Group Blog
 
All Blogs
 

Nokia 500 ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ในราคาเบา ๆ







ขอขอบคุณภาพประกอบจาก 
Nokia.co.th




          สมาร์ทโฟนราคาประหยัด แต่อัดแน่นไปด้วยฟังก์ชั่นสุดเทพ อย่างเจ้า
"Nokia 500" ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของค่ายโนเกีย ที่ใช้ CPU 1 GHz
และเป็นระบบปฏิบัติการ Symbian Annna ที่ราคาถูก
และน่าจับตามองที่สุดในขณะนี้



          ด้วยหน้าจอสัมผัสแบบ Capacitive
ขนาด  3.2 นิ้ว ใหญ่พอดีมือ
พร้อมเซ็นเซอร์ปรับหมุนหน้าจออัตโนมัติ(Accelerometer sensor)
และเมื่อเพียงหมุมไปในแนวนอน ตัวเซ็นเซอร์ก็จะดับไฟหน้าจออัตโนมัติ
หรือดับไฟเวลานำโทรศัพท์มาแนบหู นอกจากนี้ยังจุหน่วยความจำได้ถึง  2 GB
และสามารถใส่เมมโมรี่การ์ดแบบ microSD ได้สูงสุด 32 GB เลยทีเดียว



ส่วนใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ เพียงแค่ใช้ "Nokia 500" ท่านก็ได้รูปสวย ๆ ใน
ความละเอียด 5 ล้านพิกเซลแล้ว สำหรับ Symbian Anna มาพร้อมกับหน้าจอหลัก 3
หน้าจอ ปรับแต่ง Shortcut หรือ Widget ได้ตามสไตล์อย่างที่คุณชอบ

แถมยังมีแป้นพิมพ์ QWERTY ในแนวตั้ง ช่วยให้พิมพ์มือเดียวได้ถนัดขึ้น
รวมไปถึงการใช้งาน Browser
ที่เรียกใช้ได้ง่ายและรวดเร็วสะดวกกับชาวเน็ตทั้งหลายอีกด้วย 



           สำหรับใครที่รักในเสียงเพลงนั้น "Nokia 500"
ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย
ไม่ว่าจะเป็นการปรับอีควอไลเซอร์ได้ 6 รูปแบบ รวมไปถึงการแสดงภาพศิลปิน
หรือปกอัลบั้มขนาดใหญ่ขณะที่ฟังเพลง โดยสามารถฟังต่อเนื่องยาวนานได้ถึง 35
ชั่วโมง แถมยังชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 315 นาที  
อีกทั้งยังสามารถถ่ายโอนเพลงจากคอมพิวเตอร์ได้ด้วย ฟังก์ชั่น USB on the go
ซึ่งก็สามารถทำได้ง่าย ๆ แค่เพียงเชื่อมต่อ  "Nokia 500" ผ่านสาย microUSB
เท่านั้นเอง และยิ่งไปกว่านั้น  "Nokia 500"
ยังรองรับการเชื่อมต่อผ่านเครือข่าย 3G
อีกทั้งยังรองรับทุกคลื่นความถี่ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi หรือรับส่ง
ไฟล์ผ่านทาง Bluetooth 












          "Nokia 500" ยังมาพร้อมระบบนำทางด้วยเสียง ที่
เปิดใช้งานได้ฟรีตลอดชีพ ทั้งนี้เราสามารถเปลี่ยน "Nokia 500"
ให้เป็นอุปกรณ์นำทางขนาดย่อม ที่รับสัญญาณจากดาวเทียม GPS ได้อย่างรวดเร็ว

พร้อมระบุตำแหน่งพิกัดได้อย่างแม่นยำชนิดจุดต่อจุดเลยล่ะ แถมยังมี แผนที่
Nokia Maps ที่นำทางโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วยนะ แล้วถ้าใครอยากเช็คอินไปยัง Facebook, Twitter, Foursquare และ Social Networks อื่น ๆ ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายตามใจชอบเลยทีเดียว  
ส่วนขาเม้าท์ ขาแชทก็สบายใจได้กับ แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-ion 1,100 mAh
(Standard Battery) ที่สามารถเปิดรอรับสาย 500 ชั่วโมง
และสนทนาต่อเนื่องได้  7 ชั่วโมง 



          สำหรับเจ้า "Nokia 500" ที่อัดแน่นไปด้วยสรรพคุณอย่างนี้
ขอบอกว่าราคาไม่แพงอย่างที่คิด สนนราคาอยู่ที่ 6,600 บาท
มีหลายสีให้เลือกสรรหาตามสไตล์ ทั้งเรียบ ๆ ดูดี อย่าง น้ำเงิน,
ดำ,เขียวกากี หรือสีสุดจี๊ดอย่าง แดง, ม่วง, ส้ม เป็นต้น 

          โอ้โห้ คุณภาพเทพ อย่างราคาเบา ๆ อย่างนี้ ใครที่สนใจก็สามารถจับจอง "Nokia 500" ได้ที่ร้านโนเกียนะคะ 








 สเปค Nokia 500

ระบบปฎิบัติการ : Symbian เวอร์ชั่น Anna

หน่วยประมวลผล : (ไม่ระบุ)

ความเร็ว : 1 GHz

หน่วยความจำ 2 GB (ตัวเครื่อง)

การ์ดหน่วยความจำ microSD - สูงสุด 32 GB

ขนาด : 113.5 x 53.8 x 14 มิลลิเมตร

น้ำหนัก 93 กรัม



ฟังก์ชั่นมัลติมีเดีย



กล้องดิจิตอล 5 ล้านพิกเซล (Digital Camera)

 - ซูมดิจิตอล 4 เท่า (4x Digital Zoom)

- แนบตำแหน่งบนแผนที่ไปกับภาพถ่าย (Geo-Tagging)

บันทึกวีดีโอ ภาพเคลื่อนไหว (Video Recording)

- ความละเอียด 640 x 480 พิกเซล

 - รูปแบบไฟล์วีดีโอ : MPEG-4, 3GP (Video format)

เครื่องเล่นวีดีโอ (Video Player)

 - รูปแบบไฟล์ : MPEG-4, 3GP, H.264, H.263

- วีดีโอสตรีมมิ่ง : 3GP

- รองรับวีดีโอจาก YouTube™

เครื่องเล่นเพลง (Music Player)

 - รูปแบบไฟล์ : AAC, AAC+, eAAC+, MP3, WMA, SpMidi

วิทยุ FM Radio



การโทร และ ฟังก์ชั่นพื้นฐาน



 แสดงรูปถ่ายและวีดีโอ ขณะมีสายเข้า (Video & Photo Caller ID)

 โทรด่วน (Speed Dial)

โทรออกด้วยเสียง, คำสั่งเสียง (Voice function)

 สนทนาพร้อมกันหลายสาย (Conference calling)

 แฮนด์ฟรีในตัว (Build-In Handsfree)

 ออร์กาไนเซอร์

 - ปฏิทิน, เครื่องคิดเลข, นาฬิกาปลุก, จดบันทึก

 เสียงเรียกเข้า AAC, eAAC+, MP3, WMA, SpMidi

 - ระบบสั่น (Vibration in Phone)

 ใช้งานเครื่องโดยไม่เปิดสัญญาณโทรศัพท์ (Flight Mode)



การใช้งานของแบตเตอรี่



แบตเตอรี่มาตรฐาน Li-ion 1,100 mAh (Standard Battery)

เปิดรอรับสาย 500 ชั่วโมง (Standby Time)

- ระบบ WCDMA 455 ชั่วโมง

สนทนาต่อเนื่อง 7 ชั่วโมง (Talk Time)

- ระบบ WCDMA 5 นาที

ชมวีดีโอนานต่อเนื่อง 315 นาที (Video playback time)

ฟังเพลงต่อเนื่อง 35 ชั่วโมง (Music playback time)




 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 23 พฤศจิกายน 2554 1:52:36 น.
Counter : 747 Pageviews.  

ท่องเที่ยวสุขใจพบได้ที่ สวนผึ้ง ราชบุรี

..........

สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้ง ราชบุรี

ท่องเที่ยวสุขใจพบได้ที่ สวนผึ้ง จ.ราชบุรี (คู่หูเดินทาง)

สวนผึ้ง เป็นอำเภอหนึ่งของ จังหวัดราชบุรี
ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งป่าไม้ ภูเขา และน้ำตก
พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นที่ราบสูง
ภูมิประเทศของสวนผึ้งนั้นขนาบด้วยเทือกเขาตะนาวศรี
ซึ่งเป็นพรมแดนทางตะวันตกกั้นระหว่างประเทศไทยกับพม่า การเดินทางสะดวก
ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงกว่า ๆ จากกรุงเทพฯ ก็ถึงแล้ว 

สถาน
ที่ท่องเที่ยวมีความหลากหลาย ทั้งจากธรรมชาติสร้างและฝีมือมนุษย์รังสรรค์
ที่สำคัญมาเที่ยวกันได้ตลอดทั้งปีโดยเฉพาะหน้าหนาวอากาศจะดีมาก ๆ
บ้างก็ว่าเหมือนกับอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
บ้างก็ว่าเหมือนประเทศนิวซีแลนด์ ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน
โดยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจก็มีอยู่มากมายหลายแห่ง ดังนี้
...


