|
๒๒๖-การรักษาศีลกับภัยพิบัติ...
กระแสความเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศโลก กำลังสะท้อนให้เห็นถึงการกระทำ อย่างไม่เป็นธรรมต่อธรรมชาติของมนุษย์ สังเกตุจาก เริ่มมีแผ่นไหวถี่มากขึ้นและรุนแรงมากขึ้น ฝนตกหนักมากขึ้น มีพายุใต้ฝุ่นที่รุนแรง ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินถล่ม พายุหิมะ เกิดปัญหาภัยแล้ง เกิดคลื่นยักษ์ เกิดขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ ฯ โดยข่าวสารประเภทนี้มีให้เราได้ยินกันแทบทุกวัน เราได้ยินกันจนเกิดความเคยชิน ฟังดูเป็นเรื่องปกติของโลกไปแล้ว
แต่ที่น่าสนใจมากกว่าคือ ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ...
มนุษย์เรากำลังถูกท้าทายจากธรรมชาติ ซึ่งมีสาเหตุจากฝีมือของมนุษย์เอง หากย้อนกลับไปสัก ๑๕๐ ปี คนในยุคนั้นคงนึกไม่ถึงแน่ ๆ ว่าโลกมนุษย์จะมีสภาพเป็นอยู่อย่างทุกวันนี้
มีข่าวสารลับ ๆ ว่ามนุษย์กำลังจะถูกกวาดล้าง คนที่ไม่ดีจะตายกันหมดเกือบครึ่งค่อนโลก แต่มนุษย์ที่มีศีลธรรมจะมีชีวิตรอดจากภัยพิบัติ คุณคงเคยได้ยินข่าวประเภทนี้มาบ้าง
แต่ก็นั่นแหละบางครั้งเราต้องแยกแยะเอาความเป็นจริงให้ถูก คนดีมีศีลธรรมก็มีสิทธิ์ตายได้เท่า ๆ กับคนทุศีล หลายสิ่งหลายอย่างมันขึ้นอยู่กับเหตุกับปัจจัยในอดีต และปัจจุบันประกอบกัน ไม่ใช่จะเป็นอย่างนั้นเสมอ ๆ หากว่าเรารักษาศีลเพราะกลัวความตาย กลัวความวิบัติ อยากอยู่บนโลกนี้นาน ๆ หากคุณคิดอย่างนี้ก็เชื่อเถอะว่า คุณจะไม่ได้สิ่งนั้นในชาตินี้
เพราะความวิบัติความตายทุกคนย่อมพบประสบเจอด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครเลยที่เคยเกิดมาแล้วไม่เคยนอนทิ้งร่างไว้บนโลก
เหตุผลของการรักษาศีล คือ การสร้างปัจจัยในอนาคตให้ถึงพร้อม แล้วเราจะสามารถเลือกภพเลือกชาติได้ ไม่ต้องลงมาเกิดในยุคที่ยากเข็ญหรือห่างไกลจากพุทธศาสนา เช่นนี้เป็นเหตุผลที่เราควรจะรักษาศีลกัน อีกอย่างหนึ่ง การรักษาศีลยังเป็นการสร้างความร่มเย็น ให้กับชีวิตในปัจจุบันได้อีก ไม่ใช่เพื่อให้รอดพ้นจากภัยพิบัติ หรือความตายที่กำลังจะเกิดขึ้นในปัจจุบัน
แต่ธรรมดาของชีวิตคนนั้น เมื่อไม่เกิดผลร้ายขึ้นกับตัวเจ้าของเอง ก็จะไม่นึกถึงที่จะประกอบกุศล สั่งสมบุญกัน สังเกตุว่าคนที่ใกล้ตายแล้วมีความกังวล มีความทรมาณ ญาติต้องนำพระสงฆ์องค์เจ้ามาสวด มาทำให้ใจเย็น มาทำให้นึกถึงบุญกุศลก่อนตาย หรือ บางคนประสบเคราะห์เกิดอุบัติเหตุที เมื่อนึกหาสาเหตุไม่ได้ ก็เข้าวัดถวายสังฆทานสักครั้งหนึ่ง แล้วเมื่อเหตุการณ์ผ่านไป ก็ลืมบุญลืมกุศลอีก กลับมาทำอีกครั้ง ก็เมื่อมีเกิดเหตุการณ์เคราะห์ร้ายขึ้นมาอีก เป็นต้น
นั่นเพราะเขาไม่ได้นึกถึงที่จะทำกุศลในตอนที่ยังแข็งแรงอยู่ ต่างประมาทในชีวิต กระทำผิดศีล ๕ อยู่เสมอ ๆ ต่างจากคนที่ปฏิบัติธรรมเสมอ ๆ การมีชีวิตอยู่ ก็อยู่อย่างสงบ แม้ถึงคราวต้องตายก็ตายอย่างสงบ ไม่ได้สนใจว่าตัวเองจะตายอย่างไร ที่ไหน เมื่อไหร่ แต่คิดเสมอว่าความตายนั้นอยู่ใกล้เราทุกวินาที
เพราะอย่างนี้เอง เราทั้งหลายจึงต้องเร่งสะสมบุญกุศลกันไว้เถิด เพราะอนาคตข้างหน้า เรานั้นจะพึงหาเอาความแน่นอนได้จากที่ไหนกัน...
ขอขอบคุณรูปภาพงาม ๆ จาก //www.arzulgrana.com มากมายครับ
Create Date : 23 มีนาคม 2553 |
Last Update : 23 มีนาคม 2553 7:43:43 น. |
|
17 comments
|
Counter : 391 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ขมเตย วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:7:43:28 น. |
|
|
|
โดย: ขมเตย วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:7:44:14 น. |
|
|
|
โดย: อิ่ม_Aim วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:8:41:05 น. |
|
|
|
โดย: apple_meppo วันที่: 23 มีนาคม 2553 เวลา:10:47:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:5:21:32 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:10:50:21 น. |
|
|
|
โดย: หมึกสีดำ วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:23:24:39 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:2:25:17 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:7:30:17 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:8:27:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:10:06:26 น. |
|
|
|
โดย: ขมเตย วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:12:19:56 น. |
|
|
|
โดย: พรหมมาตร์ ชายสิม (prommart ) วันที่: 25 มีนาคม 2553 เวลา:16:24:55 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 มีนาคม 2553 เวลา:6:45:25 น. |
|
|
|
| |
|
|