้อยตัวนั้น ให้ตายเถอะเจ้านกน้อย ฉันแทบไม่ได้คิดถึงแกเลยว่ะ

หวนคืน

ในที่สุดผมก็กลับมาสู่ถิ่นเดิม ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้นและประสบการณ์ที่พอกพูน น้อง ๆ หลายคนเรียนจบมหาลัยไปแล้วด้วยความภาคภูมิใจของผมและครอบครัว บางคนก็มีงานที่มั่นคง บางคนก็เรียนต่อด้วยอนาคตที่สดใส บริษัทหลายแห่งติดต่อผมมาเสนอตำแหน่งต่าง ๆ ให้ ผมพักอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งจึงเลือกทำงานในบริษัทที่มั่นคงและได้ค่าตอบแทนสูง งานเข้ามามีบทบาทต่อชีวิต ผมต่อสู้และทุ่มเทอีกครั้ง

ผมและน้อง ๆ เริ่มมีความคิดที่จะสร้างบ้านหลังใหม่บนพื้นที่เดิมให้พ่อกับแม่แทนบ้านหลังเก่าที่อยู่มากว่า 40 ปีและได้มีการต่อเติมอะไรมากมายจนแทบไม่เหลือเค้า เราเริ่มวางแผนการดำเนินการและคิดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อยสองปี ในการสร้างมันขึ้นมา คุณว่านานไปหรือ สองปีเป็นเวลาที่ไม่มากเลยถ้าเทียบกับผลของมันที่สำเร็จออกมา มันเป็นบ้านที่เกิดจากความภาคภูมิใจ จากน้ำพักน้ำแรงของเราเหล่าพี่น้อง แต่คนที่ดีใจมากที่สุดคงเป็นพ่อกับแม่นั่นเอง

วันย้ายของเข้า ผมเห็นพวกท่านมองบ้านข้างหน้าด้วยสายตาที่เรียบเฉย แต่กลับมองพวกเราด้วยสายตาที่แปลก ๆ ชอบกล แม่นั้นถึงกับซบอกพ่อหลั่งน้ำตาอย่างไม่อายใคร หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์เราก็ไปฉลองบ้านใหม่กันที่บางแสน ในที่สุดพ่อก็พาผมไปทะเลจนได้ การรอคอยอันแสนยาวนานของผมเป็นอันสิ้นสุดลง แม่เลิกเล่นหวยไปเมื่อย้ายเข้าอยู่บ้านใหม่นั่นเอง แต่คำว่า “รอให้แม่ถูกหวยก่อน” ก็ยังติดปากพวกเราไปอีกนานแสนนาน

ในวันหนึ่งน้องสาวคนเล็กของผมเอาสมุดลายไทยหน้าปกสีเขียวดูเก่า ๆ เล่มหนึ่งมาโบกไปมาต่อหน้าผม พร้อมกับเอ่ยถาม ของใครเอ่ย ด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูอ้อล้อ ชอบกล ผมจึงตบกระโหลกเบา ๆ ไปหนึ่งทีด้วยความรัก แล้วบอกไปว่ากำลังยุ่ง แล้วก้มหน้าก้มตาทำงานหน้ามอนิเตอร์ต่อไป สักพักจึงได้ยินเสียงอ่านเบา ๆ แต่ชัดเจนเพราะร่างเล็ก ๆ กระทัดรัดนั้น ขยับมานั่งอยู่บนที่วางแขนข้าง ๆ ตัวผมนั่นเอง

“ผมเห็นนกน้อยตัวหนึ่ง .....”