โป่งยุบ

โป่งยุบ สวนผึ้ง ราชบุรี

โป่งยุบ

โป่งยุบ สวนผึ้ง ราชบุรี

โป่งยุบ

         
เป็นการยุบตัวของพื้นดินที่มีลักษณะเป็นหลุม มีความลึกประมาณ 3-5 เมตร
ต้องเดินด้วยความระมัดระวังเพราะบางจุดนั้นลึกมากๆ
เหมือนกับเป็นเหวขนาดย่อมๆ เลยก็ว่าได้
เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก การเกิดขึ้นของโป่งยุบ
สันนิฐานว่าเกิดจากการกัดเซาะของน้ำ
ทำให้แผ่นดินยุบตัวลงแล้วกลายเป็นหน้าผาสูงชัน กินเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่
เป็นพื้นที่ของเอกชน คิดค่าใช้จ่ายในการเข้าชมตั้งแต่ 40 – 400
บาทแล้วแต่จำนวนคนและขนาดของรถ สอบถามรายละเอียด โทรศัพท์ 08-1255-7500


บ้านเทียนหอม

บ้านเทียนหอม สวนผึ้ง ราชบุรี

บ้านเทียนหอม

บ้านเทียนหอม สวนผึ้ง ราชบุรี

บ้านเทียนหอม

บ้านเทียนหอม สวนผึ้ง ราชบุรี

บ้านเทียนหอม

บ้านเทียนหอม สวนผึ้ง ราชบุรี

บ้านหอมเทียน

         
เมื่อออกมาจากโป่งยุบตรงมาเรื่อย ๆ ถึงหลักกิโลเมตรที่ 33
เราก็จะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยว ที่อบอวลไปด้วยความหอมละมุนไปทั่วสถานที่
ด้านหน้ามีร้านเสื้อเพ้นท์สดลวดลายสวยงามน่ารัก
ใส่แล้วไม่ซ้ำใครแน่นอนเพราะเค้าเพ้นท์มาแบบละตัวเท่านั้น
พื้นที่กว้างขว้างมีมุมน่ารัก ๆ ให้โพสต์ท่าถ่ายรูปกันอยู่หลายจุด
บริเวณภายในร้านจะจุดเทียนหอมและเปิดเพลงเบา ๆ
เพื่อสร้างบรรยากาศในการเดินเล่ นให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี
มีการนำของสะสมข้าวของเครื่องใช้ในอดีตมาจัดวาง
เพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้เราได้ย้อนนึกถึงวันวานกันอีกด้วย

         
เทียนที่นี่จะเป็นเทียนคุณภาพดีเกรดเอ เพราะเค้านำเขาวัสดุมาจากต่างประเทศ
เช่น สีจากเยอรมัน น้ำหอมจากฝรั่งเศส ไส้เทียนจากไต้หวัน
และพาราฟินจากประเทศจีน มีร้านอาหารและร้านกาแฟสดให้บริการ
สถานที่สังเกตเห็นง่ายเพราะอยู่ติดกับถนนสายหลักอยู่ทางด้านขวามือ
เปิดบริการทุกวันเวลา 7.00 - 18.00 น.


The Scenery Resort & Farm

The Scenery Resort & Farm สวนผึ้ง ราชบุรี

The Scenery Resort & Farm

The Scenery Resort & Farm สวนผึ้ง ราชบุรี

The Scenery Resort & Farm

The Scenery Resort & Farm สวนผึ้ง ราชบุรี

The Scenery Resort & Farm

The Scenery Resort & Farm สวนผึ้ง ราชบุรี

The Scenery Resort & Farm

The Scenery Resort & Farm สวนผึ้ง ราชบุรี

The Scenery Resort & Farm

The Scenery Resort & Farm สวนผึ้ง ราชบุรี

The Scenery Resort & Farm

         
ขับตรงขึ้นไปจากบ้านหอมเทียน
จะเจอสามแยกให้เบี่ยงออกไปทางซ้ายแยกภูผาผึ้งรีสอร์ท ขับตรงไปอีกประมาณ 5
กิโลเมตร เราก็จะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์
เป็นที่ที่ทำให้คนรู้จักสวนผึ้งกันอย่างแพร่หลาย The Scenery Resort &
Farm รีสอร์ทสวย ที่มีสนามหญ้าเขียวสด
ลายล้อมด้วยภูเขาสลับซับซ้อนและฝูงแกะสีขาวหลายสิบตัว
ที่คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างน่ารัก 

          แน่นอน!
กิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือ
การให้อาหารแกะรวมถึงการถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับน้องแกะนั่นเอง นอกจากนี้
ยังมีมุมสวย ๆ
ที่ทางรีสอร์ทได้เซ็ทอัพขึ้นเพื่อให้ได้ถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน
แกะที่นี่จะเป็นพันธุ์ผสมชื่อว่า พันธ์คาทาดิน
ซึ่งมีความทนต่อสภาพภูมิอากาศ เสียค่าเข้าชมท่านละ 40 บาท
จะได้รับหญ้าเนเปียสำหรับเลี้ยงแกะ 1 กำ
แต่ถ้าหากไม่พอก็สามารถซื้อเพิ่มได้ในราคากำละ 20 บาท
ด้านหน้าจะเป็นที่ตั้งของร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหาร
เปิดให้บริการทุกวัน : วันจันทร์-ศุกร์ 10.00-18.00 น. / เสาร์-อาทิตย์
9.00-18.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 08-5488-9905 หรือ
//www.sceneryresort.com


ธารน้ำร้อนบ่อคลึง

ธารน้ำร้อนบ่อคลึง สวนผึ้ง ราชบุรี

ธารน้ำร้อนบ่อคลึง

ธารน้ำร้อนบ่อคลึง สวนผึ้ง ราชบุรี

ธารน้ำร้อนบ่อคลึง

         
ตรงขึ้นไปจากซีนเนอร์รี่ฯ เจอสามแยกให้เลี้ยวขวาแล้วขับรถตรงขึ้นไปอีก
สังเกตซ้ายมือจะมีป้ายธารน้ำร้อนบ่อคลึง ลักษณะเป็นลำธารเล็ก ๆ
มีน้ำไหลซึมออกมาจากตาน้ำใต้ดินไม่ขาดสาย
ถ้าขึ้นไปดูที่ต้นน้ำจะพบก้อนหินใหญ่เล็กเรียงลายไปมา ดูสวยงามตามธรรมชาติ
มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาตะนาวศรี มีน้ำไหลตลอดปี อุณหภูมิของน้ำจะประมาณ
65 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนมากพอที่จะต้มไข่สุกได้

         
บริเวณต้นน้ำจะมีบ่อแยกเก็บน้ำไว้ให้ชาวบ้านดื่ม-กิน
จากบ่อดินด้านล่างสามารถเดินไปที่ต้นธารน้ำร้อนประมาณ 150 เมตร
ธารน้ำร้อนบ่อคลึงเป็นสถานที่ของเอกชน ผู้ค้นพบ คือ นายประยูร โมนยะ
เปิดบริการวันจันทร์-ศุกร์ เปิดตั้งแต่เวลา 08.00–17.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.00–18.00 น. ค่าผ่านประตู 5 บาทต่อท่าน 
ค่าอาบน้ำแร่บ่อกลางแจ้งคนละ 20 บาท สระกระเบื้องคนละ 50 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ โทรศัพท์ 0-327- 1086


น้ำตกเก้าโจน

น้ำตกเก้าชั้น หรือ น้ำตกเก้าโจน สวนผึ้ง ราชบุรี

น้ำตกเก้าโจน

น้ำตกเก้าชั้น หรือ น้ำตกเก้าโจน สวนผึ้ง ราชบุรี

น้ำตกเก้าชั้น หรือ น้ำตกเก้าโจน

         
อยู่ห่างจากธารน้ำร้อนบ่อคลึง 1 กิโลเมตร
ตอนที่เราไปน้ำออกจะสีแดงสักหน่อย เนื่องจากมีฝนตกบนภูเขา
จากลานจอดรถต้องเดินเข้าไปประมาณ 200 เมตร
ระยะทางในการเดินชมน้ำตกแต่ละชั้นไม่ไกลกันมากนัก บริเวณต้นน้ำของน้ำตก
ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบสูงบริเวณเทือกเขาตะนาวศรี 
ซึ่งมีลักษณะป่าที่อุดมสมบูรณ์ และมีฝนตกชุกอย่างต่อเนื่อง
จึงทำให้มีน้ำซึมซับตลอดเวลา ก่อให้เกิดจากธารน้ำธรรมชาติ
ไหลผ่านจากตอนกลางของภูเขา มายังบริเวณด้านล่าง นับรวมได้ 14 ชั้น ระยะทาง
2.5 กิโลเมตร แต่สามารถเที่ยวได้เพียง 9 ชั้นเท่านั้น ในฤดูฝนจะมีน้ำมาก
หินบริเวณน้ำตกชั้นต่าง ๆ เป็นหินแกรนิต ป่าส่วนใหญ่ก็เป็นป่าเบญพรรณ เช่น
ยาง เต็ง แดง ประดู่ ชิงชัน รัง มะค่าโมง ฯลฯ
มีจุดกางเต้นท์ให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่ด้านบน


แก่งส้มแมว

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

แก่งส้มแมว

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

แก่งส้มแมว

แก่งส้มแมว สวนผึ้ง ราชบุรี

แก่งส้มแมว (สวนป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์)

         
เป็นลำธารไหลลัดเลาะตามโคดหินใหญ่น้อยสลับซับซ้อนกลางแม่น้ำภาชี
เหมาะสำหรับการเล่นน้ำ ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนป่าสิริกิติ์
สภาพโดยรอบเป็นป่าเบญจพรรณ ภายในสวนป่ามีสวนหย่อม
ศูนย์จำหน่ายเครื่องเซรามิคจากคนในบริเวณหมู่บ้าน
สวนป่าแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ
เป็นศูนย์รวมพันธุ์ไม้ นานาชนิดอันมีค่าทางเศรษฐกิจ
และเป็นแหล่งศึกษาทางธรรมชาติที่ดีเยี่ยม
ก่อนถึงแก่งส้มแมวเราจะต้องข้ามสะพานบริเวณอ่างเก็บน้ำบ้านบ่อหวี
ทางด้านซ้ายมือจะเห็นต้นไม้สูงขนาดใหญ่ยืนโชว์ราก
ใบและกิ่งก้านอย่างสง่างาม


