Group Blog
All Blog
|
[Review]:Skinplants Absolutely Clean'n Remover ล้างเครื่องสำอางด้วยบำรุงผิวไปด้วย
สวัสดีค่า บล๊อคนี้พามาดูรีวิว คลีนซิ่งสำหรับผิวแพ้ง่ายที่ลัลชอบมากๆกันบ้าง อย่าง Skinplants Absolutely Clean'n Remover ตัวนี้เป็น เมคอัพรีมูฟเวอร์ ที่อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่อัดแน่น แบบเต็มๆ ก่อนที่เราจะมาพูดถึงส่วนผสมกันนั้น เรามาดูหน้าตาของเค้ากันก่อนค่ะ  Skinplants Absolutely Clean'n Remover คำเคลม : เช็ดทำความสะอาดผิวหน้าสูตรน้ำเข้มข้น เนื้อโลชั่นทรีทเม้นต์ ด้วยนวัตกรรม SOPHISTICATED NATURAL PLANT BASED MICELLAR ตรงเข้าสู่ผิวอย่างล้ำลึก ดักจับสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินที่อาจตกค้างและฝังลึกภายในรูขุมขน แก้ปัญหาต้นเหตุของการเกิดสิว ลดการเกิดปัญหาสิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวหัวดำ สิวผด ลดการสะสมของแบคทีเรียบนผิว ฟื้นบำรุงผิวให้มีชิวิตชีวาราวกับผิวใหม่ได้อย่างรวดเร็ว SODIUM HYALURONATE ให้เนื้อสัมผัสนุ่มลื่น ปลุกผิวให้สดชื่น ไม่แห้งตึง ผิวแลดูนุ่มนวลเปล่งประกาย สุขภาพดี ช่วยขจัดคราบเครื่องสำอางและครีมกันแดดแม้สูตรกันน้ำ ปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เหมาะกับทุกสภาพผิว แม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย   ส่วนผสม :
 แค่เห็นส่วนผสมเหล่านี้ ก็ขึ้นชื่อเรื่องปลอบประโลมผิว สำหรับใครที่กำลังงงว่า การปลอบประโลมผิวนั้นสำคัญอย่างไร หรือกำลัง งง ว่าคำนี้แปลว่าอะไร ลัลจะขออธิบายง่ายๆในมุมมองของลัลดูหน่อยนะคะ การปลอบประโลมเสมือนการช่วยบำรุงและฟื้นฟู ปกป้องผิวจากต้นเหตุภายใน ทำให้ผิวเราเเข็งแรง มีความชุ่มชื้น ไม่แพ้ง่าย ไม่เป็นสิวหรือมีผดผื่นได้ง่ายค่ะ ลักษณะของน้ำคลีนซิ่งเป็นแบบใส สีออกเหลืองอมน้ำตาล กลิ่นนี่สมุนไพรมาก ไม่ได้แบบสมุนไพรจ๋านะ เป็นอารมณ์ช่วยให้ผ่อนคลายเบาๆ ดมแล้วรู้สึกสดชื่นดีค่ะ   วิธีการใช้ ลัลจะชอบใช้สำหรับวันที่แต่งหน้าโดยการใช้รองพื้น หรือวันที่แต่งหน้าหนักๆ ก่อนล้างหน้าในตอนเย็น ลัลเริ่มใช้ตอนที่ทำคลิปสอนแต่งหน้าลุคอาหมวยช่วงวันตรุษจีน (แบคกราวรูปจะออกแดงๆหน่อยอิ้ๆ) เลยถือโอกาสเก็บภาพตอนนั้นมาให้ดูในรีวิวนี้ด้วยค่ะ หลังจากนั้นก็แต่งหน้าน้อยลงเพราะต้องการรักษาสิวด้วย เลยหยิบคลีนซิ่งตัวนี้มาใช้ร่วมกับสกินแคร์ที่ช่วยในเรื่องสิวเป็นประจำตลอดเกือบสองสัปดาห์ที่ผ่านมา  ความเปลี่ยนแปลงผิว ก่อนหน้านี้ลัลเป็นสิวค่อนข้างหนัก ไม่ว่าจะเป็นสิวแพ้ สิวฮอร์โมน สิวเสี้ยนตรงจมูก สิวอุดตัน สารพัดจะสิวแถมมีรอยดำทิ้งไว้เต็มหน้าไปหมด   ความรู้สึกแรกคือเหย ... ชอบมากเพราะรู้สึกว่าใช้ง่าย ลื่นผิว ที่สำคัญคือเช็ดเปลือกตาได้ไม่แสบและระคายเคือง อันนี้คือสำลีแผ่นแรกและแผ่นที่ 2 สำหรับการทำความสะอาดเครื่องสำอางในวันนั้น (คือมีทั้ง