ใกล้วันเข้าพรรษาแล้ว รู้สึกคิดถึงวัด ช่วงนี้ชีวิตสับสนวุ่นวาย งั้นเราไปเที่ยววัดด้วยกันนะ

วัดที่จะพาไปเที่ยวคือ "วัดท่าซุง" ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ตั้งอยู่ ณ จังหวัดอุทัยธานี วัดนี้ต้อนรับให้พักค้างได้ แต่ต้องเข้าไปรายงานตัวเข้าพักก่อน 18.00 น. นำบัตรประชาชนหรือบัตรที่รูปติดไปไว้ แล้วพระท่านจะจัดห้องให้พัก โดยแยกชาย-หญิง มีเครื่องนอนประจำแต่ละห้องพัก แต่ไปวัดก็ต้องรับรู้กันในเบื้องต้นว่าคงไม่สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลคนจะไปกันแยะ ต้องนอนร่วมกับคนอื่น ๆ



(｡◕‿◕｡)~ กุฏีที่อยู่ข้าง ๆ หอระฆังคือสถานที่ที่คนที่ประสงค์เข้าพักต้องเข้าไปติดต่อ และที่นี่ทุกเช้า ประมาณ 08.00 น. พระสงฆ์และฆราวาสจะปฏิบัติสวดมนต์ทำวัตรเช้า

กิจวัตรประจำในแต่ละวัน เช้าทุกวันเวลา 03.00 น. จะมีเสียงตามสายเปิดเทปคำสอนของหลวงพ่อ เวลา 05.00 น. ถ้าขยันจะลุกขึ้นมากวาดลานวัดได้นะ แต่ที่นี่ไม่บังคับ แล้วแต่สมัครใจ เวลา 06.00 น. ตื่นไปรอใส่บาตรพระได้ จะมีชาวบ้านจัดสำรับมาวางขาย 08.00 น. จะมีสวดมนต์ทำวัตรเช้า เวลา 11.30 น.จะมีรถรับไปส่ง ณ วิหารร้อยเมตร เพื่อนั่งกรรมฐานถึงบ่ายสองโมง เวลา 18.00 น.รถจะรับไปทำวัตรเย็น เวลา 20.00 น.จะมีเสียงตามสายเปิดเทปหลวงพ่อสอนธรรมะ





(｡◕‿◕｡)~พระอุโบสถ "วัดท่าซุง" หรืออีกชื่อหนึ่ง "วันจันทราราม"



(｡◕‿◕｡)~โดยรอบพระอุโบสถ



(｡◕‿◕｡)~ทุกครั้งที่ไปจะไปกราบหลวงปู่ปาน รู้สึกสบายใจทุกครั้งที่ได้เข้าไปนั่ง ณ ศาลาหลังนี้



(｡◕‿◕｡)~พระวิสุทธิเทพ (พระพุทธเจ้าในกายนิพพาน) ณ มณฑปแก้ว



(｡◕‿◕｡)~ท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง 4



(｡◕‿◕｡)~เป็นอีกที่ที่ใครไปวัดท่าซุง ควรเข้าไปสักการะและถวายผ้าคลุมองค์พระ "วิหารหลวงพ่อใหญ่"



(｡◕‿◕｡)~รอยพระพุทธบาท





(｡◕‿◕｡)~ปราสาททองคำ วางศิลาฤกษ์สร้างในสมัยหลวงพ่อฤาษียังมีชีวิตอยู่ จำได้ว่าในวันนั้นเราได้เข้าร่วมพิธีด้วย และร่วมอนุโมทนาบุญทั้งหมดในวันนั้น ภาพนี้ต้องให้เครดิตน้องที่ไปด้วยถ่ายได้เยี่ยมมาก



(｡◕‿◕｡)~ประตูด้านนอกของปราสาททองคำ



(｡◕‿◕｡)~ภายในปราสาททองคำ



(｡◕‿◕｡)เพดานชั้นล่างของปราสาททองคำ ตอนที่ไปยังสร้างไม่เสร็จ



(｡◕‿◕｡)~พระยืน 30 ศอก



(｡◕‿◕｡)~จดีย์พุดตาน เจดีย์องค์นี้เราได้ร่วมถวายเม็ดพลอยที่ฝากน้องชายซื้อมาจากเขาพระงาม จ.ลพบุรี ใส่ในเจดีย์เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา



(｡◕‿◕｡)~สมเด็จองค์ปฐม เราได้ร่วมถวายแผ่นทองสร้างด้วย โดยให้คุณตาร่วมอธิษฐาน ช่วงนี้คุณตาเข้าโรงพยาบาลอาการหนัก ไอและถ่ายเป็นเลือด ซึ่งแพทย์บอกให้ญาติ ๆ ทำใจได้เลย เราได้อธิษฐานขอถ้าคุณตาต้องไปและไปไม่ดี ขอให้อยู่ต่อก่อน วันใดที่เขาไปแล้วดี ก็ให้ไปในตอนนั้น ผลปรากฎว่ามีปาฏิหาริย์ ลูกเลี้ยงคุณตาซื้อยามาจากเมืองจีนแอบมาให้คุณตาทาน เลือดที่ไหลมันหยุดไปเอง หมอไม่รู้ด้วย และหมอก็บอกสาเหตุไม่ได้ว่าเพราะอะไร คุณตาเสียตอนอายุ 94 หลังจากเหตุการณ์นั้น 4 ปี



