Chengyang Wind and Rain Bridge @ Sanjiang
ทริปนี้เป็นทริปในฝันที่เป็นจริง ครั้งแรกเห็นสะพานไม้นี้ ครั้งไปปักกิ่งเป็นสะพานไม้ที่เขาสร้างจำลอง ใกล้สนามกีฬารังนก และมาพบบทความแนะนำท่องเที่ยว >> //travel.mthai.com/world-travel/74495.html <<

และประจวบเหมาะกับพี่ที่นับถือหาข้อมูลและพบว่ามันอยู่ในมณฑลกว่างซีจ้วง การเตรียมตัวเพื่อไปยังสะพานนี้จึงได้เกิดขึ้น พร้อม ๆ กับโปรของหางแดง เราเริ่มต้นด้วยการจองตั๋วบินจากดอนเมืองไปลงยัง Hanoi และต่อรถจาก Hanoi ไปลง Longson เพื่อข้ามแดนเข้าจีน และจากชายแดนจีนเข้าไปยัง Nanning

เราฝากบริษัททัวร์ฯ เช่ารถรับเราจากสนามบิน Hanoi ไปขึ้นรถเพื่อไปชายแดน และจากชายแดนไปยังท่ารถเข้า Nanning รวมรถกอล์ฟระหว่างทาง

โชคดีที่น้องที่ทำงานเพิ่งกลับจากการไปดูงานที่ Nanning เธอมีเพื่อนเป็นคนจีนที่พูดภาษาไทยได้ เรา Line ขอให้เขาช่วยหารถสำหรับเรา 11 คน เพื่อพาพวกเราไป Sanjiang, Bama และ Leye

เราอยู่ที่มณฑลกว่างซีจ้วง ระหว่างวันที่ 18-22 มีนาคม 2557 แล้วเราก็จองตั๋วบินผ่าน KnowChinese บินจากสนามบิน Nanning ไปยัง Kunming และพักที่ Kunming 2 คืน และบินกลับมาไทยวันที่ 25 มีนาคม 2557


ก่อนไปหาข้อมูลเรื่องรถข้ามแดน และเวลาไม่ได้เลย งานนี้ไปเลยถ่ายรูปมาให้ มีเวลาของรถที่ออก และเบอร์ติดต่อ


นี่คือรถที่วิ่งรถระหว่าง Honoi ไปยัง Longson ช่วงที่ไปเจอฝนค่ะ รถใช้เวลาวิ่งประมาณ 5 ชั่วโมง (พี่ที่ไปด้วยเขาบอกมา) รถสภาพดี ช่วงที่ไปรถไม่แน่นค่ะ เขาจะแวะรับ 2 ที่ พอรถถึงที่ก็จะมีรถกอล์ฟมารอรับ เพื่อไปประทับออก แล้วรถก็มารอรับเราไปยังด่าน ตม.จีน ไปประทับเข้า (ต้องทำวีซ่าจากเมืองไทยไปนะค่ะ) จะมีรถกอล์ฟมารับเราไปขึ้นรถที่ฝั่งจีน กว่าจะหลุดออกจากขึ้นรถได้เกือบ 18.00 น. โดนพนักงานประจำรถบ่น ดีที่ฟังไม่รู้เรื่อง อมยิ้ม13 เลยไม่ได้รับมาเป็นอารมณ์ เราไปถึงหนานหนิง 3 ทุ่มกว่า

่จะขอตัดไปสะพานลมและฝนเลยนะค่ะ

เราพักกันที่ Sanjiang ออกจากที่พัก 08.30 น. หลังอาหารเช้าที่กินได้แค่ ซาลาเปาไส้ถั่วแดง ไข่ต้ม และข้าวต้ม คิดซะว่าเรา "มาเที่ยว ไม่ได้มากิน" ร้องไห้