ธรรมสถาน วิโมกสิวาลัย

ธรรมสถาน วิโมกสิวาลัย สวนผึ้ง ราชบุรี

ธรรมสถาน วิโมกสิวาลัย

ธรรมสถาน วิโมกสิวาลัย สวนผึ้ง ราชบุรี

ธรรมสถาน วิโมกสิวาลัย

         
อยู่ทางไปแก่งส้มแมว เริ่มก่อสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2551
เพื่อเป็นสถานปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสนากรรมฐานและเป็นสถานที่ปริวาสกรรม
มีสมเด็จพระเจ้าจักรพรรดิ สมมุติราช มหามัยมุนี
เป็นพระประธานในพระอุโบสถซึ่งมีความงดงามเป็นอย่างยิ่ง
บริเวณภายในมีความสงบและร่มรื่นเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเป็นอย่างมาก
ระหว่างทางเดินไปสักการะองค์หลวงพ่อ
เราก็จะได้พบกับรูปปั้นพระภิกษุสงฆ์หน้าตายิ้มแย้มยืนถือบาตร
เพื่อเชื้อเชิญแขกผู้มาเยือนได้มีโอกาสได้ทำบุญร่วมกัน
เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เราอยากจะแนะน
ำให้ไปกราบสักการะองค์หลวงพ่อเพื่อเป็นสิริมงคล


สวนผึ้งออร์คิด

สวนผึ้งออร์คิด สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้งออร์คิด

สวนผึ้งออร์คิด สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้งออร์คิด

         
ใครชอบกล้วยไม้ไม่ควรพลาดกับ "สวนผึ้งออร์คิด" เป็นศูนย์รวม แวนด้า
แอสโดเซนด้า ลูกผสมหลากสี สวยงาม
มีให้เลือกกันอย่างมากมายชอบต้นไหนก็ซื้อกลับบ้านได้เลย
ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยยันหลักพัน สถานที่สะอาด บรรยากาศสบาย
โดยมีเจ้าของร้านใจดีอย่างคุณอนุโพธิ์  พรายมณี หรือ พี่เล็ก
ให้การต้อนรับพร้อมแนะนำให้ความรู้
และข้อมูลเกี่ยวกับต้นกล้วยไม้เป็นอย่างดี พร้อมจำหน่ายทั้งปลีกและส่ง
เปิดให้เข้าชมฟรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-3272-2230 หรือ
//www.suanpheungorchids.com


สวนผึ้ง รีสอร์ท

สวนผึ้ง รีสอร์ท สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้ง รีสอร์ท

สวนผึ้ง รีสอร์ท สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้ง รีสอร์ท

สวนผึ้ง รีสอร์ท สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้ง รีสอร์ท

สวนผึ้ง รีสอร์ท สวนผึ้ง ราชบุรี

สวนผึ้ง รีสอร์ท

         
รีสอร์ทน้องใหม่มาแรงที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ด้วยเพราะสถานที่พักเค้าสร้างเป็นตัวการ์ตูนน่ารัก
ในเรื่องมนุษย์หินฟริ้นสโตนและก้านกล้วย
จึงมีผู้นิยมแวะไปถ่ายรูปเก็บภาพความน่ารักของตัวการ์ตูนเหล่านี้
เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 12.00 – 14.00 น. ค่าเข้าชมท่านละ 40 บาท
สำหรับเด็ก ชมฟรี

นอก
จากสถานที่ท่องเที่ยวที่ต่าง ๆ เราได้กล่าวมาแล้ว
เสน่ห์ที่สร้างความประทับใจในการท่องเที่ยวทริปนี้ของเรา
ที่ไม่ต้องซื้อหาแต่อย่างใด นั่นคือ
บรรยากาศอันแสนสวยงามของธรรมชาติของสองข้างทาง
ถนนที่โค้งลดเลี้ยวเห็นวิวภูเขาสลับไปมา
เป็นดั่งภาพวาดในฝันที่บรรยายไม่ถูก
หากแต่คุณต้องมาสัมผัสด้วยตัวคุณเองเท่านั้น...!


การเดินทาง

•   โดยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ มี 2 เส้นทาง

1.
เส้นนครชัยศรี (ถนนเพชรเกษม) หรือทางพุทธมณฑล  เลี้ยวซ้าย เข้า อ.เมือง
ราชบุรี ผ่าน อ.โพธาราม ตามทางหลวงหมายเลข 4 เลี้ยวขวา แถวเขางู ผ่าน
อ.จอมบึง ตามทางหลวง 3087 และ อ.สวนผึ้ง

2.
เส้น ธนบุรี-ปากท่อ (ถนนพระราม 2) ทางหลวงหมายเลข 35 ผ่าน สมุทรสาคร
สมุทรสงคราม เลี้ยว ขวาเข้า อ.ปากท่อ ผ่าน อ.เมือง ราชบุรี
ผ่านเขาแก่นจันทร์ แล้วเลี้ยวซ้าย เข้าทางหลวง 3208 เข้า อ.สวนผึ้ง

•   รถประจำทาง

         
ท่านสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ
โดยท่านสามารถขึ้นรถตู้จากโรงแรมรัตนโกสินตร์
มาลงที่วิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
หรือสามารถขึ้นรถที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ขึ้นรถทัวร์ปรับอากาศ ชั้น 1
มาลงที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี
หลังจากที่ท่านมาถึงที่อำเภอจอมบึงแล้วนั้น
ท่านสามารถนั่งรถโดยสารต่อมายังอำเภอสวนผึ้ง โดยรถประจำทางสายจอมบึง -
สวนผึ้ง (คันสีน้ำเงิน) ท่านสามารถนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
จากตลาดอำเภอสวนผึ้ง





 

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2554 2:58:16 น.
Counter : 1441 Pageviews.  

วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่














รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่





















รูปภาพ แฟชั่นประหลาด วาดลายบนเรือนร่าง สร้างความแปลกใหม่



........




 

Create Date : 17 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 17 พฤศจิกายน 2554 2:58:57 น.
Counter : 1235 Pageviews.  

ควรไปเยือนสักครั้งบน 10 ดอยสูง

ท่องเที่ยวไทย

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คู่หูเดินทาง, คุณ Memories pink, คุณ Pat, อุทยานแห่งชาติ, คุณ OaddybeinG และ ททท.

ด้วย
ทรัพยากรทางธรรมชาติ ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ที่มี
จึงไม่ต้องแปลกใจที่นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก
ต่างเดินทางมาสัมผัสกับความงดงาม สดชื่น เขียวขจีในประเทศไทย
โดยเฉพาะภาพวิวทิวเขาสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตา ทะเลหมอกขาวโพรนลอยอ้อยอิ่ง
รวมถึงผลผลิตจากพืชสวนไร่นาของชาวบ้านบนดอยสูง ดังนั้น
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงได้รวบรวมเอา 10 ดอย อันเลื่องลือเรื่องความงดงามมาบอกกัน แต่จะเป็นที่ไหนบ้างนั้น ตามเราไปดูกันเลย...


ดอยอ่างขาง


ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง

ดอยอ่างขาง
ตั้งอยู่ที่ตำบลอ่างขาง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
ห่างจากเขตแดนไทยพม่าเพียง 5 กิโลเมตร การเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 107
สายเชียงใหม่-ฝาง ประมาณกิโลเมตรที่ 137
จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าบ้านยางที่ตลาดแม่ข่า เข้าไปอีกประมาณ 25 กิโลเมตร
เป็นทางลาดยาง สูงและคดเคี้ยว ต้องใช้รถสภาพดีและมีกำลังสูง คนขับชำนาญ
หรือจะหาเช่ารถสองแถวได้ที่ตลาดแม่ข่า

          อ่างขาง
เป็นภาษาเหนือ หมายถึง อ่างสี่เหลี่ยม
ซึ่งได้ชื่อมาจากลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง
อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร
ทำให้อากาศบนดอยหนาวเย็นตลอดปีโดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม
อากาศเย็นจนน้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็ง
นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเครื่องกันหนาวมาให้พร้อม เช่น หมวก ถุงมือ
ถุงเท้า เสื้อกันหนาว



ดอยอ่างขาง


สถานที่น่าสนใจบนดอยมีหลายแห่ง ได้แก่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง เรื่องกำเนิดของสถานีฯ
แห่งนี้เป็นเกร็ดประวัติเล่ากันต่อมาว่าครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่
หัว เสด็จทางเฮลิคอปเตอร์ผ่านยอดดอยแห่งนี้
และทอดพระเนตรลงมาเห็นหลังคาบ้านคนอยู่กันเป็นหมู่บ้าน
จึงมีพระดำรัสสั่งให้เครื่องลงจอด
เมื่อเสด็จพระราชดำเนินลงมาทอดพระเนตรเห็นทุ่งดอกฝิ่น
และหมู่บ้านตรงนั้นก็คือหมู่บ้านของชาวเขาเผ่ามูเซอ
ซึ่งในสมัยนั้นยังไว้แกละถักเปียยาว แต่งกายสีดำ สะพายดาบ
พระองค์มีพระราชดำรัสที่จะแปลงทุ่งฝิ่นให้เป็นแปลงเกษตร 




