จดหมายรัก: ดาวตกบนลานปูน
27 กค. '53 สวัสดีค่ะ คุณตักอุ่น วันนี้เป็นวันพิเศษอีกวันหนึ่งของฉัน ถึงใครต่อใครที่รู้จักเธอจะลืมวันนี้ไปแล้ว แต่ตัวเลข 27 บนเดือนนี้มันยังขึ้นเป็นเลขสีแดงในปฏิทินใจฉันอยู่เลย คิดถึงเธอจัง อยากเขียนจดหมายไปหา แต่ไม่รู้จะจ่าหน้าที่อยู่ผู้รับยังไง เธอไม่ได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ฉันเสียด้วย เมื่อวานตอนสายๆ หลังจากกลับจากใส่บาตรวันอาสาฬหบูชา ฉันเอาน้ำใส่แก้วมารดน้ำต้นแก้วในสวน แล้วก็ท่องมนต์บทกรวดน้ำที่เธอเคยสอนฉัน ตรงโคนต้นแก้วนั่นแหละ ดอกแก้วที่เธอชอบกำลังบานสะพรั่งเต็มต้น ส่งกลิ่นหอมเย็นๆ บางดอกที่ร่วงแต่เมื่อวาน เริ่มเป็นสีน้ำตาลอ่อน บ้างก็ออกกลีบสีดำเข้ม กองรวมกันอยู่ใต้ต้น ไม่นานดอกแก้วคงย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยให้ต้นของมันเอง ดีจังนะ เป็นประโยชน์ให้สิ่งรอบข้างทุกช่วงเวลาของชีวิตมันเลย ขากลับ ตอนที่ฉันเดินผ่านลานปูนใกล้ต้นแก้ว ฉันเห็นดาวตกพราวอยู่เต็มลานเลย แปลกดีไหมที่ฉันได้เห็นดาวตกตอนกลางวัน หนังสือกามนิต-วาสิฏฐีเขามีลานอโศก ฉันจะตั้งลานดาวตก เป็นที่รำพึงรักส่วนตัวของฉันบ้างได้ไหมนะ ฉันเอาดาวตกมาฝากค่ะ ดาวตกของเรา บนลานปูนในสวนของเรา เธอไม่ต้องอธิษฐานอะไรตอนเห็นดาวตกหรอกนะ เพราะฉันทำเผื่อเธอแล้ว ช่วงนี้ลำไยกำลังออกตลาด มันเป็นผลไม้โปรดอย่างหนึ่งของเธอ ฉันจำได้ ก่อนนี้เธอเคยหัวเราะ เวลาฉันบอกว่า จะไม่ยอมกินลำไยพันธุ์กระโหลก เด็ดขาด เพราะชื่อมันน่ากลัว จะกินแต่ลำไยพันธุ์สีชมพู ฟรุตตี้ เท่านั้น แต่สุดท้าย ไม่ว่าลำใยพันธุ์อะไรที่เธอเอามา ฉันก็กินเกินบันยะบันยังจนเป็นร้อนใน แล้วต้องให้เธอลำบากหายาเขียวมาให้ฉันกินแก้ร้อนในอยู่บ่อยๆ เช้ามืดวันนี้ ก่อนเดินทางมาทำงาน ฉันเดินประคองลำไยถุงย่อมๆ ข้างในมีลำไยลูกใหญ่ คัดพิเศษที่ฉันตั้งใจเลือกซื้อมาโดยเฉพาะ แฟนของเธอนั่งอยู่โน่นแล้ว ฉันยื่นถุงลำไยให้ยังไม่ทันพูดอะไร แฟนเธอก็บอกว่า "ซื้อของแพงๆมาอีกแล้ว ฟุ่มเฟือยไม่เข้าท่า" แฟนเธอฟอร์มจัดจัง รู้หรอกว่าพอฉันเดินคล้อยหลังไป ประเดี๋ยวก็มีเสียงกรอบแกรบจากถุงลำใยนั่นแน่ๆ แฟนเธอก็ชอบกินลำไยใช่ย่อยเมื่อไร เขาเคยมาโม้ให้ฟังว่า เคยขับรถขึ้นเหนือไปกับเธอสองคน แล้วเธอปอกลำใยให้เขากินตลอดทาง โมแรนติกกันจังเลยเนอะ ฉันยิ้มอย่างใจเย็น และบอกพ่อหนุ่มสุดหล่อแฟนเธอว่า วันนี้วันเกิดเธอ และฉันคิดถึงเธอ เห็นลำใยพวงสวยๆแล้วคิดถึง.... ฉันเลยขอร้องแกมบังคับว่า"...พ่อกินลำไยแทนแม่ให้หน่อยนะ" ดาวตกสวยไหม ลำไยอร่อยไหม ....คิดถึงกันบ้างไหม อยากหนุนตักเธอทุกวัน จาก แม่เนื้ออุ่นของเธอ
Create Date : 27 กรกฎาคม 2553
Last Update : 27 กรกฎาคม 2553 13:26:40 น.
