|
วาเลนไทน์(ของเทพวีนัส)
วีนัส Venus
เป็นเทพเจ้ากรีก มีชื่อว่า อะโฟรไดต์ (Aphrodite) เป็นเทพีแห่งความรัก เพศ และความอุดมสมบูรณ์มีกำเนิดจากเหตุการณ์ที่เทพเจ้าซูสหรือซีอุส (Zeus) จับพ่อของวีนัสควักกล่องดวงใจออกมา นาทีนั้นเลือดที่หยดลงในทะเล กลายเป็นฟองสีขาว และก่อกำเนิดเป็นวีนัสขึ้นมา(เวอร์)
รูปโฉมอันไม่มีที่ติของวีนัส ทำให้เทพในโอลิมปัสพากันตะลึง ส่วนเทพธิดาพากันอิจฉาตาร้อนในความงามอันเป็นเสน่ห์ยั่วยวน วีนัสใช้เสน่ห์อันตรึงใจนี้ครอบงำเทพบุตรทั่วสวรรค์ ถ้าความงามเอาชนะใจผู้ใดไม่ได้ จะคาดสายรัดวิเศษ ซึ่งจะแผ่รัศมีแห่งความรัญจวนใจจนชายใดเจอเข้าเป็นต้องสยบอยู่แทบเท้า ฤทธิ์เดชของวีนัสทำให้บรรดาเทพธิดาพากันขุ่นเคือง
ต่อมาเกิดเรื่องในแดนสวรรค์ เมื่ออีริส (Eris) เทพแห่งความบาดหมาง กลิ้งลูกแอปเปิ้ลทองคำสลักคำว่า "สำหรับผู้ที่งามที่สุด" เข้าไปในกลุ่มเทพธิดาที่ได้รับเชิญมาในงานแต่งงาน วีนัส เฮรา และอธีนีต่างคิดว่า คำที่สลักไว้บนลูกแอปเปิ้ลหมายถึงตน
เรื่องถกเถียงไร้สาระนี้ร้อนไปถึงเทพซีอุส ซึ่งก็ไม่อาจตัดสินว่าใครจะเป็นผู้งามที่สุด จึงให้มนุษย์ผู้ชายเป็นผู้ตัดสินบุรุษที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้ตัดสินคือเจ้าชายปารีส (Paris) ซึ่งเป็นราชบุตรของกษัตริย์ปรีแอม (Priam) แห่งทรอยซึ่งตัดสินใจเลือกวีนัส เป็นเหตุให้เทพธิดาเฮร่าและอธีนีแก้แค้น จนเจ้าชายปารีสต้องตายในสนามรบและกรุงทรอยถึงแก่กาลพินาศย่อยยับ
ด้านวีนัสยังคงมีรักดาษดื่นต่อไป ทำให้เทพซีอุสต้องบังคับให้เธอแต่งงานกับเฮเฟสตุส (Haphaestus) เทพแห่งช่างตีเหล็กพิการ วีนัสทนอยู่ได้ไม่นานก็ตีจากไปรักกับหนุ่มรูปงามมีนามว่าอดอนิส (Adonis) ขณะเดียวกันวีนัสใช้ตัวเธอยั่วยวนทั้งเทพและมนุษย์ให้ลุ่มหลง กระทั่งซีอุสเองก็ไม่อาจต้านทานเสน่ห์ได้ วีนัสกลั่นแกล้งจนซีอุสต้องหันไประบายออกกับเหล่ามนุษย์ผู้หญิง
วีนัสจึงได้ชื่อว่าป็นเทพีที่สร้างความงามให้แก่หญิงสาว และบันดาลเสน่ห์ของหญิงสาวไว้ดึงดูดชายหนุ่ม แต่ขณะเดียวกันบันดาลความเจ็บปวดในรูปของความไม่สมหวังในความรักด้วย
Credit : น้าชาติประชาชื่น
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549 |
| |
|
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 17:10:12 น. |
| |
Counter : 791 Pageviews. |
| |
|
|
|
วันวาเลนไทน์
วันวาเลนไทน์
ตำนานวันแห่งความรัก 14 ก.พ. เริ่มขึ้นเมื่อ ค.ศ.270 ชาวคริสเตียนผู้หนึ่งนามว่า วาเลนไทน์ ถูกคุมขังเพราะไม่ยอมนับถือเทพเจ้าตามจักรพรรดิแห่งอาณาจักรโรมัน โดยวาเลนไทน์ได้นำอาหารไปวางบนประตูบ้านคนยากจน พร้อมกับเปิดตัวว่าเป็นคริสเตียน
ช่วงที่วาเลนไทน์ถูกคุมขังในเรือนจำก็ได้หลงรักลูกสาวของผู้คุมที่ตาบอด วาเลนไทน์ได้อธิษฐานทูลขออำนาจจากพระเจ้าให้รักษาตาของเธอจนหายเป็นปกติ ทำให้ครอบครัวผู้คุมประกาศตนเป็นคริสเตียน เมื่อจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 แห่งโรมทรงทราบ จึงโกรธมากและสั่งให้นำตัวเซนต์ วาเลนไทน์ไปโบยตีและตัดศีรษะ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์
