Lilypie - Personal pictureLilypie Fourth Birthday tickersLilypie - Personal pictureLilypie Second Birthday tickersDaisypath Anniversary tickers

Group Blog
 
All blogs
 
เที่ยวหัวหิน 7-10 มีนาคม 2554

หลังจากที่ได้ไปซื้อแพ็คเก็จที่งานไทยเที่ยวไทย ก็ได้ทริปไปเที่ยวหัวหินอีกรอบ ติ๊กตั้งใจกลับไปพักที่โรงแรมชมวิวอีกเพราะชอบวิวทะเลและใกล้ชายหาด และเราก็รู้สึกเป็นกันเองที่นี่

การเดินทางก็ราบรื่นไม่มีฝนตกเลย





ภาพสาวน้อยกับหน้าทะเล้นดีใจได้มาทะเล



มาคราวนี้เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้เคที่เยอะเลยเพราะรู้ว่าต้องใช้เสื้อผ้าเปลืองแน่ๆ แถมได้ซื้อชุดว่ายน้ำใหม่ให้เคที่ด้วย คราวนี้เคที่อายุ 3.6 ขวบพี่ๆที่โรงแรมยังจำหนูได้ดีตอนที่หนูมาเที่ยวเมื่อปีที่แล้ว




พอมาถึงก็เล่นน้ำทะเลกันเลย บางทีการได้มารำลึกความหลังก็ทำให้เราไม่ลืมว่าเราเคยมีความสุขแค่ไหนกับการมีเวลาให้กัน

ลูกคืแก้วตาดวงใจ การมาเที่ยวคราวนี้ยังไม่ได้พาเฟลิมาด้วยแต่คราวหน้าต้องพาลูกมาให้ได้




มาคราวนี้ได้กล้องใหม่ทำให้ภาพสวยมากกว่าเดิมมาก คราวนี้เคที่ไม่กลัวน้ำแล้วเล่นอย่างสนุกสนาน บางทีเล่นน้ำมากเกินไปกลัวจะไม่สบายเอา



มาคราวนี้โชคดีมากๆที่ครึ้มฟ้าครึ้มฝนอยู่ตลอดทำให้อากาศไม่ร้อนจนเกินไป

ได้ใช้เวลาเล่นกับลูกอย่างเต็มที่เล่นตักทรายกัน เล่นน้ำทะเลกัน เดินเล่นกัน

แล้วระหว่างที่เล่นก็มีคนมาขอถ่ายรูปเคที่ เคที่ก็ยิ้มอย่างเต็มใจ แถมไปเดินเล่นที่เพลินวานก็มีคนขอถ่ายรูปด้วย ขนาดไม่ใช่ดารานะนี่อิอิ



ครอบครัวของเราไม่ค่อยมีอะไรเป็นพิเศษ เรียกว่าเรียบง่ายมากๆ แต่เราก็มีความสุขในแบบของเรา