รองพื้นแบบปกปิด คอนซีลเลอร์ อายชาโดว์ อายไลเนอร์ แป้งผสมรองพื้น ฯลฯ สารพัดตัวแม่เรื่องความหนา)  สังเกตได้ตั้งแต่สำลีแผ่นแรกว่า สามารถเอาเครื่องสำอางบนหน้าออกมาได้มากกว่า 65% แล้ว นางขจัดได้แม้กระทั่งคราบกาวติดขนตา (อันนี้ชอบสุดๆ กาวจะได้ไม่ตกค้างอยู่บนหนังตาจนอาจทำให้เกิดการอักเสบได้) Before/After  ผลที่สังเกตได้ชัดคือ จากผิวขรุขระดูแดงๆอักเสบจากสิว มาเป็นรูขุมขนดูกระชับ เล็กลง สิวเสี้ยนตรงจมูกหลุดออก ใช้มือจับแล้วเรียบเนียนขึ้น สิวอุดตันดูลดลง รอยสิวจางลงและผิวหน้าดูชุ่มชื้นสุขภาพดีขึ้นค่ะ ให้คะแนนไปเลย 8.5/10 ชอบตรงที่ใช้ร่วมกับยาสิวได้ไม่แพ้เลย แต่ขอหักตรงที่ใช้ยากหน่อย เพราะทำฝามาเป็นแบบฝาหมุน กว่าจะเปิดใช้ได้ และกว่าจะปิด 555 ค่อนข้างเสียเวลาสำหรับคนขี้เกียจและเร่งรีบอย่างเราเสียจริง แต่ก็ใช่ว่าคลีนซิ่งตัวนี้จะเป็นยารักษาสิวโดยตรงนะคะ ใช้เป็นคลีนซิ่งลดสิว เป็นผู้ช่วยเท่านั้น หากใครมีปัญหาสิวอักเสบ หรือสิวเห่อมากจริงๆแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ และใช้ยาเฉพาะร่วมด้วยนะคะ ช่องทางการติดตามข้อมูลข่าวสารและจำหน่ายออนไลน์ 1. Website : skinplants.com 2. Facebook : skinplants ช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นๆ Boots, Eveandboy สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปก่อนแล้วเจอกัน blog หน้านะคะ สวัสดีค่า ^^  [Review]: OLAY Magnemask Infusion Whitening Mask Starter Kit
สวัสดีค่า บล๊อคนี้จะพามาทำความรู้จักกับนวัตกรรมบำรุงผิวอีกหนึ่งสิ่งที่เห็นแล้วจะต้องกรีดร้อง เพราะเป็นมาร์คหน้าใหม่ล่าสุดจาก OLAY นั่นเองค่ะ Olay Magnemask InfusionWhitening Mask Starter Kit ตัวนี้เค้าเป็นมาร์คหน้าสูตรไม่ต้องล้างออก จาก OLAY ค่ะ ไลน์ผลิตภัณฑ์นี้จะมีมาด้วยกัน 2 สูตรคือ 1. Rejuvenating : ช่วยในเรื่องของลบเลือนริ้วรอย และยกกระชับผิว และ 2.Whitening : ช่วยในเรื่องของ ผิวขาวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ ค่ะ สูตรที่ลัลได้มาลอง เป็นสูตร Whitening ที่ช่วยในเรื่องของผิวกระจ่างใส เติมความชุ่มชื้น และลบเลือนจุดด่างดำค่ะ แพคเกจ: จะมาเป็นแบบกล่องรูปร่างหน้าตาแบบนี้เลยค่ะ ปริมาณสุทธิ 50 กรัม ด้านในมีมาให้ทั้งหมด 3 ชิ้น นั่นคือ Whitening Jar Mask / Magnetic Infuser และถุงผ้าใบเล็กๆใส่ Infuser ค่ะ Whitening Jar Mask :ไวท์เทนนิ่ง จาร์ มาส์กตัวนี้เป็นผลิตภัณฑ์มาร์คหน้าเนื้อครีม มีกิมมิคเล็กตรงบริเวณฝากระปุกคือเป็นกระจกได้จ้าเหมาะสำหรับพกพา ส่วนประกอบหลักๆ ก็จะมี
