Group Blog
 
All blogs
 
แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก 14


แนะนำ
สำหรับคน ที่เพิ่งได้อ่านนิยายเรื่องนี้เป็นครั้งแรก ขออธิบายล่วงหน้าว่าเรื่องนี้จะเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกสองคนซึ่ง เป็นชายทั้งคู่ และอาจมีเนื้อหาบางส่วนไม่เหมาะสมสำหรับเยาวชน หรือคนที่ไม่นิยมเรื่องแนว Boy's Love ดังนั้นหากไม่ชอบอ่านนิยายแนวที่ไม่มีนางเอก ขอแนะนำว่าให้คลิกไปอ่านหน้า About me , เท้าพาไป หรือ พร่ำ(เพ้อ)รายสะดวก ซึ่งเนื้อหาจะเกี่ยวกับเรื่องทั่วไปค่ะ เราเตือนคุณแล้วนะคะ


++------++


ตอนที่ 14.


เช้าวันถัดมา กุ้งซึ่งนั่งประจำอยู่หลังเคาน์เตอร์รีเซปชั่นเลิกคิ้วอย่างแปลกใจที่เห็นภัทรมาหลังเวลาเข้างานไปมาก สาวน้อยร้องทักอย่างร่าเริงตามนิสัยเมื่อเขาผลักประตูเข้ามาในบริษัท

“สวัสดีค่าพี่ภัทร แปลกจังวันนี้มาสายเชียว”

“หา? เอ่อ...เมื่อคืนพี่นอนดึกไปหน่อยน่ะ”

ชายหนุ่มยิ้มตอบก่อนจะเลี้ยวไปทางฝั่งห้องทำงาน ได้แต่หวังว่าเมื่อครู่ผิวหน้าตนคงไม่เปลี่ยนเป็นสีเข้มจนสังเกตได้ เขากระชับสายสะพายกระเป๋าขณะรีบเดินตรงไปที่โต๊ะ แต่ยังไม่ทันจะได้นั่งก็สะดุ้งสุดตัวเพราะมือที่วางลงบนบ่า

“ไงยะ พี่กำลังจะโทรถามอยู่เชียวว่าวันนี้จะลาหยุดหรือไง”

น้ำเสียงอันคุ้นเคยซึ่งออกจะเหน็บแนมหน่อยๆ ทำให้ภัทรยิ้มแหยๆ ให้คนถาม วันนี้ป๋วยใส่สูทกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีขาวเข้าชุดกัน ส่วนเสื้อตัวในเป็นเชิ้ตสีม่วงเข้มแบะปกออก ผมสลวยถูกรวบตึงเป็นหางม้าสูง ดูแล้วทั้งเป็นการเป็นงานแต่ก็แฝงความเปรี้ยวอยู่ในที

“เมื่อคืนผมนอนดึกน่ะพี่ป๋วย ขอโทษที่ไม่ได้โทรมาบอกว่าจะมาสาย”

ภัทรตอบพลางนั่งลงบนเก้าอี้และเปิดคอมพิวเตอร์ รุ่นพี่สาวจึงยกมือขึ้นกอดอกพลางพิงสะโพกบนขอบโต๊ะ “อ้อ แสดงว่าเมื่อคืนฉลองวันเกิดให้หลานสาวจนดึกละสิ?”

ภัทรรู้สึกว่าไอร้อนวูบวาบลามขึ้นบนผิวหน้า เพราะความจริงแล้วงานฉลองให้มายูมิจบลงตั้งแต่สี่ทุ่มครึ่ง แต่สาเหตุที่ทำให้เขานอนดึกน่ะมันเพราะเรื่องอื่นต่างหาก...

“อ้าว? ตกลงเธอนอนน้อยหรือไม่สบายกันแน่เนี่ย? อยู่ๆ ก็หน้าแดงยังกับไข้ขึ้นเชียว?”

ป๋วยขมวดคิ้วพลางใช้หลังมืออังบนหน้าผากเขา ภัทรจึงสะดุ้งและรีบเอนหนีอย่างร้อนตัว

“เปล่าๆ พี่ป๋วย ผมไม่ได้เป็นอะไร ว่าแต่นี่จะเตรียมงานประชุมลูกค้าตอนบ่ายหรือยัง ผมจะได้ไปช่วย”

ภัทรรีบปัดหัวข้อสนทนาให้พ้นตัว ด้วยเกรงว่าหากถูกถามมากเข้าก็คงไม่สามารถหยุดคิดถึงพฤติกรรมของตัวเองเมื่อคืนได้เสียที ท่าทีของเขาทำให้ป๋วยมองด้วยแววตาสงสัย แต่ก็คร้านจะซักเพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่า

“พี่ก็มาหาเธอเรื่องนี้น่ะแหละ กะว่าจะซ้อมพรีเซนต์อีกสักรอบก่อนประชุมตอนบ่าย เดี๋ยวอีกสิบห้านาทีเอาแฟ้มเอกสารที่จะแจกลูกค้าไปเจอพี่ที่ห้องประชุมด้วย”

ภัทรพยักหน้ารับขณะมองร่างระหงเดินจากไป จากนั้นก็เช็คอีเมล์ว่ามีงานเร่งด่วนหรือไม่ พอใกล้เวลานัดก็เดินถือกล่องใส่แฟ้มเอกสารซึ่งจัดเรียงไว้แล้วไปที่ห้องประชุม และพบว่ารุ่นพี่สาวกำลังยืนเช็คพาวเวอร์พ้อยท์อยู่ที่โพเดียมด้านหน้า