ดอยอ่างขาง


          สถานีฯ จึงเกิดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2512
มีโครงการวิจัยผลไม้ ไม้ดอกเมืองหนาว งานสาธิตพืชไร่ พืชน้ำมัน
โดยมุ่งที่จะหาผลิตผลที่มีคุณค่าพอที่จะทดแทนการปลูกฝิ่นของชาวเขา
และทำการส่งเสริมพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมแก่ชาวเขาในบริเวณใกล้เคียง
อีกทั้งที่สถานีฯ
ยังเป็นแหล่งเที่ยวชมวัฒนธรรมประเพณีพื้นบ้านชาวไทยภูเขาต่าง ๆ ได้แก่
เผ่ามูเซอดำ ปะหล่อง และจีนฮ่อ รวมทั้งชมความงามตามธรรมชาติของผืนป่า
กิจกรรมดูนกซึ่งมีนกทังนกประจำถิ่นและนกหายากต่างถิ่น
พร้อมผลิตภัณฑ์จากงานวิจัย งานส่งเสริมเกษตรกรจำหน่ายใต้ตราสินค้า "ดอยคำ"
และที่พักทั้งในรูปแบบรีสอร์ท
บ้านพักแบบกระท่อมและลานกางเต็นท์พร้อมอาหารและเครื่องดื่มบริการ


ดอยอ่างขาง

สวนบอนไซ
อยู่ในบริเวณสถานีฯ
เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้เขตอบอุ่นและเขตหนาวทั้งในและต่างประเทศ ปลูก ดัด
แต่ง โดยใช้เทคนิคบอนไซ สวยงามน่าชม และในบริเวณเดียวกันยังมีสวนสมุนไพร
ฤดูท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-มกราคม, หมู่บ้านคุ้ม
ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีฯ เป็นชุมชนเล็ก ๆ
ประกอบด้วยผู้อยู่อาศัยหลายเชื้อชาติอยู่รวมกัน อาทิ ชาวไทยใหญ่
ชาวพม่าและชาวจีนฮ่อ
ซึ่งได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในบริเวณนี้และเปิดร้านค้าบริการแก่นักท่องเที่ยว, จุดชมวิวกิ่วลม
อยู่ทางด้านซ้ายมือก่อนถึงทางแยกซึ่งจะไปหมู่บ้านปะหล่องนอแลทางหนึ่ง
และบ้านมูเซอขอบด้งทางหนึ่ง สามารถชมทะเลหมอกและวิวพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตก
มองเห็นทิวเขารอบด้านและหากฟ้าเปิดจะมองเห็นสถานีเกษตรหลวงอ่างขางด้วย

หมู่บ้านนอแล
ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย-พม่า คนที่นี่เป็นชาวเขาเผ่าปะหล่องเชื้อสายพม่า
แต่เดิมคนกลุ่มนี้อยู่ในพม่าและพึ่งอพยพมา มีภาษาและวัฒนธรรมเป็นของตนเอง
นับถือศาสนาพุทธ ทุกวันพระผู้คนที่นี่หยุดอยู่บ้านถือศีล
จากหมู่บ้านนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์สวยงามของธรรมชาติบริเวณพรมแดน
ไทย-พม่า, หมู่บ้านขอบด้ง
เป็นที่ที่ชาวเขาเผ่ามูเซอดำและเผ่ามูเซอแดงอาศัยอยู่ร่วมกัน
คนที่นี่นับถือผี มีวัฒนธรรมและความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย
หมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการส่งเสริมจากโครงการหลวงในด้านการเกษตรและด้าน
หัตถกรรมพื้นบ้าน (เช่น อาบูแค
เป็นกำไลถักด้วยหญ้าไข่เหามีสีสันและลวดลายในแบบของมูเซอ)
บริเวณหน้าหมู่บ้านจะมีการจำลองบ้านและวิถีชีวิตของชาวมูเซอ
เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มีโอกาสเรียนรู้และศึกษาวัฒนธรรมของหมู่บ้าน


หมู่บ้านหลวง
ชาวหมู่บ้านหลวงเป็นชาวจีนยูนานที่อพยพมาจากประเทศจีน
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรมเป็นหลัก อาทิ
ปลูกผักผลไม้ เช่น พลัม ลูกท้อ และสาลี่ ทั้งนี้
กิจกรรมท่องเที่ยวบนดอยอ่างขาง มีหลายอย่างที่สามารถทำได้เช่น
เดินเท้าศึกษาธรรมชาติ ขี่ล่อล่องไพร เป็นต้น
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง
โทรศัพท์ 05345 0107 - 9 หรือ www.angkhangstation.com


ดอยอินทนนท์


ดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์


ดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
แต่เดิมดอยอินทนนท์มีชื่อว่า "ดอยหลวง" หรือ "ดอยอ่างกา" ดอยหลวง
หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ส่วนที่เรียกว่าดอยอ่างกานั้น มีเรื่องเล่าว่า
ห่างจากดอยอินทนนท์ไปทางทิศตะวันตก 300 เมตร
มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่างน้ำ
แต่ก่อนนี้มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา
ต่อมาจึงรวมเรียกว่า ดอยอ่างกา

ดอย
อินทนนท์ เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยซึ่งพาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฐาน
พม่า และมาสิ้นสุดที่นี่
สิ่งที่น่าสนใจของดอยนี้ไม่เพียงแต่เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศด้วยความ
สูง 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางเท่านั้น
แต่สภาพภูมิประเทศและสภาพป่าที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นป่าดงดิบ ป่าสน
ป่าเบญจพรรณ
และอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปีโดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวัน
และบางครั้งน้ำค้างยังกลายเป็นน้ำค้างแข็ง สิ่งต่าง ๆ
เหล่านี้เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้มีผู้มาเยือนที่นี่อย่างไม่ขาดสาย


          สถานที่น่าสนใจ ได้แก่ น้ำตกแม่ยะ
น้ำตกขนาดใหญ่และสวยงามมากแห่งหนึ่ง
เพราะน้ำซึ่งไหลลงมาจากหน้าผาที่สูงชัน 280 เมตร ลงมากระทบโขดหินเป็นชั้น ๆ
เหมือนม่าน แล้วลงไปรวมกันที่แอ่งน้ำเบื้องล่าง น้ำใสเย็นเหมาะ, น้ำตกแม่กลาง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ชั้นเดียว สูงประมาณ 100 เมตร ต้นน้ำอยู่บนดอยอินทนนท์ มีน้ำไหลตลอดปี มีความสวยงามตามธรรมชาติ, ถ้ำบริจินดา
ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 8-9 ของทางหลวงหมายเลข 1009
ใกล้กับน้ำตกแม่กลาง จะเห็นทางแยกขวามือมีป้ายบอกทางไปถ้ำบริจินดา
ภายในถ้ำลึกหลายกิโลเมตร เพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อย หรือชาวเหนือเรียกว่า
"นมผา" สวยงามมาก มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในถ้ำด้วย นอกจากนั้น
ยังมีธารหิน
เมื่อมีแสงสว่างมากระทบจะเกิดประกายระยิบระยับดังกากเพชรงามยิ่งนัก






น้ำตกวชิรธาร
เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เดิมชื่อ "ตาดฆ้องโยง"
น้ำจะดิ่งจากผาด้านบนตกลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง
ในช่วงที่มีน้ำมากละอองน้ำจะสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณรู้สึกได้ถึงความเย็นและ
ชุ่มชื้น, น้ำตกสิริภูมิ
ไหลมาจากหน้าผาสูงชัน เป็นทางยาวสวยงามมาก
สามารถมองเห็นได้จากบริเวณที่ทำการอุทยานฯ
เป็นสายน้ำตกแฝดไหลลงมาคู่กันแต่เดิมเรียกว่า "เลาลึ"
ตามชื่อของหัวหน้าหมู่บ้านม้งซึ่งอยู่ใกล้ ๆ น้ำตกสิริภูมิ, โครงการหลวงดอยอินทนนท์
ตั้งอยู่ในบริเวณดอยอินทนนท์ เป็นสถานีวิจัยดอกไม้เมืองหนาวเป็นหลัก
พรรณไม้ที่ปลูกมากที่สุดคือเบญจมาศ เพราะมีสีสันสดใส นอกจากนั้น
ยังมีโครงการวิจัยสตรอว์เบอรรี่ โครงการศึกษาและรวบรวมพันธุ์เฟินชนิดต่าง ๆ
โครงการวิจัยกาแฟ โครงการวิจัยฝรั่งคั้นน้ำ ไม้ผล เช่น สาลี่ พลับ กีวี
ทิบทิมเมล็ดนิ่ม ฯลฯ ไม้ดอก เช่น แกลดิโอลัส กุหลาบ เยอบีรา ฯลฯ ผัก เช่น
พริกหวาน มะเขือเทศ เซเลอรี ฯลฯ ซึ่งจัดจำหน่ายภายใต้ตรา "ดอยคำ"


ดอยอินทนนท์

พระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ
สร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย โดยพระมหาธาตุนภเมทนีดล
สร้างถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อพ.ศ. 2530
และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ สร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อพ.ศ. 2535 พระมหาธาตุทั้ง 2
องค์นี้ ยอดปลีขององค์เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและพระพุทธรูปบูชา
รอบบริเวณสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของดอยอินทนนท์ได้อย่างสวยงาม


ยอดดอยอินทนนท์
จุดสิ้นสุดของทางหลวงหมายเลข 1009 เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย
(2,565 เมตร) มีสภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี
เป็นที่ตั้งสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทยและเป็นที่ประดิษฐานสถูปเจ้าอิน
ทวิชยานนท์
เจ้าเมืองเชียงใหม่องค์สุดท้ายซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของป่าไม้และหวงแหนดอย
หลวงเป็นอย่างมากต้องการที่จะอนุรักษ์ไว้จนชั่วลูกชั่วหลาน
ท่านผูกพันกับที่นี่มากจึงสั่งว่าหากสิ้นพระชนม์ไปแล้วให้แบ่งเอาอัฐิส่วน
หนึ่งมาไว้ที่นี่