Magnetic Infuser : แมกเนติก อินฟิวเซอร์เป็นอุปกรณ์ช่วยทามาร์ค ซึ่งจะมีสภาพความเป็นแม่เหล็กอ่อนๆ อยู่ตรงบริเวณปุ่มที่นูนขึ้นมาในลักษณะต่างกันเพื่อช่วยให้สอดรับกับบริเวณผิวหน้า จะมีค่าเป็นประจุ (-) กัลวานิคไอออน ช่วยกระตุ้นผิว ปรับสภาพการบำรุงผิว ผลักเนื้อครีมให้ซึมลึกเข้าสู่ผิวหนังได้ดี และสามารถผลักเนื้อครีมได้มากกว่าการใช้มือเปล่าถึง 3 เท่าค่ะ  สภาพผิวก่อนใช้ ลัลมีรอยด่างดำสิวค่อนข้างเยอะ และนอนดึกบ่อยมาก ผิวดูหมองและไม่สดชื่นเอาเสียเลยค่ะ วิธีการใช้ ลัลใช้มาส์กหน้าตัวนี้ลงเป็นตัวสุดท้ายหลังจากที่ ลงสกินแคร์ต่างๆเรียบร้อยแล้ว เนื้อมาส์กสีขาวขุ่นๆ ลักษณะคล้ายเจล กลิ่นออกเย็นๆ เมนทอลขึ้นมาเลย แอบมีกลิ่นน้ำหอมออกมาเหมือนกันนะ สำหรับคนแพ้น้ำหอมอยากให้ลองเทสก่อนนะคะ  /// แต้มตรงบริเวณ 5 จุดทั่วใบหน้า (หน้าผาก คาง แก้มซ้าย แก้มขวา และจมูก) ในปริมาณที่พอเหมาะนะคะไม่ต้องแต้มเยอะมาก /// แล้วใช้ Infuser นวดเบาๆตามแนวรูขุมขน ลักษณะเนื้อมาส์กจะมีความมันวาวอยู่บนใบหน้า ออกจะหนึบหนับนิดนึง ลัลนวดอยู่ประมาณ 2 นาที สังเกตเห็นว่าเนื้อมาส์ก เริ่มซึมเข้าสู่ผิวตอนซึมจะรู้สึกเยนๆผิวนิดหน่อยค่ะ แต่ก็ยังมีส่วนที่เคลือบผิวอยู่ หลังจากนั้นก็เข้านอนได้ อิๆ  เปรียบเทียบก่อน-หลังใช้ อันนี้ลัลทำถ่ายรูปเปรียบเทียบไว้ (แสงอาจจะต่างกันไปนิด) ในคืนก่อนหน้า กับคืนแรกที่ใช้มาส์กตัวนี้ ความประทับใจแรกคือ ตื่นมาเนื้อมาส์กซึมลงสู่ผิวเกลี้ยงเลยค่ะ ผิวหน้านุ่มมาก ไม่ได้มีความมันตกค้างลงบนผิว จะมีก็แต่บริเวณ T-Zone ที่ตื่นมาจะมันเป็นปกติอยู่แล้ว ผิวหน้าดูสดชื่นเหมือนทำสปาหน้าเสร็จใหม่ๆไม่หมองเหมือนตอนก่อนนอน ลัลชอบมากค่ะ ใช้แค่กันแดดกับแป้งพัฟก่อนออกไปทำงานสังเกตว่าติดทนทั้งวัน แต่ แอบมีสิวขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่ได้มีผื่น ลัลลองใช้ซ้ำอีก 2-3 ครั้ง ก็ไม่ได้มีสิวขึ้น เหมือนตอนครั้งแรก แล้วส่วนตัวคิดว่า ผิวอาจจะใหม่กับอะไรแบบนี้ ฮ่าๆ ดังนั้นผิวแพ้ง่ายมากๆควรทดสอบก่อนค่ะ จะได้ไม่นอยหากเราใช้แล้วไม่ถูกใจ อีกอย่างคือ สำหรับใครที่มีงานวันสำคัญต้องใช้หน้าในวันรุ่งขึ้น ให้ใช้มาส์กหน้าตัวนี้แล้วนอนเลยนะคะ รับรองเลยว่าตื่นมาหน้าสดใส ยิ้มสวย แต่งหน้าปังแน่นอนจ้า  ให้คะแนน 8/10 ตัวนี้หักอย่างเดียวคือมีน้ำหอม ผิวลัลค่อนข้างมีปฏิกริยาโดยตรงกับมาส์กตัวนี้ ส่วนอื่นนี่ดีงามหมด มาส์กกระปุกใหญ่ใช้ได้นาน เพียงแต้มแค่ทีละนิดเท่านั้น แถมยังได้สนุกกับการนวดหน้าก่อนนอนด้วยค่ะ อยากให้ลองไปสอยมาใช้กันได้ที่บูท OLAY ทุกสาขาเลย สำหรับวันนี้ต้องไปก่อนแล้ว เจอกันใหม่ blog หน้าน้า  [Review]: Eucerin pH Hydro Serum ซีรั่มบำรุงผิวสูตรแตกตัวเป็นน้ำ
สวัสดีค่า ช่วงนี้ได้มีโอกาสลองผลิตภัณฑ์หลายๆตัวของ Eucerin เลยอยากจะทำบล๊อครีวิวให้ครบสูตรที่ลัลได้ลองใช้กันสักหน่อย ตัวที่ 2 ที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้คือ Eucerin pH5 Hydro Serum ยูเซอริน พีเอช 5 ไฮโดร ซีรั่ม  เป็นโลชั่นถนอมผิวกายสูตรบางเบา สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมากและแพ้ง่ายค่ะ ตัวนี้น่าสนใจตรงที่เป็นเนื้อซีรั่ม