เนื่องจากวันนี้จะมีผู้มาร่วมประชุมถึงสี่สิบกว่าราย แม่บ้านจึงจัดโต๊ะในห้องประชุมใหญ่ไว้ให้สองแถว แถวละสองที่นั่งและเรียงไปจนจรดท้ายห้อง โดยโต๊ะทุกตัวจะหันไปทางด้านหน้าเหมือนห้องเรียน ป๋วยเหลือบตาขึ้นเห็นภัทรจึงชี้ไปทางโต๊ะที่เรียงรายกันอยู่

“ภัทร เดี๋ยวเธอเอาแฟ้มวางเรียงบนโต๊ะไปพลางๆ ก่อนก็ได้ เสร็จแล้วมาลองฟังพี่พรีเซนต์หน่อย พอดีพวกแหม่มกับนุ่นไม่ว่าง”

ภัทรพยักหน้าโดยไม่อิดออด เนื่องจากเพื่อนๆ อีกสองคนที่ถูกพูดถึงคงกำลังง่วนกับการเตรียมของที่ระลึกแก่ผู้เข้าประชุม เขาหยิบหอบเอกสารออกจากกล่องแล้ววางลงโต๊ะละสองชุด เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็เดินกลับมานั่งฟังรุ่นพี่ซ้อมการนำเสนอเหมือนที่ทำเมื่อวาน หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ป๋วยก็ปิดพาวเวอร์พ้อยท์แล้วหันมาทางภัทรอีกครั้ง

“แค่นี้ก็น่าจะใช้ได้แล้วมั้ง? ถ้างั้นเรากลับไปทำงานกันต่อเถอะ แล้วพักเที่ยงก็ลงไปกินข้าวเร็วหน่อย จะได้รีบขึ้นมารอคนเข้าประชุม”

หญิงสาวเอ่ยพลางปิดโน้ตบุ๊คและพับฝาลง ชายหนุ่มจึงพยักหน้าพลางเดินตามออกจากห้องประชุม แต่แล้วก็เลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อถูกสะกิดให้เดินตามไปยังชั้นดาดฟ้า

“มีอะไรเหรอพี่ป๋วย?”

ภัทรถามเมื่อทั้งคู่ขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าแล้ว หญิงสาวงับประตูก่อนจะหันกลับมาหาเขาด้วยสีหน้าใคร่ครวญ

“ภัทร เธอเป็นคนเดียวนะที่รู้เรื่องพี่กับคุณนิน”

ชายหนุ่มทำหน้าเหลอ เพราะไม่คิดว่าจะถูกเรียกมาคุยเรื่องนี้ แต่ก็รีบพยักหน้าเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ

“อื้อ ผมไม่เคยบอกใครเรื่องนี้เลย”

ยกเว้นคุณเชษฐ์ที่รู้เองมาก่อนผมตั้งนาน...

ภัทรได้แต่คิดในใจ อดหวั่นไม่ได้ว่าที่ป๋วยเกริ่นแบบนี้เพราะมีใครมารู้มาเห็นเหมือนเขาแล้วเอาไปพูดหรือเปล่า

รุ่นพี่สาวหัวเราะ “สบายใจเถอะน่า พี่ไม่ได้จะว่าอะไรสักหน่อย แถมตอนนี้...ถ้าเกิดใครจะรู้ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะเดี๋ยวอีกหน่อยก็คงค่อยๆ รู้กันไปเองนั่นแหละ”

ภัทรได้ฟังก็ยิ่งงงหนักเข้าไปอีก ป๋วยมองเรียวคิ้วของเขาที่มุ่นขึ้นแล้วก็ยิ้มอ่อนๆ

“คุณนินหย่าแล้วนะ พี่เพิ่งได้เมสเสจว่าเขากับภรรยาลงชื่อในใบหย่ากันต่อหน้าทนายเมื่อเช้านี้”

“หา?”

ภัทรตกใจด้วยไม่คาดว่านั่นคือสาเหตุที่นินนาทไม่เข้าบริษัทวันนี้ ขณะเดียวกันก็ไม่แน่ใจว่าควรจะเอ่ยอะไร เพราะถ้าหากบอกว่า ‘ดีใจด้วย’ ก็เท่ากับเขาส่งเสริมที่รุ่นพี่ไปพัวพันกับผู้ชายที่ยังมีพันธะ แต่เมื่อได้สบตากับป๋วย ภัทรก็เข้าใจทันทีว่ารุ่นพี่สาวก็ไม่ได้สบายใจนัก

“....พี่ป๋วย พี่เองก็ไม่ได้ดีใจใช่ไหม?”

“เฮ้อ...มันก็พูดยากนะภัทร” หญิงสาวถอนหายใจ แววตาสวยคมหม่นหมองลงเล็กน้อย “จะว่าดีใจไหม พี่ว่าพี่คงโล่งใจมากกว่าที่จะไม่ต้องคบกับคุณนินแบบหลบๆ ซ่อนๆ อีกแล้ว แต่อีกใจมันก็อดจะคิดไม่ได้ ว่าจริงๆ แล้วสาเหตุที่พวกเขาหย่ากันมันเป็นเพราะพี่หรือเปล่า”

“แต่พี่ป๋วยเคยบอกผมว่าคุณนินแยกกันอยู่กับแฟนเขามานานแล้วนี่นา? อย่างนี้จะบอกว่าเป็นความผิดของพี่ป๋วยคงไม่ได้หรอก”

ภัทรรีบพูดเมื่อเห็นแววตาเศร้าๆ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เขาจะไม่ค่อยเห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของรุ่นพี่ แต่ก็เชื่อว่านี่ไม่ใช่เรื่องที่จะโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้ ในเมื่อความรักไม่ใช่เรื่องที่ชี้ว่าถูกหรือผิดได้ด้วยสามัญสำนึกเท่านั้น ต่อให้รู้แก่ใจว่าคนที่รักมีเจ้าของซึ่งใครๆ ต่างก็รับรู้กันอยู่แล้วก็ตาม

และนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจและเห็นใจ...

