พึงพิจารณาธรรมให้เห็นธรรม แต่อย่าเอาธรรมมาตอบสนองความคิดตน

รูปนามนี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป




 

Create Date : 19 มกราคม 2552    
Last Update : 19 มกราคม 2552 3:10:41 น.
Counter : 229 Pageviews.  

ไม่จีรัง



หวีผมเห็นผมร่วง ลองรวบรวมดูจะรู้ว่ามากจนนึกไม่ถึง

โกนหนวดปั๊บเมื่อค่ำ เช้ามาก็เขียวครึ้ม

ตัดเล็บไปเมื่ออาทิตย์ก่อน แป๊บๆ..อ้าวยาวซะแล้ว

ฟันในปากตอนงอกแรกๆเจ็บชะมัด
นึกได้อีกทีก็มีอยู่เหมือนมันอยู่ตรงนั้นมาแสนนานแล้ว

เอารูปถ่ายสมัยเด็กมาดูกับตอนนี้ เค้าน่ะมีเค้า
แต่ถามว่าคนในรูปกับตอนนี้ต่างกันไหม
ทำไมจะมองไม่เห็น

เอาแว่นขยายมาส่องๆขยายผิวหนังตัวเอง
เห็นเซลล์เก่ามันตายพอกเป็นขี้ไคล
แคะหูก็เจอขี้หู

เล็กลงไปในระดับเซลล์ พิจารณาดูจะเห็นเกิดดับมากมายตลอด
ดูน้ำลายในปาก เพิ่งกลืนไปหยกๆ นั่นเกิดมาอีกแล้วก็กลืนลงไปอีก

นี่แค่กายภาพที่พิจารณาเริ่มก็เห็นแล้ว

รูปที่ประกอบเห็นเป็นเราไม่จีรังยั่งยืน นับวันก็เสื่อมไปตามกฏไตรลักษณ์
จะยึดถือจับตรงไหนเป็นตนได้จริง

แยกขาแยกเส้นเอ็น กล้ามเนื้อ เส้นเลือด แยกกระดูกออกมา
แยกๆไป..ไม่มีตัวตนอยู่ตรงไหน นอกจากเราไปเหมาเอาเองว่านี่เรา

กายสังขารนี้แยกไม่เป็นก็ คลิกนี่ซะครับ ดูให้เห็นว่านี่แหละไม่ต่างกับกายเราที่ก็จะไปนอนตรงนั้นกันทุกคน ไม่มีใครหนีพ้น
(อ้อ..ปล.ยังไม่พร้อม อย่าเพิ่งดู)

ของที่ไม่จีรังอย่างนี้จะไปยึดติดอะไรได้

พิจารณาให้เห็นมรณนุสติ และกายานุปัสนาครับ




 

Create Date : 29 มกราคม 2551    
Last Update : 29 มกราคม 2551 1:57:04 น.
Counter : 131 Pageviews.  

ถึงที่สุดก็ไม่มีอะไร





เกิดมาไม่มีชื่อเรียกก็อยู่ไม่ได้ เพราะกฏของโลกต้องมีสมมุติบัญญัติ

กำหนดนะว่าชื่อนี้ ก็ใช้ชื่อนี้แทนตัวจากเกิด
ใช้นานๆก็ติดว่านี่ชื่อเรา

ใครด่าชื่อนี้ เราก็รู้สึก
ใครเรียกชื่อนี้ เราก็ขานรับ

นี่แหละจิตเกาะเกี่ยวเป็นสัญญาเข้าแล้ว
ถามว่าอัตตาอยู่ไหน

มองไม่เห็นแต่ก็ควรจะรู้สึกว่านี่แหละ

อัตตาซ่อนอยู่ในสมมุติบัญญัติภาษา
เป็นตัวเป็นตนก็เพราะคำ

นายแม้น เรียกตั้งแต่เกิด บัดนี้ก็เป็นนายแม้น

จนตายไปก็ยังเผลอเอาไปด้วยว่าข้าคือนายแม้น
ทั้งที่เพิ่งมาตั้งตอนเกิด
ก่อนหน้านั้นใช้อะไรมาก็ไม่รู้

มีแต่ความไม่รู้พาไป

สมมุติบัญญัติ พระพุทธเจ้าท่านสอนว่านั่นหล่ะ รูป นาม

บทนี้พิจารณานามดูเอาว่ามีที่ใดที่จับได้
แม้นามก็ไม่เที่ยง ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

ดงพญาไฟ บัดนี้ชื่อดงพญาเย็น
แล้วบัดนี้ ดงพญาไฟอยู่ที่ไหน

นายแม้นอยู่ที่ไหน
มีใครเอาติดไปด้วยหรือเปล่า
ยึดเป็นนายแม้นจนหลังตาย
<<<<<<<............

เจริญในธรรมนะครับ











 

Create Date : 28 มกราคม 2551    
Last Update : 29 มกราคม 2551 1:24:50 น.
Counter : 171 Pageviews.  