เทคโนโลยี Hydrodispersion ที่ละลายแตกตัวเป็นน้ำทันทีที่สัมผัส ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยาวนานถึง 12 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว ด้วย pH Balance System ที่ช่วยปรับสมดุลสภาพแวดล้อมในเซลล์ผิวของเรา ให้มีความเเข็งแรงไม่ไวต่อปัจจัยกระตุ้นต่างๆนั่นเองค่ะ  คำเคลม: ผิวชุ่มชื้นยาวนาน 12 ชั่วโมง ให้ผิวเรียบเนียนนุ่ม เนื้อสัมผัสบางเบาไม่เหนียวเหนอะหนะ บำรุงสู่ผิวล้ำลึก ฟื้นฟูบำรุงกลไกผิวแห้งเสียสะสม  แพคเกตมาในรูปแบบขวดปั๊มแบบแบนๆหน่อย สีขาวแดงตามเอกลักษณ์ของแบรนด์ค่ะ ตรงบริเวณหัวปั๊มสามารถหมุนได้ 360 องศา ซึ่งจะมีตัวอักษรนูนเขียนไว้ว่า OPEN และ CLOSE อยู่สลับด้านกัน เมื่อเราหมุนหัวปั๊มไปในแต่ละ 90 องศา ก็จะสามารถเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งาน จาก ปิด-->เปิด หรือจาก เปิด-->ปิด ได้นั่นเองค่ะ มีความปลอดภัยมากๆ เพราะข้อเสียของหัวปั๊มคือจะล๊อคไม่ได้ แล้วเราเองก็คงชอบเผลอใส่กระเป๋าเดินทางหรือเผลอกดออกมาเองบ่อยๆเลอะเทอะไปหมด แถมยังเปลืองครีมบำรุงผิวเบาๆด้วย 555+ ดังนั้นการที่เค้าออกแบบหัวปั๊มลักษณะนี้มา เพื่อรองรับการใช้งานในส่วนนี้ถือว่าสะดวกมากๆค่ะ   ปกติแล้วลัลเคยเห็นแค่พวกเซรั่มแตกตัวเป็นน้ำที่เค้าเป็นตัวบำรุงผิวหน้า ค่อนข้างว้าวกับเนื้อซีรั่มเหมือนกันค่ะ ลัลลองเอาโลชั่นที่ใช้อยู่ก่อนหน้านี้มา 2 ชนิด เปรียบเทียบเนื้อสัมผัสกับซีรั่มตัวนี้ จะสังเกตเห็นได้ว่าเนื้อเซรั่มเค้าจะมีความโปร่งแสงมากกว่า มีความบางเบา แต่แอบมีกลิ่นน้ำหอมนะคะ กลิ่นจะออกเย็นๆสดชื่นหน่อย (ส่วนตัวคิดว่าเค้าคงใส่มาในปริมาณที่น้อยมากๆอยู่ เพราะผิวของลัลไม่มีปฏิกริยา เกิดผื่น หรืออาการคันแต่อย่างใด)   ขอทดสอบในเรื่องของ ความชุ่มชื้นและความมันกันหน่อยค่ะ ลัลทาซีรั่มลงบนแขนแล้วทิ้งระยะเวลาให้ซึมลงผิว 20 วินาที จะรู้สึกว่าซีรั่มซึมลงในผิว สัมผัสแบบยุบยิบๆตามผิว ค่อนข้างจะใช้ระยะเวลาในการซึมลงผิวอยู่พอควรเลย ยังรู้สึกว่าเหนอะๆ ผิว อยู่หน่อยนึง (ทดสอบสภาพผิวธรรมดา แพ้ง่ายนะคะ)   เราเลยนำกระดาษซับมันซับลงไปตรงบริเวณที่ทาซีรั่ม ผลปรากฎดังภาพเลยค่ะ มีความมันยังคงเคลือบอยู่บนผิวนิดหน่อย (เดาว่าเป็นของส่วนผสมอย่าง Glycerin นั่นเองค่ะ) ส่วนที่เหลือรู้สึกได้ตั้งแต่ตอนทาว่าซึมผิว  การเปลี่ยนแปลงของผิว   ความประทับใจ 1.ความชุ่มชื้น หลังจากได้ลองใช้มาแล้ว 9 วัน ลัลค่อนข้างชอบตรงที่ว่า เราสามารถทาซีรั่มตัวนี้วันละครั้งก็เอาอยู่ (ตอนกลางวัน) ในเรื่องที่เค้าเคลมมาว่าชุ่มชื้นยาวนาน 12 ชั่วโมงนี่ลัลไม่ได้นับให้ละเอียดนะคะ ว่ากี่ชั่วโมงกันแน่ แต่ที่แน่ๆคือทาตอนเช้า 7.00 น.ก่อนออกไปทำงาน นั่งอยุ่ห้องแอร์ทั้งวัน เราไม่ต้องหยิบมาทาซ้ำเลย เพราะไม่รู้สึกว่าผิวแห้งหรือขาดน้ำๆใด กลับมาใช้อีกทีก็ตอนก่อนนอน 23.00น. 2.