Group Blog
 
All blogs
 

ประสบการณ์ยากจะลืมเลือน...MCA

MCA = Motorcycle Accident
บล็อกนี้เขียนไว้เพื่อบันทึกประสบการณ์ที่คงยากจะลืม
ขณะที่กำลังมีความสุขกับการจะไปเที่ยวกรุงเทพ ทิ้งงานการไว้ข้างหลัง ปรากฏว่าก่อนเดินทาง 1 วันมีเหตุการณ์ที่ทำให้ความสุขลดลงอย่างฮวบฮาบ

13.00 น. 10/7/2551 ขี่มอเตอร์ไซค์จะไปเบิกเงินเตรียมตัวไปเที่ยว เห็นอยู่ว่ามีมอเตอร์ไซค์ที่สวนมาจอดรอเลี้ยวผ่านหน้าเรา เค้าหันซ้ายหันขวา แต่พอเราขี่ไปถึง เค้ากลับโผล่ออกมา หลังจากนั้นความทรงจำหายไปช่วงนึง ก็ไม่รู้ว่าชนเข้าตรงไหน ล้มท่าไหน รู้อีกทีก็กลิ้งอยู่บนถนนแล้ว มีคนจอดรถมาช่วย แล้วเค้าก็บอกว่าคนที่ชนกับเราหนีไปแล้ว จะตามไม๊ เราก็คิดอะไรไม่ออกไม่ได้คิดจะเอาเรื่องใคร ก็เลยบอกไปว่าไม่ต้องตาม ถนนร้อนมาก สิ่งแรกที่ตามหาคือ รองเท้าที่ระเห็จไปอยู่ในคูน้ำ เราก็ไม่ได้รอตำรวจมาที่เกิดเหตุ โทรเรียกเพื่อนมารับไปโรงพยาบาล(ที่ตัวเองทำงานอยู่)

ถึงโรงพยาบาล ตัวเองก็เข้าห้องฉุกเฉิน ทำแผลที่กระจัดกระจายทั่วตัว ตั้งแต่ที่หน้า บริเวณหางตาขวา 1 แผล ใต้จมูก-เหนือปาก 1 แผล(ไม่รู้ว่าโดนได้ยังไง) ที่แขน-ขา ทั้งซ้าย-ขวา ข้างขวาเป็นหนักกว่าข้างซ้าย รอยฟกช้ำที่สะโพกและต้นขาขวา พร้อมอาการปวดเมื่อยทั้งตัว เจ็บหน้าอกและข้อมือ

ส่วนเพื่อนก็ไปแจ้งความ คนเห็นเหตุการณ์จำทะเบียนรถได้ไม่ครบ ขาดตัวอักษร ตำรวจบอกทำอะไรไม่ได้ ลักษณะว่าเราจะต้องแจ้งความว่าเราล้มเอง เพื่อนโมโหมาก สุดท้ายกลับมาโดยไม่ได้แจ้งความ ตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนว่าทำไมถึงแจ้งความตามความเป็นจริงไม่ได้

วันต่อมาก็เดินทางโดยรถไฟไปกรุงเทพ(นับว่าบ้ามากที่ยังไป) อยู่กรุงเทพ 8 วัน ออกจากคอนโดไปเที่ยว 2 วันติดกัน(15,16 ก.ค.) วันแรกไปเยาวราช วันหลังไปจตุจักร ดีหน่อยที่วันที่ 18 ก.ค. พี่สาวมารับไปอยู่ที่บ้าน เตรียมส่งขึ้นรถไฟวันต่อมาเลยได้แวะเที่ยวฟิวเจอร์นิดหน่อยด้วย

หลังกลับจากกรุงเทพจนถึงวันนี้ยังไม่ได้แจ้งความเลย คงไม่มีใครชอบไปโรงพัก ยิ่งมีประสบการณ์ไม่น่าประทับใจด้วยแล้ว เข้าใจเลยว่าทำไมเงินที่ใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วย พ.ร.บ.ถึงเหลือเยอะ ก็เพราะแจ้งความมันยุ่งยากแบบนี้นะซิ จ่ายเงินค่ารักษาเองเลยง่ายกว่า