Counter : 1316 Pageviews.
ชื่อเดิมของ 'ต้อยติ่ง'
คุณนายเอี่ยมพาฉันลัดเลาะมาตามถนนที่คุ้นเคย ลมร้อนเอื่อยๆโฉบผ่านแก้มฉันไปเมื่อครู่ แดดช่วงเที่ยงอย่างนี้ เป็นโอกาสดีที่ผู้หญิงสามารถมีแก้มปลั่งอมชมพูได้โดยไม่ต้องพึ่งบลัชออนราคาแพง ถ้าไม่นับแสงยูวีระดับเซลล์พิฆาตที่แถมพกมาด้วยแล้ว การเดินทางพร้อมกินลมยามเที่ยงไปด้วยก็เพลินดีไม่น้อย สุดโค้งถนน ฉันพบขบวนพาเหรดของกลุ่มสาวน้อยชุดม่วง กำลังเต้นรำในจังหวะสายลมอยู่ริมทาง พวกเธออาจจะอ่อนซ้อม หรือรักอิสระจนเป็นนิสัย สาวต้อยติ่งกลุ่มนี้จึงเต้นรำไม่ค่อยเข้าจังหวะกันนัก แต่ลีลาเปิ่นๆของหางเครื่องริมทางก็น่ารักจนฉันต้องหยุดรถ และระเบียบพัก ทักทายพวกเธอจนได้ แม้นักพฤกศาสตร์จะจัดกลุ่มต้นต้อยติ่งให้อยู่ในหมวดพืชล้มลุก บ้างก็ให้มันไปเข้าพวกกับกลุ่มวัชพืช แต่ในสายตาฉัน ดอกไม้สีม่วงดอกเล็กแสนต่ำต้อยอย่างต้อยติ่ง กลับเป็นแดนซิ่งควีนประจำสวน ที่เจอที่ไหนเป็นสนุกที่นั่น ฉันรู้จักต้อยติ่งเป็นครั้งแรกจากการแนะนำเชิงสร้างสรรค์ของพี่ชาย วันหนึ่ง ฉันเห็นพี่นั่งยงโย่ ยงหยกแถวพุ่มไม้แล้วกลับมาพร้อมเมล็ดพืชเรียวรีสีน้ำตาลอ่อนหนึ่งกำมือ พี่ชายถามฉันว่า'อยากชิมไหม เม็ดต้อยติ่ง อร่อยนะ...' ฉันอ้าปากฉลองศรัทธาและอมเมล็ดต้อยติ่งสามสี่เม็ดที่พี่หย่อนใส่ปากอย่างว่าง่าย ชั่วอึดใจ ยังไม่ทันสัมผัสนึกรู้รสชาติของเมล็ดพืชแปลกๆที่ว่า ฉันก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า ในปาก พร้อมกับรู้สึกเหมือนมีเม็ดพริกรสจืดกระจายเกลื่อนเต็มกระพุ้งแก้ม ว่ากันว่าความไว้ใจเป็นบ่อเกิดของการโดนหลอกมามากต่อมาก... และบางที กับน้องกับนุ่งก็ไม่เข้าข่ายยกเว้น... จากประทับใจแรกที่ยากจะเลือน ฉันได้รับการถ่อยทอดวิชาดอกต้อยติ่งอันใหม่จากพ่อว่า ถ้าจะเล่นให้สนุกและไม่เจ็บตัว ควรเก็บเมล็ดแก่ๆสีน้ำตาลอ่อนของมันมาหย่อนบ่อน้ำ หรือถ้าอยากใกล้ชิดติดขอบเวทีก็ต้องหาขันใส่น้ำสักใบมาหยอดเมล็ดต้อยติ่งเล่น เวลาเมล็ดต้อยติ่งถูกน้ำแล้วแตกดังโพละ ๆ ๆ ทางโน้นบ้างทางนี้บ้าง มันจะตื่นตาตื่นใจเหมือนดูดอกไม้ไฟในน้ำเลยทีเดียว ฉันเคยเป็นเหน็บแล้วเป็นเหน็บอีกเพราะมัวง่วนกับการนั่งยองๆเก็บเมล็ดต้อยติ่งใส่ขันอยู่นั่นแล้ว หวังจะเก็บให้หมดทุกเมล็ดที่มีในสวน แล้วจะเอามาโปรยตรงบ่อน้ำรวดเดียว'ทั้งขัน' โครงการ ระเบิดซีโฟร์ต้อยติ่ง ของฉันวันนั้นสำเร็จตามตั้งใจ แต่ฉันก็เรียนรู้ไปพร้อมกันว่า ทุกข์เนิ่นนานจากการเป็นเหน็บ ไม่คุ้มกันเลยกับการดูระเบิดต้อยติ่งแบบรวดเดียวจบแค่ไม่กี่วินาที การละเล่นครั้งต่อไปของฉัน จึงสนุกกับการค่อยหย่อนเมล็ดต้อยติ่งลงน้ำทีละเมล็ดสองเมล็ด