Bloggang.com : at heart

กินเจกินเต้าหู้มากๆ มีประโยชน์กว่ากินแป้งค่ะ ฉันทำเต้าหู้คั่วพริกเกลือกินร้อนๆ อร่อยดี

เอาเต้าหู้ไปทอดให้ผิวเหลืองสวย

ส่วนผสมมีแค่นี้ เกลือ ชวงเจีย พริกแดง และขิงสับ

เมื่อทอดเต้าหู้แล้วก็ตักขึ้นพักไว้

เทน้ำมันกระทะออก แล้วใส่เครื่องลงไปผัดให้หอม ใส่เต้าหู้ทอดลงไปเคล้าให้เครื่องจับเต้าหู้อย่างทั่วถึง

เสร็จแล้วค่ะ ง่ายมาก

กินเจปีนี้ฉันทำกับข้าวไปหลายหม้อแล้ว รวมถึงต้มพะโล้เต้าหู้และหมี่กึงไว้หม้อใหญ่ เลยเอามาทำก๋วยจั๊บเจด้วยเลย

เต้าหู้ขาว เต้าหู้พวง หมี่กึงที่ต้มพะโล้ไว้หอมๆ

ต้มน้ำซุปใส่หัวไชเท้า รากคึ่นฉ่าย ขิง และเห็ดหอม ปรุงรสด้วยพริกไทยเม็ดบุบ เกลือป่น น้ำตาลทรายแดง ซีอิ้วดำเค็ม ซอสเห็ดหอม ใส่น้ำพะโล้ลงไปด้วย ต้มจนหัวไชเท้าสุกน้ำซุปเข้าที่

ระหว่างนั้นก็เอาไชโป๊วสับมาเจียวกับน้ำมัน ซอยคึ่นฉ่าย ทำพริกดองน้ำส้ม

ลวกเส้นไว้แล้วคลุกน้ำมันไม่ให้ติดกัน

เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็จัดเส้นใส่ชาม ใส่เต้าหู้และหมี่กึง โรยไชโป๊วเจียว คึ่นฉ่าย พริกไทยป่น ตักน้ำซุปราด ใส่พริกน้ำส้มสักหน่อย

ก๋วยจั๊บเจ กินปีละครั้งค่ะ

ฉันเกิดอยากกินจาจังมย็อนขึ้นมา อันที่จริงเมื่อก่อนก็ทำบ่อย แต่พออยู่เมืองไทยก็แทบไม่ได้ทำเพราะวัตถุดิบเกาหลีแพงเกิน คราวนี้ความอยากกินทำให้ไปซื้อของจากซูเปอร์มาร์เก็ตเกาหลีที่โคเรียนทาวน์ เลือกของมาได้ 3 อย่าง คือ ผงทำซอสจาจัง บะหมี่สำหรับทำจัมปง ใช้แทนเส้นสดแบบมือดึงที่ไม่มีใครทำขาย และมักโกลี (สาโทเกาหลี) หนึ่งขวด

กะว่าทั้งหมดคงจะ 500 กว่าบาท พออาจุมมาคิดเงินมาแทบหงายหลัง เจ้แกบอกว่า 1,100 บาท ฉันมั่นใจว่าคิดเงินผิดแน่ ๆ ขอทวนราคาทีละชิ้น ปรากฏว่าซอสเจ้ากรรมซองนี้ขนาด 1 กิโลกรัม ราคา 750 บาท พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ! ฉันเคยซื้อใช้เสมอ ๆ ที่เวียดนามไม่ถึง 300 บาท แต่ไหน ๆ ก็ไปถึงร้านแล้วจึงไม่อยากเสียเที่ยว กัดฟันซื้อมา

เพราะว่ามีเวลาน้อยเลยใช้ผงซอส ทำออกมาเหมือนร้านเปี๊ยบ แน่สิยะ! และที่นี่การหาซอสชุนจังที่ทำจากถั่วดำหมักก็ไม่ง่ายแถมไม่ได้ถูกกว่ากัน อย่างน้อยซองนี้ก็ทำได้สัก 4-5 ครั้ง แบบกินทั้งบ้าน ก็เลยหยวน ๆ ยังไงรวมแล้วก็ถูกกว่าไปกินที่ร้านแน่ ๆ

เตรียมปอกกั่นวัตถุดิบให้เป็นลูกเต๋า อันได้แก่ หมู หอมใหญ่ มันฝรั่ง และแคร์รอต ที่จริงต้องมีซูกินีด้วย แต่หาไม่ได้ก็เลยเว้นไป