น้ำตกห้วยทรายเหลือง
เป็นน้ำตกขนาดกลาง มีน้ำไหลแรงตลอดปี และไหลจากหน้าผาลงมาเป็นชั้น ๆ,
น้ำตกแม่ปาน นับว่าเป็นน้ำตกที่ยาวที่สุดของเชียงใหม่ก็ว่าได้
น้ำจะตกลงมาจากหน้าผาซึ่งสูงกว่า 100 เมตร เป็นทางยาว
ถ้ามองดูแต่ไกลจะเห็นสายน้ำยาวสีขาวตัดกับสีเขียวของต้นไม้ทำให้ดูเด่น
น้ำที่ตกลงมายังเบื้องล่างกระทบโขดหินแตกเป็นฟองกระจายไปทั่วบริเวณทำให้มี
ความชุ่มชื้น เบื้องล่างมีแอ่งน้ำรองรับอยู่ สามารถพักผ่อนลงอาบเล่นได้,
เส้นทางศึกษาธรรมชาติบนดอยอินทนนท์ กิ่วแม่ปาน ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 3
ชั่วโมง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติแท้จริง
ระหว่างทางเดินจะพบป่าดิบเขา (Hill Evergreen) ดอกกุหลาบพันปี หรือ
Rhododendron
และเมื่อมองลงไปยังเบื้องล่างจะพบทัศนียภาพที่งดงามของอำเภอแม่แจ่ม

อ่างกาหลวง
จุดเด่นที่น่าสนใจ คือ ป่าดิบเขาระดับสูง
ลักษณะของพรรณไม้เขตอบอุ่นผสมกับเขตร้อนที่พบเฉพาะในระดับสูง
การสะสมของอินทรียวัตถุในป่าดิบเขา ลักษณะอากาศเฉพาะถิ่น 
พืชที่อาศัยเกาะติดต้นไม้ ลักษณะของต้นน้ำลำธาร
และลักษณะของต้นไม้บนดอยอ่างกา เช่น ต้นข้าวตอกฤาษี ที่ขึ้นตามพื้นดิน
กุหลาบพันปี เป็นต้น, กิจกรรมดูนกบนดอยอินทนนท์ จากการสำรวจพบว่ามีนกอยู่
380 ชนิด ช่วงที่นักดูนกนิยมมาดูนกกันเป็นฤดูหนาว
นอกจากจะได้พบนกประจำถิ่นแล้ว ยังสามารถพบนกอพยพ



ดอยอินทนนท์

         
ทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวตั้งอยู่บริเวณ
กิโลเมตรที่ 9 ของเส้นทางหมายเลข 1009 มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ
และมีนิทรรศการเกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ป่า และอื่น ๆ
บริเวณที่ทำการมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม สำรองที่พักล่วงหน้าอย่างน้อย 1
อาทิตย์ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทรศัพท์ +66 2562 0760 หรือ เว็บไซต์ www.dnp.go.th  อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทรศัพท์ +66 5335 5728, +66 5331 1608, เว็บไซต์ www.doiinthanon.com ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ คนไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

         
การเดินทาง ระยะทางจากตัวเมืองขึ้นไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ประมาณ 106
กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปตามทางหลวงหมายเลข 108 เชียงใหม่-จอมทอง
ถึงหลักกิโลเมตรที่ 57 ก่อนถึงอำเภอจอมทอง 1 กิโลเมตร
แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 สายจอมทอง-อินทนนท์ ระยะทาง 48
กิโลเมตรถึงยอดดอยอินทนนท์ เป็นถนนลาดยางอย่างดีแต่ทางค่อนข้างสูงชัน
รถที่นำขึ้นไปจะต้องมีสภาพดี
ผู้ที่ไม่มีรถยนต์ส่วนตัวสามารถนั่งรถสองแถวสายเชียงใหม่-จอมทองบริเวณประตู
เชียงใหม่
จากนั้นขึ้นรถสองแถวที่หน้าวัดพระธาตุศรีจอมทองวรวิหารหรือที่น้ำตกแม่กลาง
ซึ่งจะเป็นรถโดยสารประจำทางไปจนถึงที่ทำการอุทยานฯตรงหลักกิโลเมตรที่ 31
และหมู่บ้านใกล้เคียง แต่หากต้องการจะไปยังจุดต่าง ๆ 
ต้องเหมาไปคันละประมาณ 800 บาท


ดอยตุง

ดอยตุง

ดอยตุง
ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
ลักษณะเป็นเทือกเขาสูงทอดตัวยาวอยู่ทางด้านซ้ายของเส้นทางที่มุ่งไปอำเภอแม่
สาย จากอดีตที่เคยเป็นขุนเขาแห้งแล้ง
แต่เมื่อสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเสด็จมา และทรงมีพระราชดำรัสว่า
"ฉันจะปลูกป่าดอยตุง" จากนั้นโครงการพัฒนาดอยตุงก็เริ่มขึ้น
โดยปลูกป่าคืนความสมบูรณ์กลับคืนสู่ธรรมชาติ
พร้อมกับได้ดึงชาวเขาเข้ามาทำงานในโครงการ

จน
ปัจจุบันดอยตุงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวขึ้นไปเยี่ยมชม
ได้แก่ พระธาตุดอยตุง ปูชนียสถานที่สำคัญของประเทศไทย
ซึ่งแต่ละปีจะมีผู้คนทั้งชาวไทยและต่างชาติ
เดินทางไปนมัสการพระธาตุดอยตุงมากมาย ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 17.5
บนทางหลวงหมายเลข 1149 เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า)
ของพระพุทธเจ้า นำมาจากมัธยมประเทศ
นับเป็นครั้งแรกที่พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ได้มาประดิษฐานที่ล้านนาไทย
เมื่อก่อสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุนี้ ได้ทำธงตะขาบ
(ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า ตุง) ใหญ่ยาวถึงพันวา ปักไว้บนยอดดอย
ถ้าหากปลายธงปลิวไปไกลถึงเมืองไหน ก็จะกำหนดเป็นฐานพระสถูป
เหตุนี้ดอยซึ่งเป็นที่ประดิษฐานปฐมเจดีย์แห่งล้านนาไทย จึงปรากฏนามว่า
ดอยตุง


พระตำหนักดอยตุง
ประทับแปรพระราชฐานเพื่อทรงงานของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
มีรูปทรงผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนากับชาเลย์ของประเทศสวิสเซอร์แลนด์
มีการแกะสลักไม้ตามกาแล เชิงชายและขอบหน้าต่างเป็นลวดลายต่าง ๆ
โดยฝีมือช่างชาวเหนือ รอบ ๆ พระตำหนักมีสวนดอกไม้หลากพันธุ์ หลายสี
ให้ความสวยงามสดชื่น โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะเห็นหมอกจาง ๆ
บริเวณยอดเขารอบพระตำหนัก มีเจ้าหน้าที่นำชมเป็นรอบ ๆ ละ 20 นาที
เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 70 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทรศัพท์ 0 5376 7015-7 หรือ www.doitung.org






สวนแม่ฟ้าหลวง
อยู่ด้านหน้าพระตำหนักดอยตุง มีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่
เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาว อาทิ ดอกซัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง
ไม้มงคลต่าง ๆ ไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลี้อยอีกมากกว่า 70 ชนิด
รูปปั้นต่อเนื่อง ฝีมือของคุณมีเซียม ยิบอินซอย เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา
06.30-18.00 น. ค่าเข้าชม 80 บาท, สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง
(สวนกุหลาบพันปี ดอยช้างมูบ) สถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งบนดอยตุง
บนยอดสูงสุดของเทือกเขานางนอน ที่มีความสูงถึง 1,500 เมตร
เหนือระดับน้ำทะเล สามารถมองเห็นทั่วทั้งโครงการพัฒนาดอยตุง
ตลอดจนภาพมุมกว้างของสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งที่สวนรุกขชาติ ขนาด 250
ไร่แห่งนี้ ป่านางพญาเสือโคร่ง กล้วยไม้ป่านานาพันธุ์
และกุหลาบพันปีหลากสีหลายสายพันธุ์ ที่นำมาจากนานาชาติ
อีกทั้งยังเป็นสถานที่ซึ่งสามารถสัมผัสบรรยากาศความฉ่ำชื่นใจจาก
"ธารน้ำพระทัย" ที่เป็นธารน้ำผุดจากใต้ดิน
และยังสามารถดื่มด่ำบรรยากาศอันงดงามยามพระอาทิตย์ตกดิจที่
"ลานอาทิตย์อัสดง"


สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง

หอแห่งแรงบันดาลใจ
เป็นอาคารแสดงพระราชประวัติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีและพระราชวงศ์
มีห้องจัดแสดงนิทรรศการ 8 ห้อง เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม 50 บาท นอกจากนั้นยังมีร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้าไหม
ผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงทั้งผักผลไม้ ดอกไม้ พันธุ์ไม้ต่าง ๆ
ให้ซื้อกลับไปเป็นของฝาก ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าชมทั้ง
พระตำหนักดอยตุง สวนแม่ฟ้าหลวง และหอแห่งแรงบันดาลใจ จำหน่ายบัตรรวม ราคา
160 บาท ซุ้มจำหน่ายบัตรเปิดเวลา 06.30-18.00 น. หลังเวลา 17.00 น.
จำหน่ายเฉพาะบัตรชมพระตำหนักและสวนแม่ฟ้าหลวง



ดอยแม่สลอง



ดอยแม่สลอง

ดอยแม่สลอง

ดอยแม่สลอง
เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคิรี เดิมชื่อบ้านแม่สลองนอก
เป็นชุมชนผู้อพยพจากกองพล 93 จากสหภาพพม่าเข้ามาในเขตไทย จำนวนสองกองพันคือ
กองพันที่ 3 เข้ามาอยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และกองพันที่ 5
อยู่ที่บ้านแม่สลองนอก ตั้งแต่ พ.ศ. 2504 ในเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์
ดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุด
สีชมพูอมขาวจะบานสะพรั่งตลอดแนวทางขึ้นดอยแม่สลอง
เป็นพันธุ์ไม้ที่หาชมได้ยากในเมืองไทย
เพราะเจริญเติบโตอยู่แต่เฉพาะในภูมิอากาศหนาวจัดเท่านั้น