(｡◕‿◕｡)~พระศรีอาริยเมตไตรย์



(｡◕‿◕｡)~พระชำระหนี้สงฆ์ หลวงพ่อจะสร้างไว้เต็มวัดเลย



(｡◕‿◕｡)~พระปัจเจกพุทธเจ้า ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านนอกของวิหารร้อยเมตร



(｡◕‿◕｡)~ภาพวาด "พระนางจามรี" หรือ "ท่านแม่ศรี"



(｡◕‿◕｡)~พระพุทธรูปสำหรับเช่าถวายสังฆทาน ชุดนี้เขาเรียก "ชุดใหญ่"



(｡◕‿◕｡)~หลวงพ่อฤาษีลิงดำในโลงแก้วที่ประดับด้วยอัญมณีหลากชนิดงดงามมาก เชื่อกันว่าถ้าใครอยากได้อะไรให้ไปอธิษฐาน โดยส่วนตัวมีไปขอ 2 ครั้ง ๆ แรกขอให้ได้เรียนปริญญาโท ครั้งที่ 2 ขอให้จบ ก็สมหวังทั้งสองครั้ง และก็ถวายสังฆทานให้หลวงพ่อทั้งสองครั้ง



(｡◕‿◕｡)~ภายในวิหารร้อยเมตร เสาแต่ละต้นจะประดับด้วยกระจกแผ่นเล็ก ๆ



(｡◕‿◕｡)~พระพุทธชินราชสำรอง ณ วิหารร้อยเมตร งดงามจริง ๆ

~❤~ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2551 หลังจากเสร็จสิ้นการดูแลนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาฯ ครั้งที่ 35 “วลัยลักษณ์เกมส์” เราก็มีเวลาพอที่จะไปเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองนครฯ กัน เราจึงเลือกที่จะไป “หมู่บ้านคีรีวง” เขาว่ากันว่าที่นั่นเป็นแหล่งผลิตสินค้าของ OTOP ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเราก็ต่างคาดหวังว่าจะได้พบของดีและของถูกเพื่อซื้อกลับไปใช้เอง และเป็นของฝากสำหรับบางคน

~❤~ "หมู่บ้านคีรีวง" ห่างจากตัวเมืองนครฯ ประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นถนนสายเล็กๆ วิ่งผ่านเข้าไปในหมู่บ้าน ซึ่งจะแบ่งกันเป็นกลุ่มอาชีพ ที่แรกที่แวะคือกลุ่มย้อมสีธรรมชาติ





~❤~ ที่นี่จะเป็นร้านจัดขายสินค้าที่ย้อมสีจากธรรมชาติ เช่น สีเขียวจากใบหูกวาง สีเทาจากเมล็ดสะตอ สีชมพูจากเปลือกมังคุด เป็นต้น ผ้าคลุมไหล่ที่นี่ย้อมสีและเขียนลายดูดี แต่ตัวเลือกมีน้อยมาก เพราะสินค้าหมด สินค้าที่มีก็ยังไม่โดนใจเราเท่าไร เราเลยไม่เสียตัง



~❤~ เสื้อแบบน่ารัก ๆ กางเกงก็เหมือนกัน แต่ไซส์ขนาดเรามันหมด ผ้าคลุมไหล่ก็ดูดี แต่วันที่ไปของหมด เจ้าของบอกพวกเราว่ามีหมอใหญ่จากศิริราชมาเหมาไปก่อนที่เราจะมา



~❤~ อันนี้เป็นกระเป๋าผ้าเล็ก ๆ น่ารัก ใบใหญ่ก็มี



~❤~ แห่งที่ 2 เป็นกลุ่มเขียนลายที่นี่จะเป็นการเขียนเทียนบนผ้าแล้วลงสีด้วยสีธรรมชาติ ก็สวยนะ เราชอบผ้าคลุมไหลผืนละ 250 บาท ราคาเท่ากับแห่งแรกเลย แต่สินค้าไม่มีให้เลือกอีกนั่นแระ เห็นว่าผลิตไม่ทันกันเลย



~❤~ ขั้นนตอนการทำ



~❤~ เสร็จเป็นพื้นแล้วจะออกมาลักษณะนี้ ก็สวยดี แต่เราไม่ชอบผ้าคลุมไหล่แบบนี้



~❤~ เห็นดอกไม้สวยแปลกดี ปลูกกันเต็มเลย เพื่อนบอกเขาเรียกว่า "เข็มญี่ปุ่น"



