พฤศจิกา...ธันวา...ฝนมา...หิมะตก...พกพาความหนาวมาอีกแล้ว
ฉันกลับมาดูบล็อกตัวเองอีกที เพิ่งรู้ตัวว่าหายไปนานโขอยู่ ครั้งสุดท้ายที่อัพบล็อกเป็นเรื่องเป็นราวคือปลายตุลา (นี่ฉันหายไปเกือบสองเดือนทีเดียว) ฉันหายไปเนื่องจากหลายเหตุผล หลักๆ เลย ฉันอยู่บ้านนอก แม้จะขึ้นชื่อว่าฝรั่งเศส แต่กลับไม่ได้หรูหราไฮโซพาให้อิจฉาแต่อย่างใด แม้แต่อินเตอร์เนตยังคลาดแคลน ชีวิตบนเรือของฉันยังไม่สามารถนำเทคโนโลยีที่ทุกวันนี้ทุกคนต้องได้มี ได้ใช้ ได้สัมผัสมาใช้บนเรือน้อยเปี่ยมรักได้ จริงๆ แล้วพวกฉันเคยคิดจะติดจานดาวเทียมเพื่อรับสัญญาณอินเตอร์เนต แต่เมื่อดูค่าใช้จ่ายรายเดือนแล้วไม่คุ้ม ราคาไม่ได้สูงจนจ่ายไม่ได้ แต่ปัญหาคือเราไม่สามารถใช้ได้ตามอำเภอใจ เพราะไม่ได้อันลิมิเตดอย่างที่คนที่อาศัยอยู่บนดินใช้กัน ประเด็นนี้จึงตกไป ด้วยเหตุนี้ทำให้ฉันไม่ได้เข้ามาอัพบล็อกเสียนาน แม้ฉันจะออกไปหาสัญญาณนอกเรือเพื่อใช้อินเตอร์เนตซึ่งได้รหัสมาจากเพื่อนสามีได้ แต่อากาศที่หนาวเหน็บ ฝนตกตลอดเวลาเหมือนฟ้าอัดอั้นตันใจที่ไม่ได้ส่งสายน้ำมาชะล้างแผ่นดินลูกหลานชาวโกลัวส์มานาน เลยตกลงมาตลอดเวลาถึงขนาดทำให้น้ำในแม่น้ำเอ่อขึ้นมาเหนือโป๊ะที่ลอยน้ำไม่ได้ จนพวกฉันต้องมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เพราะไม่รู้จะพาตัวเองออกไปนอกเรือยังไง ถ้าก้าวเท้าลงไปก็จะเปียกปอนปลายเท้าที่ไม่ได้บอบบาง แต่น้ำมันเย็นเหลือเกิน จึงต้องรอให้น้ำลงถึงจะออกไปได้





น้ำที่ขึ้นสูงช่วงหน้าหนาวเป็นอีกปัญหานึงของการจอดเรือในแม่น้ำชารองต์ แม่น้ำชารองต์เป็นแม่น้ำที่ต่อมาจากมหาสมุทรแอตแลนติก(คล้ายๆ กับแม่น้ำเจ้าพระยาที่เชื่อมต่อกับอ่าวไทย) พอน้ำทะเลขึ้นสูง น้ำในแม่น้ำก็ขึ้นสูงไปด้วย แม้จะมีฝายกั้นนั้นคอยกันไม่ให้น้ำสูงเกินไปจนท่วมไร่นาฝรั่งก็ตาม แต่ฝายที่ทำจากมือมนุษย์สองมือสองขาก็ห้ามธรรมชาติไม่ได้ น้ำเลยขึ้นๆ ลงๆ ตามกระแสน้ำทะเล ช่วงนั้นฉันก็กังวลอยู่เนืองๆ กลัวว่าตื่นเช้ามาจะไปโผล่กลางสวนสาธารณะเพราะน้ำขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้กังวล สิ่งที่พวกฉันเห็นเป็นประจำคือเมื่อตื่นเช้ามา(จะว่าเช้าก็ไม่ถูก เพราะปาเข้าไปเกือบเที่ยง) พวกเราจะเห็นไอน้ำกับหมอกจางๆ อยู่เหนือผิวน้ำ ฉันมักจะแซวเล่นว่า เราอยู่ท่ามกลางอ่างอาบน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก น้ำอุ่นจนมีควันฉุยลอยเหนือผิวน้ำ ช่างน่าลงไปแช่นัก จริงๆ แล้วน้ำเย็นจัดจนควันขึ้นต่างหากล่ะ