หญิงสาวเห็นสีหน้าเป็นห่วงของภัทรก็ยิ้มพลางยกมือขึ้นบีบไหล่เบาๆ “อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิยะ เธอไม่ต้องพูดอะไรให้พี่รู้สึกดีขึ้นก็ได้ พี่เพียงแต่อยากบอกให้ภัทรรู้ไว้ เพราะจากนี้ถ้าพวกที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางเห็นพี่ไปไหนมาไหนกับคุณนินคงได้เม้าท์กันเพลินแน่ ถึงตอนนั้นพี่อยากให้แน่ใจว่าจะยังมีคนที่เข้าใจพี่อยู่”

ภัทรมองหน้าหญิงสาวที่คอยสอนงานให้ตั้งแต่เขาเริ่มทำงานที่นี่ ถึงแม้อีกฝ่ายจะชอบเหน็บแนมหรือโยนงานให้ทำแทนบ้าง แต่ก็ไม่เคยโกหกหรือหาเรื่องกลั่นแกล้งสักครั้ง แถมยังคอยเป็นห่วงเป็นใยในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ตะขิดตะขวงใจกับคำขอนี้สักนิด

โชคดีจริงๆ ที่รุ่นพี่ของเขาเป็นคนเข้มแข็ง

“ไม่ต้องห่วงนะพี่ป๋วย ถึงคนที่ไม่รู้อะไรจะพูดยังไง แต่ผมรับรองว่าผมจะอยู่ข้างพี่ป๋วยแน่นอน คุณเชษฐ์ก็เหมือนกัน...”

ภัทรเอ่ยชื่อคนคุณผู้จัดการเพราะอยากให้รุ่นพี่รู้ว่าไม่ได้มีเพียงเขาคนเดียวที่จะเป็นกำลังใจ แล้วก็แทบจะกัดลิ้นเมื่อนึกได้ว่าคนฟังอาจฉุกคิดว่าคุณเชษฐ์รู้เรื่องอยู่แล้วก็ได้ และป๋วยก็สะกิดใจจริงๆ เพราะเรียวคิ้วโก่งสวยมุ่นขึ้นทันตาเห็น

“คุณเชษฐ์ก็ด้วยนี่คือ...รายนั้นก็รู้เรื่องของพวกพี่อยู่แล้วงั้นสิ?”

พอโดนสายตาคาดคั้นของคนถาม ภัทรก็ไม่ทีทางเลือกนอกจากตอบรับเสียงอ่อย ได้แต่นึกขอโทษคุณเชษฐ์ในใจที่ดึงเข้ามาเกี่ยว

“ไม่ใช่จากผมนะพี่ป๋วย คุณเชษฐ์เขารู้มาก่อนผมด้วยซ้ำ”

ป๋วยเพ่งมองสีหน้าจ๋อยๆ ของรุ่นน้องแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้า หญิงสาวกอดอกพลางทอดสายตาไปไกล ก่อนจะทำลายความเงียบขึ้นอย่างปลงๆ “เอาเถอะ ก็ไม่ได้เกินคาดนักหรอกถ้ารายนั้นจะรู้ สงสัยไม่พี่ก็คุณนินคงเผลอไปทำอะไรให้แกสงสัยเข้านั่นแหละ ก็ดี...ถือซะว่าได้แบ็คอัพที่แข็งแรงมาอีกคน”

หญิงสาวกล่าวจบก็หันมายิ้มเนือยๆ ให้ภัทร แต่เพียงเท่านั้นก็ทำให้คนเห็นสบายใจขึ้น เขาจึงแตะศอกรุ่นพี่สาวแล้วดันไปทางประตูเบาๆ

“ใกล้จะเที่ยงแล้ว ผมว่าพวกเราลงไปกินข้าวกันเลยดีกว่านะพี่ป๋วย จะได้รีบกลับขึ้นมารอประชุมไง”

พอถูกชวน ป๋วยก็ก้มลงดูนาฬิกาข้อมือก่อนจะพยักหน้า “อืม ก็ดีเหมือนกัน ถ้างั้นเดี๋ยวขอพี่ไปเอากระเป๋าตังค์แป๊บนึง”

ทั้งคู่ลงลิฟต์แล้วเดินไปยังศูนย์อาหารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอาคารนัก แต่ทั้งที่ลงมาเร็วแล้วก็ยังพบกับความแออัดจากพนักงานบริษัทอื่นๆ ที่มาฝากท้องที่เดียวกัน หลังจากเห็นว่ามีโต๊ะว่าง ภัทรจึงอาสานั่งเฝ้าและฝากรุ่นพี่ให้ซื้อข้าวมาให้ด้วยเลย

เมื่อคล้อยหลังป๋วย ชายหนุ่มก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิดเช็คข้อความว่ามีเมสเสจใหม่บ้างหรือไม่ แต่ก็ไม่พบว่ามีข้อความใดจากคนที่รออยู่ เขาจึงได้แต่ถอนหายใจขณะใช้นิ้วโป้งลูบหน้าจอเบาๆ

ป่านนี้น่าจะไปถึงเวียดนามแล้วนี่นา...สงสัยคงตรงจากสนามบินไปออฟฟิศเลยล่ะมั้ง...แต่อย่างน้อยก็น่าจะส่งข้อความมาบอกว่าถึงโดยปลอดภัยแล้วสักหน่อย...

