Group Blog
 
All blogs
 
ดาวดินสิ้นฟ้า สาละวิน โดย ณ พิชา

ดาวดินสิ้นฟ้า สาละวินดาวดินสิ้นฟ้า สาละวิน by ณ พิชา

My rating: 5 of 5 stars


เรื่องย่อ: ปาลี แฝดผู้พี่ ตัดสินใจเดินทางมาทำงานที่เชียงใหม่ และได้มาอยู่ร่วมกันอีกครั้งกับ สันสกฤต แฝดผู้น้อง เรื่องราวของเธอทั้งสองเริ่มต้นเดินทาง ผ่านเกลียวแห่งสายน้ำจากลุ่มน้ำสาละวิน

แสงฉาน จากรัฐฉานในสหภาพพม่า ผู้แบกภาระหน้าที่จากบ้านเกิดเมืองนอน ในฐานะปัญญาชนรุ่นใหม่อันเป็นความหวังของชาวไทยใหญ่

สันสกฤต แฝดผู้น้องที่มีความเป็นตัวตนชัดเจนยิ่ง กับการเรียนขั้นสูงของเธอที่ทำให้เธอต้องเดินทางข้ามน้ำสาละวินเพื่อศึกษา ให้ลึกซึ้งเรื่องชาติพันธุ์ และพบพานอย่างไม่ลงรอยนักกับนายทหารฝ่ายพม่า

ทินเมียนอู นายทหารข่าวกรองพม่าที่เป็นคลื่นลูกใหม่ ประจำเมืองตองยีแห่งรัฐฉาน หน่วยข่าวกรองที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถและมันสมองอันล้ำหน้าทุกสิ่งที่ เขาทำ...ก็เพื่อประเทศของเขา

ใต้ผืนดาวอันกว้างใหญ่ สี่หนุ่มสาวเวียนมาพบกันด้วยชะตาฟ้าลิขิต

ท่ามกลางความบีบคั้นทางการเมืองแห่งรัฐประหาร พวกเขาและเธอต้องใช้ความเชื่อมั่นฝ่าฟันไปด้วยตัวเอง


คอมเม้นต์: ไม่รู้เป็นอะไร ถ้าเจอนิยายที่อ่านแล้วชอบ และยิ่งพบว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีคนพูดถึงจะชอบอวยออกหน้าออกตา เขียนรีวิวยาวๆ ได้โดยไม่รู้สึกเบื่อ เพราะอยากให้คนเขียนเขาได้รู้และมีกำลังใจว่าผลงานที่สร้างสรรค์ออกมานั้นมีคุณค่า และนี่ก็เป็นเรื่องที่เราอยากเชียร์ออกนอกหน้าอีกเรื่องหนึ่งค่ะ

สำหรับ "ดาวดินสิ้นฟ้า สาละวิน" นี้จะค่อนข้างแหวกแนวจากเรื่องอื่นในท้องตลาด เพราะว่าพระเอกไม่ใช่ชาวต่างชาติจากประเทศที่พัฒนากว่าเรา แต่เป็นชาวพม่า! สำหรับในเรื่องนี้จะมีตัวละครที่เดินเรื่องสองคู่ โดยนางเอกเป็นฝาแฝดชาวไทย แฝดพี่ชื่อปาลี (ชื่อเล่นว่าบี) ส่วนแฝดน้องชื่อสันสกฤต (ชื่อเล่นว่าซี) ปาลีจะนิสัยออกสุขุม พูดน้อยและดูไม่ค่อยแสดงออก แต่ชอบแสดงตัวตนออกมาผ่านการขับรถเร็วยังกับซิ่งฟอร์มูล่าวัน ในขณะที่สันสกฤตจะออกแนวม้าดีดกะโหลก ปากกล้า ชอบตัดสินใจอะไรเร็ว ออกนิสัยน้องสาวคนเล็ก เรื่องเปิดโดยที่ปาลีซึ่งทำงานองค์กรด้าน NGO ต้องย้ายมาประจำอยู่ที่เชียงใหม่ จึงได้มาอยู่บ้านเช่าเดียวกับน้องสาวที่พอเรียนจบตรีที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ก็ต่อปริญญาโทเลย โดยเราก็จะได้เรียนรู้ประวัติตัวละครไปด้วยว่าสองคนนี้ตอนเด็กๆ พ่อแม่แยกทางกัน แต่เราชอบตรงที่สองสาวไม่ได้โตมาแบบเด็กมีปัญหา และไม่มีเรื่องแม่เลี้ยงใจร้าย เพียงแต่พวกเธอก็จะมีบุคลิกเชื่อมั่นในตัวเองและค่อนข้างรักอิสระตามการเลี้ยงดูของครอบครัวเท่านั้น

