• beauty
• travel

ผิวสวยด้วย Enzyme Peel วันนี้จะมานําเสนอวิธีการลอกผิวหน้าด้วย enzyme peelที่สามารถทําเองที่บ้านอย่างง่ายๆ ด้วยความที่อยากจะเล่าสู่กันฟัง อันที่จริงเราก็ขัดหน้าโดยการใช้scrubเป็นประจําอาทิตย์ละครั้งสองครั้งอยู่แล้ว ตามแต่สภาพการใช้งานและดินฟ้าอากาศ เพื่อทําความสะอาดผิวหน้าและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดไป เปิดโอกาสให้เซลล์ใหม่เริ่มผลัดขึ้นมาแทน แต่ด้วยวัยเข้าเลขสามจะใช้แต่scrubอย่างเดียวก็คงจะไม่ทันการ เพราะยิ่งแก่ตัวขบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ก็เริ่มช้าลง เลยต้องใช้enzyme peelเข้าช่วย ขั้นตอนก็ไม่มีอะไรมาก เริ่มจากล้างหน้าให้สะอาดแล้วก็ตามด้วยการsteam หน้าเพื่อเปิดรูขุมขน ถ้าไม่มีเครื่องsteamerก็ใช้หม้อหุงข้าวก็ได้ใส่นํ้ากดสวิทช์ตั้งให้เดือด แล้วก็เอาหน้าไปอั้งไว้สัก5นาที จะให้หรูหน่อยก็เหยาะessential oilกลิ่นที่ชอบสัก2หยดก็ได้ เสร็จแล้วก็ทาenzyme peelให้ทั่วใบหน้าระวังอย่าให้เข้าตา ใช้สองมือนี่แหละ และไหนๆมือก็เปื้อนenzymeแล้วก็อย่าเพิ่งล้างทิ้ง ละเลงให้ทั่วมือแล้วก็ทิ้งไว้10นาทีแล้วก็ล้างออกพร้อมกับหน้าเป็นการยิงกระสุนนัดเดียวได้นกสองตัว ตามด้วยtoner,serum และmoisturizer และ อย่าลืมsunblockถ้าจะออกไปข้างนอกตอนกลางวัน แค่นี้ก็จบแล้ว แค่อาทิตย์ละครั้งก็จะได้ผิวสวยและสุขภาพดี ประโยชน์จาก Enzyme Peel -ลบริ้วรอยเหี่ยวย่น -ลบรอยด่างดํา -ทําให้ผิวเรียบเนียนนุ่ม -เพิ่มความชุ่มชื้น -ป้องกันการเกิดสิว -ช่วยให้สุขภาพผิวดี -ทําใหผิว้ไดรับ้ผลประโยชน์จากผลิตภัณฑ์บําบุงผิวสูงสุด ถ้าใครมียี่ห้อในดวงใจอยู่แล้วก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้ายังไม่มีก็จะขอแนะนําตัวที่ใช้อยู่ เพราะใช้เป็นประจํากับลูกค้าที่สปาแต่ต้องออกตัวว่าราคาคิดเป็นเงินไทยอาจจะสูงแต่ว่าได้ผลดีจริงๆ กระปุกหนึ่งใช้ได้ประมาณ30ครั้ง Eminence: Yam & Pumpkin Enzyme Peel (for all skin type)$40 //www.dermstore.com/product_Yam+&+Pumpkin+Enzyme+Peel_8554.htm //www.eskinstore.com/ProductCart/pc/viewPrd.asp?idcategory=947&idproduct=5028 Ayur Medic: Papaya Enzyme Peel (for oily to combination, acne, hyperpigmentation skin)$44 //store.glamour4u.com/skam00papa25.html Ayur Medic: Pumpkin Exfoliant (all skin type, especially sensitive)$44 //store.glamour4u.com/skam00pump02.html สามารถเช็ครายละเอียดและสั่งซื้อได้จากUSA ตัวอย่าง website ข้างบนนี้ แต่ถ้าใครอยากจะผากซื้อร้านค้าในเมืองไทย ก็ติดต่อที่ //www.weloveshopping.com/shop/lek-lek-shop/ สวัสดีค่ะ   Create Date : 17 มกราคม 2551     Last Update : 17 มกราคม 2551 6:52:11 น. Counter : 1271 Pageviews.   0 comment Share Tweet