วิธิฝึกอาปานสติ ที่ปูพื้นฐานในเรื่องการใช้สติกำกับลมหายใจ





เป็นวิธีปฏิบัติที่ได้ลองกับตนเอง ฝึกกับตนเอง
และขอยืนยันว่าเป็นวิธีปูพื้นฐานให้กับการฝึกสมาธิได้ดีวิธีหนึ่ง(เพราะมีอีกหลายวิธี)

โดยเฉพาะเมื่อมาปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐานสี่ ผมรู้สึกว่าราบรื่นดี
คราวนั้น ได้อ่านครั้งเดียวแล้วจำในสมอง และก็ปฏิบัติมาตลอด
ว่าจะหาเนื้อความเต็มๆมาเล่าก็ไม่มีเก็บ
เล่าเองก็ไม่เหมาะ ของเดิมดีอยู่แล้ว

วันนี้ไปเจอมาครับ แวะไปกระทู้คุณบุษกรจันทร์เรื่อง ขณิกสมาธิ มา
เจอคุณฤทธีโพสต์ไว้พอดีครบเนื้อความ

เลยถือโอกาสเก็บมาบันทึก เผื่อท่านอื่นๆสนใจจะฝึกบ้าง

>>>>>........

0) เจริญอานาปานสติแล้วอย่างไร ทำให้มากแล้วอย่างไร
จึงบำเพ็ญสติปัฏฐาน ๔ ให้บริบูรณ์ได้

หายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า หายใจออกยาว
หรือเมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ชัดว่า หายใจเข้ายาว
เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า หายใจออกสั้น
หรือเมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า หายใจเข้าสั้น

ฯลฯ

1) นับช้าดังคนนับตวงเข้าเปลือก

ให้นับว่าลมออก ๑ ลมเข้า ๑ ลมออก ๒ ลมเข้า ๒ ๓ ๓| ๔ ๔| ๕ ๕| เปนปัญจกะ ฯ
ลมออก ๑ ลมเข้า ๑, ๒ ๒| ๓ ๓| ๔ ๔| ๕ ๕| ๖ ๖| เปนฉกะฯ
๑ ๑| ๒ ๒| ๓ ๓| ๔ ๔| ๕ ๕| ๖ ๖| ๗ ๗| เปนสัตตกะ ฯ
๑ ๑| ๒ ๒| ๓ ๓| ๔ ๔| ๕ ๕| ๖ ๖| ๗ ๗| ๘ ๘| เปนอัฐกะ ฯ
๑ ๑| ๒ ๒| ๓ ๓| ๔ ๔| ๕ ๕| ๖ ๖| ๗ ๗| ๘ ๘| ๙ ๙| เปนนวกะ ฯ
๑ ๑| ๒ ๒| ๓ ๓| ๔ ๔| ๕ ๕| ๖ ๖| ๗ ๗| ๘ ๘| ๙ ๙| ๑๐ ๑๐| เปนทสกะ ฯ

2) เมื่อพระโยคาพจรกำหนดนับซึ่งลมอันเดิมโดยคลองนาสิก
ด้วยประการดังนี้ ลมอัสสาสปัสสาสอันออกแลเข้านั้น
ก็ปรากฎแก่พระโยคาพจรนั้น เมื่อลมอัสสาสปัสสาสปรากฎแล้ว
ให้พระโยคาพจรละเสียซึ่งนับช้า

3) นับเร็วเข้าดังนายโคบาลอันนับโคนั้น

ลำดับนั้นพระโยคาพจรอย่าได้เอาสติตามลม
อันเข้าไปภายในแลออกมาภายนอกเลย
คอยกำหนดเอาซึ่งลมอันมาถึงทวาร
คือ มากระทบซึ่งปลายนาสิกแลริมโอฐเบื้องบนนั้น
พึงนับให้เร็วเข้า ................

ว่า ๑, ๒, ๓, ๔, ๕,
ว่า ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖,
ว่า ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖, ๗,
ว่า ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖, ๗, ๘
ว่า ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖, ๗, ๘, ๙
ว่า ๑, ๒, ๓, ๔, ๕, ๖, ๗, ๘, ๙, ๑๐

4) พระอานาปานสติกรรมฐานนี้เนื่องไปด้วยสติอันนับ เมื่อนับไปโดยนิยมดังนี้
จิตร์แห่งพระโยคาพจรนั้นก็ถึงซึ่งเลิศเปนหนึ่งด้วยกำลังอันนับประดุจ
เรืออันหยุดอยู่ในกระแสน้ำอันเชี่ยวด้วยกำลังถ่ออันบุคคลค้ำไว้นั้น
ฯลฯ

<<<<<<<............


เจริญในธรรมนะครับ


 





 

Create Date : 24 มกราคม 2551    
Last Update : 29 มกราคม 2551 1:25:17 น.
Counter : 137 Pageviews.  


ว่าไปตามนั้น
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ว่าไปตามนั้น's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.