เนื้อสัมผัส มีความบางเบาอย่างเห็นได้ชัดเจน กลิ่นแนวเย็นๆสดชื่น แต่ไม่ได้รุนแรงอะไร เพราะนี่แอบเอาไปให้เพื่อนที่ผิวไวต่อน้ำหอมมากๆลองใช้ นางก็ไม่มีผื่นแดงเหมือนที่เคยเป็น เลยค่อนข้างมั่นใจค่ะว่าผิวแพ้ง่ายใช้ได้ ตอนใช้ลัลว่ากดเพียงแค่ปั๊มเดียวก็สามารถทาทั่วแขนทั้ง 2 ข้างแล้วนะคะ จริงๆ ลัลชอบตรงประหยัดด้วย อิ้ๆ ^^ 3.ความเปลี่ยนแปลงของผิว สังเกตเห็นได้ชัดจากผิวแห้งเป็นขุยๆ นั้นไม่มีแล้ว ผิวเรียบเนียนและละเอียดขึ้น ไม่คันหรือมีผื่นเวลาโดนฝุ่นเหมือนแต่ก่อน ลัลคิดว่าคนผิวแห้ง-ผิวแห้งมากๆ คือเหมาะสุด สำหรับการใช้ซีรั่มตัวนี้ ส่วนตัวลัลผิวธรรมดาที่ค่อนข้างแพ้ง่ายยังรู้สึกว่าแอบเหนอะผิวไปนิดค่ะ ให้คะแนน 8/10  สำหรับใครที่ผิวแห้ง ใช้อะไรก็ไม่เวิร์ค ลัลอยากให้ลองซีรั่มตัวนี้ดูค่ะ ราคาไม่แรงมากแถมได้ปริมาณเยอะด้วย ขวดใหญ่มากมายตามไปตำกันได้ที่ร้านบิวตี้สโตร์ชั้นนำเลยนะคะ สำหรับวันนี้ต้องขอตัวก่อนแล้วเจอกันบล๊อคหน้าค่า [Review]: IN2IT BB SACHET บีบีกันน้ำ ผิววิ้งค์ ที่อยากบอกต่อ
สวัสดีค่าลัลจะพามาดูรีวิว บีบีครีม ซึ่งปัจจุบันเค้าก็มีด้วยกันมากมายหลากหลายยี่ห้อนะ แต่สำหรับบล๊อคนี้คือพิเศษมาก เพราะเป็นบีบีที่ค่อนข้างหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อนั่นเองค่ะ IN2IT BB Sachet อินทูอิท บีบี ซาเชท   เป็นบีบีซองรูปแบบใหม่จากทางแบรนด์ IN2IT ไลน์นี้เค้ามีมาด้วยกัน 3 สูตรนะคะ ก็คือ 1. BB Aqua Water Based Make-up Cream (ซองสีฟ้า) ▸บีบีครีมสูตรน้ำ ให้ลุคผิวอิ่มน้ำ ดูเป็นธรรมชาติ 2. BB Bright 5 in 1 Make-up Cream (ซองสีชมพู) ▸บีบีครีมสูตรพิเศษ ให้ลุคหน้าไบร์ทสว่างกระจ่างใส 3. BB Whip (ซองสีน้ำเงิน) ▸บีบี เนื้อวิพ สูตรเย็น (Cooling Effect) ให้ลุคหน้าแมตท์อย่างเป็นธรรมชาติ  ลัลได้ลองใช้ 2 สูตร ซึ่งลัลคิดว่าเหมาะกับลัลมากกว่า เพราะลัลค่อนข้างผิวมัน และมีเหงื่อเยอะ เรามาดูสูตรแรกกันก่อนค่ะ BB Bright 5 in 1 Make-up Cream บีบี ไบรท์ ไฟวท์ อิน วัน เมคอัพ ครีม   คำเคลม สูตรนี้เน้นเรื่องผิวสว่างและกระจ่างใส เป็นทั้ง รองพื้น เมคอัพเบส ไพรเมอร์ คอลซิลเลอร์ และยังช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB ด้วยค่าSPF 50 PA นอกจากนี้ ยังมีสารช่วยบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น จากวิตามินอี สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ กระชับรูขุมขนด้วย Mushroom Extract และช่วยความคุมความมันด้วย Silica สูตรกันน้ำ ปกปิดเนียนเรียบและติดทนนาน 18 ชม.