ซอยแตงร้านให้เป็นเส้น อันที่จริงถ้ามีแตงเกาหลี แตงญี่ปุ่น ก็จะดีกว่า เพราะแตงร้านไส้เยอะ ต้องหั่นไส้ทิ้ง ซอยแล้วแช่เย็นไว้ เวลากินจะได้กรอบ

ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมสับลงไปผัดตามด้วยหอมใหญ่ใส่เยอะๆ อร่อย ผัดจนสุกหอม ก็ใส่ผักที่เหลือและหมูลงไปผัดให้สุก

ผงซอสจาจัง ตักมาละลายน้ำเตรียมไว้ปริมาณกะเอาเอง ถ้าน้อยไปก็เพิ่ม ถ้าเยอะไปจะเค็ม เพราะเขาปรุงรสมาแล้ว เราไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย

ผัดเครื่องให้เข้ากันให้ผักทุกอย่างสุกนุ่มดี ตอนนี้ต้องคอยคนกระทะเพราะซอสนี้มีแป้งมีความข้นเหนียวอยู่แล้ว ถ้าไม่คนจะไหม้ติดกระทะ ถ้าแห้งไปให้เติมน้ำ ซอสจะต้องมีน้ำขลุกขลิกไว้ราด ผัดจนพอใจก็ตักใส่หม้อรอไว้

ต้มเส้นให้สุก ล้างน้ำเย็น แล้วใส่น้ำมันงาคลุกไว้ไม่ให้เส้นติดกัน

ทุกอย่างพร้อมก็จัดใส่ชาม คีบเส้นใส่ ราดด้วยซอส โปะหน้าด้วยแตงกวาซอย กินกันให้ปากดำ อร่อยสมใจค่ะ

ซอสจาจังนี้เอามาราดข้าวเกาหลี ข้าวญี่ปุ่นก็อร่อยมากค่ะ เรียกว่า จาจังบับ 짜장밥 อ้อ! ถ้าอยากกินแต่ไม่อยากทำให้เข้าร้านอาหารจีนของเกาหลีนะคะ เพราะนี่คืออาหารจีน ไม่ใช่อาหารเกาหลีค่ะ

ช่วงนี้เป็นฤดูกาลของอโวคาโด ผลไม้ที่อุดมด้วยคุณค่า อากาศร้อนจัดของบ้านเราที่ร้อนได้ทุกฤดู ต้องกินอะไรแซบๆ คลายร้อนค่ะ

ยำอโวคาโดก็แล้วกัน เครื่องก็ตามใจชอบเลยค่ะ มีอะไร ชอบอะไร ก็ใส่อย่างนั้น เผอิญฉันมีเห็ดออกช่ออยู่ก็เลยเอาไปลวกใส่มายำด้วยกันเลย พร้อมกับมะเขือเทศ หอมใหญ่ และใบโหระพาเพิ่มกลิ่นสมุนไพรให้หอมๆ

น้ำยำแบบมาตรฐาน พริกขี้หนู กระเทียม น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย คนให้เข้ากันชิมแล้วปรุงรสตามชอบ

จัดการราดบนชามผัก ง่ายๆ แค่นี้ค่ะ

คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วรับประทาน รสชาติจี๊ดจ๊าดสมใจค่ะ กินแล้วสดชื่นดีจัง

ปูทำอะไรก็อร่อยจริง ๆ นะ แค่ต้มก็อร่อยแล้ว น้ำจิ้มไม่ต้อง วันนี้ฉันได้ปูก้อนงาม ๆ กรรเชียงปูล้วน ๆ เอามาผัดผงกะหรี่ดีกว่า

ปูก้อน อย่าถามราคา ของดีไม่มีถูกอยู่แล้ว

บุบกระเทียม ซอยหอมใหญ่ โคนต้นหอมญี่ปุ่น ต้นหอมจีน และพริก เตรียมไว้ให้พร้อม

ผสมน้ำซอสผัดด้วยน้ำพริกเผา ซอสหอยนางรม นมสด ไข่ และผงกะหรี่ เข้าด้วยกัน

ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใส่กระเทียม และต้นหอมลงไปผัดให้สุกตามด้วยพริก

ใส่เนื้อกรรเชียงปูลงไปตามด้วยซอสผัด ผัดเบา ๆ เร็ว ๆ ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำปลา ชิมรสดูน้ำพริกเผามักจะหวานพอแล้ว ปิดท้ายด้วยการโรยคึ่นฉ่ายและพริกไทยป่น เคล้าเบา ๆ ก็เรียบร้อย

กินกันให้สะใจไปเลยค่ะ