ภัทรอดนึกค่อนในใจไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อยากโทรไปก่อนเพราะเกรงว่าคุณเชษฐ์จะติดประชุมอยู่ แต่แล้วขณะที่กำลังเก็บมือถือลงกระเป๋า ร่างเพรียวก็สะดุ้งเพราะมีคนเดินมาเตะขาเก้าอี้เขาอย่างจัง

“โอ๊ะ! ขอโทษครับ”

ชายวัยกลางคนในชุดพนักงานบริษัทคนหนึ่งหันมาขอโทษ ภัทรจึงค่อยดึงสติกลับมาแล้วหันไปยิ้มให้อย่างไม่ถือสา เพราะทางเดินในศูนย์อาหารแห่งนี้ก็ค่อนข้างแคบจริงๆ

“ไม่เป็นไรครับ ...อะ...”

“ภัทร?”

คนที่เรียกชื่อภัทรหาใช่ชายวัยกลางคนร่างกะทัดรัดที่ไว้หนวดเหนือริมฝีปาก แต่เป็นผู้ชายอีกคนที่นั่งอยู่อีกฟากของโต๊ะซึ่งเยื้องไปด้านหลังของเขาเล็กน้อย และจากแววตาประหลาดใจที่ได้เห็น แสดงว่าเมื่อครู่อีกฝ่ายก็ไม่รู้ว่าเขานั่งอยู่ตรงนี้เช่นกัน

ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้...

“...ธร”

ชายวัยกลางคนที่เพิ่งเอ่ยขอโทษภัทรไปหยกๆ มองหน้าเขาสลับกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ซึ่งภัทรไม่คิดว่าจะได้พบกันอีกแล้ว ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอย่างอารมณ์ดี “อ้าว รู้จักกันหรอกเหรอ?”

เขาไม่แน่ใจว่าคนถามต้องการให้ใครตอบคำถามนั้น แต่ความคิดแรกที่วาบขึ้นในหัวก็คือให้รีบลุกและย้ายไปโต๊ะอื่นเดี๋ยวนี้ ทว่าโดนเสียงจากคนที่เดินใกล้เข้ามาหยุดไว้เสียก่อน

“มาแล้วภัทร คิวยาวมากเลยต้องรอตั้งนานแน่ะ อ้าว? คุณชัยยศ? ตายจริง มากินข้าวก่อนเข้าประชุมบ่ายนี้เหรอคะ?”

ภัทรหันไปเห็นป๋วยรีบวางถาดใส่ข้าวหมูแดงสองจานบนโต๊ะแล้วหันไปไหว้ผู้ชายไว้หนวดคนนั้น จากนั้นก็หันมาแนะนำเขาตาม

“ภัทร คุณชัยยศเป็นหนึ่งในลูกค้าใหม่ที่จะมาประชุมกับเราบ่ายนี้ไง คุณชัยยศ นี่ภัทร รุ่นน้องในทีมของป๋วยเองค่ะ”

ภัทรไหว้ตามก่อนจะเหลือบมองชายหนุ่มอีกคนที่ยังนั่งนิ่งที่โต๊ะอย่างไม่สบายใจ และพบว่าอีกฝ่ายก็จ้องเขาอยู่เหมือนกัน แต่นัยน์ตากลับยากจะอ่านความหมายจนจนเขายิ่งรู้สึกอึดอัด

ชายวัยกลางคนยิ้มกว้างยิ่งขึ้นขณะรับไหว้ “สวัสดีครับคุณป๋วย คุณภัทร พอดีเมื่อเช้าผมมีประชุมแถวนี้ก็เลยมากินข้าวที่นี่ซะเลย ส่วนนี่ธราธรหลานผมครับ เพิ่งจะมาช่วยงานที่บริษัทเมื่อเร็วๆ นี้เอง เอ้า ตาธร รู้จักคุณป๋วยกับคุณภัทรเสียสิ”

เมื่อได้รับการแนะนำ ร่างสูงใหญ่จึงค่อยลุกขึ้นและยกมือไหว้หญิงสาว ก่อนจะหันมาและยกมุมปากบางๆ ให้ภัทรซึ่งยืนหน้าไร้สีเลือดอยู่ข้างรุ่นพี่

“ไม่ได้เจอกันนานนะ ภัทร ดูดีขึ้นจนแทบจำไม่ได้”

“อ้าว? รู้จักกันอยู่แล้วเหรอคะ?”

หางเสียงบอกให้รู้ว่าป๋วยถามชายหนุ่มแปลกหน้า แต่นัยน์ตากลับเหลียวมามองรุ่นน้องข้างๆ พร้อมกับคิ้วที่เลิกขึ้น ทว่าภัทรกลับหาเสียงของตัวเองไม่เจอ ผู้มาใหม่จึงอธิบายเอง

“เคยเรียนด้วยกันสมัยมหา’ลัยน่ะครับ แต่หลังเรียนจบก็ต่างคนต่างไม่ว่างมาเจอกันเลย ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้จะโชคดีได้มาเจอกับเพื่อนเก่าที่นี่”

ภัทรรู้สึกว่าใบหน้าชาวูบ นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจัดเบิ่งกว้างด้วยไม่อยากเชื่อว่าเพิ่งได้ยินอะไร กล้ามเนื้อทุกมัดในร่างสั่นเทิ้มจนเขาต้องกำหมัดทั้งสองข้างไว้แน่นเพื่อระงับอาการ ขณะที่อีกคนซึ่งยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกลับยิ้มราวไม่ได้พูดอะไรที่ตรงข้ามกับความเป็นจริงเลยสักคำ