เนื้อบีบีเป็นแบบน้ำค่ะ มี 2 สี คือสี 01 Ivory และ 02 Sienna มาดู สวอทกันก่อน    ลัลเลือกใช้เฉดสี 02 Sienna ซึ่งมีความรู้สึกว่าเข้ากับสีผิวตัวเองมากกว่าเพราะเป็นโทนเหลือง สี Ivory จะขาวอมชมพูค่ะ ต่อไปลัลจะลองทดสอบเรื่องการปกปิดรอยดำ รอยแดงจากสิวและรูขุมขน ค่ะ  จะเห็นได้ว่าปกปิดค่อนข้างดีเลยค่ะ แต่รอยที่เข้มๆก็ยังอยู่นะแค่เบลอลงไปเท่านั้น ทดสอบประสิทธิภาพการกันน้ำ ไม่ไหลไม่เยิ้ม โดยใช้สเปรย์น้ำแร่ ฉีดตรงบริเวณแขนที่เราได้ทำการเกลี่ยบีบีซองนี้ลงไปแล้ว ก็ใช้กระดาษทิชชู่แบบซับหน้า ซับลงไปค่ะ    ความประทับใจ: บีบีสูตรนี้ลัลชอบความที่เป็นเนื้อบางเบา เกลี่ยง่ายให้ความเป็นผิว ถ่ายรูปสวยเด้งมีออร่าดีค่ะ วันไหนที่เราเร่งรีบ หรืออยากได้ลุคแต่งหน้าแบบใสๆ ไม่อยากรู้สึกหนักหน้ามากเกินไปลัลแนะนำเป็นตัวนี้เลยนะคะ เค้าค่อนข้างตอบโจทย์มากๆ เพราะสามารถเป็นได้หลายหน้าที่ในหนึ่งเดียว ทำมาในรูปแบบครีมซองที่พกพาง่ายด้วย เปิดใช้งานง่ายมากๆค่ะ ขอหักตรงที่เรื่องคุมมันยังทำได้ไม่ตรงใจเท่าที่ควร ประมาณ 4 ชม.เริ่มแวววาวละ 555+ ส่วนเรื่องกันน้ำนี่ให้เต็มเลยยกให้เป็นบีบีกันน้ำตัวท้อปอีก 1ตัว ลัลให้คะแนนรวม 8/10 สูตรต่อไปคือ IN2IT BB Whip บีบี วิป   คำเคลมบีบี เนื้อวิพ สูตรเย็น เนื้อเนียนนุ่มละมุน สัมผัสเบาสบายผิว ให้ลุคแมตท์อย่างเป็นธรรมชาติ ช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ กระจ่างใสด้วยสารสกัดจาก Blue Diamond เหมาะกับทุกสีผิว พร้อม Cooling Effect ทำให้ผิวเย็นสดชื่น อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ vitamin E, chamomile และ seastar collagen ที่ทำให้ผิวแข็งแรงมีความยืดหยุ่นมีสารกันแดด SPF50+ PA++ ปกป้องผิวจากรังสี UVA / UVBบีบีวิพสูตรนี้ เค้าทำมา 2 สีค่ะ คือ 02 Beige สำหรับผิวขาว และขาวเหลือง อีกสีหนึ่ง คือ 03 Honey สีนี้เหมาะกับผิวสองสีโทนเหลืองหน่อยค่ะ    ลัลเลือกใช้เฉดสี 03 Honey ซึ่งมีความรู้สึกว่าเข้ากับสีผิวตัวเองมากกว่า ต่อไปลัลจะลองทดสอบเรื่องการปกปิดรอยดำ รอยแดงจากสิวและรูขุมขน ค่ะ  บีบีสูตรนี้เกลี่ยง่าย และค่อนข้างปกปิด พวกรอยสิวต่างๆที่ชัดๆก็ยังมีบ้าง ตอนใช้กับผิวหน้ารู้สึกเย็นๆผิว กลิ่นออกจะสดชื่นคล้ายเมนทอลด้วยค่ะ ทดสอบประสิทธิภาพการกันน้ำ ไม่ไหลไม่เยิ้ม โดยใช้สเปรย์น้ำแร่ ฉีดตรงบริเวณแขนที่เราได้ทำการเกลี่ยบีบีซองนี้ลงไปแล้ว ก็ใช้กระดาษทิชชู่แบบซับหน้า ซับลงไปค่ะ    จะเห็นได้ว่ามีเนื้อบีบีหลุดออกมาติดกับกระดาษทิชชู่อยู่พอสมควรค่ะ ความประทับใจ: ลัลชอบตรงความเป็นเนื้อวิพ ข้อดีของเนื้อวิพคือ เกลี่ยง่าย นุ่มลื่นไม่บาดผิวและช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอ สูตรนี้จะคุมมัน ให้ลุคเเมทมากกว่าสูตรแรก แต่หักตรงความไม่ติดทนค่ะ มีหลุดมีดรอประหว่างวันบ้าง ปกติลัลจะใช้ก่อนลงรองพื้นอีกชั้นนึงเพื่อความติดทนและกริบขึ้น โดยไม่ต้องลงคอนซีลเลอร์ซ้ำเลยค่ะ ซึ่งจริงๆแล้วบีบีสูตรนี้ให้ลุคค่อนข้างหนานะคะ เราสามารถใช้แทนรองพื้นได้เลยลัลให้คะแนนรวม 7/10  สรุปโดยรวม : ส่วนตัวลัลชอบใช้ครีมซองมากนะ รู้สึกว่าสะดวกและไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บ ซึ่ง IN2IT รองพื้นซองทั้ง 2 สูตรนี้ดีตรงที่ทำให้ผิวเนียนละเอียด