ด้วยความที่ติ๊กเป็นคนขี้อายพอมีคนมาทักเคที่ก็ทำให้เราเป็นคนกล้าสู้หน้าคนมากขึ้น



การได้ปลีกวิเวกมาหาความสงบบ้างก็ดีทำให้เรามีเวลาได้คุยกันมากขึ้น

สามีชอบน้อบใจเราก็ชอบน้อยใจว่าเราไม่ค่อยคุยกัน เพราะติ๊กก็จะใช้เวลา

ส่วนมากกับลูกส่วนเค้าก็ทำอะไรเป็นกิจวัติ อย่างตอนเย็นสามีจะต้องได้ดื่ม

เบียร์ ติ๊กก้ต้องพาลูกออกไปขี่จักรยานเรา ก็ไม่ได้คุยกันตกเย็นก็เข้านอน 2

ทุ่มตรงเวลา ติ๊กก็นอนดึกเราไม่ค่อยทำกิจกรรมด้วยกันเหมือนแต่ก่อนเพราะ

เค้าก็ไม่ค่อยชอบออกไปไหน ซึ่งมันต่างกันตรงนี้ติ๊กก็พึ่งเข้าใจว่าที่เราอายุ

ต่างกัน แต่ก็ไม่เข้าใจสามีที่เปลี่ยนไป แต่ก็ไม่รู้ใครที่เปลี่ยนไป ติ๊กหรือเค้า

แต่ติ๊กไปเคยคิดว่าจะต้องเป้นปัญหาใหญ่เพราะก็รู้ว่าไม่มีใครเพอร์เฟค อย่าง

น้อยเราก็ยังได้ทำความเข้าใจกันและปรับเข้าหากัน ไม่มีอะไรทำให้ติ๊ก

เปลี่ยนใจแน่นอน แต่ติ๊กเคยบอกสามีว่า ชั้นให้สัญญาชั้นจะไม่เป็นฝ่ายทิ้ง

เธอ แต่ถ้าเธอไม่มีความสุขที่อยู่กับชั้น ชั้นก็ไม่ฝืนเธอ แต่ก็คงเพราะรักถึงจะ

มีความแตกต่างแต่เราก็ผ่านมันมาได้ตั้ง 7 ปีแล้ว




บางทีสามีก็ขี้ใจน้อย เพราะเหมือนเค้าต้องการให้เราอยู่ด้วยตลอดเวลาทั้งๆ

ที่เราก็ต้องดูแลลูก จนมีหลายทีติ๊กอยากให้เค้าพาเราไปอยู่อังกฤษเพราะ

อย่างน้อยเค้าจะได้มี กลุ่มเพื่อนของเค้าหรืออะไรกิจกรรมอะไรที่ไม่ต้องผูก

ติดกับเราตลอดเวลา ติ๊กยอมที่จะมีชีวิตยุ่งยากเพื่อเค้าแต่เค้าก็ยืนยันที่จะอยู่

เมืองไทย ก็คงต้องรอดูต่อไปปัญหามีไว้ให้แก้เน๊อะ ก็คิดว่าเคที่เข้า รร เฟล

เข้า รร เราจะมีเวลาให้กันมากขึ้น ขนาดไม่ได้ทำงานทำการยัง ไม่เคยแยก

จากกันเลยยังเป็นถึงขนาดนี้ คนอื่นเค้าไม่เจอกันเป็นปีๆเค้าก็อยู่กันได้




มาเที่ยวคราวนี้มีเพลินวานที่ถ่ายรูปสุกฮิป วันรุ่นเพียบเลย เลยจับเคที่แต่งตัว

ให้เข้ากับบรรยากาศซะหน่อย



แต่ยังไงเราก็จะพยายามปรับตัวเพื่อเค้าให้ได้ ติ๊กเป็นคนไม่ดื่ม ไม่สูบ ติ๊ก

ก้เลยไม่เข้าใจเค้า ที่เค้ามีปัญหาสุขภาพ หนักๆเค้าช่วงนี้ ทั้งๆที่เค้าไม่ควรจะ

สูบบุหรี่แล้ว แต่เค้าก็ยังไม่เลิก แถมเหมือนคนอื่นๆก็คิดว่าเราไม่รักสามีถึง

ไม่ทำให้เค้าเลิก เราพยายามจนไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ได้แต่ทำใจว่าอะไรจะ

เกิดก็ต้องเกิด




ทั้งๆที่เราก็รู้ว่าเราคงมีเวลาอยู่ด้วยกันไม่เกิน 20 ปีแต่ถ้าเค้ายังสูบหนักกว่านี้