Professional Line วันก่อนมีโอกาศได้ไปงาน Tradeshow ชื่อว่า International Congress of Esthetics and Spa ซึ่งงานนี้ได้รวบรวมProfessional Skincare Lineต่างๆชั้นนําที่มีอยู่ในอเมริกา ปกติก็จะไปงานพวกนี้อยู่เป็นประจํา เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสที่จะได้ศึกษาวิวัฒนาการและเทคนิคใหม่ๆเพื่อเอามาปรับใช้และพัฒนาตนเองอยู่บ่อยๆแล้ว ยังเป็นโอกาสที่จะได้ซื้อของที่อยากได้ เพราะแบรนด์ที่ดังๆในวงการSkincareที่นี่ไม่ได้หาซื้อได้ง่ายๆ นอกเสียจากว่าจะต้องสั่งซื้อทางinternetหรือไม่งั้นก็ต้องสืบดูว่า Spa หรือ Skin Salonที่ไหนใช้ผลิตภัณณ์แบรนด์นั้นๆถึงจะมีขายที่นั่น อีกอย่างถ้าไปซื้อเองที่งานโชว์จะได้ลดราคาอีกด้วย Skin Careที่ชอบมากๆก็มีอยู่ด้วยกัน3แบรนด์ คือJan Marini, Eminence และ Epicuren (สนใจเปิดชมได้จากlinkด้านขวามือ) ซึ่งอันหลังนี่ไม่ได้อยู่ในงานโชว์เพราะเค้าไม่เคยต้องโฆษณาหรือโปรโมทตัวเอง แต่เป็นเพราะของๆเค้าใช้แล้วได้ผลมาก คนในวงการจึงบอกกันเองปากต่อปากและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ถ้ามีโอกาสในอนาคตคงจะได้เขียนถึง philosophy ของ3แบรนด์นี้ว่าเป็นอย่างไรและมีตัวไหนที่เด่นๆบ้าง ซึ่งทั้ง3แบรนด์นี้ถือว่าเป็น big name มากของที่นี่แต่ถ้าคนที่ไม่ได้อยู่ในวงการก็จะไม่ค่อยจะรู้จัก เพราะprofessional lineที่นี้ไม่มีการโฆษณาในนิตยสารแฟชั่นทั่วไป (ยกเว้น่ในนิตยสารที่เกี่ยวกับskin careซึ่งสําหรับคนในวงการโดยเฉพาะ) หรือขายตามเคาน์เตอร์เครื่องสําอางทั่วไปเช่นในร้าน Sephora และเมื่อไม่มีวางขายตามท้องตลาด จึงเป็นข้อจํากัดใหเป็นที่แพร่หลายแต่ฉเพาะคนในวงการ Esthetic เท่านั้น ทําไมจึงไม่วางขายตามท้องตลาดที่คนทั่วไปสามารถรู้จักและลองใช้ได้ง่ายๆ เป็นเพราะว่า 1.Active Ingredients ที่อยู่ใน brand นั้นๆอยู่ในอัตราที่ค่อนข้างสูง และจําเป็นจะต้องใช้ให้ถูกกับสภาพผิวและปัญหาของลูกค้าแต่ละคน โดย esthetician จะเป็นผู้แนะนําการใช้ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคนเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด 2.ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไม่ใส่สารกันบูด หรือถ้าใส่ก็เป็นเพียงจํานวนน้อยหรือไม่ก็จะเป็นสารกันบูดที่มาจากธรรมชาติแทน ไม่ใช้สารสังเคราะห์ซึ่ง สารที่มาจากการสังเคราะห์จะสามารถทําให้ผลิตภัณฑ์อยู่ได้นานกว่ามากแต่เป็นอันตรายต่อสุขภาพผิว เมื่อเทียบกับสารกันบูดจากธรรมชาติที่ทําให้อยู่ได้นานน้อยกว่าแต่ว่าปลอดภัยมากกว่า ดังนั้น Professional Line เหล่านี้จึงไม่สามารถผลิตทีละมากพอเพื่อให้วางขายแพร่หลายตามเคาน์เตอร์เครื่องสําอางในห้างร้านทั่วประเทศได้ ซึ่งเป็นการยากที่จะกําหนดว่าเมื่อไหร่จะขายหมดซึ่งเป็นสาเหตุให้ต้องใช้สารกันบูดในปริมาณที่มากกว่าเพื่อให้ผลิตภัณฑ์คงเสถียรภาพจนกว่าจะขายหมด 3.ยี่ห้อเหล่านี้จะไม่มีการโฆษณาใน Magazine ทั่วไป จึงทําให้ราคาไม่แพงมากเมื่อเทียบกับคุณภาพและประสิทธิภาพที่ได้ และเค้าไม่เน้น Package ที่สวยหรูแต่จะเน้นถึงคุณภาพของproduct ingredients เป็นอันดับหนึ่ง เพื่อไม่ต้องเพิ่มต้นทุนการผลิตpackageหรูๆให้ราคาต้องแพงขึ้นตาม ภาพบรรยากาศในงาน Booth ของ Eminence จะคั่บคั่งเสมอ มีการสาธิตผลิตภัณฑ์และเทคนิคใหม่ๆมากมาย Booth ของ Jan Marini ก็คับคั่งเช่นกัน   Create Date : 09 กันยายน 2550     Last Update : 22 กันยายน 2550 22:09:01 น. Counter : 1347 Pageviews.   15 comment Share Tweet