จากประสบการณ์ครั้งนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าเกิดอุบัติเหตุแล้วต้องแจ้งความต้อง
1.จะเป็นจะตายก็รอตำรวจไปที่เกิดเหตุโดยห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของใดๆ
2.ถ้ายังพอมีกำลังให้ลุกขึ้นมาจับคู่กรณีไว้อย่าให้หนีไปไหน
3.หากทำ 2 ข้อแรกไม่ได้ ก็ทำใจแจ้งความเท็จไปว่าเราโม่ ล้มเองละกัน
ซึ่งตัวเองคงจะต้องทำตามข้อ 3 ในไม่กี่วันนี้แหละ

ตอนนี้แผลเริ่มหายแล้ว เหลือรอยแดงๆที่คงต้องรออีกพักใหญ่ถึงจะจาง ที่แย่กว่าคือยังมีเจ็บหน้าอก กับข้อมืออยู่ ถามผู้มีประสบการณ์ เค้าแนะนำให้กินยาลูกกลอนสมุนไพรจีน เลยลองดู กินได้ 2 วันละ ท่าทางจะใช้ได้ผลแฮะ

จากเหตุการณ์ไม่ได้ทำให้กลัวการขี่มอเตอร์ไซค์ เพียงแต่สำนึกได้ว่าควรใช้เท่าที่จำเป็น เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุมันเจ็บจริงๆ บางครั้งเราปฏิบัติถูกต้องทุกอย่าง คนอื่นผิด แต่ใครผิดใครถูกยังไงก็เจ็บ ก่อนนี้ซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปกินข้าวเย็นในตลาดแทบทุกวัน ขนาดช่วงที่มีระเบิดในตลาดยังไปเลย ตอนนี้ทำกับข้าวจากบ้าน มาอุ่นกิน(ที่บ้านพัก ร.พ.)สบายใจดี ปลอดภัยจากหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง


ปล.ความไม่ประทับใจจากการไปโรงพัก ไม่ได้แลดงว่าตำรวจไม่ดี ไม่ว่าอาชีพไหนก็มีทั้งคนดีและไม่ดี แล้วแต่ว่าเราไปพบเจอกับคนแบบไหน ก็ขอให้ตำรวจดีๆ ตั้งใจทำความดีกันต่อไป...




 

Create Date : 27 กรกฎาคม 2551    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 16:55:27 น.
Counter : 517 Pageviews.  

Shopping หนังสือที่ Kinokuniya

สัปดาห์ที่ผ่านมาหนีจากความสงบ(+สงัด) ไปสู่ความวุ่นวาย อึกทึกในกรุงเทพมาจ๊ะ มีประชุมวิชาการอันแสนจะหนักหนาสาหัส ประชุม 8.30-17.00 น. 5 วัน ทำเอาแทบไม่ได้ออกนอกเส้นทางไปเที่ยวที่ไหน แต่ด้วยความที่ว่า การเดินทางไปประชุมอาศัยรถไฟฟ้า เลยแวะเที่ยวข้างทางเล็กน้อย ที่ที่ไปคือ Kinokuniya ใน Central World ทำไมไม่เป็นที่ Siam Paragon นะเหรอ ก็เป็นเพราะว่า เคยไปครั้งนึงแล้วหาโซนหนังสือที่ต้องการไม่ได้เลย แล้วถ้าไปคนเดียวคงหาร้านไม่เจอด้วย อีกอย่างวันเสาร์ก่อนที่จะเริ่มประชุมก็ไปสำรวจมาแล้วรอบนึง แต่ไปตอนห้างใกล้ปิด ดูหนังสือยังไม่จุใจ เลยต้องไปซ้ำอีกซักรอบ ไม่ผิดหวังกับการมากรุงเทพครั้งนี้ เพราะได้หนังสืองานฝีมือญี่ปุ่นมา 6 เล่ม ทำไมถึงซื้อเยอะจัง ก็เป็นเพราะว่าราคามันไม่แพงเมื่อเทียบกับที่เคยซื้อ หนังสือเล่มเดียวกัน แต่ก่อนซื้อ 570 บาท มาเจอที่นี่ 375 บาท คิดแล้วมันเศร้า เล่มราคา 420 เยน ที่นี่ขาย 175 บาท หลังจากที่มีหนังสืองานฝีมือญี่ปุ่นอยู่ 8-9 เล่ม(ซื้อทีละ/ปีละ 1-2 เล่ม) เคยคิดว่าจะไม่ซื้อเพิ่มแล้ว เพราะว่าเราสามารถหาหลายๆอย่างได้จากเน็ต แต่จริงๆแล้วก็ชอบเก็บเป็นหนังสือมากกว่าอยู่ดี คราวนี้เลยตบะแตกซื้อไป 6 เล่มทีเดียว หนังสืองานฝีมือที่นี่มีเยอะจริงๆ นี่ดีนะที่ไม่ได้สนใจงานคริสตัล ไม่งั้นคงได้มาอีกหลายเล่ม
อีกอย่างที่ประทับใจ คือ พนักงานห่อปกหนังสือ วันแรกที่ไปซื้อหนังสืองานฝีมือ 4 เล่ม กับ พ็อกเก็ตบุ๊ค 2 เล่ม แต่เค้าไม่ได้ห่อปกให้(คงเพราะร้านจะปิดแล้ว) พอวันหลังไปซื้ออีก 2 เล่ม แล้วเค้าบอกว่าจะห่อปกให้ ตอนเค้าห่อปกเลยถามเค้าว่า วันก่อนมาซื้อไม่เห็นห่อปกให้เลย เค้าถามคำเดียวว่ากี่เล่ม ขนาดไหน แล้วเค้าก็ให้ปกมาห่อเองที่บ้าน(เสียดายนิดเดียว ดันจำไม่ได้ว่าซื้อพ็อกเก็ตบุ๊คมา 2 เล่ม บอกไปว่าเล่มเดียว เลยได้ปกมาไม่ครบ) สุดแสนประทับใจ..
ว่างๆจะเอาหนังสืองานฝีมือที่มีอยู่มาอวดนะจ๊ะ...




