|
๑๗๐-การอุบัติของพระพุทธเจ้า
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงย่อมมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา เป็นสัจธรรมความจริงที่อธิบายได้ และพิสูจน์อย่างที่ไม่มีอะไรมาคัดค้านไปได้ จนกระทั่งในยุคปัจจุบัน แต่อนิจจาการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติรอบตัวนี้ ก็เปลี่ยนแปลงให้เราเห็นรวดเร็วเหลือเกิน มารวดเร็วและมากมายเกินกว่าที่มนุษย์ทั้งหลายจะเห็นเป็นเรื่องผิดปกติ ในที่สุดก็กลายเป็นความเคยชิน เราจึงต้องตกอยู่ในบ่วงแห่งความประมาทต่อไป
ยุคสมัยที่ไม่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ คือ 1.ยุคที่มีความเจริญทางศีลธรรมอยู่แล้ว คือ เมื่อมนุษย์เริ่มคิดได้และประกอบคุณงามความดีกันมาก สังเกตจากอายุขัยของมนุษย์ที่เพิ่มมากขึ้น(ยุคที่เป็นขาขึ้นของศีลธรรม) 2.ยุคที่อายุของมนุษย์เกินกว่าหนึ่งแสนปีขึ้นไป เหตุเพราะไม่เห็นถึงความเสื่อมสลาย ไม่สามารถมองเห็นการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ได้ชัดเจน 3.ยุคที่มนุษย์มีอายุขัยต่ำกว่าหนึ่งร้อยปี เหตุเพราะมีความเสื่อมทางศีลธรรมมากเกินไป คนเกิดแล้วตายมากเกินไป จนดูเป็นเรื่องปกติ หมายถึงมันปกติเกินไป จนกระทั่งยากที่จะเหนี่ยวนำให้คนมา เห็นโทษแห่งการเวียนว่ายตายเกิดนี้ได้
โดยสรุปยุคที่ไม่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ คือ ยุคที่บรรดามนุษย์ทั้งหลายมีความประมาทอยู่มาก และไม่สามารถน้อมนำธรรมมาพิจาณาให้เกิดมรรค ผล นิพพานได้ ถึงได้ก็มีเพียงส่วนน้อย เป็นต้น
ดังนั้นการอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้านั้นเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากที่สุด ในบรรดาข่าวสารทั่วไป หากแต่เราทั้งหลายกับมองไม่เห็นความสำคัญอะไรกับเรื่องนี้ เหตุนั้นก็เพราะขาดความใส่ใจในการศึกษาและทำความเข้าใจในพุทธรรม อย่างจริงจัง
ประหนึ่งชาวนายากจน ผู้ไม่รู้ว่ามีขุมทรัพย์ฝังอยู่ใต้บันได ซึ่งตัวเองใช้เดินขึ้นลงอยู่ทุกวันอย่างนั้น
มันเป็นเรื่องจริงที่น่าใจหายมาก ขุมทรัพย์คือ พุทธศาสนานี้ ไม่ได้เกิดหรือมีกันโดยง่าย หรือแม้กระทั่งใครสักคนตั้งความปรารถนาให้สามารถเกิดทัน พุทธศาสนาในกาลต่อไป หากแต่บุคคลเหล่านั้นไม่ได้ประกอบในความเพียรในการกระทำกุศลกรรม ก็ยากที่จะเกิดทัน หากทันก็ไม่อาจจะทรงสภาวะความเป็นมนุษย์ได้ อาจจะกลายเป็น เดรัจฉาน หรือ สิ่งมีชีวิตประเภทอื่นที่ยากต่อการอบรมสั่งสอน ซึ่งก็เป็นการตัดโอกาสของตัวเองไป เป็นต้น
วันนี้กล่าวถึงเรื่องพระพุทธเจ้า และความศรัทธาที่มีต่อพระองค์นั้นก็มากมายอยู่ แม้ว่าจะไม่มีโอกาสได้เกิดร่วมสมัยกัน หรือ อาจจะเคยแล้วแต่ก็ไม่สามารถระลึกได้ นั่นก็เพราะอกุศลในเบ้าตาคือ มโนจิตมันปิดบังไม่ให้เห็นชาติ ภพ ที่ผ่านมา แต่อย่างไรเสีย ก็ยังโชคดีที่ศาสนาพุทธได้สถิตอยู่ ณ ดินแดนประเทศไทยแห่งนี้ และมีผู้ปฏิบัติตามหลักวินัยที่พระศาสดาวางไว้อย่างเคร่งครัด
ขอบรรดาเหล่าเทวา และอมนุษย์ทั้งหลายที่รวมกันปกป้องศาสนาของพระพุทธเจ้าสมณโคดมนี้ จงช่วยบรรดาความร่มเย็นแห่งยุคสมัย บรรเทาภัยอันตรายอันเกิดจากธรรมชาติเองก็ดี หรือ ฝีมือมนุษย์ที่หนาไปด้วยกิเลสก็ดี และคุ้มครองผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้มีศีลธรรม เพื่อให้โลกนี้สงบสุขอีกคราวหนึ่งด้วยเถิด
Create Date : 28 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 28 มิถุนายน 2552 20:29:17 น. |
|
9 comments
|
Counter : 937 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Nissan_n วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:21:20:18 น. |
|
|
|
โดย: Borken วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:21:52:34 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:22:14:26 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 28 มิถุนายน 2552 เวลา:22:22:14 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:7:34:50 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:8:14:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มิถุนายน 2552 เวลา:7:45:42 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:06:35 น. |
|
|
|
โดย: ผุ้จะมาตรัสรู้ในอนาคตกาล IP: 125.25.198.141 วันที่: 12 สิงหาคม 2553 เวลา:21:43:15 น. |
|
|
|
| |
|
|
ยังงัยก็คิดถึงนะคะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ฝันดีค่ะ