ปัญหา ฝ้า กระ รอยด่างดํา และวิธีแก้ไข ฝ้า กระ และรอยด่างดํา มันมาจากไหน สาเหตุมาจาก 2ปัจจัยใหญ่ 1.ปัจจัยจากภายใน ซึ่งได้แก่พันธุกรรม เช่นชาวต่างชาติโดยเฉพาะพวกผมแดงซึ่งเกิดมาพร้อมกับกระ ดูง่ายๆอย่าง Lindsey Lohan หรือJulianne Moore เพราะพวกผมแดงจะมีกระมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นลักษณะ genetic อย่างหนึ่ง ก็สวยไปอีกแบบได้เหมือนกัน, และอีกประการหนึ่งจากปัจจัยภายใน ก็คือการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิงในช่วงการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นผลกระทบทําให้เกิดเป็นแผ่นฝ้าได้ ลักษณะของฝ้าที่เกิดจากปัจจัยภายในยากต่อการรักษา เพราะเซลล์สีผิวที่ผิดปกตินั้นเกิดขึ้นในผิวหนังชั้นในที่ลึกเข้าไปยิ่งกว่าปัญหาที่มาจากปัจจัยภายนอก 2.ปัจจัยภายนอก ซึ่งได้แก่ แผลเป็นจากสิวและแสงแดด ซึ่งอันนี้เราสามารถป้องกันได้โดยการไม่แกะสิว และหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งในช่วงที่เวลาแดดจัด (ช่วงประมาณ 10โมงเช้า-3โมงเย็น) และทาครีมกันแดดบริเวณที่แดดสามารถส่องถึงได้ และต้องทาซํ้าตามเวลาที่เหมาะสม (ขึ้นอยู่กับค่าSPFที่หาอ่านได้ในคอลัมน ์mineral sunblock)และต้องทาซั้า เมื่อเหงื่อออกหรือเปียกนํ้า เคยสงสัยไหมคะว่าแต่อ้อนแต่ออกไม่เคยตกกระ แต่อยู่ไปอยู่มามันก็โผล่มาให้เห็นให้ชํ้าใจเล่นๆ เป็นเพราะว่ากระใช้เวลานานในการเพาะบ่มตัวเอง ไม่ใช้แค่เดือน2เดือนนะคะ แต่เกือบประมาณ30ปีถึงจะก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างให้เห็นชัดเจน ไอ้ที่เราเห็นๆมันในวันนี้หาใช่ว่าเกิดจากการที่เราลืมทาครีมกันแดดตอนเล่นนํ้าทะเลเมื่อปีที่แล้วนะคะ แต่เป็นเพราะว่าเราไม่ได้มีการปกป้องตั้งแต่ยังเด็กๆมันก็เลยมาโผล่ให้เห็นตอนวัยสาว แต่ก็อย่าได้ท้อถอยนะคะจงหมั่นทาครีมกันแดด เพราะเราก็ต้องรักษาความงามและสุขภาพที่ดีกันต่อไป เพราะแดดเป็นสาเหตุของมะเร็งในผิวหนังซึ่งเริ่มพบได้บ่อยมากขึ้น เช่นเดียวกับการทําสีแทนจาก Tanning Booth ค่ะ แต่ในเมื่อกระ,ฝ้ามันเกิดขึ้นมาแล้วก็ยังพอมีวิธีแก้ไขด้วยlaserโดยพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถลบร้อยด่างดําบนผิวหน้าอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับ sunscreen ขอยํ้านะคะสําคัญมากต้องใช้คู่กันกับ sunscreen ลองมาดูนะคะว่ามีserum,cream,หรือ masque ตัวไหนที่เป็น Professional line ที่เป็นที่ยอมรับในวงการผิวหนัง ซึ่งะมีประสิทธิสูงในการแก้ปัญหาได้บ้าง PIGMENT RELIEF GEL by Ayur Medic (1oz)for all skin type Active Ingredients: Kogic Acid- reducing melanin production, regulates action of enzymes Glycolic Acid- exfoliating Licorice Root Extract- lightening agent Ascorbic Acid (Vitamin C)- antioxidant, lightening agent Tocopheryl Acetate- antioxidant, healing Cucumber