การแสดงดอกไม้ไฟในน้ำของเมล็ดต้อยติ่งแบบวิธีหลังอาจไม่อลังการเท่าแบบแรก แต่แน่นอนว่า ช่วงเวลาความบันเทิงจะยาวนานกว่า และเต็มตื้นกับทุกการแสดงของแต่ละเมล็ดมากกว่า ในวัยเด็ก ฉันเคยถามพ่อว่า ทำไมดอกต้อยติ่งถึงชื่อว่า ต้อยติ่ง พ่อจนใจกับคำถามแปลกๆของฉันเสมอ แต่พ่อก็พยายามตอบฉันแบบเกี่ยวเก็บเหตุผลมาประกอบสุดฤทธิ์ว่า อาจเพราะมันเป็นพืชต่ำต้อย และเมล็ดของมันออกมาเป็นฝักคล้ายติ่ง วันที่ฉันเขียนถึงดอกต้อยติ่งในบล็อกของฉันวันนี้ ฉันยังหาที่มาที่พิสูจน์ได้จริงของชื่อต้อยติ่งไม่ได้ แต่จากการที่ต้อยติ่งเป็นทั้งของเล่นแก้เหงา และเป็นข้อคิดเตือนใจ ให้ฉัน ฉันเลยคิดประสาซื่อว่า บางที 'ต้อยติ่ง' อาจมีที่มาจากชื่อเดิมของมันว่า Toy-Think
Create Date : 13 กรกฎาคม 2553
Last Update : 13 กรกฎาคม 2553 17:01:24 น.
Counter : 1931 Pageviews.
Woody the Alzheimer conqueror - โชคดีไหมที่เราได้อยู่ด้วยกัน
เพลง Shooby Doing นำร้องวงประสานเสียงโดย วูดดี้ ไกส์ ผู้ป่วยอัลไซเมอร์อายุ 82 ปี ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้สาวป้ำเป๋อ ผู้มักจำในสิ่งไม่ควรจำ และลืมในสิ่งไม่ควรลิม...อย่างฉัน สองเดือนก่อน ฉันเปิดทีวีและไล่ช่องหารายการถูกใจไปเรื่อยๆ จนพบรายการสารคดีชิ้นหนึ่งโดยบังเอิญชื่อ The Alzeimer Project สารคดีชิ้นนี้นำเสนอเรื่องราวของผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์เป็นตอนๆ ซึ่งแต่ละคนก็มีเกร็ดชีวิตน่าสนใจต่างกันไป แต่ตอนที่ฉันประทับใจมากจนต้องคว้าปากกามาจดรายละเอียดเก็บไว้คือตอนของคุณลุงวูดดี้ ไกส์ (Woody Geist) วัย 82 ปี วูดดี้ทรมานด้วยโรคหลงลืมมากว่า 14 ปีแล้ว เวลาภรรยาและลูกๆไปเยี่ยมเขาที่ศูนย์ดูแลฯ บ่อยครั้งต้องทบทวนความสัมพันธ์และเล่าเรื่องในอดีตให้วูดดี้ฟังซ้ำๆ แต่ดูเหมือนพวกเขากลับกลายเป็นคนแปลกหน้าซึ่งกันและกันในทุกครั้งที่พบ โรสแมรี่ ภรรยาของวูดดี้เอาภาพสมัยยังหนุ่มของเขามาอวด พร้อมบอกเล่าลักษณะนิสัยสุภาพและเป็นสุภาพบุรุษของสามี ทั้งยังเล่าถึงกิจกรรมร้องเพลงประสานเสียงที่วูดดี้เคยโปรดปรานให้ฟังแอย่างภาคภูมิใจ ภาพในอดีตของหนุ่มวูดดี้หล่อเหลา ดวงตามีประกายสดใสเหมือนจะประกาศให้รู้ว่า ชายผู้นี้มีความสุขตลอดเวลา โรสแมรี่มองภาพนั้นนิ่ง นาน ก่อนจะบอกเบาๆว่า - ฉันประมาณไม่ได้เลยว่าฉันสูญเสียอะไรไปมากแค่ไหน - ช่วงต่อมา สารคดีพาเราเดินทางพร้อมวูดดี้ ภรรยาและลูกเพื่อไปร่วมปาร์ตี้พิเศษงานหนึ่งนอกศุนย์ดูแลผู้ป่วยฯ ระหว่างทาง วูดดี้เอ่ยถามภรรยาและลูกตลอดเวลาว่าเรากำลังจะไปไหนกัน ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงงาน สมาชิกของวงประสานเสียงเดอะ กรันยอนส์ ( The