เคยเรียนด้วยกัน...อาจจะใช่...ถ้าการจบจากรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกันจะนับว่าเป็นอีกความหมายหนึ่งของ ‘เคยเรียนด้วยกัน’ ได้ ทว่าหลังจากเรียนจบแล้ว ฝ่ายนั้นต่างหากที่เป็นคนเถือเยื่อใยที่ทั้งสองเคยมีให้แก่กัน จากนั้นก็ทิ้งรอยแผลลึกในใจให้ภัทรโดยไม่หันกลับมาแยแสเลยสักครั้ง

“อ้าว ถ้างั้นก็พอดีเลย ไหนๆ พวกผมก็ต้องไปประชุมกับคุณป๋วยอยู่แล้ว ทำไมไม่มานั่งกินมื้อเที่ยงด้วยกันซะเลยล่ะครับ?”

คุณชัยยศหันมาชวนอย่างมีน้ำใจ ขณะที่ภัทรเห็นนัยน์ตาของ ‘เพื่อนเก่า’ เป็นประกายวาวขึ้นวูบหนึ่งทั้งที่รอยยิ้มนุ่มนวลยังไม่เปลี่ยน แล้วก็ได้แต่ร่ำร้องในใจว่าอย่าให้รุ่นพี่ของเขาตอบรับเลย

ซึ่งแน่นอนว่าป๋วยย่อมไม่ได้ยินอยู่แล้ว...

“เอาสิคะ งั้นแป๊บนะคะ ภัทรมาช่วยพี่เลื่อนโต๊ะหน่อยซิ”

หญิงสาวยิ้มหวานรับก่อนจะหันมาทางเขา เนื่องจากโต๊ะในศูนย์อาหารแห่งนี้ค่อนข้างตัวเล็กและเหมาะสำหรับนั่งสองคน ถ้าจะนั่งกันสี่คนก็ควรจะเลื่อนโต๊ะให้ชิดกัน ภัทรยืนหันรีหันขวางด้วยยังแคลงใจที่จะนั่งร่วมโต๊ะกับอดีตคนคุ้นเคย แต่แล้วก็มีเสียงทุ้มเอ่ยขัดขึ้น

“ท่าทางขาโต๊ะจะหนักนะครับ เดี๋ยวผมยกให้เองดีกว่า”

ธราธรเดินอ้อมโต๊ะของตัวเองมาทางภัทรซึ่งยืนอยู่ใกล้ขอบโต๊ะ เมื่อรู้สึกถึงมือใหญ่ที่สัมผัสโดนนิ้วของเขาซึ่งจับโต๊ะอยู่ก่อน ภัทรก็รีบกระตุกมือหนีเหมือนโดนน้ำร้อนกระเซ็นใส่ แต่ก็เห็นเพียงรอยยิ้มเยือกเย็นไม่สะทกสะท้านของคนที่ยกโต๊ะตัวนั้นไปติดกับโต๊ะของตัวเอง

“เอ้าภัทร จะมัวยืนอยู่ทำไมล่ะ มากินข้าวสิจะได้รีบขึ้นไปเตรียมงานกันไง”

ป๋วยนั่งลงบนเก้าอี้พลางหันมาเร่ง ส่วนภัทรนึกอยากหาข้ออ้างดีๆ ที่จะปลีกตัวออกไปจากตรงนั้น แต่แน่นอนว่านอกจากนั่นจะเป็นการเสียมารยาทกับลูกค้าอย่างมากแล้ว รุ่นพี่ของเขาก็อาจจะระแคะระคายก็ได้ว่าเขากับธราธรไม่ได้เป็นเพียงแค่ ‘เพื่อนเก่า’ ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากข่มใจและนั่งลงตรงเก้าอี้ว่าง ซึ่งโชคร้ายที่ดันเป็นฝั่งตรงข้ามกับคนที่เขาไม่อยากมองหรือถูกมองที่สุดด้วย

ทั้งสี่ทานอาหารร่วมกันโดยที่มีเสียงพูดคุยจากคนสามคนยกเว้นภัทร เขาได้แต่นั่งเขี่ยข้าวไปมาและทานลงเพียงไม่กี่คำ ท้ายที่สุดก็ตัดสินใจขอตัวเพราะเริ่มทนความกระอักกระอ่วนจากสายตาที่เหลือบมองบ่อยๆ ไม่ไหว

“พี่ป๋วย ผมจะไปซื้อของที่เซเว่นหน่อยนะ แล้วเดี๋ยวค่อยเจอกันข้างบน”

รุ่นพี่สาวเลิกคิ้ว “อ้าว แต่เธอกินข้าวไปนิดเดียวเองนะ นี่อิ่มแล้วเหรอ?”

ป๋วยบุ้ยคางไปทางจานข้าวของภัทรที่ยังเหลือเกินครึ่ง เขาจึงส่ายหน้าและพยายามปั้นยิ้มให้คนถามสบายใจ “พอดีผมยังอิ่มมื้อเช้าอยู่เลยน่ะ ถ้างั้นขอตัวก่อนนะครับ”

ภัทรหันไปกล่าวช่วงท้ายประโยคกับชายสูงวัยที่สุดในโต๊ะโดยพยายามไม่สบตากับคนที่นั่งตรงข้าม แต่แล้วก็แทบสะดุดฝีเท้าเมื่อถูกคว้าข้อมือไว้ขณะกำลังจะเดินออกมา

“แล้วเจอกันนะ ภัทร”

ธราธรปล่อยมือเขาอย่างรวดเร็วโดยไม่แสดงท่าทีพิรุธให้ใครผิดสังเกต แต่นั่นกลับทำให้ภัทรรีบหันหลังและจ้ำฝีเท้าหนี ข้อมือข้างที่ถูกสัมผัสเพียงสั้นๆ ร้อนผ่าวจนต้องใช้อีกมือกุมเอาไว้ แต่มันกลับเป็นความร้อนรุ่มที่ทำให้กระวนกระวาย ไม่เหมือนกับความอบอุ่นและมั่นคงยามที่ถูกคุณเชษฐ์กุมมือเลยสักนิดเดียว

ทำไมถึงต้องมาเจอกันอีก แล้วทำไมถึงต้องมาเจอในสถานการณ์แบบนี้...

