Hubei Provincial Museum @ Wuhan, China: Part I
เรา 13 คน ออกเดินทางไปยังเมืองหวู่ฮั่น (Wuhan) ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2556 และจุดหนึ่งที่อยากไปมาก คือ พิพิธภัณฑ์มณฑลหูเป่ย (Hubei Provincial Museum) ไปแล้วไม่ผิดหวังเลย ที่สำคัญเข้าชมฟรี และไม่ห้ามถ้าจะถ่ายรูป ขอเพียงอย่าใช้แฟลชเป็นพอ
  ภายในตึกใหญ่มาก มีบันไดเลื่อนด้วย แต่ละชั้นมี 2 ฝั่ง มีการแสดงที่อลังการมาก ๆ สมบัติส่วนใหญ่ได้มาจากขุดมาจากสุสานโบราณ เมืองหวู่ฮั่นมาประวัติศาสตร์ยาวนานมากกว่า 3,000 ปี และเกี่ยวข้องกับสามก๊กด้วยนะ และยังเป็นที่นั่งของผาแดง ที่ขงเบ้งเรียกลมเรียกฝนพัดทัพเรือของโจโฉจนแตกพ่ายกลับไป   ลูกธนูเข้าเหล็กมาก หัวเหมือนทำด้วยเหล็กชิ้นเล็ก ๆ      เป็นไฮไลท์ของห้องนี้ เป็นดาบเก่าลวดลายสวยงาม  ด้านล่างเป็นสิ่งของที่ได้จากสุสาน    น่าจะเป็นเขี้ยวสัตว์   แผ่นไม้นี้มีเชือกเส้นเล็ก ๆ โยงจากบนลงล่างหลายเส้น อาจเป็นเพราะอายุแยะคงเริ่มผุไปตามกาล  เหมือนเตียงนอน     เครื่องดนตรีโบราณ Musuem of Shaanxi History @ Xi'an, China
เกิดความคิดแตกแยกกับผู้ร่วมทริป พี่ ๆ เขาจะไป shopping แต่เราอยากไปพิพิธภัณฑ์มาทั้งที่ก็อยากเห็นอดีตอันยิ่งใหญ่ของเมืองซีอาน เราจึงหันหลังเดินแยกมาพร้อมแผนที่ในมือที่ได้มาจากที่พัก ซึ่งในแผนที่มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาจีนกำกับ เราก็เรียกแท็กซี่เลยเอาแผนที่ชี้ให้แท็กซี่ดู ฟังไม่รู้เรื่องว่าคนขับพูดอะไรเห็นพยักหน้าก็โอเคไปกันได้เลย
นั่งรถไม่นาน จ่ายไป 12 หยวน ลักษณะของพิพิธภัณฑ์ที่นี่เหมือนเมืองหวู่ฮั่นเป็นอาคารใหญ่ ๆ และต้องตะกายบันไดขึ้นไปอีก ไปถึงเราก็ตรงไปที่ขายตัว ถามราคาค่าเข้า โอ..แม่เจ้า 'ฟรี' แค่ลงชื่อและหมายเลขพาสปอร์ตในกระดาษ โชคดีไม่ต้องจ่ายตัง พิพิธภัณฑ์ที่นี่ดีอย่างเขาให้ถ่ายรูปได้ แต่ด้วยมารยาทเราไม่ควรใช้แฟลชในการถ่าย เพราะจะไปส่งผลกระทบกับวัตถุโบราณได้ จะทำให้สีของมันจางลง  พิพิธภัณฑ์ส่านซี ณ เมืองซีอาน มณฑลส่านซี  ด้านล่างเหมือนเป็นสุสานม้าศึก แต่ต่างจากที่เห็นที่พิพิธภัณฑ์ที่เมืองหวู่ฮั่น   ม้าตัวนี้ตายทั้งมีเหล็กคาปากเลย 'ตายในหน้าที่'  ประเทศจีนมีการใช้เหล็กมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งถือว่าเจริญอย่างมาก  ลักษณะระฆังโบราณที่นี่จะแบน ๆ เสียงจะกังวาล ด้วยได้ไปนั่งชมตอนไปหอนกกระเรียนเหลืองที่เมืองหวู่ฮั่นมาแล้ว  มีดสั้น  มีหุ่นทหารด้วย จะของจริงหรือป่าวไม่ทราบ ไม่รู้จะถามใครดี งานนี้เราบินเดี่ยว   เหรียญทองโบราณ  เชิงเทียนสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก  เป็นหุ่นทหารขนาดเล็ก อาวุธที่ถือเป็นไม้ พอกาลเวลาผ่านไปเป็นร้อย ๆ ปี ไม้ก็ผุพังไป   อันนี้เป็นไฮไลท์ของที่นี่ ทำจากทองคำจ๊ะ เขางามมาก  เป็นประตูทางเข้าสุสาน ด้านในเป็นแท่นหินอ่อนมีการวาดลวยลายสวยงาม สีสันยังอยู่ครบ  ซูมให้เห็นภาพชัด ๆ แต่ก็ไม่ค่อยชัด ก็มันแรงได้แค่นี้จ๊ะ   แผ่นสลักพระพุทธรูป ลักษณะพระพักตร์เป็นแบบเดียวกับที่ถ้ำหลงเหมิน เมืองลั่วหยาง  เห็นแล้วนึกถึงพระพุทธรูปแกะสลักของเรา  ถ้วยทองคำ  ลักษณะเหมือนอ่างล้างมือ ทำให้นึกถึงคำว่า 'ล้างมือในอ่างทองคำ'  ด้วยเส้นทางนี้เคยเป็นเส้นทางสายไหมมาก่อน จึงได้เห็นรูปปั้นอูฐ ซึ่งไม่มีในเมืองอื่น ๆ  กำลังแถะขาตัวเอง อิริยาบถแปลกตาไม่ค่อยเห็นรูปปั้นแบบนี้ที่ไหน   จอกทองคำ  ลักษณะของม้าแข็งแรงมาก  รูปปั้นผู้หญิงอุ้มเด็กในสมัยราชวงศ์ถัง  ต่างหูโบราณ  ที่เสียบผม    รูปปั้นอูฐนำนักดนตรีเดินทางไปแสดง     รูปปั้นนักมวยปล้ำ สมัยนั้นคงมีกีฬานี้อยู่แล้ว  เห็นแล้วนึกถึงคำว่า 'หมอบราบคาบแก้ว'   คล้ายเป็นการจำลองการเสด็จของฮ่องเต้สมัยโบราณ      สรุปพิพิธภัณฑ์จิงโจวที่เมืองหวู่ฮั่นมีมากกว่าค่ะ ถ้าใครไป อย่าลืมไปเยี่ยมเยียนนะค่ะ City Wall @ Xi'an, China
ทริปนี้ไปกัน 13 คน ..
 ...โดยเริ่มต้นจากเมืองหวู่ฮั่น (Wuhan) เราพัก 1 คืน (วันที่ 9 - 10 พฤษภาคม 2556) แล้วขึ้นรถไฟตู้นอน 1 คืน (วันที่ 10 พฤษภาคม 2556) ราคา 187 หยวน เพื่อเดินทางไปพักเมืองลั่วหยาง (Luoyang) 1 คืน (วันที่ 11 - 12 พฤษภาคม 2556 อันที่จริงโปรแกรมที่คุยกันไว้จะนอน 2 คืน แต่ด้วยพี่ที่ไปด้วย มีภาระกิจสำคัญต้องเดินทางกลับก่อน เราจึงมาค้างกันที่เมืองซีอาน 3 คืน (วันที่ 13-15 พฤษภาคม 2556) เราเดินทางจากเมืองลั่วหยางมายังเมืองซีอาน โดยรถไฟความเร็วสูง ราคา 175 หยวน ใช้เวลาชั่วโมงกว่าแก่ ๆ  วันนี้จะมาแชร์ภาพตอนขึั้นไปเที่ยวกำแพงเมืองโบราณของเมืองซีอาน ก่อนอื่นเรามาชมแผนที่ของเมืองนี้กันก่อน //www.travelchinaguide.com/images/map/shaanxi/xian-map.gif (ขอบคุณแหล่งข้อมูล //www.travelchinaguide.com/images/map/shaanxi/xian-map.gif) มารู้จัก 'เมืองซีอาน' กันก่อน ซีอานเป็นเมืองที่มีอายุเก่าแก่เกือบ 3,000 ปี เดิมชื่อ 'เสียนหยาง' (Xianyang) เคยเป็นเมืองหลวงของจีนถึง 13 ราชวงศ์ ตั้งแต่ประมาณ 1100 ปี ก่อนคริสตกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วง 221-207 ปีก่อนคริสตกาลซึ่งเป็นยุค ราชวงศ์ฉิน ของ ฉินซีฮ่องเต้ หรือ ฉินซื่อหวงตี้ (Qin Shi Huang) จักรพรรดิผู้ได้รับการยอมรับว่า เป็นปฐมกษัตริย์ แห่งแผ่นดินจีน ต่อมาในช่วงอีกกว่าพันปี ระหว่างปี 202 ก่อนคริสตกาล จนถึง ค.