Grunyons) กลุ่มเพื่อนเก่าที่วูดดี้รักใคร่รอเขาอยู่บนเวทีแล้ววูดดี้ไม่รู้ว่าตัวเขาถูกพามาที่นี่ทำไม และผู้คนที่กำลังรายล้อยเขาอยู่เป็นใคร แต่เมื่อเขาได้รับเชิญขึ้นเวที และพิธีกรบอกเขาเพียงว่า 'ต่อไปนี้เราจะร้องเพลงShooby Doing กันละนะครับ' เพียงดนตรีขึ้นไม่กี่วินาที วูดดี้ก็สามารถร้องเพลงนำวงประสานเสียงนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ ฉันนั่งดูมินิ คอนเสิร์ตเฉพาะกิจของวูดดี้และเพื่อนอย่างทึ่ง ผู้ชมในฮอลล์วันนั้น คงรู้สึกไม่ต่างกับฉัน แม้วูดดี้จะสูญเสียความทรงจำเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของตัวเอง แม้เขาจะไม่สามารถรำลึกถึงหลายสิ่งหลายอย่างในอดีต แต่ก็น่าอัศจรรย์ที่ว่าในรอยหยักความทรงจำของเขายังเก็บรักษาข้อมูลเกี่ยวกับเพลงโปรดไว้ครบถ้วน และสามารถเรียกคืนความทรงจำทั้งมวลส่งผ่านมาสู่ปากของวูดดี้ได้ในทันทีที่ได้ยินเสียงคอรัสเริ่มต้น ตอนสุดท้ายของสารคดี ขณะที่ภรรยาและลูกนำวูดดี้มาส่งที่ศูนย์ดูแล วูดดี้เฝ้าพูดแต่คำว่า 'WE are lucky. Aren't we nice to be together' - เราโชคดีจริงๆ มันเยี่ยมเลยนะที่เราได้อยู่ด้วยกัน... ก่อนนี้ ฉันเคยยืมหนังสือThe Notebook สำนวนหวานหยดโดยนิโคลาส สปาร์ค เจ้าพ่อนิยายรัก มาอ่านแก้เบื่อช่วงปิดเทอม มันเป็นหนังสือที่กล่าวถึงหญิงชราคนหนึ่งที่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์ และกิจวัตรของเธอคือการนั่งฟังชายแปลกหน้า คนหนึ่งอ่านบันทึกรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งให้เธอฟังทุกวัน โดยหารู้ไม่ว่าชายแปลกหน้าคนนั้นคือสามีของเธอเอง ระหว่างอ่าน ฉันมักอุทานในใจบ่อยๆว่า เฮียสปาร์คเขียนได้เว่อร์มั่กๆ.... ใครมันจะรักแท้แน่เหนียว เหมือนเคี่ยวน้ำเชื่อมหมดโรงงานน้ำตาลขนาดนั้น ต่อเมื่อฉันนั่งดูสารคดีชีวิตจริงของคุณลุงวูดดี้และภรรยาใน The Alzheimer Project นี้ ฉันก็พอจะเห็นเค้าลางของความเป็นไปได้ และเห็นด้วยกับพวกเขาเหลือเกินว่าYes, YOU are so lucky. คุณลุงวูดดี้และลูกสาว - ขอบคุณภาพจากกูเกิ้ล หมายเหตุ : จากการสืบค้นเพิ่มเติม อากู๋ ( google) บอกฉันว่าคุณลุงวูดดี้เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อหกเดือนก่อน ในงานศพของเขา มีการนำสารคดีชุดนี้มาเปิดเพื่อรำลึกถึงคุณลุงวูดดี้ด้วย นับเป็นชายผู้โชคดีที่ได้ร้องเพลงกล่อมแขกในงานศพของตนเองอ่านเรื่องราวบางส่วนของคุณลุงวูดดี้เพิ่มเติมได้ที่นี่ (ขอบคุณพี่ yyswim ที่ส่งวิธีทำลิงค์แบบข้างบนมาให้เป็นวิทยาทานค่ะ ทำเป็นแล้ว ดีใจจัง )
Create Date : 08 กรกฎาคม 2553
Last Update : 8 กรกฎาคม 2553 13:58:36 น.
Counter : 1149 Pageviews.