สำหรับฝ่ายพระเอก คู่ของปาลีคือแสงฉาน ชาวรัฐฉานเชื้อสายไทยใหญ่ซึ่งถูกมองเป็นชนกลุ่มน้อยในพม่า แต่เจ้าตัวเขาจะเป็นนักวิชาการที่ได้มาศึกษาในไทยและอังกฤษ ก็เลยค่อนข้างจะเข้าใจวัฒนธรรมไทยอยู่หลายส่วน โดยที่แสงฉานเคยเป็นอาจารย์สอนสันสกฤตมาก่อน ตอนแรกที่เจอปาลีเขาก็ทักผิด แต่ต่อมาก็เริ่มแยกออกว่าแฝดพี่นิสัยไม่เหมือนแฝดน้อง และนิสัยที่ดูชอบเก็บตัวและประหยัดถ้อยคำของปาลีก็ถูกแสงฉานมองออกว่ามันเป็นเปลือกที่เธอพยายามปกปิดตัวตนแท้จริงไว้ ทำให้เขาเริ่มสนใจเธอมากขึ้นเพราะรู้สึกว่าคล้ายกับตัวเอง และต่อมาก็มีเหตุให้ปาลีต้องเดินทางไปเยี่ยมบ้านของแสงฉานและได้พบครอบครัวของเขาด้วย ทำให้ทั้งคู่ค่อยๆ ใกล้ชิดกันมากขึ้น

ส่วนคู่ของสันสกฤตคือทินเมียนอู เป็นทหารหน่วยข่าวกรองของพม่าและเชื้อสายพม่าแท้ ตอนฉากพบกันครั้งแรกของคู่นี้คือสันสกฤตเดินทางไปพม่ากับอาจารย์และรุ่นพี่ในรัฐฉานเพื่อหาข้อมูลประกอบการทำวิจัย แล้วเธอแอบไปเดินเล่นคนเดียวและถ่ายรูปอาคารที่ทำการของเขา เลยโดนพ่อทินเข้ามาขอดูพาสปอร์ต แต่เพราะพ่อเจ้าประคุณไม่ได้ใส่เครื่องแบบทำให้สันสกฤตไม่รู้ว่าเขาเป็นทหาร ก็เลยเถียงใหญ่จนกระทั่งเขาประกาศยศออกมาว่าเป็นร้อยโทในหน่วยข่าวกรอง แล้วก็เดินไปส่งเธอที่ที่พักแบบที่สันสกฤตไม่เต็มใจ หลังจากนั้นคู่นี้ก็มีโอกาสเจอและประคารมกันอีก ความที่สันสกฤตหัวค่อนข้างทันสมัยและเรียนเกี่ยวกับเรื่องชาติพันธุ์ในพม่า เธอเลยกล้าต่อว่าประเทศเขาเสียๆ หายๆ หลายอย่าง แต่ทินเมียนอูถึงจะไม่ชอบใจและเถียงกลับ แต่เขาก็ไม่ได้จับเธอไปขังหรือรายงานกับเบื้องบน และต่อมาตอนที่สันสกฤตกับคณะจะกลับเมืองไทย ก็มีอันให้ประจวบเหมาะกับที่วันนั้นเกิดรัฐประหารในพม่า สันสกฤตซึ่งจับพลัดจับผลูแยกกับคณะโดยไม่ตั้งใจเลยได้ทินเมียนอูซึ่งถูกคณะรัฐประหารไล่ล่าเหมือนกันเพราะอยู่ในกองทัพฝั่งตรงข้ามช่วยพาหนีไปส่งชายแดนไทย ซึ่งระหว่างที่เขาช่วยพาเธอหนีนี่แหละที่สันสกฤตได้เรียนรู้ว่าทินเมียนอูไม่เหมือนทหารพม่าที่เธอเคยได้ยินมา และเขาก็เป็นสุภาพบุรุษและคอยปกป้องคุ้มครองเธอตลอดจนเธอได้กลับมาบ้านอย่างปลอดภัย