คนขับเราน่ารักมาก ขับรถออกจากโรงแรมก็วิ่งกลับทางที่มา กว่าจะรู้ว่าผิดทาง ก็ไกลโข ต้องขับย้อนกลับผ่านมาโรงแรมอีกรอบ แต่เราไมไ่ด้เข้าพักนะค่ะ ขับเลยไปไกลมากถึงมากสุด ๆ แบบว่า "เราจะหลงอีกอะป่าวเนี่ย" เศร้า พอถึงก็ "เอ..มันใช่อะป่าวหวะ" ร้องไห้  ไม่แน่ใจ ในภาพมันไม่เป็นแบบนี้นิหว่า พี่ที่ไปด้วย กับคนขับรถก็บอกว่าเนี่ยแระใช่แล้ว แต่บอกกง ๆ นะอะ "ไม่แน่ใจอะ" แต่ไงก็เข้าห้องน้ำก่อน พี่ ๆ เขาก็ไปซื้อตั๋ว ค่าเข้าชมคนละ 60 หยวน (ตอนไป 1 หยวน เท่ากับ 5.30 บาท ค่ะ) เม่าชอปปิ้ง

ด้วยความที่ไม่แน่ใจเพราะมองไม่เห็นสะพาน เห็นแต่ทุ่งคัสตาร์ด เราเลยต้องไปลุยก่อนให้แน่ใจ


เห็นสะพานเนี่ย มันไม่ใช่นิหว่า แต่จริง ๆ แล้ว สะพานนี้จะเป็นสะพานสำหรับรถข้ามเข้าหมู่บ้านค่ะ




เดินไปตามทางจนสุดทาง ถึงได้เห็นสะพานค่ะ คนตรวจตั๋วก็ถามตั๋ว แต่คนถือตั๋วก็ยังไม่เดินเข้ามา เจ้าหน้าที่เขาเลยวอหากัน และถามเราฟังไม่รู้เรื่อง พอได้ยินคำว่า ไทยกั๋ว สงสัยจะถามเราว่าคนไทยหรือป่าวมั่ง เราก็พยักหน้า เขาก็ให้เรากับพี่อีกคนเข้าไป โดยไม่มีตั๋ว เพราะตั๋วกำลังจะเดินมาหาจากคนที่เดินตามมา


ภาพแรกที่ปรากฎตรงหน้า ในที่สุด "ฉันก็มาถึง" อมยิ้ม07




ช่วงที่เราไปถึงเกือบ 11.00 น. เช้ามาก ยังไม่มีของขายเท่าไร


ที่นี่ Hotel และ Hostel เต็มเลยค่ะ เสียดายเมื่อคืนเราน่าจะมานอนที่นี่






หอกลองค่ะ ที่นี่มีหลายหมู่บ้าน จะมีสะพานไม้เก่าเชื่อมต่อกัน และแต่หมู่บ้านก็จะมีหอกลองของตนเอง






จุดนี้เป็นจุดชมวิวของหมู่บ้านค่ะ คนจีนแก่ ๆ ไม่ชอบถ่ายรูปนะค่ะ ต้องแอบถ่าย


ขากลับออกมา จะมีคนที่มาเที่ยวใหม่เดินสวนทางเข้าไป เห็นแต่คนจีนค่ะ


ภาพก่อนจาก ชอบที่นี่จัง เงียบสงบดี ช่วงที่ไปหนาวค่ะ


ปกติเป็นคนไม่ชอบถ่ายรูป จะถ่ายแต่วิว ๆ และก็วิว เม่าหนาว ... เก็บไว้เป็นตำนาน และบันทึกไว้ในความทรงจำ



Create Date : 08 พฤษภาคม 2558
Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 13:31:43 น.
Counter : 510 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

arete
Location :
สมุทรสาคร  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ความเป็นตัวของตัวเอง เป็นคนที่เรารู้จัก เราไม่จำเป็นต้องเป็นใครที่เราไม่รู้จัก...เพื่อใครบางคน