ความคิดนั้นวนเวียนไปมาราวพายุในหัวของภัทร เขาเคยคิดว่าการได้พบอีกฝ่ายโดยบังเอิญที่ร้านอาหารเมื่อไม่กี่เดือนก่อนคงเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นหน้าของคนคนนั้นแล้ว ใครเลยจะรู้ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกให้ต้องมาเจอกันอีกครั้ง แถมยังในฐานะลูกค้าที่ต้องทำงานร่วมกันไปอย่างน้อยก็อีกระยะด้วย

ภัทรไม่ได้แวะที่ไหนและตรงกลับไปที่บริษัท เมื่อออกจากลิฟต์ก็พบว่าไฟในห้องทำงานถูกดับจนสลัวและเพื่อนร่วมงานส่วนใหญ่ยังไม่กลับมาจากมื้อเที่ยง ภายในห้องทำงานมีเพียงแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ตามโต๊ะที่สว่างเป็นจุดๆ ทว่าความเงียบที่ควรจะทำให้จิตใจสงบกลับทำให้ภัทรยิ่งว้าวุ่นมากขึ้น

ร่างสูงเพรียวรีบเดินตรงไปที่ห้องน้ำและวักน้ำเย็นๆ จากก๊อกขึ้นลูบหน้า ขณะเดียวกันก็พยายามสงบหัวใจที่เต้นรัวให้ชะลอลง แต่เมื่อเหลือบตาขึ้นสบกับสายตาตัวเองในกระจก ภัทรก็พบว่าหน้าตาที่สะท้อนในนั้นช่างดูไม่ได้เอาเสียเลย

เข้มแข็งไว้สิภัทร ผู้ชายคนนั้นไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายเราอีกแล้ว เรามีคุณเชษฐ์แล้ว อย่าปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอให้ใครเห็นอีกเป็นอันขาด…

ภัทรได้แต่ยืนกำมือเหนืออ่างล้างหน้าและพึมพำกับตัวเอง เขานึกรังเกียจความทรงจำที่ทำให้เป็นคนลืมเรื่องเก่าๆ ได้ยาก เพราะมันขุดคุ้ยความเจ็บยอกในอดีตให้หวนกลับมายามได้เผชิญหน้ากับธราธรอีกครั้ง แล้วไหนจะยังท่าทีตอนที่ได้เจอกันเมื่อครู่อีก

มันเหมือนกับ...เหมือนกับฝ่ายนั้นอยากรื้อฟื้นความสัมพันธ์ที่เคยเป็นคนทำลายไปแล้วยังไงก็ไม่รู้

เขากำลังหวั่นไหว ภัทรรู้ตัวดี แต่ต้นตอของความหวั่นไหวนั้นไม่ใช่ความตื่นเต้นดีใจอย่างแน่นอน เพราะนับจากวันที่เจอธราธรโดยบังเอิญที่ร้านอาหารจนถึงวันนี้ ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไปมากจนแทบจะพูดได้ว่าไม่เหลือใจให้อดีตคนรักอีกแล้ว แต่ขณะเดียวกัน การแสดงออกตอนที่เจอกันเมื่อครู่ก็ทำให้เขากังวลว่านั่นคงไม่ใช่สัญญาณที่ดี และเขาคงสบายใจกว่านี้ถ้าหากได้เผชิญหน้ากับอีกฝ่ายโดยมีคุณเชษฐ์อยู่ข้างๆ

และเมื่อคิดถึง...มันก็ช่วยไม่ได้ที่เขาจะยิ่งโหยหาคนที่เป็นดั่งหลักให้เขาพึ่งพิงมากขึ้นไปอีก

คุณเชษฐ์ครับ...คราวนี้อย่าไปทำงานไกลๆ นานนักนะครับ รีบกลับมาหาผมเร็วๆ เถอะ...



++------tbc------++



A/N: แฟนนักอ่านหลายคนคงแทบขยี้ตาด้วยความไม่อยากเชื่อที่เห็นตอนใหม่ ขนาดตัวเองเห็นวันที่อัพเดทครั้งสุดท้ายยังละอายเลยค่ะ (กรกฎาคม 2554) เลยทำให้รู้สึกเหมือนคุณเชษฐ์ไปเวียดนามนานมากกกกกก ทั้งที่จริงๆ ในเรื่องนี่เพิ่งจะบินไปเอง พอดีก่อนหน้านี้ไปเขียน “ยินดีที่ได้รู้จัก...รัก” ต่อเนื่องกันซะจนต้องใช้เวลาจูนกลับมาหาน้องภัทรอยู่พักใหญ่ แต่ในที่สุดก็ได้เริ่มกลับมาเขียนแล้ว ก็หวังว่าจะลื่นไปได้เรื่อยๆ ถ้าเขียนจบเมื่อไหร่คงเหมือนได้ยกคุณเชษฐ์ เอ้ย! ภูเขาลูกใหญ่ออกจากอกสักที หุหุหุ