 

Create Date : 13 พฤษภาคม 2551    
Last Update : 27 กรกฎาคม 2551 16:42:42 น.
Counter : 647 Pageviews.  

เสียงนาฬิกาปลุกที่ไม่อยากได้ยิน..

เช้าวันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม 2550 ลืมตาตื่นพร้อมๆกับได้ยินเสียง--ตึม--+แรงสั่นสะเทือนเล็กน้อย ความคิดแวบแรก นี่มันเสียงอะไรหว่า ใช่เสียงระเบิดอย่างที่เคยได้ยินอยู่บ้างไหม(พอดีไม่ได้ยินมาหลายเดือนแล้ว) ลองหันไปดูท้องฟ้าเผื่อจะคิดเชิงบวกว่าเป็นเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่าบ้าง แต่ไม่มีวี่แววที่จะเป็นเสียงจากฟ้าได้เลย

ความคิดต่อมา..เอ.แล้วเราต้องขึ้นไปช่วยที่โรงพยาบาลหรือเปล่านะ(พอดีทำงานอยู่ห้องยา) นอนฟังเสียงรถมอเตอร์ไซค์ว่ามีใครออกรถบ้างก็เงียบ.....ฉี่......ไม่มีสัญญาณเรียก รู้สึกดี ไม่ใช่ว่าดีใจที่ไม่ต้องมาช่วยเค้าหรอกนะ แต่ทำให้รู้ว่าคงมีคนเจ็บไม่มาก คนที่ทำงานอยู่สามารถรับมือไหว สบายใจหน่อยนึง

ถึงเวลาก็เดินมาทำงานกะว่ามาเร็วสักนิด ปกติออกจากบ้านพัก 8.20 น.ก็ทันเวลา วันนี้ออก 8.05 น. เดินมาถึงห้องประชาสัมพันธ์ ได้ยินเสียง--ตึม--อีกครั้ง เหลือบไปมองนาฬิกา 8.10 พอดิบพอดี มันไม่ได้เกินความคาดหมายเลย ก็ 2 วันแล้วที่เค้าเจอระเบิดตั้งเวลา 8.10 น.คิดอยู่ว่ามันต้องมีเหลืออีก เสียงระเบิดครั้งนี้ไม่รู้ว่าเป็นเสียงลูกไหนกันแน่ เพราะมีการระเบิด2-3จุดพร้อมกัน

โรงพยาบาลวุ่นวายเล็กน้อย แต่ดีใจมากที่ไม่มีใครบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิต วันนี้ก็เลยอยู่แต่ในโรงพยาบาลทั้งวัน ต้องทำกับข้าวกินเอง(ปกติอาศัยซื้อเค้ากิน)