จุด
น่าสนใจบนดอยแม่สลองได้แก่ ชมไร่ชาและศึกษาวิธีการผลิตชา
ขี่ม้าชมทิวทัศน์รอบหมู่บ้านเจียงจาใส เยี่ยมชม สุสานนายพลต้วน ซี เหวิน
ไปไหว้ พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี
และอนุสรณ์สถานอดีตทหารจีนคณะชาติภาคเหนือ ประเทศไทย ศึกษาเรื่องราว
ประวัติของชาวดอยแม่สลอง มีไกด์นำชม เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม 30 บาท โทรศัพท์ 0 5376 5170, 0 5376 5180
ศูนย์ประสานงานนำเที่ยวชุมชุน HOMESTAY และกางเต็นท์ โทรศัพท์ 0 5371 0024,
08 5038 6362 อบต. แม่สลองนอก โทรศัพท์ 0 5376 5129



ดอยแม่สลอง

          การเดินทาง ใช้เส้นทางเชียงราย-แม่จัน 28 กิโลเมตร
เลยจากอำเภอแม่จันไป 1 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไป 23 กิโลเมตร
ผ่านหมู่บ้านผาเดื่อ ซึ่งเป็นจุดแวะชมและซื้อหัตถกรรมชาวเขา
จากนั้นเดินทางจากบ้านอีก้อสามแยก (ทางขวาไปหมู่บ้านเทิดไทย)
ตรงไปดอยแม่สลอง ระยะทาง 10 กิโลเมตร รวมระยะทางจากเชียงราย 64 กิโลเมตร
เป็นทางลาดยางตลอดสาย และจากดอยแม่สลองมีถนนเชื่อมต่อไปถึงบ้านท่าตอน
อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง 45 กิโลเมตร
ในกรณีไม่ได้ขับรถมาเองให้ขึ้นรถประจำทางจากตัวเมืองเชียงรายไปต่อรถสองแถว
ที่ปากทางขึ้นดอยแม่สลอง โทรศัพท์ 08 1024 0813


ดอยเสมอดาว


ดอยเสมอดาว

ดอยเสมอดาว

ดอยเสมอดาว
ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณของ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน จังหวัดน่าน
อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 16 สายนาน้อย-ปางไฮ
เป็นจุดชมทิวทัศน์บนยอดหน้าผาสูง สามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา
มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา สำหรับพักผ่อนและดูดาว
ดูพระอาทิตย์ตกและยังเป็นจุดชมทะเลหมอกอีกด้วย

หาก
จะเดินขึ้นไปบนผาสิงห์ (เป็นหน้าผาที่มีรูปร่างคล้ายหัวสิงห์) ระยะทาง 2
กิโลเมตร ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางจากอุทยานฯ
ระหว่างทางจะพบต้นจันทน์ผาซึ่งเป็นไม้เด่น และเมื่อท้องฟ้าแจ่มใส
จากผาสิงห์สามารถมองเห็น อำเภอนาน้อย อำเภอเวียงสา และแม่น้ำน่านได้
ทิวทัศน์ทั้งสองฝั่งแม่น้ำน่าน แม่น้ำทอดตัวผ่านกลางพื้นที่อุทยานฯ
ตั้งแต่เหนือสุดถึงใต้สุดยาวกว่า 60 กิโลเมตร สามารถล่องเรือ ล่องแพ
ชมธรรมชาติสองฝั่งแม่น้ำน่าน จะเห็นทิวทัศน์ เกาะแก่ง โขดหิน หาดทราย
หน้าผา สภาพป่าที่เขียวขจีและสัตว์ป่านานาชนิดต่าง ๆ มากมาย



ดอยเสมอดาว

          มีจุดเด่นที่น่าสนใจ ผาง่าม เป็นหน้าผาขนาดใหญ่ ตั้งโดดเด่นอยู่กลางป่าเขาที่เขียวขจี ผาขวาง
เป็นหน้าผาขนาดใหญ่ ตั้งขวางอยู่กลางแม่น้ำน่าน สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์
สองฝั่งแม่น้ำน่าน ที่เหมาะสมสำหรับการศึกษาเกี่ยวกับระบบธรรมชาติวิทยา

         
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ถึงจังหวัดแพร่ ไปตามทางหลวงหมายเลข 101
ไปจนถึงอำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร
เลี้ยวขวาไปตามถนนแก้วฟ้า ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1026 จากอำเภอเวียงสา
ไปอำเภอนาน้อย ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนสาย
นาน้อย-ปางไฮ ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1083 ไปอีกประมาณ 22 กิโลเมตร
จนถึงผาชู้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีน่าน


ดอยภูคา

ดอยภูคา

ดอยภูคา ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน มีความสูงถึง 1,980 เมตร
จากระดับน้ำทะเล โดยมียอดภูคาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดน่าน ประกอบด้วยแนวภูเขาสูงสลับซับซ้อน
ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของปลายเทือกเขาหิมาลัย และเป็นแหล่งของพันธุ์ไม้หายากใกล้สูญพันธุ์และพรรณไม้เฉพาะถิ่น ได้แก่
ต้นชมพูภูคา (Bretschneidera sinensis Hemsl.) ซึ่งเป็นพืชหายากในประเทศไทยจะพบเพียงแห่งเดียวที่ป่าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา

         
ต้นชมพูภูคา เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่สูงถึง 25 เมตร
ออกดอกเดือนมกราคม-ต้นมีนาคม ในเขตป่าดิบเป็นแหล่งกำเนิดต้นเต่าร้างยักษ์
เป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา
เป็นปาล์มลำต้นเดียวปาล์มดึกดำบรรพ์ มีความสูงประมาณ 40 เมตร
ก่วมภูคาเป็นพืชหายาก ลักษณะไม้ต้นผลัดใบ มีความสูง 15-25 เมตร
ใบอ่อนสีแดงเว้าเป็น 5 แฉก ใบแก่สีเขียว 3 แฉก
เป็นพืชวงศ์เดียวกับเมเปิ้ลใบห้าแฉก และกระโถนพระฤาษี เป็นต้น นอกจากนี้
ยังเป็นแหล่งนกเฉพาะถิ่นที่หายาก คือ นกมุ่นรกตาแดง นกพญาไฟใหญ่
และนกพงใหญ่พันธุ์อินเดีย


ต้นชมพูภูคา

          ดอยภูคา เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำหลายสาย เช่น
แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว และลำน้ำว้า บริเวณนี้เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อน
ก่อนจะเกิดการเคลื่อนตัวของแผ่นดินสองผืนใต้ทะเลเข้าหากัน
ทำให้แผ่นดินโก่งตัวขึ้น น้ำทะเลใต้ดินระเหยไปเหลือเพียงสินแร่เกลือ
ดังที่พบในอำเภอบ่อเกลือ และการค้นพบสุสานหอยทะเลอายุประมาณ 200 ล้านปี
บนดอยภูแวที่บ้านค้างฮ่อ ตำบลสะกาด อำเภอปัว มีลักษณะเป็นหอยแครงสองฝา
ดร.จงพันธ์ จงลักษณ์มณี นักธรณีวิทยา กรมทรัพยากรธรณี สรุปว่า
เป็นซากหอยที่มี ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า พาลีโอคาร์ดิต้า สปีชี่
(Paleocardita Species) อายุ 195-205 ล้านปี จัดอยู่ในยุคไทรแอสซิก
(Triassic) ตอนปลาย

สถาน
ที่น่าสนใจในอุทยานฯ ได้แก่ ชมพูภูคา
ดอยภูคานับเป็นบ้านแห่งสุดท้ายของต้นชมพูภูคาพันธุ์ไม้หิมาลัย
ทุกปีในเดือนกุมภาพันธ์ดอกชมพูภูคาจะผลิดอกตามปลายกิ่ง เป็นช่อสีชมพูยาว
30-35 เซนติเมตร เมื่อบานจะทำให้ช่อดอกเป็นพุ่มสวยงาม
พื้นที่ป่าดิบเขาดอยภูคาจึงอาจเป็นแหล่งกำเนิดสุดท้ายของชมพูภูคา
ซึ่งเป็นไม้หายากใกล้สูญพันธุ์ชนิดหนึ่งของโลก
จุดชมต้นชมพูภูคาที่เข้าถึงง่ายที่สุดอยู่ริมถนนห่างจากที่ทำการไป 5
กิโลเมตร




ดอยผ้าห่มปก

ดอยผ้าห่มปก


ดอยผ้าห่มปก หรือ ดอยฟ้าห่มปก

ดอยผ้าห่มปก หรือ ดอยฟ้าห่มปก
ตั้งอยู่ภายใน อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
(เดิมชื่ออุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก) มีความสูง 2,285 เมตร จากระดับน้ำทะเล
จึงมีเมฆหมอกปกคลุมยอดดอยและมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ดอยฟ้าห่มปก
คือหนึ่งในเทือกเขาแดนลาวที่ทอดตัวยาวตั้งแต่ทางตอนใต้ของยูนนานลงมาแบ่งชาย
แดนไทย-พม่า ตั้งแต่เชียงรายไปจนถึงแม่ฮ่องสอนจนไปจรดกับเทือกเขาถนนธงชัย