ก็ต้องขอโทษและขอบคุณทุกคนที่คอยทวงกันอยู่เรื่อยๆ ด้วยนะคะ ไม่น่าเชื่อว่าคุณเชษฐ์แกจะฮอตได้ขนาดนี้ (คนเขียนขอเหน็บพระเอกนิดนึง ฮา) แล้วก็ตอนนี้เราทำหน้า fan page ไว้สำหรับอัพเดทข่าวคราวเรื่องนิยายโดยเฉพาะ ถึงไม่ได้แอดกันไว้ก็สามารถคลิกไลค์เพื่อติดตามกันได้ ที่ facebook.com/BellbombNovels แล้วเจอกันใหม่ตอนหน้านะคะ


Create Date : 20 มีนาคม 2555
Last Update : 20 มีนาคม 2555 11:32:41 น. 18 comments
Counter : 906 Pageviews.

 
เง้อออ คุณเชษฐ์รีบกลับมาน้าา อย่าปล่อยให้ภัทรไม่สบายใจอยู่คนเดียวเลย :(
ไม่ค่อยไว้ใจนายแฟนเก่าเลยอ่ะค่ะ อย่ามาสร้างความลำบากใจดิ (บางทีโลกเราก็กลมเกินไปนะคะ - -")


โดย: milphinne* IP: 202.28.62.245 วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:13:06:17 น.  

 
คุณเชษฐ์กลับมาช่วยภัทรเร็ว ๆ เถอะ
สงสารอ่ะ

นายธรนี่มันไม่ธรรมดาจริง ๆ

ขอบคุณรินมาก มาต่อเร็ว ๆ นะ


โดย: Phueng IP: 125.25.1.140 วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:13:21:05 น.  

 
คุณเชษฐ์ รีบกลับนะคะ มาช่วยภัทรด้วย ภัทรจะแย่แล้ว

นายธรนี่ท่าทางคงไม่หล่อใช่มั้ยคะคุณริน ความรู้สึกเค้าบอกว่างั้น 555


โดย: แม่ยกคุณเชษฐ์ IP: 203.157.152.1 วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:15:20:20 น.  

 
อ้าวคุณเชษฐ์เพิ่งบินไปเวียดนามหรอค่ะ นึกว่ากำลังจะกลับมาซะอีกไปตั้งแปดเดือนแล้ว ^^ อิอิ แอบแซวคนเขียน
ตอนหน้าคนอ่านขอย้อนอดีตไปดูความสัมพันธ์ของภัทรกะธรได้มั้ยค่ะ อยากรู้แล้วว่าสาเหตุที่ให้หนูภัทรเป็นแบบนี้ได้อย่างไรนะค่ะ
.
.
แบบว่าให้คุณเชษฐ์อยู่เวียดนามไปอีกสักสี่เดือนจะได้ครบปี ฮุฮุ คุณรินเค้าล้อเล่นนะ เค้าก็อยากให้คุณเชษฐ์กลับมาไวไวเหมือนกัน (แต่กลัวแม่ยกคุณเชษฐ์มากกว่างะ)
^__^


โดย: oato IP: 171.97.148.245 วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:20:29:03 น.  

 
นู๋ภัทรอย่าไปกลัวมัน เข้มแข็งไว้ ทำท่าอย่างนี้นายธรนั่นก็นึกว่าภัทรยังรักมันอยู่เท่านั้นแหละ


โดย: น้ำค้าง IP: 124.120.129.42 วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:20:54:51 น.  

 
ไม่ได้การแล้วคุณเชษฐ์ รีบๆกลับมานะคะ
มีคนจ้องจะคาบภัทรค่ะ...ลุ้น


โดย: Moddy IP: 61.90.114.240 วันที่: 20 มีนาคม 2555 เวลา:21:24:12 น.  

 
พายุหลังความสงบเงึยบเริ่มก่อตัวแลังสินะคะ

ภัทรน่าสงสารจริง สู้ต่อไปจะได้เข้มแข็งขึ้น


โดย: zequs IP: 202.28.182.5 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:6:11:03 น.  

 
นายธรนี่มาได้จังหวะพอดีเลยแฮะ คุณเชษฐ์ของเราไม่อยู่ซะด้วย
ภัทรเองก็ไม่ได้รักใครใยดีแล้ว แต่อย่างว่าคนเคยรักกันมันก็ต้องมีอะไรพาลให้สะกิดใจกันบ้างล่ะเนาะ
ภัทรสู้ๆนะเข้มแข็งไว้ รอให้พวกป้าๆกดดันคุณคนแต่งนามว่าริน(นามสมมติ)ก่อนว่าให้คุณเชษฐ์รีบๆกลับมาเร็วๆได้ไหม (ฮาาา)


โดย: kazu IP: 223.204.244.199 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:16:32:15 น.  

 
คุณเชษฐ์จะมาทันช่วยหนูภัทรหรือเปล่านะ

เพราะอ่านตอนนี้แล้ว เหมือนหนูภัทรไม่

จะเข้มแข็งเลย ปล่อยให้อดีตคนรักแกล้ง

อยู่ได้ อย่าลืมสิว่าเรามีตาแว่นเจ้าเล่ห์อยู่นะ


โดย: tonnum IP: 223.205.14.113 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:23:22:07 น.  