ในค่ำคืนก่อนวันที่ 14 กุมภาพันธ์ วาเลนไทน์ได้ส่งบทกวีแห่งความรักไปให้หญิงสาวในดวงใจและลงท้ายด้วยถ้อยคำพรรณนานี้ว่า FROM YOUR VALENTINE
ต่อมาในสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ทรงรับศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถัดจากวันที่เซนต์วาเลนไทน์ถูกประหาร 1 วัน ซึ่งถือเป็นวันพิธี ลูเพอร์กาเลีย ซึ่งเป็นพิธีทางศาสนาของโรมันที่เปิดโอกาสให้หนุ่มสาวเลือกคู่กัน จึงให้รวมทั้งสองวันเอาไว้ด้วยกัน เรียกว่า วันวาเลนไทน์ นับแต่นั้นมา เพื่อระลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์ ที่มีความรักและศรัทธาต่อศาสนาที่ตนนับถือ
ตำนานวาเลนไทน์จึงเริ่มต้นตั้งแต่นั้นมา เชื่อกันว่าในวันวาเลนไทน์ มวลหมู่นกจะพากันจับคู่ บรรดาหนุ่มสาวจะเปิดเผยความในใจซึ่งกันและกัน และแลกเปลี่ยนของที่ระลึกสื่อความรักในยามค่ำคืนแห่งการฉลองเทศกาล โดยช่วงสมัยพระนางเจ้าวิกตอเรีย สาวๆมักนิยมสวมสร้อยข้อมือ ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแห่งความโชคดีในความรัก โดยเฉพาะถ้าสร้อยข้อมือเหล่านี้ทำเป็นรูป หมู ตะเกียง เกือกม้า และหัวใจ ตราบจนทุกวันนี้เครื่องรางรูปหัวใจก็ยังเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ
การให้ของขวัญวันวาเลนไทน์ก็พัฒนามาเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่จะยืนด้วยรูปหัวใจหรือดอกกุหลาบ ช็อกโกแลตที่สื่อถึงความหวานทั้งสิ้น
สำหรับคำหวานที่จะบอกรักใครสักคนนั้น กลับไปดูต้นฉบับของนักบุญวาเลนไทน์แล้ว ท่านเขียนไว้ว่า รักคือการยินดีที่ได้เห็นบุคคลที่รักมีความสุข แม้ว่าตนเองจะทุกข์หรือเจ็บปวดเพียงใดก็ตาม
"เห้อวาเลนไทน์ปีหน้า ผมจะได้ของขวัญจาก สาวๆบ้างไหมน้า รออยู่หน่ะ 3/5 นะ อิอิ"
Credit : น้าชาติประชาชื่น
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549 |
| |
|
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 17:25:26 น. |
| |
Counter : 306 Pageviews. |
| |
|
|
|
10ภาระกิจในวันตรุษจีน
10 กิจที่ต้องทำ วันตรุษจีน
คนส่วนมากรู้จัก "ตรุษจีน"ว่าเป็นวันรับ "อั่งเปา" แต่จริงๆ แล้วตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่จีน คนจีนก็มีกิจกรรมคล้ายๆ กับคนไทยกระทำในวันปีใหม่ คือเป็นวันพบปะญาติมิตร ไหว้พระ อวยพรผู้ใหญ่ ส่วนอั่งเปานั้นเป็นเพียงน้ำจิ้มเล็กๆ ที่สร้างความสุขความตื่นเต้นให้กับเด็กน้อย
ทั้งนี้ กิจที่คนจีนจะต้องกระทำในเทศกาลตรุษจีนจะเริ่มตั้งแต่ "วันจ่าย" ซึ่งเป็นวันจ่ายตลาดเตรียมข้าวของสำหรับไหว้ในวันรุ่งขึ้น รวมทั้งเป็นวันจ่ายโบนัสให้ลูกจ้าง
1.ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ วันซาจั๊บ ช่วงเช้าหลังจากไหว้เจ้าในบ้าน คือ "ตีจูเอี๊ย" ไหว้บรรพบุรุษแล้ว ในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ ซึ่งของไหว้จะมีทั้งของคาว-หวาน รวมทั้งเป็ด-ไก่ มากหรือน้อยแล้วแต่ฐานะของผู้ไหว้ และมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร เกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติพกไปด้วย นอกจากนี้ยังต้องจุดขี้ไต้ 2 ชิ้นไว้ด้วย เมื่อไหว้เสร็จจะจุดประทัด จากนั้นจะโปรยข้าวสารผสมเกลือ ขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป
2.รวมญาติกินเกี๊ยว ความสำคัญอีกประการของตรุษจีน คือเป็นวัน รวมญาติ โดยทุกคนจะเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวในวันซาจั๊บมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ และที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะลักษณะของเกี๊ยวที่เหมือนกับ "เงิน" ของจีน ให้ความหมายว่า ให้มั่งมีเงินทอง
3.กินเจมื้อเช้า คือมื้อแรกของปี ส่วนในวันชิวอิก คนจีนจะกินเจมื้อแรกของปี เชื่อกันว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดปี
4.ทำพิธีรับ "ไช่ซิงเอี้ย" "ไช่ซิงเอี้ย" เป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ หรือเทพเจ้าแห่งโชคลาภ ส่วนใหญ่จะทำพิธีระหว่างหลังเที่ยงคืนของวันซาจั๊บจนถึงก่อนตี 1
5.ห้ามกวาดบ้าน ก่อนตรุษจีน จะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ เมื่อถึงวันปีใหม่จะไม่กวาดบ้านจนถึงวันชิวสี่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวันแรกของการเริ่มต้นทำงาน เพราะถือว่าจะกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป แต่ถ้าบ้านใครสกปรกจนทนไม่ไหว ก็จะกวาดเข้าคือ กวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้าน
6. ติด "ตุ๊ยเลี้ยง" หรือคำอวยพรปีใหม่ เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ถ้าไม่มีความรู้ก็จะไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ ซึ่งแหล่งใหญ่ก็คือที่เยาวราช
คำอวยพรที่เขียนจะประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ทำมาค้าขึ้น ให้มั่งมีเงินทอง ติดตามสองข้างประตูบ้าน และมีอีกแผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก เขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" แปลว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย รวมทั้งติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งเป็นภาพมงคลของจีน ถือเป็นงานศิลปะที่สำคัญอีกอย่างนอกเหนือจากการตัดกระดาษ มักติดที่ประตูหน้าบ้าน
7.ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส
8.ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่ วันชิวอิกทุกคนจะนำส้ม 4 ผล ไปกราบผู้ใหญ่ขอพร เจ้าบ้านเองนอกจากจะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้ 1 พาน และลูกสมอจีนไว้รับแขกแล้ว เมื่อมีผู้มาอวยพร จะรับส้มขึ้นมา 2 ผล และนำส้มในบ้านที่เตรียมไว้วางคืนลง 2 ผล
9.รับอั่งเปา ( ข้อนี้ช๊อบชอบ ) แต่เราทำงานแล้ว คงได้ไม่มากเท่าไหร่นัก
10.ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
Credit : Bloggang
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549 |
| |
|
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 3:23:52 น. |
| |
Counter : 296 Pageviews. |
| |
|
|
|
การเทียบ "ศักราช"
มหาศักราช (ม.ศ.) - การเทียบพุทธศักราชเป็นมหาศักราชให้ลบด้วย 621