สารภาพว่าไปเห็นนิยายเรื่องนี้โดยบังเอิญและสะดุดกับชื่อเรื่องทันที เพราะว่าตอนนั้นกำลังเตรียมตัวจะไปเที่ยวพม่าอยู่ด้วย แต่ก่อนจะไปเราไม่มีเวลาอ่านเลย ทีนี้พอได้ไปเที่ยวมาแล้วเลยรีบหยิบเรื่องนี้มาอ่านเพราะกำลังพม่าฟีเวอร์เนื่องจากประทับใจสุดๆ และอ่านแล้วก็ตกหลุมรักทินเมียนอูทันทีค่ะ คือเนื้อหาในนิยายจะเขียนช่วงปี 2547 ซึ่งเป็นช่วงที่พม่ายังไม่เปิดประเทศ สถานการณ์ภายในไม่สงบเรียบร้อยเหมือนตอนที่เราไปเที่ยวซึ่งพม่าส่งเสริมการท่องเที่ยวแล้ว (ไปปลายเดือน พย. 2554) สำหรับดีเทลในเรื่องจะอิงข้อมูลเยอะพอสมควร คุณฝน (ผู้เขียน) บอกเราว่ารายละเอียดอาจค่อนข้างเยอะ แต่เรากลับรู้สึกว่าอ่านแล้วรื่นไหลและไม่ได้เยอะจนเหมือนยัดเยียด เพราะถึงพม่าจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน แต่ส่วนใหญ่คนไทยก็ไม่ค่อยได้รู้เรื่องราวภายในของเขานอกจากเรื่องของอองซาน ซูจีอยู่ดี สารภาพว่าพอเราได้ไปเที่ยวพม่ามาเอง จากที่เฉยๆ กับประเทศนี้มาก่อน ตอนนี้เราประทับใจผู้คนที่นั่นไปเลยค่ะ เพราะเฟรนด์ลี่และไนซ์มาก อาจเพราะต้องอยู่กับรัฐบาลทหารกันมานานและกฎหมายเข้มงวดด้วยหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่ทุกคนที่ได้คุยด้วย ไม่มีใครทำหน้าอี๋ว่าเรามาจากประเทศไทยเลย แถมยังบอกว่าอยากให้คนไทยไปเที่ยวพม่าเยอะๆ อีก เพราะบ้านเมืองเขาสวยจริงๆ อนุรักษ์โบราณสถานกันไว้ได้ดีมากจนเราอายกับของเมืองไทยเลยแหละ และที่สำคัญ ทำเอารู้สึกว่าเข้าใจกระแสคนพม่าที่ต่อต้านหนังพระนเรศวรไปเลย เพราะท่าน ผกก. วาดภาพพม่าว่าเสียๆ หายๆ อย่างเดียว ทั้งที่อารยธรรมเขาก็ยิ่งใหญ่และมีที่มาสืบย้อนไปหาหลักฐานได้ก่อนเราตั้งหลายร้อยปี

