ต้นกล้ายอดอ่อน กลางฤดูรอยยิ้มผลิ
มุมหนึ่งจากนิทรรศการหนังสือฯ ภายในงาน
จดหมายพร้อมหมายกำหนดการแจ้งเรื่องการรับพระราชทานรางวัลหนังสือจากกระทรวงศึกษาธิการเดินทางมาถึงฉันไม่กี่วันก่อนวันจริง โดยมีคุณทิพรัตน์ - - บก.หนังสือคู่บุญของฉันช่วยประสานงานด้านเอกสารและการตอบรับให้
ฉันอ่านรายละเอียดคร่าวๆแล้วนึกอยากมีพี่ม้า อรนภาเป็นเพื่อนสนิท...
ตารางเวลาและหมายกำหนดการยาวเหยียดนั้นไม่เท่าไร แต่ที่เขาระบุการแต่งกายนี่สิ ทำเอาคนขาสั้นที่วิ่งเหยาะแหยะตามแฟชั่นไม่ทันอย่างฉันกังวลลึกๆ
จดหมายระบุว่าผู้รับรางวัลฝ่ายหญิงต้องสวมกระโปรงคลุมเข่าหรือชุดสากลสุภาพ รองเท้าหุ้มส้นเท่านั้น และงดแต่งกายด้วยชุดสีดำ
กว่าฉันจะฝ่าด่านได้ชุดที่พอไปเข้าเฝ้าได้ ก็เหงื่อตกต้อนรับต้นฤดูร้อน ดีใจลึกๆที่ ไม่ได้เป็นดาราหรือเซเลบริตี้โด่งดังอะไรกับเขา ไม่อย่างนั้นอาจถูกคุณเจ๊จ่าจากรายการดาวกระจาย สุดสัปดาห์ เอาภาพฉันมาเป็นตัวอย่าง แล้วก็ส่งเสียงแหลมร้องถามท่านผู้ชม
" ไฟอะไรดีคะ ไฟอะไรดีคะ ...ไฟ ไฟ..."
ก่อนเจ๊จ่าจะยกป้ายไฟสีแดงขึ้นมา เป็นหมายเหตุ แทนใจว่า ไม่ไหวจะเคลียร์ อิชั้นเพลียเฮดมากค่ะ
เมื่อถึงหน้างาน จึงได้แจ้งใจว่า ดูเหมือนฉันจะแต่งกายเรียบร้อยและถูกระเบียบเกินกว่าเหตุ...
กับอาจารย์ชมัยภร แสงกระจ่าง เจ้าของนามปากกา ไพลิน รุ้งรัตน์
กับบก.หนังสือคนเก่ง
ที่งาน ฉันได้พบบก.หนังสือของฉันเป็นครั้งแรก หลังจากที่เราติดต่อเรื่องหนังสือกันมานาน การสนทนาของเราระหว่างรอเวลาพระราชพิธีเริ่ม ทำให้ฉันได้แง่มุมเกี่ยวกับวงการสิ่งพิมพ์มากมาย และฉันภูมิใจที่มีโอกาสเป็นจุดฟูลสตอปเล็กๆ จุดหนึ่งในโลกหนังสือนี้
ในพระราชพิธี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงสง่างาม ณ ที่ประทับ ฉันทราบต่อมาว่าในวันนั้น พระองค์ท่านทรงงานหลายที่ แต่พระองค์ยังเสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานรางวัลและเยี่ยมชมงานอย่างสนพระทัย
จุดฟูลสตอปเล็กอย่างฉัน ได้แต่พูดในใจซ้ำๆ ว่า ขอจงทรงพระเจริญ
วันรุ่งขึ้น ฉันมีนัดหมายกับสำนักพิมพ์ไปช่วยยกลังหนังสือเวลาเที่ยงตรง และหากมีเวลาก็คัดลายมือบนหน้าหนังสือกล้องส่องทางใจไปพลางๆ
ชั่วโมงคัดลายมือ ประจำรายวิชากล้องส่องทางใจ
ถึงแม้ตลอดวันนั้น กรุงเทพเมืองฟ้าอมรจะฉาดฉานไปด้วยคลื่นทะเลสีแดง และทำให้การจราจรหลายจุดติดขัดทั่วเมือง แต่บรรดาคนรักการอ่านก็ยังมุ่งหน้ามาร่วมงานกันคับคั่ง ฉันเอง แม้ตั้งใจอย่างแรงกล้าว่าจะไม่ซื้อหนังสือกลับบ้านไปมากนัก เพราะที่รอคิวอ่านอยู่ก็ไม่รู้จะสะสางอย่างไรให้หวาดไหวแล้ว ถึงอย่างนั้น ก้ยังเผลอใจซื้อติดมือไปบ้านอีกหลายเล่ม