 
มาแล้วค่า งานยุ่งมากมาย เพิ่งจะได้มีเวลามาตอบคอมเม้นต์ แหะๆๆ


น้องนุ่น อืม น่าเป็นห่วงภัทรแทนคุณเชษฐ์จริงๆ นิ ตาธรแกดันโลกกลมมาเจอภัทรตอนคุณผู้จัดการไม่อยู่พอดี จะเกิดอะไรต่อไปกันละหนอ


------------------------------------


ผึ้ง กำลังพยายามโทรไปตะล่อมคุณเชษฐ์ว่าคนคิดถึงเยอะเหมือนกัน แต่ไม่ยอมรับสายสักที สงสัยต้องตะล่อมต่อไปเรื่อยๆ ละจ้า


------------------------------------


คุณฝน กร๊ากกกกกกกก อะไรตรงไหนทำให้คิดว่าไม่หล่ออ้ะ เดี๋ยวขอหันกลับไปดูหน้าตาธรอีกทีก่อนนะ


------------------------------------


คุณโอ๊ต 555555555 แซวกันจนหน้าม้านแล้วค่า ภัทรจะอยากรื้อฟื้นความหลังไหมหนอ ต้องลองถามดูก่อนนะ ว่าแต่จะให้คุณเชษฐ์อยู่เวียดนามอีกสี่เดือนเลยเหรอคะ เดี๋ยวเอาจริงน้า~~~เอิ้กๆ


------------------------------------


น้ำค้าง น้องภัทรเราไม่ค่อยสู้ใครซะด้วยสิ ต้องส่งกำลังใจไปให้กันละ


------------------------------------


คุณมด เห็นคำว่าคาบแล้วขำจนปวดท้องเลย ไม่แน่ใจว่าคนที่เพิ่งโผล่มาจะอยากคาบหรืออยากอะไรกันแน่นะคะ


------------------------------------


คุณ zequs สงสัยที่ผ่านมาคู่นี้ราบรื่นไปหน่อย พายุเลยตั้งเค้าใส่เอาน่ะค่ะ เหอะๆๆ


------------------------------------


คุณ kazu เรื่องในอดีตบางทีเราก็ลืมได้ไม่สนิทเนาะ ว่าแต่พวกป้าๆ จะไปกดดันคนแต่งที่ไหนกันเหรอคะ เผื่อขอเกาะตามไปกดดันด้วยคน ฮี่ๆๆ (แน้...ทำเนียน)


------------------------------------


คุณต้น สงสัยน้องภัทรคงมัวแต่ตกใจน่ะค่ะ แถมเจอแฟนเก่าตอนแฟนปัจจุบันไม่อยู่ ใจมันก็คงหวิวๆ ล่ะมั้ง


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 22 มีนาคม 2555 เวลา:15:27:11 น.  

 
ฮึกกก คุณรินเรียกเราซะเป็นทางการเชียว งอนนนนนนนนน

//หนีไปฟ้องหนุ่มแว่น


โดย: kazu IP: 223.205.27.157 วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:13:34:13 น.  

 
^ อะจ๊าก ขอโทษก๊าบ จำไม่ได้จริงๆ ง่า คุณกวาป่าวเนี่ย กลัวจำผิดแล้วปล่อยไก่ง่ะ ><"


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:15:30:01 น.  

 
แม่นแล้วค้าบบบบ คือขี้เกียจล๊อคอินนั่นเอง (ฮาาาา)

สงสัยหายไปนานเกินจนคุณรินจำไม่ได้ ฮ่าๆๆ


โดย: kazu IP: 223.205.31.197 วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:16:23:28 น.  

 
กร๊ากกกกก ค่อยยัั่งชั่วไม่ปล่อยไก่ ก็ปกติคุณกวาจะเม้นต์ด้วยชื่อ kwa อ้ะ พอไม่ล็อกอินมาเลยไม่ค่อยชัวร์ อิ๊ๆๆ


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 27 มีนาคม 2555 เวลา:16:28:33 น.  

 
อ๊ากกกก อีปลวกธราธร แกมีสิทธิ์อะไรมาจับมือถือแขนเด็กชายภัทรของชั้นย่ะ เดี๊ยะเหอะ คนเค้ามีเจ้าของแล้วรู้ม๊ายยยยย เดียวชั้นจะฟ้องคุณลุง คอยดูเหอะแก ฮึ่ม...


ปล. พูดถึงคุณลุง ป่านฉะนี้แล้วเหตุใดใยคุณลุงถึงยังไม่กลับมาซักทีละค่ะ นานแล้วนา...


โดย: aew IP: 125.27.76.16 วันที่: 29 มีนาคม 2555 เวลา:11:23:31 น.  

 
พี่แอ๋ว กร๊ากกกก ในเรื่องแกเพิ่งบินไปเมื่อเช้าเองน้า ใจเย็นเย้น~~~ เดี๋ยวก็กลับมาแหละค่า (อีกกี่เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที XD)


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 29 มีนาคม 2555 เวลา:12:06:50 น.  

 

ขอเบอร์โทรคุณเชษฐ์หน่อยจะโทรไปฟ้องว่าคนรักเก่าของน้องภัทรกลับมาแล้วให้รีบๆๆๆๆๆกับมาซะที ฮึ้ย

น้องภัทรสู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อย่าไปอ่อนแอให้ธรเห็นน่ะ


โดย: ภัทร IP: 58.11.150.74 วันที่: 21 พฤษภาคม 2555 เวลา:16:13:03 น.  

 
คุณภัทร อยากได้เบอร์คุณเชษฐ์เหมือนกันค่า จะโทรเรียกองค์กลับมาลงคนเขียนซะหน่อย


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 23 พฤษภาคม 2555 เวลา:19:38:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Applebee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]






ลายปากกา



~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ~
ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิดโดยนำข้อความทั้งหมดหรือส่วนใดไปเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด!!

Friends' blogs
[Add Applebee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.