Extract- antioxidant St.John's Wort Extract- Soothing, calming, lightening agent Carinine Hydrochloride (Alastin)- protect cell membrane Leukocyte Extract- lightening agent Lemon Extract- astringent, antiseptic, antibacterial, lightening agent This light, non-irritating gel contains synergistically blended natural ingredients that are known to regulate and lighten skin discoloration. The Glycolic Acid works to break up the hyper pigmentation in the skin while the Kojic Acid, a mushroom derivative, regulates the action of the enzymes which create the pigmentation in the skin. The Licorice Root, Ascorbic Acid and Cucumber have a lightening effect on the skin. This product provides pigment relief without the use of dangerous bleaching agents which can cause aging and free radical activity. Alistin is also included in this formulation so that you are using preventative ingredients to achieve the perfect balance for beautiful skin. Benefits: * Evens skin tone * Protects cell membrane PIGMENT BALANCER BY EPICUREN (0.5oz)for all skin type Active Ingredients: Hydroquinone- Other Ingredients: Licorice root,Co-enzyme A from Carrot, Citrus extracts of orange, glycerin, aspergillus ferment, willowbark extract, hydrastis canadensis (golden seal) extract, humulus lupulus (hops) estract, calendula extact, arctium lappa root extract, rosemary extract, cinnamon extract, essential oils, grapefruit seed extract. Benefits: -diminish dark pigmentation as well as balance and even out skin color irregularities. STONE CROP SERUM BY EMINENCE(1oz) Intensive Lightener & Hydrator Serum for all skin type Active Ingredients: Stone Crop Juice & Pulp- assist in regeneration, lightening and hydration Bearberry Extract- fruit lightening agent Green Tea- rich in polyphenols and antioxidants to protect against cell damage. Biocomplex- an antioxidant booster of Vitamins A, Ester-C, Coenzyme Q10, Alpha lipoic Acid Benefits: -Skin tone is lighter and more even -Skin surface is hydrates and soft -Skin is firmer and lighter -Rosacea and blemished areas are improved -Skin is revitalized and protected against free radicals -skin has a more youthful appearance STONE CROP MASQUE BY Eminence(2.0oz)Lightening, Calming & Hydrating Masque for all skin type Active Ingredients: Stone Crop Juice & Pulp- assist in regeneration, lightening and hydration Lemon- high amounts of Vitamin C, antioxidant Bioflavonoids- combats free radicals, protective agent Honey- nourishing, moisturizing agent Biocomplex- an antioxidant booster of Vitamin A, Ester-C, E, Coenzyme