Obstructive Sleep Apnea Syndrome (OSAS) คือความผิดปกติของการหายใจที่เกิดขึ้นในขณะหลับเกิดจากทางเดินหายใจที่มีการอุดกั้นบางส่วน หรืออุดกั้นอย่างสมบูรณ์ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นพัก ๆ ขณะหลับ ทำให้เกิดการรบกวนต่อระบบการระบายลมหายใจและระบบการนอนหลับ
อัตราการเกิดพบประมาณ 2% ของประชากร พบในเด็กผู้หญิงพอ ๆ กับเด็กผู้ชายจะเห็นได้ว่าการนอนกรนแบบไม่เป็นอันตรายพบได้บ่อยกว่ามากอย่างไรก็ตามแพทย์มีความจำเป็นจะต้องตรวจวินิจฉัยเด็กที่นอนกรนแบบมีอันตรายหรือมีความผิดปกติของการหายใจ และให้การรักษาอย่างทันท่วงทีเนื่องจากหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้เกิดมีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้
เด็กที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการนอนกรนผิดปกติ (OSAS) ได้แก่
มีต่อมทอนซิล และ/หรือ ต่อมอดีนอยด์โต
เด็กที่อ้วนมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน
มีความผิดปกติของโครงสร้างของระบบทางเดินหายใจ เช่น มีกรามเล็ก, มีขนาดทางเดินหายใจแคบกว่าปกติ
มีความผิดปกติของสมองที่ทำให้การคุมการทำงานของกล้ามเนื้อระบบทางเดินหายใจผิดปกติ เช่น Cerebral Palsy
เด็กที่มีกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากสาเหตุต่าง ๆ
เด็กที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม
เด็กที่มีปัญหาโรคปอดเรื้อรัง
อาการที่น่าสงสัยว่าลูกมีปัญหานอนกรนแบบมีอันตราย
มีอาการหายใจติดขัด, หายใจลำบาก หรือหยุดหายใจเป็นพัก ๆ ร่วมกับการนอนกรนนอนกระสับกระส่าย, เหงื่อออกมากเวลานอน, ตื่นนอนกลางดึกบ่อย ๆ
ปัสสาวะรดที่นอนทั้งที่เคยควบคุมได้มาก่อน
อ้าปากหายใจ
มีปัญหาด้านการเรียน, เรียนได้ไม่ดี
มีปัญหาทางพฤติกรรม, สมาธิสั้น, อยู่นิ่งเฉยไม่ได้
ระดับสติปัญญาต่ำกว่าปกติ
ง่วงเหงาหาวนอนมากผิดปกติในเวลากลางวัน
มีความดันโลหิตสูง
สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ //m.bangkokpattayahospital.com/th/newsroom-th/health-articles-th/item/1048-obstructive-sleep-apnea-syndrome-th.html
ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเฟิ่มเติมได้ที่ ศูนย์สมองและระบบประสาท
โรงพยาบาลกรุงเทพพัทยา ดูเว็บไซต์ที่ www.bangkokpattayahospital.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ปรึกษาแพทย์ได้ ที่นี่