|
เสาชิงช้า
ประวัติความเป็นมาของไม้สักทองที่ใช้ปฏิสังขรณ์เสาชิงช้า
ปี พ.ศ. 2547 กรุงเทพมหานครเตรียมการตกแต่งโบราณสถานในพื้นที่ และได้ตรวจพบเสาชิงช้ามีสภาพชำรุดทรุดโทรดตามอายุ เนื้อไม้ผุกร่อน มีร่องรอยปลวกทำลายโครงสร้างไม้เสาชิงช้า จึงได้ประสานทำงานร่วมกับกรมศิลปากร มีความเห็นตรงกันว่า ความชำรุดครั้งนี้อยู่ในขั้นวิกฤต การซ่อมบูรณะโบราณสถานของชาติจึงเกิดขึ้นในช่วง พ.ศ. 2548 2549 ปีที่เสาชิงช้าอายุครบ 222 ปี และกรุงเทพมหานครมีอายุ 224 ปี ซึ่งกรุงเทพมหานคร ในฐานะหน่วยงานหลักในการดูแลรับผิดชอบโบราณสถานทั่วพื้นที่ มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการบูรณเสาชิงช้า กรุงเทพมหานคร มีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน) เป็นประธานกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษา 5 ท่าน ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 20 ท่าน รวม 25 ท่าน เพื่อดำเนินการบูรณะเสาชิงช้าให้ถูกต้องตามหลักวิธีปฏิบัติแห่งราชประเพณีนิยม ประวัติและรูปแบบเดิมทุกประการ โดยแบ่งการทำงานเป็นส่วนการบูรณะ ซ่อมแซมและการหาไม้เพื่อนำมาทดแทนเสาเดิมที่ทรุดโทรมและผุพังลงตามกาลเวลาด้วยเทคนิคทางวิศวกรรม
สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ได้รับมอบหมายให้เตรียมซ่อมแซมรอยต่อรอบแตกของไม้ เสา รวมทั้งโครงสร้างเสาชิงช้าทั้งหมด และเมื่อได้เข้าทำงานในสถานที่ตรวจสอบโดยละเอียดพบความเสียหายมากกว่าเมื่อตรวจพบขั้นต้น จึงปรับเปลี่ยนวิธีซ่อมโดยเทคโนโลยีใหม่ใช้วัสดุสังเคราะห์ประเภทคาร์บอนไฟเบอร์ (Carbon Fiber) และอิพ็อกซี่ (Epoxy) ที่มีความเหนียวและแข็งแรงเพียงพอจะรับน้ำหนักและแรงกระทำต่อโครงสร้างเสาชิงช้า มีการตกแต่งผิวเนื้อไม้ทั้งต้นอย่างพิถีพิถันใช้เวลารวมทั้งสิ้น 60 วัน จึงแล้วเสร็จ เสาชิงช้ามีความมั่นคงแข็งแรงและกรุงเทพมหานครได้จัดพิธีบวงสรวงเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 โดยพระราชครูวามเทพมุนี เป็นผู้ประกอบพิธีพราหมณ์ ณ บริเวณลานเสาชิงช้า
นอกจากการซ่อมบูรณะ คณะกรรมการอำนวยการบูรณะเสาชิงช้า กรุงเทพมหานครยังได้เตรียมการจัดหาไม้มาทดแทนเสาชิงช้าตามลักษณะ ขนาด และรูปแบบเดิม โดยหารือกับหน่วยงานที่มีความชำนาญในเรื่องพันธุ์ไม้ ขณะที่สำนักผังเมืองกรุงเทพมหานครดำเนินการบูรณะเสาชิงช้าอยู่นั้น คณะอนุกรรมการสืบค้นหาไม้ก็เริ่มดำเนินงานโดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานและสถานบันการศึกษาต่าง ๆ ดำเนินงานในภูมิภาคได้แก่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกค้นหาต้นสักที่มีลำต้นตรง ไม่มีตำหนิขนาดใช้จริงยาวประมาณ 20 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางปลายเสาประมาณ 40 เซนติเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางโคนต้นประมาณ 80 เซนติเมตร เป็นอย่างต่ำ และไม้ก่อนการตัดแต่งสูง 25 เมตร ตามแหล่งไม้สักทั่วภาคเหนือและภาคกลาง เดินทางไปสืบค้นในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี สุโขทัย ตาก เพชรบูรณ์ และจังหวัดแพร่ ฯลฯ โดยมีอาจารย์จากคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมเดินทางไปค้นหาใช้หลักวิชาตรวจสอบต้นสักที่อยู่ในข่ายการคัดเลือกทุกแห่ง จนในที่สุด สามารถพบไม้สักสำคัญทั้ง 6 ต้นตามกำหนด จากป่าภาคเหนือรวม 3 แห่ง ในท้องที่อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ที่ยังคงสามารถรักษามรดกธรรมชาติของท้องถิ่นไว้สืบต่อมรดกวัฒนธรรมของชาติโดยรวม นอกจากนี้ยังมีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดแพร่ ธนารักษ์พื้นที่แพร่ แขวงการทางแพร่ กรมทางหลวง ให้ความอนุเคราะห์มอบไม้ให้กรุงเทพมหานครรับไปดำเนินงานทั้ง 6 ต้น
Create Date : 07 กันยายน 2550 | | |
Last Update : 7 กันยายน 2550 9:11:25 น. |
Counter : 7248 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
12 August 2007
วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหา 07
เหนื่อยๆๆๆ กับการทำงาน ดูสิ คนอื่นเค้าหยุดกันโครมๆ ไอ้เรานี่ต้องมานั่งทำงานอีก เสียไซเรนดังตลอดเลย ออกไปดูสิ มีเหตุการณ์อะไรหรือเปล่า แต่วันนี้รถติดมาก ไปกินข้าวร้านไหนก็เต็ม ขนาดออกไปกินถึง ถนนอักษะ ยังรอคิวนานกว่า ครึ่งชั่วโมง (หายหิวกันพอดี) กลับมาทางสะพานปิ่นเกล้า รถติดมาก กว่าจะถึง Office ใช้เวลานานพอสมควร
ขึ้นไปดาดฟ้าที่ทำงานดีกว่า ..
Zoom Zoom Zomm ..
หันซ้ายไป 9 นาฬิกา
ทำไมมันเอียงครับเนี้ยย ภูเขาทอง (หรือว่าเพราะฤทธิ์ รีเจนชี่ ไม่รู้ 555)
นับ1 ถึง 10 ถ่ายใหม่ ซูมเข้าไปอีก ดูสิว่ามันจะตรงมั้ย ??
ลงไปทำงานต่อดีกว่า ..
Create Date : 06 กันยายน 2550 | | |
Last Update : 7 กันยายน 2550 9:38:24 น. |
Counter : 428 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|