Q10, alpha lipoic acid Benefits: -Epidermis is smoother -Complexion is lighter -Skin is moisturized, more vitalized -Skin appearence is healtier STONE CROP HYDRATING GEL BY Eminence (1.2oz) Oil free Hydrating Gel for combination to oily skin Active Ingredients: Stone Crop Juice & Pulp- assist in regeneration, lightening and hydration Bearberry Extract- fruit lightening agent Green Tea- rich in polyphenols and antioxidants to protect against cell damage. Biocomplex- an antioxidant booster of Vitamins A, Ester-C, Coenzyme Q10, Alpha lipoic Acid Pectin- enriches, nourishes and moisturizes the skin Benefits: -Pigmentation is evened and lightened -Features are visible firmer -Skin has a soft and supple texture -Moisture levels are balanced -Visible signs of aging are reduced STONE CROP Whip Moisturizer BY Eminence (2.0oz)Regenerating & Lightening Moisturizer for dry, normal, or combination skin Active Ingredients: Stone Crop Juice & Pulp- assist in regeneration, lightening and hydration Lemon- high amounts of Vitamin C, antioxidant Bioflavonoids- combats free radicals, protective agent Yarrow Oils- nourishing moisturizing agent Corn Germ Oil- softens and enriiches the skin Biocomplex- an antioxidant booster of Vitamin A, Ester-C, E, Coenzyme Q10, alpha lipoic acid Benefits: -Pigmentation is lighten -Visible signs of aging are reduced -Skin is smoother and tone is tighten -Skin is protected against free radicals -Epidermis is enriched and deeply hydrated ราคาที่บอกเป็นราคาที่ได้มาจากwebsiteที่อเมริกาค่ะ ยี่ห้อ Eminenceนั้น เป็น Organicค่ะ แถมกลิ่นStone Cropหอมมาก ใช้แล้วติดใจทั้งกลิ่นและผล ตัวที่แนะนําทั้งหมดนี้ใช้ได้นานประมาณ6เดือนค่ะ   Create Date : 30 สิงหาคม 2550     Last Update : 30 สิงหาคม 2550 3:14:19 น. Counter : 4308 Pageviews.   35 comment Share Tweet

Mineral SunBlock ก่อนอื่นต้องขอทําความเข้าใจก่อนว่าSunScreen กับ SunBlock ต่างกัน ตรงที่SunScreen จะดูดลําแสงUV ไว้ในตัวของมันเองเพื่อไม่ให้แสงแดดผ่านไปถึงผิวหนัง และจะออกฤิทธิ์ได้ผลเต็มที่ก็ต่อเมื่อ30นาทีหลังจากที่เราทาครีมกันแดดแล้วก่อนที่เราจะออกไปถูกแดดได้ และส่วนผสมก็จะเป็นประเภทสารเคมีสังเคราะห์ที่ทีประสิทธิภาพในการดูดซับแสง UV แต่สําหรับSunBlock จะมีผลออกฤิทธิ์ได้ในทันที เราจึงสามารถถูกแดดได้เลยไม่ต้องเสียเวลารอคอย เพราะSunblock ทําหน้าที่สะท้อนแสงแดดให้ออกไปจากผิวหนัง ดังนั้นUV Ray ต่างๆจึงไม่สามารถแม้จะเฉียดเข้ามาใกล้ผิวเราได้แม้แต่น้อย และส่วนผสมที่ใช้ก็จะมาจากแร่ธาตุธรรมชาติที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ระยะเวลาในการปกป้องผิวของทั้งสองประเภทนี้ ก็ขึ้นอยู่กับSPF ของแต่ละตัวค่ะ ตัวอย่างเช่น