สำหรับเรื่องนี้ แนะนำสำหรับคนที่อยากอ่านนิยายมีสาระ ไม่มีตัวอิจฉา ไม่มองอะไรแบบขาวกับดำเกินไป บทหวานมีพอประมาณแต่ไม่เลี่ยน (แถมอยากให้มีเยอะกว่านี้ด้วยซ้ำสำหรับทินเมียนอู เพราะเป็นพระเอกทรหดที่ต้องอดทนกับสันสกฤตเยอะชะมัด) และนอกจากเรื่องความรักของหนุ่มสาวก็มีเรื่องความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวด้วย ทั้งครอบครัวของแสงฉาน ครอบครัวของปาลีกับสันสกฤต หรือแม้แต่ครอบครัวของทินเมียนอูที่แม้จะแค่ถูกเอ่ยถึงแต่ก็รู้ได้เลยว่าพระเอกเราก็รักครอบครัวเหมือนกัน เป็นหนึ่งในนิยายดีท่ามกลางแนวตลาดดาษดื่นที่อยากเชียร์สุดใจ และถ้าใครอ่านแล้วชอบก็สามารถเสิร์ชหาไอดีของ ณ พิชาในเด็กดีเพื่ออ่านตอนพิเศษหรือนิยายเรื่องอื่นของคุณฝนได้ด้วยค่ะ

View all my reviews




Create Date : 13 ธันวาคม 2554
Last Update : 15 ธันวาคม 2554 9:46:36 น. 6 comments
Counter : 2147 Pageviews.

 
ชอบเรื่องนี้ของน้องฝนเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะคู่ของสันสกฤตกับทินเมียนอู


โดย: วิรตี วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:16:33:29 น.  

 
กำลังจะเปิดอ่านเรื่องนี้พอดี หลังจากที่ดองมานาน

ก็บังเอิญมาเจอรีวิวนี้ซะก่อน

บังเอิ๊ญ บังเอิญเนอะ


โดย: john IP: 203.172.166.165 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:18:33:01 น.  

 
พรุ่งนี้จะไปร้านหนังสือแล้วหาหนังสือเล่มนี้มาอ่าน...นู๋รินรีวิวได้ดีจนประมาณว่าไม่อ่านไม่ได้แล้ว...ไม่รู้ว่าเป็นอะไรชอบอ่านนิยายอะไรที่เกี่ยวกับพม่า...ขอบคุณค่ะสำหรับรีวิวหนังสือดีๆ แบบนี้


โดย: เอิงเอย IP: 118.172.47.190 วันที่: 13 ธันวาคม 2554 เวลา:22:08:48 น.  

 
คุณวิรตี ชอบคู่พ่อทินกับยายซีเหมือนกันเลยค่ะ

----------

คุณ john สงสัยจะแปลว่าให้รีบหยิบขึ้นมาอ่านนะคะเนี่ย

----------

พี่เอิง หวังว่าจะเอ็นจอยกับเรื่องนี้เหมือนรินนะคะ หานิยายที่มีตัวละครเอกเป็นพม่าแท้ๆ ย้ากยาก โชคดีว่าเรื่องนี้เขียนดีด้วย อ่านแล้วชอบมากเลย


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 15 ธันวาคม 2554 เวลา:9:45:25 น.  

 
ฮั่นแน่ เดี๋ยวนี้รีวิวนิยาย อ่าน(รีวิว)แล้วรู้สึกว่า(นิยาย)น่าอ่านจังเลยครับ ท่าทางจะอ่านอุ่นดีนะ


โดย: คุณพีทคุง (ลายปากกา ) วันที่: 20 ธันวาคม 2554 เวลา:15:04:03 น.  

 
พีทคุง เค้ากำลังฝึกเขียนรีวิว หุหุ แต่เล่มนี้หนุกจริงๆ นะ


โดย: bellbomb (Applebee ) วันที่: 21 ธันวาคม 2554 เวลา:12:45:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Applebee
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 29 คน [?]






ลายปากกา



~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ~
ห้ามมิให้ผู้ใดละเมิดโดยนำข้อความทั้งหมดหรือส่วนใดไปเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดี
ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด!!

Friends' blogs
[Add Applebee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.