เมื่อช่วงต้นเดือนพวกฉันตื่นขึ้นมาท่ามกลางหิมะขาวโพลน ปกติแล้วแถบนี้ไม่ค่อยมีหิมะตกเท่าไหร่ ปีนึงจะมีสักครั้ง หรือไม่ก็ไม่ตกเลย ถ้าจะตกก็ตกอยู่ไม่กี่ชั่วโมง ตอนหิมะกอากาศไม่ได้หนาวจัดอย่างที่คิด พวกฉันยังออกไปเล่นหิมะกันซะอย่างนั้นแหล่ะ นานๆ ทีจะได้เห็นหิมะตอนอยู่ในน้ำ ฉันเลยออกไปแชะรูปเก็บไว้ ฉันมาดูรูปที่เคยถ่ายเก็บไว้แล้วคิดว่า หลายเดือนที่อยู่ในเรือกลางแม่น้ำพวกฉันเจอกับสภาพอากาศทุกประเภท ร้อน ฝน หนาว หิมะ...คิดอีกทีก็ตลกดี ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมาใช้ชีวิตแบบนี้ จะว่าไปก็มีทั้งอึดอัด หดหู่ สุขใจไปอีกแบบ ที่อึดอัดคง หดหู่ต้องบอกว่า ฉันมีความจำเป็นต้องอาบน้ำ สระผม 3 วันครั้ง อาจจะเป็นเรื่องปกติของใครหลายคน แต่คนชอบอาบน้ำเป็นชีวิตจิตใจอย่างฉันทนไม่ได้ ห้องน้ำในเรือยังไม่เสร็จ ฉันเลยต้องใช้วิธีต้มน้ำใส่กะละมังแล้วเช็ดๆ ถูๆ เอา พยายามไม่ให้น้ำหกถูกพื้นมากนัก เดี๋ยวน้ำจะท่วมเรือ ส่วนการสระผมคือช่วงที่ทรมานที่สุด ฉันต้องใช้สายยางต่อมาที่อ่างล้างจานแล้วก้มหัวลงไปพร้อมเจอกับน้ำเย็นเฉียบ เท่านั้นไม่พอ ไอ้ผมที่ยาวเฝื้อยจนจะถึงก้นฉันไม่ได้ช่วยให้อะไรง่ายขึ้นเลย ทั้งอาบน้ำและสระผมฉันใช้เวลาทั้งหมดชั่วโมงครึ่ง ฉันเลยต้องทำแบบนี้สามวันครั้ง ไม่อย่างนั้นวันๆ คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี

ปล. จะพร่ามถึงชีวิตเกือบสองเดือนในบล็อกเดียวดูจะยาวไปนิด ฉันเลยต้องแบ่งไปบล็อกหน้า




Create Date : 19 ธันวาคม 2553
Last Update : 19 ธันวาคม 2553 20:36:26 น.
Counter : 403 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Tibou
Location :
Phisanulok  France

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เด็กอ้วนถือกำเนิดกลางตลาดเมืองสองแคว เมื่อ 31 ปีที่แล้ว จากนั้นก็ชีพจรลงเท้าไปเรียนประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ด้วยแรงบันดาลใจอะไรสักอย่างชีพจรก็พาสองเท้าเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังเมืองน้ำหอมพร้อมกับความตั้งใจที่จะพูดภาษาฝรั่ีงเศสที่ใฝ่ฝันอยากเรียนสมัยมัธยมให้ได้ แล้วอุบัติรักกับหนุ่มเมืองน้ำหอม(สามีสุดเลิฟ)ก็เกิดขึ้น ปัจจุบันย้ายกลับมาอยู่ฝรั่งเศสอีกครั้งพร้อมทำหน้าที่แม่บ้าน กรรมกร(บนเรือ)กับสามีอันเป็นที่รัก พร้อมกับพยายามสานฝันอาชีพนักแปลให้สำเร็จ เพื่อให้นักอ่านบ้านเราได้มีโอกาสสัมผัสวรรณกรรมฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น สองคนผัวเมียตั้งฝันเดินทางรอบโลกด้วยเรือลำน้อยของเราในอีกสามปีข้างหน้า จุดหมายไปทางยังไม่ระบุ ที่แน่ๆขั้วโลกอยู่นอกเส้นทาง