ถ้าปกติเราใช้เวลานานแค่10นาทีเมื่อถูกแดดก่อนที่สีผิวจะเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อเราใช้SPF 15 จะสามารถปกป้องแสงแดดได้นานเป็นเวลา 150นาทีก่อนที่สีผิวจะเปลี่ยนไป อีกนัยหนึ่งก็คือ SPFมีความหมายเท่ากับระยะเวลา10เท่าของค่าSPFที่ระบุไว้ ซึ่งเป็นระยะเวลาในการปกป้องผิว ซึ่งไม่ใช่ความสามารถของส่วนผสมในการปกป้องแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น SPF 15 ก็หมายความว่าเราจะต้องทาเพิ่มทุกๆ150นาที(2.5ชั่วโมง) และSPF 30 จะต้องทาเพิ่มทุกๆ300นาที(5ชั่วโมง) แต่ถ้าเหงื่อออก หรือ ว่ายนํ้า มันก็จะถูกลบไปบ้างแน่นอน เพราะฉะนั้นเราต้องทาเพิ่มบ่อยครั้งขึ้นค่ะ ทีนี้ก็จะขอแนะนํา ตัวที่ใช้อยู่ประจํานะคะ EMINENCE ORGANIC SUN DEFENSE SPF30 ตัวนี้ชอบมากและใช้ดีมากๆเลยค่ะ แถมพกพาไปไหนมาไหนก็แสนสะดวก สามารถทาเพิ่มได้ทุกเวลาเพราะมีลักษณะเป็นเนื้อแป้ง อยู่ในหลอดพลาสติกและมีแปรงขนแพะติดอยู่ข้างบน ปกติจะทาตัวนี้หลังจากแต่งหน้าเสร็จแล้ว เพียงแค่ใช้ปัดๆให้ทั่วใบหน้า และถ้าจะ ฉีดToner ทับลงไปอีกทีเพื่อให้มีสภาพกันนั้าก็ได้นะคะ จะได้ไม่ต้องกังวลเวลาเหงื่อออก แถมยังป้องกันหน้ามันได้เป็นอย่างดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่เป็นคราบขาว ช่วยป้องกันการเกิดสิวได้อีกด้วยเพราะมีส่วนผสม zinc oxide เหมาะมากกับสภาพอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทย ตอนนี้ใช้ เบอร์0 เพราะเป็นสีโปร่งใส สามารถเข้าได้ดีกับทุกสีผิว ราคาประมาณ US$60 ราคาเงินบาทดูเหมือนจะแพง คงอยู่ที่ประมาณ2000บาท แต่ที่มีอยู่ก็ใช้ได้นานประมาณ6เดือนนะคะ แถมคุณภาพครบถ้วนเพราะมีวิตามินผสมมากมาย ไม่อุดตันรูขุมขนและรับรองไม่แพ้ค่ะ ถ้าสนใจก็ลองหามาลองใช้ดูนะคะ   Create Date : 25 สิงหาคม 2550     Last Update : 25 สิงหาคม 2550 20:58:58 น. Counter : 485 Pageviews.   7 comment Share Tweet

6 ESSENTIAL STEPS TO A BEAUTIFUL, HEALTHY, AND GLOWING SKIN ุอันที่จริงแล้ว ตั้งใจจะเขียนถึงแค่6ขั้นตอนสําคัญที่จะทําให้ผิวสวย ผ่องใส และมีสุขภาพดีที่ทุกคนสามารถนําไปใช้ดูแลผิวพรรณตนเองได้ที่บ้าน ซึ่งสามารถทําได้อาทิตย์ละ2ครั้ง ซึ่งได้แก่การ cleanse, exoliate, masque, tone, treat,และ moisturize แต่เมื่อต้องพูดถึงทั้ง6ขั้นตอนแล้วจึงอยากถือโอกาสพูดเลยไปถึงขั้นตอนในการดูแลผิวที่ spa ใน america ว่าเค้าทํายังไงกันบ้าง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะต่างกับspaที่เมืองไทยมากน้อยแค่ไหน เพราะไม่เคยนวดหน้าที่เมืองไทยสักที สําหรับการดูแลผิวประจําวัน เราไม่ต้อง exoliate และ masque กันทุกวัน ก็ให้ตัด2ขั้นตอนนี้ไปค่ะ และที่สําคัญคือต้องรู้จักเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมและถูกต้องกับผิวและปัญหาของผิว การดื่มนํ้าให้เพียงพอและเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ก็มีส่วนสําคัญมากเช่นกันค่ะ นวดหน้านี่ถือว่าเป็นอะไรที่ใกล้ตัวและถนัด เพราะยึดอาชีพนี้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องมานานแล้ว