ปกปิดได้ค่อนข้างดีแต่ไม่ถึงกับกริบ คุมมันค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ ในส่วนของรอยดำเข้มๆก็ยังไม่สามารถปกปิดได้สนิท โทนสียังมีให้เลือกน้อยไป เพราะที่เค้าทำมาส่วนใหญ่จะเหมาะกับคนผิวสว่างหน่อย คนที่ผิวแทนนี่กลัวจะไม่รอดเอา ขนาดเราผิวสองสีโทนเหลืองยังรู้สึกว่าวอกไปนิด อยากให้ทำออกมาหลายเฉดสีหน่อยค่ะ เพราะถึงแม้ว่าเนื้อบีบีที่ทาไปบนหน้าสักพักจะกลืนกับสีผิว แต่ก็กลืนได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้น ใครสีผิวเกิน NC35 นี่อาจจะต้องลองซื้อสักซองมาลองเทสสีดูก่อนนะคะ หรือจะใช้แป้งที่สีเข้มกว่าผิวตบทับหลังจากลงบีบีตัวนี้ ใช้แก้ปัญหาตรงจุดนี้ก็ได้ สำหรับใครที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้นะคะที่ WEB SITE : https://www.in2itcosmetics.com/ Facebook : https://www.facebook.com/IN2IT.Thailand/ Line@ : @in2it Instagram : in2it.thailand  [Review] ผิวกระจ่างใส ด้วย Provamed Set วิตามินซีเข้มข้น จาก Acerola Cherry
สวัสดีค่า บล๊อคนี้เรามากันเป็นเซตซึ่งเป็นคิวของ วิตามินซีกันบ้าง จะเป็นอะไรนั้นตามมาดูกันเลยค่ะ  Provamed Acerola C โปรวาเมด อะเซโรลา ซี แบรนด์เวชสำอางในส่วนของไลน์นี้ มีส่วนผสมหลักๆเลยคือ วิตามินซีบริสุทธิ์ ซึ่งจะทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมต่อต้านอนุมูลอิสระ ฟื้นคืนผิวเรียบเนียน และวิตามินซีจาก อะเซโรล่า เชอร์รี่ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงที่สุด มีมากกว่าเลมอนถึง 34 เท่าเลยทีเดียว ช่วยปรับให้ผิวดูกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ ตัวเรียกที่เราจะมารีวิวให้ชมกันนั่นก็คือ Provamed Acerola C Whip Foam โปรวาเมด อะเซโรล่า ซี วิป โฟม  วิฟโฟมตัวนี้ลัลชอบตรง เนื้อวิปของเค้านุ่มมากจริงๆ ไม่บาดหน้า หรือทำให้หน้าแห้งเลย เนื้อครีมสีขาวมุก กลิ่นจะออกส้มนิดหน่อย  ลัลจะใช้คู่กับตาข่ายตีฟองบีบโฟมลงบนตาข่ายเพียงเล็กน้อยก็พอนะคะ ใช้น้ำหยดลงบนตาข่าย แล้วขยี้เบาๆให้เกิดฟอง การใช้ตาข่ายนี้ก็เพื่อให้ฟองของเค้ามีความหนานุ่มมากยิ่งขึ้น เราสามารถล้างหน้าแบบฟินๆเลยค่ะ โฟมล้างออกง่ายดีไม่เปลืองน้ำ อิ้ๆ  ใช้แล้วทำให้ล้างหน้าสะอาดดีค่ะ ชอบตรงที่ความเป็นวิตามินซีแต่ไม่ทำให้หน้าแห้ง ใช้ต่อได้ ให้คะแนน 7/10 หักตรงแอบมีกลิ่น  ตัวต่อไปจะเป็นตัวช่วยบำรุงผิว ทั้งในตอนเช้าและก่อนนอน เรามาเริ่มจากตัวแรกคือ Provamed Acerola C Serum โปรวาเมด อะเซโรล่า ซี เซรั่ม  ตัวนี้เป็นเซรั่ม วิตามินซี ไม่มีสีและกลิ่นค่ะ ลัลจะใช้เพียง 1หยด หลังจากการเช็ดหน้าด้วยโทนเนอร์แล้ว เพื่อใช้เป็นพรีเซรั่ม สำหรับการเริ่มบำรุงในตอนเช้าแล้วตามด้วยกันแดด   ตัวนี้ซึบเข้าสู่ผิวค่อนข้างเร็วค่ะ ชุ่มชื้นดี รู้สึกว่าแต่งหน้าติดทนขึ้น สามารถใช้ร่วมกับครีมตัวอื่นได้ ไม่รู้สึกว่าคัน หรือมีผื่นขึ้นผิวหน้า แต่ลัลยังไม่รู้สึกว่าว้าว หรืออะไรมากจากตอนก่อนใช้ ใช้ได้เฉยๆค่ะ อย่างน้อยก็ทำให้เราสะดวกขึ้นลัดขั้นตอนของการทาสกินแคร์ลงนิดนึง  อ่อ หากใครได้มีโอกาสลองใช้ก็อย่าลืมทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF 50+ ขึ้นไปด้วยนะคะ ให้คะแนน 6.5/10  ตัวสุดท้ายที่มารีวิวให้ชมกันของไลน์นี้นั่นก็คือ Provamed Acerola C Night Booster โปรวาเมด อะเซโรล่า ซี ไนท บูสเตอร์  ตัวนี้เป็นตัวที่ลัลชอบที่สุดสำหรับไลน์นี้ เพราะว่า เค้าจะมีความเป็นเนื้อเจลเซรั่มที่ค่อนข้างให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวดีมากเลยค่ะ ที่สำคัญคือ เข้มข้นมาก  เนื้อเซรั่มแอบมีเม็ดบีดส์วิตามินซีเพิ่มเข้ามาให้อีก ทำให้เราสนุกสนาน กับการทาสกินแคร์ 555 มีเม็ดบีดส์ให้บี้เล่น บูสเตอร์ตัวนี้ ลัลก็จะใช้เป็นตัวแรกสำหรับการบำรุงก่อนนอน เรื่องลดจุดด่างดำยังไม่เห็นผลเพราะลัลเพิ่งใช้มาได้แค่ 5 วันไม่ต้องใช้เยอะมากบีบดรอปเปอร์แค่เพียงครั้งละหยดก็เพียงพอค่ะ   แต่เรื่องที่บอกไว้ตอนต้นแล้วว่าชอบมากนั่นคือ เหมือนเราใช้บูสเตอร์ตัวนี้แทน sleeping mask จะต่างกันก็ตรงที่บูสเตอร์ตัวนี้คือซึมลงสู่ผิวเลยไม่เหนอะหนะเท่า Sleeping Mask ตื่นมาปุ๊ป หน้าตาดูสดใสเหมือนได้พักผ่อนเพียงพอ ดูสดชื่นและผิวนุ่มดีค่ะ หากใครเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยๆ แล้วขี้เกียจพกบำรุงหลายตัว แนะนำเอาตัวนี้ไปตัวเดียวพอค่ะ ทำแทนได้หลายหน้าที่เลย ฮ่าๆ ให้คะแนน 8/10  สำหรับใครที่อยากลอง สามารถตามข้อมูลด้านล่างนี้ไปได้เลยนะคะ จัดจำหน่าย ร้านขายยาชั้นนำ ร้านค้าปลีก และช็อปออนไลน์ Lazada (เฉพาะ Acerola C Serum มีจำหน่ายเพิ่มเติมเป็นขนาด 10 มล. 239 บาท ที่ Watsons , ร้านยา Pure ในบิ๊กซี) ช่องทางติดตามข้อมูลและข่าวสาร Website : https://www.provamed.co.th Facebook : ProvamedClub Twitter: @ProvamedClub Line: @Provamed แบรนด์นี้เป็นเวชสำอางที่ลัลเชื่อว่าหลายๆท่านเคยได้ยินชื่อและรู้จักกัน ไม่มีพิษภัยใช้ได้ทุกผู้ทุกวัยค่ะ เพราะมีความอ่อนโยนและราคาไม่แรงเลยหลักร้อยเท่านั้น หวังว่าคงได้รับประโยชน์จากรีวิวนี้เเล้วเจอกัน บล๊อคหน้านะคะ สำหรับวันนี้สวัสดีค่า  |
Beautyrush98
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] สวัสดีค่ะขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและทักทายกันนะคะ ลัลเริ่มเขียน Blog จริงจังตอนปี 59 ส่วนมากจะเป็นรีวิวและสอนแต่งหน้าค่ะ มีท่องเที่ยวบ้างตามโอกาสที่ได้ไป สีผิวกลางๆ undertone gold/neutral NC30 สภาพผิวผสม - ผิวมันขาดน้ำค่ะ แพ้ง่ายเป็นสิวบ่อย อยากให้เขียนเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรหลังไมค์มาได้นะคะ จะได้เป็นข้อมูลแลกเปลี่ยนความรู้กัน **************************
Friends Blog
Link |