ศ. 907 ซึ่งเป็นยุคราชวงศ์ต่างๆ ของจีน ตั้งแต่ ฮั่นตะวันตก เว่ยตะวันตก โจวเหนือ สุย และถัง เมืองหลวงแห่งนี้ได้ถูกเรียกว่า 'ฉางอาน' ซึ่งมีความหมายว่า 'ความสงบอันยาวนาน' ในสมัยราชวงศ์ฮั่นนี่เอง นครฉางอาน ที่รุ่งเรืองก็กลายเป็นเมืองต้นทางค้าขายกับชนชาติตะวันตก อันเป็นที่เรียกขานในปัจจุบันว่า เส้นทางสายไหม ( The Silk Road) และเมื่อราชวงศ์ถังล่มสลายลง ในราว ค.ศ. 907 ศูนย์อำนาจและเมืองหลวงก็ถูกย้ายไปอยู่ที่เมืองอื่น และได้ถูกเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น ซีอานในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ.1368-1644) ปัจจุบันเมืองซีอานเป็นเมืองใหญ่ มีประชากรอาศัยอยู่ราว 6,000,000 คน แม้จะมีสิ่งปลูกสร้างใหม่เกิดขึ้นมามาก แต่ในส่วนเมืองเก่าที่ยังเหลืออยู่ รวมถึงกำแพงและประตูเมือง (City Wall) อายุราว 500 ปี ซึ่งสร้างในสมัยราชวงศ์หมิง ก็ล้วนได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี กำแพงเมืองโบราณ (City Wall) ถูกสร้างขึ้นอันเกิดแนวคิดการ กักตุน อาหาร และ การสร้าง เกราะกำลังที่แข็งแกร่งของกองทัพ ในสมัยราชวงศ์หมิง โดย ฉู หยวน ฉาง ฮ่องเต้องค์แรกแห่งราชวงศ์หมิง กำแพงเมืองแห่งนี้เป็นกำแพงเมืองที่สมบูรณ์ที่สุดในจีน และยังเป็นระบบป้องกันกองทัพโบราณที่ใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความสูง 12 เมตร ( 40 ฟุต) ด้านบนสุดกว้าง 12-14 เมตร (40-45 ฟุต) หนา 15-18 เมตร ระยะทางวัดโดยรอบ 13.7 กม. มีป้อมปราการยื่นออกจากตัวกำแพงทุก ๆ 120 เมตร รวมทั้งสิ้น 98 ป้อม เพื่อป้องกันข้าศึกปีนขึ้นกำแพง แต่ละป้อมจะมีทหารยามประจำอยู่ ด้านข้างของแต่ป้อมจะมีช่องยิงธนู ด้านนอกกำแพงมีส่วนที่ยิ่นออก จำนวน 5,948 จุด เพื่อเป็นช่องสำหรับพุ่งอาวุธไปยังข้าศึกที่เข้าใกล้กำแพง ภายในแต่ละป้องจะมีลูกกรงเพื่อป้องกันทหารไม่ให้ตกลงมา (ขอบคุณแหล่งข้อมูล //www.qetour.com/travel-guide/xi%20an-travel-guide.php) ประสบการณ์จากการไปกันเองครั้งนี้ ด้วยการเดิน ขึ้นรถเมล์ ขึ้นแท็กซี่ มีคนเดียวที่พูดภาษาจีนได้ มีอยู่ 2 ข้อ 1. หากจะไปเที่ยวโดยรถประจำทาง ต้องถามให้แน่ชัดว่าหมดกี่โมง เพราะบางสายจะหมด 20.30 น. 2. ถ้ามีแผนที่ ให้มีกำกับภาษาจีนด้วย เพราะคนจีนไม่พูดภาษาอื่นเลย เราขึ้นไปเดินกำแพงเมืองช่วงเย็นเกือบ 18.00 น. เสียค่าขึ้นกำแพงคนละ 40 หยวน และเสียค่าขึ้นรถกอล์ฟวิ่งรอบกำแพงเมืองคนละ 