และก็แน่นอนว่าจะยังคงทําต่อไปค่ะเพราะใจรัก ที่นี่จะต้องมีการเรียนหลักสูตรเกี่ยวกับ skin care และผ่านการทดสอบความรู้ทางข้อเขียนและทางปฏิบัติเพื่อให้ได้ใบประกอบอาชีพ ก็ต้องเรียนในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับผิว รวมทั้งส่วนผสมต่างๆในผลิตภัณฑ์ว่าจะให้ผลและคุณค่าต่อผิวอย่างไรบ้าง ที่อเมริกานี่นิยมการนวดหน้ามากพอๆกับการนวดตัวค่ะ ก็เลยโชคดีของเราไปเพราะทําให้มีงานเรื่อยๆ และอาจจะเป็นเพราะว่าเราอยู่ในเมืองใหญ่(Los Angeles)และทํางานใน spaที่เรียกได้ว่าหรูสําหรับที่นี่ก็ว่าได้ ก็เลยมีโอกาสได้สัมผัสผิวของคนดังแห่งHollywoodเป็นระยะๆ ซึ่งอันนี้ก็ไม่ใช่ว่าเป็นโชคดีเสมอไป เพราะบางคนก็เอาใจยาก ขั้นตอนต่างๆมีดังนี้ค่ะ Skin Analizes เริ่มแรกเลยเราก็จะต้องถามก่อนเลยว่าเค้าเป็นห่วงหรือมีปัญหาหนักใจเกี่ยวกับอะไรบ้าง ซึ่งอาจจะเป็นริ้วรอยเหี่ยวย่น,รอยดําใต้ตา,ฝ้าจากแสงแดด,สิว,แผลเป็นจากสิว,ผิวแห้งกระด้านไม่เปล่งปลั่ง,เส้นเลือดฝอยปรากฏบนใบหน้า...ฯลฯ สารพันปัญหา แต่ไม่ว่าปัญหาอะไรก็แล้ว เราต้องรับฟังและสามารถแก้ไขให้ถูกวิธี เมื่อเห็นปัญหา,และสัมผัสลักษณะผิวของลูกค้าแล้ว จึงตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องกับผิวในทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้ประโยชน์และผลที่ดีที่สุด อ้อ...และที่สําคัญคือ จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Professional line เท่านั้น Cleanse ขั้นแรกก็จะทําความสะอาดผิวก่อน ล้างฝุ่นละออง เหงื่อไคล และเครื่องสําอางออกให้หมด (2รอบ) ใช้เครื่องไอนํ้าช่วยเปิดรูขุมขน เพื่อเป็นการง่ายในการขจัดสิ่งสกปรกทั้งหลายออกจากผิวและรูขุมขน Exfoliate เสร้จแล้วก็จะทําการขัดผิวเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่อยู่ชั้นบนสุดของผิวหนัง เพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีการผลิตเซลล์ผิวใหม่ได้เร็วขึ้น เป็นการพัฒนาสุขภาพผิวและทําให้ผิวเรียบเนียน และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสําหรับครีมบํารุงต่างๆในขั้นตอนต่อไปจะได้ซึมเข้าไปในผิวหนังได้ดียิ่งขึ้น ถึงตอนนี้ต้องขอเสริมหน่อยนะคะว่า ถ้าผิวหนังของคุณเคลือบหนาไว้ด้วยเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว สังเกตได้จากการที่ผิวเป็นตุ่มๆใต้ผัวหนัง,มีสิวขึ้นประปราย,หรือผิวหน้าไม่เรียบเนียน ไม่ใส ไม่มีชีวิตชีวา ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ต่อให้ทาครีมบํารุงยังไงก็แล้วแต่ก็จะไม่ได้เห็นผลอย่างที่ตั้งใจ เพราะครีมบํารุงไม่สามารถฝ่าด่านกั้นเพื่อลงไปให้ถึงผิวหนังชั้นในได้ ที่ดีที่สุดต้องหมั่นขัดผิว แต่จะบ่อยได้มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับชนิดผิว เพราะถ้าบ่อยไปก็ไม่ดี แล้วเราจะเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับการขัดผิวและทางเลือกต่างๆในขั้นตอนนี้อีกทีค่ะ Massage หลังจากนั้น ก็นวดกล้ามเนื้อต่างๆบนใบหน้า คอ และไหล่ เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเส้นเลือด