บน
ดอยฟ้าห่มปกมีนก และผีเสื้อที่น่าสนใจ เช่น นกปีกแพรสีม่วง
นกปรอดหัวโขนก้นเหลือง
ผีเสื้อมรกตผ้าห่มปกซึ่งพบที่นี่แห่งเดียวเท่านั้นในประเทศไทย
ผีเสื้อหางติ่งแววเลือน ผีเสื้อหางดาบตาลไหม้ เป็นต้น
ในฤดูหนาวมีนกอพยพมาอาศัย เช่น นกเดินดงคอแดง นกเดินดงดำปีกเทา
นกเดินดงสีน้ำตาลแดง เป็นต้น


         
นักท่องเที่ยวตั้งแค้มป์พักแรมได้ตรงบริเวณกิ่วลม
เนื่องจากทางอุทยานแห่งชาติไม่อนุญาตให้พักแรมบนยอดดอยฟ้าห่มปกซึ่งเป็น
หน้าผาชันและอาจเกิดอันตรายได้
การเดินทางขึ้นยอดดอยฟ้าห่มปกต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน 1 คืน
ก่อนเดินทางควรติดต่อขออนุญาต ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ฝาง
ค่าเช่ารถขึ้นจากอุทยานไปส่งที่ทางขึ้นดอยไปส่ง-รับประมาณ 1,500 บาท
สอบถามรายละเอียดที่อุทยานฯ โทร. 0 5345 1441 ต่อ 302, 0 5345 3517-8


ดอยผ้าห่มปก

          การเดินทาง ไปอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
จากเมืองเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 107
ถึงตัวเมืองฝางตรงไปจนพบสามแยกไฟแดงให้เลี้ยวซ้ายไป 9 กิโลเมตร
มีป้ายบอกทางชัดเจนตลอดทาง เป็นถนนลาดยาง จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติฯ
ซึ่งมีรถประจำทางปรับอากาศของ บริษัทขนส่งจำกัด และบริษัทรถร่วมเอกชน
ระหว่างกรุงเทพ-ฝาง, เชียงใหม่-ฝาง เมื่อถึง อ.ฝาง
จะมีรถรับจ้างคอยบริการรับส่งสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก
อีกประมาณ 10 กม.

ทั้ง
นี้ อุทยานแห่งชาติจะทำการปิดบริเวณยอดดอยผ้าห่มปก ระหว่างวัน 1 กรกฎาคม -
30 กันยายนของทุกปี ก่อนการเข้าไปท่องเที่ยวในเขตอุทยานแห่งชาติ
นักท่องเที่ยวควรมีการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ
โดยดูได้จากเว็บไซต์ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
www.dnp.go.th

และแนะนำนักท่องเที่ยวที่ประสงค์จะเข้าไปท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติที่มี
การกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวไว้
ให้ติดต่อสอบถามหรือสำรองการเข้าไปใช้บริการล่วงหน้าก่อนการเดินทางที่
อุทยานแห่งชาติโดยตรงได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่
โทร. 0 5345 3517-8 ตลอด 24 ชั่วโมง



ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาว
อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อำเภอเชียงดาว
ซึ่งยอดสูงสุดของดอยเชียงดาว เรียกว่า ดอยหลวงเชียงดาว
(เพี้ยนมาจากคำที่ชาวบ้านในละแวกเปรียบเทียบดอยนี้ว่าสูง เพียงดาว)
มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคว่ำสูง 2,195 เมตร จากระดับน้ำทะเล
นับเป็นยอดดอยที่สูงอันดับ 3 ของประเทศรองจากดอยอินทนนท์และผ้าห่มปก

จาก
บนยอดดอยซึ่งเป็นที่ราบแคบ ๆ สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามรอบด้าน คือ
ทะเลหมอกด้านอำเภอเชียงดาว ดอยสามพี่น้อง เทือกดอยเชียงดาว
ตลอดจนถึงยอดดอยอินทนนท์อันไกลลิบอากาศเย็น ลมแรง
และสมบูรณ์ด้วยดอกไม้ป่าภูเขาที่หาชมได้ยากมากมายรวมทั้งนกและผีเสื้อด้วย
(ไม่เหมาะที่จะขึ้นไปยืนบนยอดดอยทีละกลุ่มใหญ่ ๆ
เพราะจะไปเหยีบย่ำทำลายพรรณไม้บนนั้นได้ แม้จะโดยไม่ตั้งใจก็ตาม)


         
ทั้งนี้
การเข้าไปใช้พื้นที่ต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์
ป่า กรมป่าไม้ อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนการเดินทาง สอบถามรายละเอียด
โทรศัพท์ 0 2561 2947

         
การเดินทางสู่ยอดดอยเชียงดาวเริ่มที่ถ้ำเชียงดาว
ซึ่งนักท่องเที่ยวจะสามารถติดต่อคนนำทาง ลูกหาบ
รวมทั้งรถไปส่งที่จุดเริ่มเดินได้ โดยค่าเช่ารถประมาณ 900 บาท
ค่าจ้างลูกหาบประมาณวันละ 300 บาทต่อลูกหาบหนึ่งคน
บนดอยเชียงดาวไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ
นักท่องเที่ยวต้องเตรียมตัวไปด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนอน อาหาร
และน้ำ ส่วนเส้นทางลงนิยมใช้ทางสายบ้านถ้ำซึ่งอยู่ใกล้กับถ้ำเชียงดาว
เพราะมีทางสูงชันสามารถลงได้รวดเร็วกว่าแต่ไม่เหมาะกับการขึ้น

ดอยผาตั้ง

ดอยผาตั้ง
ตั้งอยู่ใกล้ทางหลวงหมายเลข 1093 กิโลเมตรที่ 89 เป็นจุดชมวิวไทย-ลาว
มีความสูง 1,635 เมตร และเที่ยวชมทะเลหมอกได้ตลอดปี
ในเดือนธันวาคมถึงมกราคม มีดอกซากุระบานและเดือนกุมภาพันธ์
มีดอกเสี้ยวบานสะพรั่งงดงาม เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวจีนฮ่อ ม้ง และเย้า
โดยเฉพาะจีนฮ่อนั้น อดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของกองพล 93
ซึ่งอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ดอยผาตั้งนี้
ปัจจุบันประกอบอาชีพทางการเกษตร ปลูกพืชเมืองหนาว เช่น บ๊วย ท้อ สาลี่
แอปเปิ้ล และชา


          การเดินทาง จากจังหวัดเชียงราย
ใช้เส้นทางเชียงราย-เวียงชัย-พญาเม็งราย-บ้านต้า ทางหลวงหมายเลข 1233, 1173
และ 1152 ระยะทาง 50 กิโลเมตร บ้านต้า-บ้านท่าเจริญ ทางหลวงหมายเลข 1020
ระยะทาง 45 กิโลเมตร บ้านท่าเจริญ-เวียงแก่น-ปางหัด ทางหลวงหมายเลข 1155
ระยะทาง 17 กิโลเมตร และปางหัด-ดอยผาตั้ง อีก 15 กิโลเมตร
จุดชมวิวช่องผาบ่อง สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงทอดตัวคดเคี้ยวในฝั่งลาว 
ชหากเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จึงจะถึงจุดชมวิว 103

         
สภาพเส้นทางบางช่วงสูงชัน บนดอยผาตั้งมีบริการมัคคุเทศก์น้อย
โรงเรียนบรรพตวิทยา โทรศัพท์ 08 1287 5325, 08 4363 4170 ที่พัก
สถานที่กางเต็นท์และร้านอาหาร จุดบริการนักท่องเที่ยวดอยผาตั้ง โทรศัพท์ 0
5391 8301 หรือ องค์การบริหารส่วนตำบลปอ โทรศัพท์ 0 5371 0300, 0 5391 8265


ดอยม่อนจอง


ดอยม่อนจอง

ดอยม่อนจอง

ดอยม่อนจอง
ขึ้นอยู่กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย ซึ่งครอบคลุมพื้นที่อำเภออมก๋อย
จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอสามเงา จังหวัดตาก
สิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องไพรมายังดอยม่อนจองก็คือ
กวางผา หรือ ม้าเทวดา ซึ่งมีถิ่นอาศัยอยู่ที่นี่ และทิวทัศน์ที่สวยงามของทิวเขา และถ้ามาในช่วงเดือนธันวาคม – มกราคม จะได้พบ ดอกกุหลาบพันปี
ที่กำลังบาน ว่ากันว่าต้นนี้เป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
นกหายากที่พบที่นี่ ได้แก่ เหยี่ยวนกเขาท้องขาว นกอินทรีแถบปีกดำ
นกอินทรีเล็ก นกเปล้าท้องขาว นกมุ่นรกคอแดง นกเดินดงคอดำ เป็นต้น


         
การเดินขึ้นดอยม่อนจองสามารถไปเช้าเย็นกลับได้ แต่จะเหนื่อยมาก
ต้องเริ่มออกเดินตั้งแต่ 06.30 น. เป็นอย่างน้อย
หากเดินแบบไม่เหนื่อยเกินไปนักควรใช้เวลา 2 วัน 1 คืน
ก่อนเดินขึ้นดอยต้องติดต่อขออนุญาตจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย
หน่วยมูเซอซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการเขตรักษาพันธุ์ฯ


ดอยม่อนจอง

          การเดินทาง ไปยังเขตรักษาพันธุ์ฯอมก๋อย (หน่วยมูเซอ)
จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวงหมายเลข 108
แล้วแยกซ้ายจากอำเภอฮอดเข้าทางหลวงหมายเลข 1099 ไปจนถึงตัวอำเภออมก๋อย
และตรงต่อไปตามทางหลวง 1099 ประมาณ 40 กิโลเมตร
จะพบหน่วยมูเซออยู่ทางด้านซ้ายมือ จากหน่วยฯไปยังจุดเริ่มเดินอีกประมาณ 16
กิโลเมตร
ทางในช่วงนี้จำเป็นต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อและคนขับที่มีความชำนาญเป็น
อย่างมาก เนื่องจากสภาพทางเป็นลูกรัง และแคบคดเคี้ยวริมผา

ผู้
ที่เดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง
จากอำเภอเมืองเชียงใหม่มีคิวรถจากประตูช้างเผือก มายังอมก๋อย รถออกประมาณ
08.00 น. สามารถติดต่อเช่ารถไปส่งที่จุดเริ่มเดินที่ คุณเดช เสริมมติวงศ์
โทรศัพท์ 0 5346 7109 รับ-ส่ง ส่วนเสบียงข้าวของต่าง ๆ
หาซื้อได้ที่ตัวอำเภออมก๋อย และค่าบริการลูกหาบ 150 บาท/วัน/คน


และ
นี่เป็นเพียง 10 ดอย ที่เราหยิบมาแนะนำกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วในประเทศไทย
ยังมีดอยสวยอีกหลายแห่ง
รอให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปสัมผัสด้วยตาและด้วยใจของคุณเองค่ะ



........