~❤~ นี่ก็ดอกอะไรไม่รู้จัก เห็นแปลกดี เขาปลูกไว้ที่ศูนย์ประสานงานฯ

~❤~ หลังจากนั้นเราก็มาแวะที่ศูนย์ประสานงานหมู่บ้าน มีประวัติและภาพถ่าย เมื่อปี พ.ศ. 2531 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ ก็มาจากการตัดไม้ทำลายป่า ทำให้น้ำป่าไหลมาจากภูเขาพัดพาต้นซุงจำนวนมากลงมาด้วย ทำให้บ้านเรือนจมอยู่ใต้โคลน คลองที่เคยไหลผ่านหมู่บ้านหายไปและเกิดทางน้ำใหม่ขึ้น



~❤~ ข้างๆ ศูนย์มีวัดประจำหมู่บ้านชื่อ “วัดคีรีวง” ได้เข้าไปถวายผลไม้ น้ำดื่ม ประจวบเหมาะท่านฉันเพลพอดี และได้เข้าไปกราบนมัสการพระประธานซึ่งรอดมาจากการโดนน้ำป่า ซึ่งสภาพโบสถ์พัง แต่ท่านไม่เป็นอะไรเลย และได้ถวายปัจจัยท่านเจ้าอาวาสร่วมบูรณะโบสถ์เก่าด้วย รวมทั้งได้กราบนมัสการเจ้าอาวาสองค์แรก “พระปลัดเถื่อน” เรามีทองเมื่อไปนมัสการพระบรมธาตุฯ แล้วลืมปิดทอง จึงได้นำแผ่นทองนั้นมาปิดที่องค์ท่าน ถือว่าคงเคยมีบุญวาสนาร่วมกันมา ทุกอย่างจึงได้จำเพาะลงตัวขนาดนี้



~❤~ อุโบสถหลังเดิมที่โดนน้ำป่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการบูรณะขึ้นมาใหม่



~❤~ พระุพุทธรูปองค์นี้ประดิษฐานอยู่หน้าอุโบสถหลังเก่า ดูทรุดโทรมมา เริ่มกระเทาะ ดูแล้วหดหู่ ถึงแม้จะเป็นแค่สิ่งสมมติแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ควรปฏิบัติต่อท่านให้ดีกว่านี้



~❤~ ครั้งแรกที่เห็นคิดว่าเป็นราชยานสำหรับปลงพระศพ แต่ไม่ใช่จ๊ะ คนแก่ที่วัดบอกว่าเป็นรถสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปแห่งานเทศกาล





~❤~ ปัจจุบันมีการสร้างอุโบสถหลังใหม่ขึ้นมาแทน และอัญเชิญพระพุทธรูปองค์เดิมไปประดิษฐานไว้ภายใน



~❤~ ลักษณะแปลกตาเขาสร้างไว้ตรงกำแพงพระอุโบสถ ทุกจุดของประตูทางเข้า


~❤~ พระพุทธรูปองค์นี้แหละที่ท่านไม่เป็นอะไรเลย



~❤~ เป็นไม้แกะสลัก ดูแล้วน่าจะเป็นเทวดาในท่าเทพพนม เห็นวางอยู่ที่กุฏิเจ้าอาวาส ท่านบอกว่าเป็นของเก่าของวัด ก่อนที่จะถูกน้ำป่าซัดโคลนลงมาถล่ม



~❤~ ก่อนออกจากหมู่บ้านฯ ระหว่างทางมีธารน้ำไหลผ่าน บรรยากาศดีมาก ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทีไ่ปด้วย ตืนเต้นกันใหญ่ลงไปตั้งท่าถ่ายรูปกันหลายแช๊ท แต่เราพยายามถ่ายไม่ให้ติดใครเลย เดี๋ยววิวสวย ๆ จะเสียหมด



~❤~ หลังจากนั้นเราก็ไปหาอาหารกลางวันรับประทานกัน ขับรถไปเจอร้านแรกก็แวะเลย ที่นี่มีชื่อว่า “คีรีวงรีสอร์ท”



~❤~ บรรยากาศดีมากๆ มีบ้านพักอยู่ห้าหลัง มองลงมาเห็นทางน้ำไหลผ่านโขดหินจำนวนมาก มองขึ้นไปอีกฝั่งก็มีต้นไม้รกชัด ในน้ำตกมองเห็นปลาฝูงใหญ่ว่ายไปมา มองขึ้นไปก็เห็นภูเขาต้นไม้หนาทึบ อาหารก็อร่อย ราคาไม่แพง ที่เราติดใจคือ “ไก่บ้านต้มขมิ้น” กับ “กุ้งผัดพริกแกง” หลังจากกินข้าวชมธรรมชาติ เราก็ตีรถยาวเข้ามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เรากับน้องอีกคนต้องไปจัดการเคลียร์เรื่องห้องและกุญแจ และให้ช่างภาพของเราเก็บภาพพิธีปิด เจ้าภาพปิดงานได้เร็วมาก พอจบเราก็เดินทางออกกลับที่พักมาเก็บของ เพื่อเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น