เสียงใส ๆ อ่านไปได้แค่ย่อหน้าหนึ่งก็ดึงดูดผมออกมาจากงานที่หมกมุ่นอยู่ ผมนั่งฟังเจ้าตัวดีอ่านจนจบ พร้อมกับบอกคุณน้องสุดที่รักขอสมุดพี่คืนมาเถอะนะคะ จะเอาอะไรก็ว่ามาพี่จะประเคนให้เลย ...เจ้านกน้อยฉันเริ่มมองเห็นปีกน้อย ๆ สีน้ำตาลจาง ๆ ของเจ้าลางๆ อีกครั้งแล้ว

สู่เส้นทาง

ในมือของผมมีสมุดลายไทยสีเขียวเก่าคร่ำคร่า หวนนึกว่าไยผมจึงทอดทิ้งมันให้อยู่ก้นกล่องเสียเนิ่นนาน ถ้าไม่ได้ย้ายบ้านก็คงไม่มีใครค้นเจอ ถ้าน้องสาวหัวใสไม่นำมันมาแลกกับสตางค์ไปเที่ยวเกาะมันนอก มันก็คงไม่กลับมาอยู่ในอุ้งมือของผมเช่นนี้

ผมอ่านเรียงความนั้นครั้งแล้วครั้งเล่ามันทำให้ผมนึกถึงความหลัง นึกถึงอาคารเรียนทำจากไม้สักทั้งหลังที่ปลูกยื่นลงไปในบึงน้ำสีเขียว พื้นที่มันแผล็บจากหยาดเหงื่อและแรงงานของนักเรียนทุกคน ถุงเท้าที่ขาดวิ่นจากการสไลด์ลื่นไปตามพื้นไม้ นึกถึงตัวเองที่เอาเรียงความที่ได้คะแนนเต็มฉบับนี้วิ่งโชว์ไปรอบห้อง นึกถึงคำชมเชยจากคุณครูที่มีให้ และความฝันที่ปล่อยทิ้งให้หยากไย่เกาะเกี่ยวมาเนิ่นนาน ได้เวลาหรือยังที่ผมจะเก็บสิ่งมีค่านั้นขึ้นมาปัดเช็ดทำความสะอาดให้เหมาะสมกับคุณค่าของมันเสียที “อย่าบอกว่าไม่มีเวลาทำเช่นนั้น ในเมื่อเรายังมีเวลาให้กับงานทั้งในและนอกเวลาแล้วทำไมจะไม่มีเวลาให้กับความฝันของตัวเองบ้าง” ผมบอกกับตัวเองตบท้าย

หลังจากนั้นผมเริ่มหาเวลาว่างในช่วงหนึ่งของทุกวันเพื่อไล่ตามนกน้อยตัวนั้นไป แม้จะเห็นว่ายังอยู่ห่างอีกแสนไกล แม้มันจะบินสูงจนปีกของมันดูเล็กกระจิ๋วเดียวในเงาแดด แต่ผมก็ยังภูมิใจที่มองเห็นมันอีกครั้งและได้ขยับตัวไล่ตาม ผมค่อย ๆ ติดตามอย่างช้า ๆ ทำลายระยะห่างไปทีละนิด ๆ ไม่เร่งรีบเพราะประสบการณ์หลายครั้งในชีวิตสอนไว้ว่าอย่าหักโหม ผมไม่กลัวว่าเวลาของผมจะหมดสิ้นไป เพราะอย่างน้อยที่สุดตอนนี้ผมก็ได้เริ่มกลับมาสู่เส้นทางแห่งความฝันอีกครั้งหนึ่ง ในที่สุดผมก็พบเจ้านกน้อยของผมอีกครั้งหนึ่ง และจะไม่ปล่อยให้มันบินลับหายไป ...แล้วเจ้านกน้อยของคุณหล่ะ ตอนนี้ อยู่แห่งหนใด

***************************

...นกน้อยเอยเจ้าบินสูงละลิบลับ
แม้นสดับบ่ได้ยินเสียงเพรียกหา
เฝ้ารอคอยนับคืนวันล่วงเวลา
เพียรจนล้ากว่าจะรู้อยู่ที่ใจ...

***************************



Create Date : 12 กรกฎาคม 2548
Last Update : 12 กรกฎาคม 2548 18:13:14 น. 0 comments
Counter : 1393 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biblio
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add biblio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.