หน้าตาผิดระเบียบของเด็กยกลังหนังสือ (ขอบคุณข้อมูลเชิงลึกจากสนพ.อมรินทร์)
หนอนบางชนิดกินใบไม้แล้ว ก็ตอบแทนธรรมชาติด้วยศิลปะ จากสารอาหารที่มันกินเข้าไป โลกเราจึงมีผีเสื้อ ไว้ชื่นชม
นักอ่านบางคนอ่านหนังสือแล้ว อยากกลั่นความคิดเป็นศิลปะ โลกเราจึงมีนักเขียน ไว้ผลิหนังสือเป็นใบไม้ บริการหนอนตัวอื่นๆได้อ่านต่อไปเรื่อยๆ
เวลาฉันเจอหนังสือ ก็เหมือนหนอนเจอใบไม้ เวลาฉันอ่านหนังสือ ก็เหมือนหนอนกินใบไม้
ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุของความชอบ ไม่สนใจว่าวันพรุ่งนี้จะแปลงกายเป็นผีเสื้อ หรือซากหนอนใต้พุ่มไม้
ขอแค่ได้อยู่ใกล้ๆใบไม้ และได้ตัวพองๆ สมองพลุ้ย ก็มีความสุข
ถ้าหนอนพูดได้ คงบอกคล้ายๆที่ฉันรู้สึก
เมื่อกลับถึงบ้าน ฉันบอกเล่าเหตุการณ์ที่พบในสองวันที่ผ่านมาให้พ่อฟัง ฉันบอกพ่อติดตลกว่า เมื่อเทียบกับหนังสือนับล้านๆเล่มในงานสัปดาห์หนังสือแล้ว หนังสือของฉันช่างกระจ้อยร่อยยิ่งกว่าปลานีโมในมหาสมุทรเสียอีก
พ่อไม่วิจารณ์อะไร แต่บอกฉันสั้นๆว่า
ในเส้นทางการเขียน ฉันเป็นเหมือนต้นกล้าที่เพิ่งแทงยอดอ่อนขึ้นมาจากดิน ต้นไม้ต้นสูงใหญ่ที่มีกิ่งก้าน ที่มีใบดกหนาก็มีจุดเริ่มต้นจากต้นกล้าต้นเล็กๆด้วยกันทั้งนั้น
พ่อประหยัดถ้อยคำอย่างกับขนบของการเขียนพลอตเรื่องสั้น ที่ทิ้งท้ายไว้ให้ตีความเอาเอง
ฉันผู้ซึ่งเติบโตมากับคำสอนแบบอุปมาของพ่อมาตลอดชีวิต เห็นด้วยในคำพูดของพ่อ บ่อยครั้งที่เราสื่อสารกันเหมือนภาพโฆษณาในสื่อสิ่งพิมพ์ ที่เน้นคำน้อย แต่จะเข้าใจความหมายอย่างลึกซึ้ง ก็ต่อเมื่อเราใส่ใจกับรายละเอียดระหว่างถ้อยคำนั้นจริงๆ
ฉันสูดลมหายใจเข้าปอด ทำทีเหมือนต้นไม้ที่กำลังสังเคราะห์สารคลอโรฟิลด์จากแสงอาทิตย์
แสงอาทิตย์จากคำพูดของพ่อ
อีกนานกว่าต้นกล้าต้นนี้จะโต แต่ฉันไม่รีบร้อน เพราะถึงฤดูใบไม้ผลิอีกหลายปีข้างหน้าจะยังไม่มาถึง
แต่ฤดูรอยยิ้มผลิมาอยู่ตรงหน้าฉันนี่แล้ว
บางดอกไม้ คลี่กลีบเพียงครึ่งเดียว แต่รู้ใช่ไหมว่าดอกไม้ กำลังยิ้ม บางมุมปาก ทำทีเหมือนบูดบึ้ง แต่รู้ใช่ไหมว่าเธอ กำลังยิ้ม
หมายเหตุ: ขอขอบคุณเพื่อนที่มาช่วยเป็นตากล้องให้ค่ะ : )
Create Date : 29 มีนาคม 2553 |
Last Update : 30 มีนาคม 2553 10:36:18 น. |
|
15 comments
|
Counter : 1526 Pageviews. |
|
|
แล้วตกลงเจ๊จ่าให้ไฟอะไร?