เช้าวันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2550 วันนี้ทุกอย่างดูดี มาไม่ดีก็ช่วงบ่ายนี่แหละ มีการซุ่มยิง มีรถอีกคันยังออกมาไม่ได้ ที่โรงพยาบาลต้องเตรียมการเผื่อมีผู้ป่วยหนัก/มีผู้ป่วยจำนวนมาก มีการใช้แผนอุบัติภัยหมู่(ที่เคยได้แต่ซ้อม วันนี้ได้ใช้จริง) วุ่นวายกันไป แต่ก็เป็นโชคดีอีกครั้งที่ไม่มีใครบาดเจ็บรุนแรง/เสียชีวิต ได้ข่าวลือที่ถ้าเป็นจริงคงจะดีไม่น้อยว่า มีชาวบ้านช่วยเหลือกลุ่มที่ถูกลอบยิง เหตุการณ์จึงไม่น่ากลัวอย่างที่คิด วันนี้ต้องอยู่เวรบ่าย หวังว่าจะมีแต่ความสงบสุข สาธุ...




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2550    
Last Update : 2 ตุลาคม 2550 21:32:57 น.
Counter : 355 Pageviews.  

..ลองกองแปรรูป..

ช่วงนี้เห็นข่าวผลไม้ราคาตกต่ำแล้ว สงสารชาวสวนจริงๆ วันก่อนแม่ซื้อมังคุดมา 6 กก.กิโลละ 5 บาท(ราคาที่ขายกันในตลาด)รวมแล้ว 30 บาท ตาก็เหลือบไปเห็นเงาะ ก็เลยถามแม่ด้วยความอยากรู้ว่าเงาะจะแพงกว่ามังคุดรึเปล่า แม่ก็ตอบมาว่าคนขายเค้าแถมให้(ขอโทษ แถมไม่ใช่น้อยๆ ประมาณ 2 กิโลได้) คิดแล้วเศร้า..

หลังจากมังคุด และเงาะที่เจอปัญหาแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มจะมีปัญหากับลองกองบ้าง แต่ที่เขียนเรื่องนี้ เพราะดูข่าวทีวีแล้วรู้สึกตลกดี ตัวเองทำงานอยู่ที่ตันหยงมัสเห็นลองกองที่ส่งไปขายใส่ในกล่องที่มีตัวอักษรว่า"ลองกองตันหยงมัส" เยอะแยะมากมาย ทั้งๆที่ลองกองที่ตันหยงมัสยังไม่สุกเลย ทำให้คิดได้ว่าสงสัยผลไม้ชนิดนี้มีชื่อเล่นเรียกสั้นๆว่า ลองกอง มีชื่อจริงว่า ลองกองตันหยงมัส เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนๆ คนขายก็จะบอกว่าเป็นลองกองตันหยงมัส ไม่เคยมีมาจากที่อื่นเลย

ลองกองเป็นผลไม้ที่อาภัพ ถ้าจะให้อร่อยก็ต้องเก็บตอนสุก ถ้าเก็บตอนสุกก็ร่วง ไม่เป็นช่องามๆ ราคาตก เอาไปแปรรูปก็ไม่ได้(ใครคิดได้ช่วยบอกที) ดังนั้นจึงอยากขอให้ทุกๆคนช่วยกันอุดหนุนชาวสวนกันหน่อยนะคะ เวลาซื้อก็พิจารณาจากรสชาด ความพึงพอใจ อย่าดูกันแต่(กล่อง)ภายนอก จะได้ไม่เสียใจภายหลังว่าโดนหลอก

ส่วนทำไมถึงให้ชื่อหัวข้อว่า"ลองกองแปรรูป"ก็เพราะว่า วันก่อนเข้าไปที่ตลาดตันหยงมัส แล้วเห็นเค้าแพคลองกองของที่อื่น ส่งออกไปขาย แปรรูป กลายเป็นลองกองจากตันหยงมัสนั่นเอง 555...




 

Create Date : 11 สิงหาคม 2550    
Last Update : 11 สิงหาคม 2550 16:28:22 น.
Counter : 593 Pageviews.  


babyaspirin
Location :
นราธิวาส Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add babyaspirin's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.