80 หยวน ใช้เวลา 2 ชั่วโมง คุ้มค่ะ ถ้าใครไปนั่งเถอะไม่ต้องคิดมาก 'ตังตายไปก็ขนตามไปด้วยไม่ได้'  ดูแผนที่กำแพงกันก่อนขึ้น  เราเข้ากันทางประตูทิศใต้เพราะใกล้กับที่พัก ๆ เราติดกับกำแพงเมืองชื่อ 'Shuyuan Youth Hostel' (//www.booking.com/hotel/cn/xian-shuyuan.th.html?aid=331515;label=xian-shuyuan-xvRbIR2uyYMrGyC0EHHmhQS12361140920;ws=&gclid=CKb__paZ7bcCFYRU4godcCQApg) พอเดินผ่านเข้าไปจะมีลานกว้าง ๆ อย่างที่เห็นในภาพ  มีร้านขายของด้วย  มีรถจอดด้วย จะมีกลองใบใหญ่วางไว้ ใครจะขึ้นไปตีเล่นก็ได้  แล้วเราก็ไปตะกายขึ้นบันไดเพื่อขึ้นไปบนกำแพงเมืองโบราณ  การวางอิฐของกำแพง แข็งแรงมาก  สภาพสมบูรณ์คงมีการบำรุงทำนุตลอดมานะเนี่ย  อากาศไม่ร้อน แต่ฝนตั้งเค้ามาแระ จะรอดไหมเนี่ย  ถ้าให้เดินไม่รู้พรุ่งนี้เช้าจะถึงอะป่าว เพราะไปทริปนี้ เดินจนเดินไม่ไหว แดดก็ร้อนมาก กลับมาน้ำหนักลดไปแยะเลย    มีจักรยานให้เช่าด้วย แต่เราเลือกที่นั่งรถกอล์ฟ พอขึ้นไปเจอฝนตกเลย ดีนะที่ตัดสินกันไว  กำแพงเมืองใหญ่มาก ภายในกำแพงเมืองจะมีตึกสูง ๆ ห้างสรรพสินค้าเยอะแยะไปหมด  มีร้านขายของที่ระลึกด้วย แต่เราขึ้นรถกอล์ฟซะแล้วซิ กว่าจะวนรอบ ร้านคงปิดไปแล้ว  ฟ้าเริ่มมืด โคมไฟก็สว่าง ถ้ากล้องดีกว่านี้ภาพคงคมสวยนะเนี่ย  รถกอล์ฟที่พาพวกเรานั่งชมเมืองบนกำแพงสูง คนขับจะจอดให้เราลงถ่ายรูปกัน พอลงก็เจอฝนอย่างที่เห็น เขามีเสื้อกันฝนให้ด้วยนะไม่ต้องเสียตังเพิ่ม  เหมือนลอยอยู่ในความมืด ถ้าในอดีตจะเป็นอย่างไงนะเนี่ย  ส่วนนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุง ไม่รุ้ว่าตอนกลางวันเขาจะเปิดให้เข้าไปชมด้านในหรือป่าว     ได้เวลาลงกำแพงกันแระจ๊ะ 2 ชั่วโมงคุ้มแสนคุ้ม อ๋อ..มีเรื่องบอกอีกเรื่องบนกำแพงมีห้องน้ำให้เข้าด้วยนะ สภาพใช้ดีจ๊ะ   ช่วงที่ไปทางขึ้นกำแพงทิศใต้อยู่ระหว่างปรับปรุงภูมิทัศน์จ๊ะ ...  ... ลืมบอกอีกเรื่องคือ ค่าขึ้นชมกำแพงจะปรับราคาขึ้นอีกจ๊ะ เป็นเท่าไรจำไม่ได้แล้ว ลงจากกำแพงฯ มาถึงที่พัก 20.30 น. หิวกันโซเลย พี่ ๆ เขาสั่งพิซซ่าถาดใหญ่ยังที่เห็น 2 ถาดกินกันเรียบ อาหารฝรั่งที่นี่อร่อยนะค่ะ ถ้าใครไปพักอย่าลืมสั่งทาน รับรองไม่ผิดหวัง ราคาพอหากันแล้วตกคนละ 200 กว่าบาทเองค่ะ |
arete
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ความเป็นตัวของตัวเอง เป็นคนที่เรารู้จัก เราไม่จำเป็นต้องเป็นใครที่เราไม่รู้จัก...เพื่อใครบางคน Group Blog All Blog
Friends Blog
Link |
||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||