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2554 2:31:07 น.
Counter : 847 Pageviews.  

10 แฟชั่นไอเท็ม ที่สาว ๆ ต้องมีติดตู้



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก dahong.co.kr, crazygirls.co.kr ,qng.co.kr

         
เมื่อผู้หญิงกับเรื่องความสวยความงามเป็นเรื่องที่มาคู่กัน
จึงไม่น่าแปลกใจถ้าไอเท็มแต่งตัวของสาว ๆ จะมีแสนหลากหลาย
ให้เลือกหยิบมามิกซ์แอนด์แมทช์ แต่งตัวตามสไตล์ที่ชื่นชอบ เปลี่ยนลุค
เปลี่ยนบุคลิกได้ทุกวัน ถ้าอย่างนั้นลองมาดูไอเท็มยอดนิยมที่สาว ๆ 
ทุกคนต่างพร้อมใจกันลงความเห็นว่า "ต้องมีไว้ ขาดไม่ได้เด็ดขาด" ดูซิว่า จะมีอะไรกันบ้าง..





1. แว่นตากันแดด

ประโยชน์
ของแว่นตากันแดด ไม่ใช่แค่กรองแสงจัดจ้าที่จะมากระทบดวงตาเท่านั้น
มันยังเป็นแฟชั่นไอเท็มชั้นเยี่ยม ที่ไม่ต้องเก็บไว้ใส่แค่วันแดดจัด
วันไหนแดดร่มลมตกก็หยิบมาสวมได้
แถมเดี๋ยวนี้แว่นกันแดดแฟชั่นก็มีให้เลือกหลายแบบ แบบกรอบดำหนาดูเนิร์ด
กรอบแฟนซัลลายดาว ลายหัวใจ หรือแบบเลนส์เป็นสี ๆ ดูเปรี้ยวไม่เบา จะสวม
ดันไปคาดศีรษะแบบที่คาดผม หรือว่าจะห้อยกับสร้อยเป็นเครื่องประดับก็ยังได้


รองเท้า

2. รองเท้า

รองเท้า
ผู้หญิงมีมากมายหลายประเภท หลายทรง ตั้งแต่รองเท้าแตะ ฟลิบฟล็อบ คัตชู
รองเท้าส้นเตี้ย ส้นสูง ส้นเตารีด แบบเปลือยเท้า แบบปิดเท้า รองเท้าผ้าใบ
ฯลฯ แต่ละแบบก็เอาไว้แมทช์กับลุคการแต่งกายต่าง ๆ กัน
เรียกว่าใครรักการแต่งตัว ก็คงต้องเผื่อที่ไว้เก็บรองเท้าไว้มากสักนิด ^^




3. กระเป๋าถือ

กระเป๋า
ถือไม่ได้ทำหน้าที่แค่ใส่ของจำเป็นสำหรับสาว ๆ เท่านั้น
มันยังทำหน้าที่เป็นแอคเซสซอรี่ในการแต่งกายด้วย
ลองดูแพทเทิร์นและลวดลายที่หลากหลายขชองมันแล้วหยิบมาถือให้เข้ากับลุคของ
คุณ อย่างกระเป๋าลายปริ้นท์สวย ๆ เหมาะจะแมทช์กับแอคเซสซอรี่อย่างผ้าพันคอ
กำไล แหวน ที่ไปในโทนเดียวกัน หรือจะเลือกแมทช์กับชุดเรียบ ๆ
เพื่อให้กระเป๋าถือใบเก๋เป็นดาวเด่นในการแต่งตัวของวันนั้นก็ได้


กิ๊บติดผม

4. เครื่องประดับผม

เครื่อง
ประดับผมไม่ว่าจะเป็นยางรัดผมสารพัดสี
ที่มีให้เลือกตั้งแต่ที่เป็นยางอีลาสติก หรือเป็นโดนัท กิ๊บหลากสี หลายไซส์
หลายดีไซน์ ผ้าโพกหัว ที่คาดผม เฮดแบนด์แบบต่าง ๆ ฯลฯ มีเก็บไว้หลาย ๆ แบบ
ก็จะทำให้ครีเอททรงผมสวย ๆ ได้ง่ายขึ้นเยอะเลยทีเดียว


เข็มขัดแฟชั่น


5. เข็มขัด

เข็มขัด
ก็เป็นอีกไอเท็มที่ขาดไม่ได้สำหรับคุณผู้หญิง หากแต่งตัวด้วยเดรสตัวยาว
ลองหาเข็มขัดมาคาดสักเส้นก็จะเน้นให้เห็นทรวดทรงองค์เอวมากขึ้น
เชื่อว่าคุณผู้หญิงทุกคนคงมีเข็มขัดเส้นโปรดอยู่แล้ว
แต่ที่แนะนำว่าควรมีติดเอาไว้เพิ่มก็คือ
เข็มขัดสีขาวที่เข้ากันได้ง่ายกับเสื้อผ้าหลายสีหลายสไตล์
นอกจากนั้นก็ลองเลือกแบบเส้นเล็ก เส้นหนา หัวเข็มขัดแบบเก๋ ๆ
หรือมีเท็กซ์เจอร์ที่น่าสนใจ ก็จะทำให้การแต่งตัวดูสนุกขึ้นไม่น้อยเลย

6. นาฬิกา

นอก
จากมีไว้บอกเวลาแล้ว นาฬิกาสามารถบ่งบอกรสนิยมของผู้สวมใส่ได้ดี
นาฬิกาหน้าปัดโต ๆ บ่งบอกความเป็นสาวสปอร์ต มั่นใจ ในขณะที่เรือนเล็ก ๆ
ก็ดูน่ารักน่าทะนุถนอม แบบสายเหล็กดูเรียบหรูเป็นทางการ
ส่วนสายหนังก็จะดูแคชชวลมากกว่า นอกจากนาฬิกาคู่ใจเรือนหรูที่หยิบมาใส่บ่อย
ๆ แล้ว นาฬิกาแฟชั่นที่ราคาไม่สูงนักก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่จะเติมสีสัน
และรายละเอียดให้กับการแต่งตัวได้


หมวกปีกกว้าง

7. กำไล

กำไล
ไม่ว่าจะเป็นวงเล็ก วงใหญ่ ใส่เดี่ยว ๆ หรือใส่หลายวงด้วยกัน
ก็ช่วยให้การแต่งตัวดูน่าสนใจมากขึ้น ชุดเรียบ ๆ
บางชุดดูน่ามองมากขึ้นก็เพราะได้กำไลดีไซน์สวยมาเติมนี่เอง


หมวกปีกกว้าง

8. หมวก

แม้
สาว ๆ บ้านเราจะไม่ค่อยนิยมการสวมหมวกมากนัก
แต่นี่ก็เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับลุคได้อย่างดีทีเดียว
หากเลือกทำทรงผมแบบเรียบ ๆ ลองสวมหมวกสวย ๆ
ที่เหมาะกับลุคแต่งตัวของคุณในวันนั้นทับสักใบ
ก็จะทำให้การแต่งตัวดูน่าสนใจขึ้นมากทีเดียว  


ผ้าพันคอ

9. ผ้าพันคอ

ผ้า
พันคอและผ้าคลุมไหล่ลายสวย ๆ เนื้อนิ่ม ๆ
เอาไว้ห่มกันหนาว(เผื่อกรณีอยู่ในห้องแอร์)
หรือว่าเอาไว้คลุมกันแดด(เลือกแบบเนื้อบาง)
ก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องมีติดตู้เสื้อผ้าเลยล่ะ


 เลกกิ้ง

10. เลกกิ้งและสต็อกกิ้ง

ทั้ง
สต็อกกิ้งและเลกกิ้งกำลังมาแรงสำหรับเทรนด์การแต่งตัวตอนนี้
สวมสต็อกกิ้งเนื้อดีกับกระโปรงหรือยีนส์ขาสั้นก็เปรี้ยว
แมทช์กับชุดเดรสก็ดูน่ารัก
หรือจะใส่เลกกิ้งคู่กับเสื้อตัวยาวก็ดูคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง
หากเจอสีไหนสวย ลายไหนถูกใจ ลองซื้อเก็บไว้
รับรองว่าจะช่วยให้ครีเอทการแต่งตัวได้สนุกขึ้นอีกเยอะ

ดู
แล้วก็แอบเยอะ แต่เรามั่นใจว่าสาว ๆ ก็มีกันเกือบครบทุกรายการแน่นอน ค่อย ๆ
สะสมแบบที่ถูกใจเอาไว้
รับรองว่าคุณจะสนุกกับการแต่งตัวได้ไม่มีเบื่อเลยล่ะ ^_^



........




 

Create Date : 03 พฤศจิกายน 2554    
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2554 2:30:41 น.
Counter : 958 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  

bestjingjai1
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add bestjingjai1's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.