The Night of Museums

The Night of Museums (ราตรีพิพิธภัณฑ์)


     คืนวันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 คุณทำอะไรอยู่

     คืนวันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ประชาชนนับล้านทั่วยุโรปไปพิพิธภัณฑ์ใกล้บ้านของตน ไม่ว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนั้นจะจัดแสดงผลงานประเภทใด ศิลปะร่วมสมัย ศิลปะสมัยใหม่ ศิลปะยุคเก่า ภาพวาด งานปั้น งานติดตั้ง ศิลปะประยุกต์ ภาพถ่าย วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์พื้นบ้าน ประวัติศาสตร์ประจำเมือง หรือทางการทหาร จนถึงพิพิธภัณฑ์ด้านอุตสาหกรรม

     เพราะคืนนี้ คือ ราตรีพิพิธภัณฑ์ (The Night of Museums ในภาษาอังกฤษ La Nuit des musées ในภาษาฝรั่งเศส La Notte dei musei ในภาษาอิตาลี Die Nacht der Museen ในภาษาเยอรมัน La Noche de los museos ในภาษาสเปน) คืนพิเศษที่มี พิพิธภัณฑ์เปิดให้ประชาชนเข้าชมจนดึกดื่นหลังเที่ยงคืนและจัดกิจกรรมพิเศษมากมายรวมกว่า 1,600 แห่ง

     (850 แห่ง ทั่วประเทศฝรั่งเศสกับดินแดนโพ้นทะเลฝรั่งเศส และ 810 แห่งใน 18 ประเทศทั่วยุโรป ได้แก่ อิตาลี เบลเยี่ยม ลัตเนีย เยอรมัน โปแลนด์ สหภาพอังกฤษ ลิทูเนีย สเปน อัลเบเนีย ออสเตรีย ไซปรัส เอสโทเนีย ฟินแลนด์ ฮังการี ไอซ์แลนด์ ตุรกี สวิสเซอรแลนด์และรัสเซีย)

     ราตรีพิพิธภัณฑ์ในคืนนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง ต่อเนื่องจากโครงการฤดูใบไม้ผลิแห่งพิพิธภัณฑ์ (Printemps des musées) เมื่อปีที่แล้ว ที่ริเริ่มโดยกระทรวงวัฒนธรรมแห่งประเทศฝรั่งเศส โดยมีพิพิธภัณฑ์ 1250 แห่งใน 12 ประเทศ เข้าร่วมโครงการ

     เป้าหมายหลักของงานที่มีร่วมกันในปีนี้ คือ ผู้ชมรุ่นเยาว์ พยายามดึงดูดให้ผู้ชมกลุ่มนี้มาทำความรู้จัก สร้างความคุ้นเคยกับสถานที่ เปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ที่จริงจังน่าเบื่อของพิพิธภัณฑ์ให้น่าสนใจและน่าเข้าชม รวมทั้งแสดงศักยภาพในการรับหน้าที่เป็นศูนย์การศึกษาและความบันเทิง นอกจากจะเป็นแหล่งเก็บรักษาและการค้นคว้าวิจัยในด้านต่างๆ ที่หลากหลาย เพื่อเป็นการเปิดประตูสู่ผู้ชมโดยทั่วไป บ่งบอกถึงความเต็มใจจะพบปะกับประชาชน

     คืนพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงปีละคืนเดียวเช่นนี้ นอกจากนิทรรศการที่จัดแสดงถาวรและนิทรรศการพิเศษเฉพาะกิจที่ประชาชนจะได้เข้าชมในบรรยากาศยามค่ำคืนแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนแล้ว พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ยังตกแต่งสถานที่ด้วยแสงไฟ ทั้งจากไฟฟ้า ไฟตะเกียง ไฟเทียนไข ฉายภาพลงบนผนังตึก บางแห่งอาศัยความขลังและขรึมของสถานที่จัดแต่งบรรยากาศ เช่น ในสุสานสมัยโรมัน ในสวนตามปราสาทต่างๆ

     แต่ละที่แต่ละแห่งต่างคิดค้นกิจกรรมที่เข้ากับสถานที่และปูมประวัติของตน ใหญ่บ้างเล็กบ้างตามสมควร แคว้นอัลซัคทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสจัดมหกรรมงานออกร้าน ท่ามกลางแสงสีตระการตา มีเครื่องเล่นกลางแจ้งที่สืบทอดมานับร้อยปี และซุ้มบันเทิงต่างๆ มากมายเหมือนดังในอดีต ที่ฟงแตนเบลอซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์จัดนำเดินฟังนิทานและฟังเพลง หรือจะไปดูดาวในป่าสงวนแห่งชาติที่เมืองบริแอร์ ในสวนที่ซึ่งฟ้าเปิด ปราศจากหมอกควันและแสงไฟฟ้าในเมืองมารบกวน

     บรรดาเมืองที่เคยผ่านประวัติศาสตร์สำคัญต่างจัดบรรยากาศให้เป็นตามยุคเด่นๆ ของตน ตั้งแต่ ยุคหิน (ไปดูวิธีมิซซาสมัยก่อนประวัติศาสตร์) บาร็อค (เชิญชมดนตรีที่ Bar Rock) จนถึงสมัยจักรพรรดินโปเลียน (แม่ทัพของท่านจักรพรรดิออกมาต้อนรับ พร้อมไพร่พล)