ทําให้เส้นเลือดสูบฉีดได้ดีเพื่อที่จะได้นําอาหารและอ๊อกซีเจนมาเลี้ยงผิว และเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ถึงตอนนี้ลูกค้าก็อาจจะเริ่มกรนกันเล็กน้อย แต่มีข้อยกเว้นนะคะ เพราะเราจะไม่นวดสําหรับคนที่เป็นสิวเยอะ เพราะจะเป็นการกระตุ้นต่อมนํ้ามันให้ผลิตมากขึ้น ทําให้มีสิวเลยเถิดกันไปใหญ่ ExtractionExtraction จากนั้นก็เป็นการ extraction ซึ่งก็คือบีบสิว(อย่างถูกวิธี ถ้าไม่ได้ฝึกมาอย่าได้ลองเป็นอันขาด เพราะไม่เช่นนั้นเกิดแผลเป็นได้) ก็อาจจะมีทั้งหัวดํา,หัวขาว,สิวเสี้ยน ก็แล้วแต่ความสกปรกมากน้อยของแต่ละผิว แต่ห้ามบีบสิวอักเสบเด็ดขาด เพราะจะเป็นการแพร่เชื้อแบคทีเรียแล้วจะไปกันใหญ่ กรณีนี้จะใช้เครื่องมือชื่อhigh frequency เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย สําหรับบริเวณที่ไม่มีสิว ก็จะrollผิวหนังเบาๆเพื่อขจัดนํ้ามันส่วนเกินในรู้ขุมขน Masque ขั้นตอนต่อไป ก็จะทาmasqueแต่จะเป็นชนิดไหนในบริเวณใด ก็ขึ้นอยู่กับชนิดผิว,สภาพผิว,และปัญหาในบริเวณต่างๆบนผิวหน้า เพราะฉะนั้นจึงไม่จํากัดว่าต้องใช้แค่masqueชนิดเดียวเสมอไปต่อลูกค้าแต่ละคนในแต่ละครั้ง Tone ต่อมาก็จะtoneผิวด้วยtonerซึ่งเป็นที่หน้าเศร้าใจเพราะโดยส่วนมากแล้วเราควรที่จะtoneผิวทุกวัน แถมยังทําได้วันละหลายๆรอบอีกต่างหาก แต่ขั้นตอนนี้กลับถูกมองข้ามอย่างง่ายได้ เนื่องจากหลายๆคนไม่ค่อยเห็นความสําคัญและขาดความเข้าใจที่ถูกต้องในการเลือกใช้tonerแต่ละชนิด เอาไว้แล้วเราจะเขียนblogใหม่เกี่ยวกับtonerโดยเฉพาะ Treat ใกล้จะจบขั้นตอนแล้วค่ะ อย่าเพิ่งหลับกันเสียก่อน มาถึงตอนนี้เราก็จะขนเอาtreatment creamหรือไม่ก็serumเด็ดๆ ที่จะช่วยแก้ไขแต่ละปัญหาโดยเฉพาะ อีกทั้งeye cream และlip balm เพื่อเป็นการแก้ไข,ปรับปรุงผิวที่มีปัญหา และบํารุงผิวที่ดีอยู่แล้วให้อยู่ในสภาพที่ดีตลอดใป Moisturize สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด...ถึงคิวของmoisturizer เพื่อเป็นการปกป้องผิวจากภยัณอันตรายต่างๆภายนอก ที่สามารถเล็ดลอดเข้าไปเกาะบนผิวของเราได้ เพราะอย่าลืมนะคะ ยิ่งมีสิ่งแปลกปลอมมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเป็นผลเสียต่อผิวเรามากขึ้นเท่านั้น และอย่าลืมตบท้ายด้วยsunscreenนะคะ ถ้าตราบใดยังเห็นแสงพระอาทิตย์รําไรอยู่ อย่าเพิกเฉยต่อ sunscreenเป็นอันขาด เพราะแม้ว่าแสงอาทิตย์อ่อนๆจะสามารถไม่ทําให้ผิวของเราไหม้ก็ตาม(จากUVB;burning) แต่มันสามารถทําให้ผิวย่นก่อนวัยได้ค่ะ เพราะUVA;agingของมันยังไง้ยังไงก็ยังคงอยู่ในแสงอ่อนนั้น จบแล้วค่ะขั้นตอนทั้งหมด แล้วเราก็มาเริ่มตั้งต้นใหม่ก็อีกประมาณ 4อาทิตย์ ก็แล้วแต่กําลังทรัพย์ของแต่ละคน ใครมีทรัพย์มากก็กลับมาได้เร็วกว่านั้น ทรัพย์น้อยก็รอนานหน่อย เพราะฉะนั้นจึงไม่หน้าแปลกใจที่คนมีกะตังค์จึงสามารถซื้อโอกาสให้ผิวมีสุขภาพดีบ่อยกว่าคนทั่วไป   Create Date : 25 สิงหาคม 2550     Last Update : 25 สิงหาคม 2550 23:46:44 น. Counter : 546 Pageviews.   1 comment Share Tweet

• selfreliance
• Webmaster - Bloggang