จุลศักราช (จ.ศ.) - การเทียบพุทธศักราชเป็นจุลศักราชให้ลบด้วย 1181
รัตนโกสินทร์ศก (ร.ศ.) - การเทียบพุทธศักราชเป็นรัตนโกสินทร์ศกให้ลบด้วย 2324
คริสต์ศักราช (ค.ศ.) - การเทียบพุทธศักราชเป็นรัตนโกสินทร์ศกให้ลบด้วย 543
ฮิจเราะห์ศักราช (ฮ.ศ.) - การเทียบพุทธศักราชเป็นฮิจเราะห์ศักราชให้ลบด้วย 1122
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549 |
| |
|
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 2:39:57 น. |
| |
Counter : 3551 Pageviews. |
| |
|
|
|
ที่มาของชื่อเดือน (อังกฤษ)
JANUARY ที่จริงเดือนมกราคมนี้ เพิ่งจะมาเพิ่มเอาทีหลัง พร้อมกับเดือนกุมภาพันธ์ ที่มาของชื่อก็มาจาก ชื่อของเทพเจ้า Janus ซึ่งเป็นเทพที่มี 2 หน้า (ตามรูป)
คือหน้าด้านหนึ่งของท่านจะมองไปยังอดีต ส่วนอีกด้านมองไปยังอนาคต จึงหมายความได้ว่า... เดือนมกราคมนี้ เป็นช่วงเวลาที่เราควรทบทวนสิ่งที่ผ่านมา รวมถึงมองไปข้างหน้า
FEBRUARYอย่างที่บอกเมื่อกี๊ว่า เค้าเพิ่งเพิ่มเดือนกุมภาพันธ์มาทีหลัง ความหมายในภาษาละตินของเดือนกุมภาพันธ์ จึงหมายถึง "การชะล้าง" ตัวเองให้สะอาดเพื่อรอรับปีใหม่
MARCHอดีตเคยเป็นหัวแถวของบรรดาชื่อเดือนทั้งหลาย ชื่อนี้มีที่มาจากเทพเจ้าแห่งสงครามนามว่า Mars
Mars เทพเจ้าแห่งสงคราม
APRIL มาจากภาษาละตินที่มีความหมายว่า "เปิดรับ" เพราะผลผลิตทางการเกษตรที่หว่านไปในเดือนมีนาคมจะเริ่มให้ผลเดือนนี้
MAYมาจากชื่อเทพเจ้าแห่งการเจริญเติบโต ที่มีชื่อว่า Maia ซึ่งจะคอยคุ้มครองพืชผลต่างๆ ให้ชาวไร่ชาวนา (คงคล้ายๆ กับแม่โพสพล่ะมั้ง)
JUNEมาจากชื่อของพระนาง Juno ราชินีแห่งสรวงสวรรค์หวานใจท่าน Jupiter
ภาพนางจูโนกับจูปิเตอร์
JULY เป็นการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ (เอ้าทายกันหน่อยว่าใคร?) ... Julius Caesar จ้า (นึกถึง ซีซาร์สลัดจริงวุ้ย)
AUGUSTใครเคยดูหนังเรื่อง Augustus ยกมือขึ้น เพราะชื่อเดือนสิงหาคมก็นำมาจากชื่อของหลานชายท่าน Julius ที่ชื่อว่า Augustus นี่แหละ แถมตา Augustus ยังขี้อิจฉาไม่เบา กลัวตัวเองน้อยหน้า Juius เลยจัดแจงจิ๊กวันในเดือนกุมภาพันธ์มาเพิ่มให้ตนเองซะ จะได้เสมอหน้าเสมอตากับเดือนกรกฎาคมที่มี 31 วันเหมือนกัน src = //www.bloggang.com/data/benzlemon/picture/1140809524.jpg> ท่าน Augustus ครับผม
SEPTEMBER Septem มาจากภาษาละตินแปลว่า "เจ็ด" เนื่องจากตะก่อนเดือนนี้เป็นเดือนที่เจ็ด
OCTOBERก็ถ้า Octopus หมายถึงหมึกยักษ์แปดหนวด ก็น่าจะเดาได้แล้วใช่มะ ว่า Octo จะหมายถึงอะไร?
NOVEMBERสงสัยหลังๆ คนตั้งชื่อเดือนคงไม่รู้จะเอาชื่อใครมาตั้งดี เลยตั้งกันตรงๆ ตามภาษาละติน เพราะ Novem แปลว่า "เก้า"
DECEMBERส่วนเดือนนี้ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่า Decem แปลว่า "สิบ" แหง๋มๆ
Credit : ๑๙ กุมภาฯ
Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2549 |
| |
|
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2549 2:33:37 น. |
| |
Counter : 1416 Pageviews. |
| |
|
|
|
| |
|
|
benzzuza |
|
|
|
|