     สำหรับพิพิธภัณฑ์การขนส่งที่เมืองตูลูสจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการส่งไปรษณีย์ทางอากาศในทวีปอเมริกาใต้ โดยโยงเรื่องราวจากหนังสือเรื่อง “เที่ยวบินกลางคืน” ของ อองตวน เดอ แซงต์ เต็กซูเปรี ผู้เขียนเรื่องเจ้าชายน้อยอันโด่งดัง

     ดึกๆ เดินเล่นกันแล้ว บางพิพิธภัณฑ์บางแห่งยังให้ชิมอาหารซึ่งปรุงจากแรงบันดาลใจของผลงานศิลปะที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ บางที่จัดให้ชิมอาหารยุคกลางประกอบนิทรรศการ และอย่าพลาดไปร่วมงานเลี้ยงเต้นรำใส่หน้ากาก ชมการประดาบของท่านดุ๊กแบบในสมัยนั้น

     ในเยอรมัน พิพิธภัณฑ์ก่อนประวัติศาสตร์จัดแสดงและสาธิตวิถีชีวิตของมนุษย์ถ้ำ ประดับสถานที่ด้วยไฟจากคบไฟแบบในสมัยโบราณ ที่สวิสเซอร์แลนด์เลื่อนเวลาใกล้เข้ามาอีกหน่อย หยุดแค่ยุคกลาง ย้อนไปสนุกสนาน ใช้ชีวิต และสวดมนต์ในละครเวทีที่สะท้อนความเชื่อและศีลธรรมของคนในยุคนั้น หรือจะไปดูการสาธิตการทำงานของโคมไฟวิเศษ และถ้าไม่ชอบอยู่นิ่งๆ สามารถร่วมกิจกรรมแรลลี่พิพิธภัณฑ์ที่จัดกันในหลายประเทศได้

     ที่ประเทศลิตุเนีย นักธรรมชาติวิทยากับนักประวัติศาสตร์จับมือกับนำชมชีวิตของค้างคาวและเล่าเกร็ดในประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง พิพิธภัณฑ์อีกแห่งหนึ่งพาดูเรื่องราวของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจนถึงอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงเหยื่อสังหารหมู่ชาวยิวซึ่งประดับไฟเพื่องานนี้โดยเฉพาะ ที่โรมาเนีย สาธิตวิธีการใช้ต้นไม้มหัศจรรย์ที่ใช้ในพิธีกรรมต่างๆ

     ที่โปรตุเกศ ย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1863 เปิดปราสาทอองจา-ปาลเมลา ซึ่งปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์เครื่องแต่งกาย ณ กรุงลิสบอน์ จัดงานแสดงดนตรีและละครเวทีต้อนรับผู้เข้าชม ในโปแลนด์จัดฉายภาพยนตร์แสดงสภาพเมืองหลวงก่อนที่จะถูกสงครามโลกถล่มจนย่อยยับในช่วงปี 1939-1945 (ใครดูหนังเรื่อง The pianist คงจะจำได้) หรือชอบเรื่องทันสมัยขึ้นมาหน่อย พิพิธภัณฑ์อาชญากรรมที่ออสเตรีย เปิดโอกาสให้ดำดิ่งเข้าสู่ก้นบึ้งจิตใจของเหยื่อและอาชญากร และชมนิทรรศการด้านอาชญากรรมวิทยา ซึ่งหน่วยตำรวจกลางหรือเอฟบีไอของสหรัฐรับไปประยุกต์ใช้

     เอ่อ... แล้วไม่ทราบว่าเมื่อครู่ได้บอกไปแล้วหรือยังว่างานในคืนนั้นทุกแห่งที่เล่าให้ฟังข้างบนนี้ เข้าชม ฟรี

     คืนวันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ประชาชนนับล้านทั่วยุโรปไปพิพิธภัณฑ์ใกล้บ้านของตน

     คืนวันเสาร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 ประชาชนชาวไทยทำอะไรอยู่




ที่มา : FIP Radio, France
ข้อมูลเพิ่มเติม : //www.nuitdesmusees.culture.fr







Create Date : 23 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2550 17:04:01 น. 0 comments
Counter : 894 Pageviews.

Mutation
Location :
somewhere in Hong Kong SAR

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




ฉั น คื อ ใ ค ร

     สาวพฤษภชาวแกลงแห่งเมืองระยอง ลอยละล่องเรื่อยไปจนปาเข้าสามสิบ กว่าจะได้พบอาชีพที่ต้องจริตจนคิดตั้งตัวเป็นนักแปลรับจ้างเร่ร่อนไร้สังกัด ปัจจุบันเปิดสำนักพิมพ์เล็กๆ ชื่อ "กำมะหยี่"

     จุดหมายในชีวิต หลังจากผันผ่านคืนวันมาหลายปีดีดัก ขอพักไม่หวังทำอะไรใหญ่โต ขอเพียงมีชีวิตสุขสงบ ได้ทำสิ่งที่ดีๆ ทำตามหน้าที่ของตนในทุกด้านอย่างดีที่สุด แค่นั้นพอ

      ฉันมีหวานใจ- สามี - สุดที่รักแสนดีชาวฝรั่งเศส แถมเรือพ่วงสองลำเล็กๆ ตอนนี้มาใช้ชีวิตกันอยู่ที่ฮ่องกง



Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Mutation's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.