เวลามันก็คงสั้นลง ทั้งที่เค้ารู้ทั้งรู้เค้าก็ไม่ยอมเลิก สงสารลูกจัง ที่เค้าอาจจะ

ไม่ได้มีพ่อ ในยามที่เค้าเข้าสู่วัยสาว เพราะถ้าเค้าไม่ดูแลตัวเองก็อาจจะเกิด

อาการกล้ามเนื้อหัวใจตายซักวัน ซึ่งเค้าก็รู้แต่ก็ไม่พยายามที่จะทำอะไร เรา

ก็โกรธตัวเองที่ต้องมองคนที่เรารัก มีโรคแบบนี้และเราก็ช่วยอะไรเค้าไม่ได้

เพราะเค้าอาจจะรักบุหรี่มากกว่าเรา




เค้าคงไม่รักเรามากพอที่จะตัดขาดจากเพื่อนของเค้านั่นคือบุหรี่ สงสารก็แต่

ลูกที่ พ่อเค้าไม่คิดถึงพวกหนูเลย ทุกวันนี้เหมือนเค้าไม่มีกำลังใจจะทำอะไร

เลย ไม่อยากออกไปไหนหรือทำกิจกรรมอะไร เอาแต่สูบบุหรี่



ในชีวิตเราช่างน่าสมเพศ ต้องคอยแต่ทุกข์กับคนอื่น ทั้งๆที่เราไม่เคยทำให้

ใครต้องมาทุกข์เพราะเราเลย จะว่าไปไม่มีใครสนใจใยดีด้วยซ้ำ ว่าจะมีชีวิต

ยังไง รู้สึกยังไง แต่เราต้องคอยแคร์ทุกคนรอบข้างว่าเค้าจะมีความสุขมั้ย

แต่ไม่เคยมีใครถามเรา ว่าเรามีความสุขมั้ย เพราะเราไม่เคยทำตัวให้เป็น

ปัญหาของใคร ไม่เคยทำให้พ่อแม่มีปัญหาเค้าก็เลยยิ่งได้ใจว่าเราอยู่ได้ไม่

เคยทุกข์ร้อน แถมมีปัญหาก็แก้เองมาตลอด พอมีสามีเค้าก็ยิ่งไม่สนใจใหญ่

สามีเคยเป็นคนที่ดึงเราขึ้นมาให้เรามีกำลังใจในชีวิตแต่วันนี้เค้า กลับอ่อนแอ

แล้วเราจะเดินต่อไปได้ยังไง ไม่มีกำลังใจจากใครเลย นอกจากลูกที่ยังไม่รู้

ประสีประสา


เราไปเที่ยวกลับมา ก็มาเจอปัญหาเดิมๆที่สามีสูบหนัก แล้วบางวันก็ไม่สบาย

วนเวียนอยู่แบบนี้ ทุกข์ใจแต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง



คงต้องพยายามกันต่อไป แต่เค้าเป็นคนผลักไสติ๊กให้ออกห่าง ทั้งๆที่เคยคิด

ว่าเค้ารักเรามากแต่ตอนนี้รู้สึกเค้ารักบุหรี่มากกว่าเรา และลูก เค้ากลายเป็น

คนขี้หงุดหงิดและตีตัวออกห่างจากสังคมมากขึ้น อยากให้มีแต่เค้ากับเรา



ทุกวันนี้พยายามที่สุด แต่ไม่รู้ที่จะทำยังไง คงต้องอยู่แบบสุขทุกข์ไปตาม

ประสา





ทุกวันนี้ก็พยายามที่จะไม่แสดงให้ลูกเห็นว่าเราทุกข์ เพราะเด็กเค้ารับรู้ได้เร็ว

อยากให้สามีกลับมาเป็นคนที่เข้มแข็งเหมือนเมื่อก่อน แถมเราก็ไม่มีกำลังใจ

ก็ไม่รู้จะเอาจากไหนมาให้เค้า พยายามทำทุกวันให้ดีที่สุกแต่มันเหนื่อยจังที่

ต้องเห็นคนที่เรารักทำร้ายตัวเองทุกวันและเราดูก็รู้ว่าเค้าไม่มีความสุขแต่ก็

ช่วยอะไรไม่ได้






Create Date : 12 มีนาคม 2554
Last Update : 14 มีนาคม 2554 23:18:13 น. 0 comments
Counter : 720 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

katie-thanika
Location :
นนทบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่อยากแบ่งปันเรื่องราวชีวิตตัวเองและครอบครัว

Friends' blogs
[Add katie-thanika's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.