ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๒๗๕ - ถ้ำส่องจิต



ชายนักเดินทางยังคงเดินทางอยู่ แม้ว่าปลายทางที่เขาตั้งไว้นั้นยังอยู่อีกไกลแสนไกล แต่จากประสบการณ์ระหว่างทางนั้น ทำให้เขาเข้มแข็งและมีมุมมองโลก ได้รอบด้านมากขึ้น ถึงแม้การเดินทางที่ผ่านมานั้น อาจจะทำให้เขาเกือบสูญเสียชีวิตไปก็ตาม แต่ด้วยแรงปรารถนา และบุญกุศลที่เคยทำไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ ก็สามารถทำให้เขาผ่านเหตุการณ์ร้าย ๆ นั้นมาได้

และในวันนี้ เขาก็ได้มาเดินทางมาถึง ดินแดนแห่งกระจกเงา สถานที่แห่งนี้ ประกอบด้วยป่าไม้อันร่มรื่น มีน้ำตก มีหมู่บ้านของคนพักอาศัย และมีถ้ำ ผา จำนวนมากมาย ส่วนสาเหตุที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งกระจกเงานี้ ก็เพราะภายในถ้ำแต่ละแห่งนั้นจะมีสารเรืองแสงชนิดหนึ่ง มีความใส จนสามารถสะท้อนแสงได้คล้ายกระจก หากใครเข้าไปแล้ว สามารถเห็นตัวเองในมิติต่าง ๆ กัน คล้ายกับปริซึมที่สามารถแยกแสงออกเป็นสีต่าง ๆ ทำให้ตาของมนุษย์มองเห็นได้

ชายนักเดินทางฉงนใจกับความแปลกประหลาดของถ้ำเหล่านี้ เขาหยุดพักที่บริเวณหน้าปากถ้ำแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะมีชายหนุ่มรุ่นราวใกล้เคียงกันเดินทางผ่านมา

“ท่าทางคุณไม่ใช่ คนในดินแดนแห่งนี้ใช่มั้ย...” ชายหนุ่มคนที่เดินทางผ่านมาถาม

“ใช่ครับ ผมเป็นนักเดินทางกำลังเดินทางไปยังดินแดนนิพพาน บังเอิญผ่านมายังสถานที่แห่งนี้ และได้เห็นถึงความงดงาม ร่มรื่น ก็เลยหยุดพักผ่อนชั่วคราว ...” ชายนักเดินทางตอบ

“อย่างนี้เอง ยินดีต้อนรับครับ มีคนเดินทางหลายคนมาพักยังดินแดนแห่งนี้ เพราะที่นี่เป็นสถานที่สงบ อากาศบริสุทธิ์ สำหรับนักเดินทางบางคน ก็ยอมยกเลิกการเดินทาง เปลี่ยนใจทำมาหากินมีครอบครัวอยู่ที่นี่ก็มีเยอะ ” ชายคนดังกล่าวพูดไปพลางหัวเราะไป

“ไม่ทราบว่าถ้ำแห่งนี้คือ ถ้ำอะไรครับ ข้างในดูงดงามยิ่งนัก ”

“อ๋อ... ถ้ำนี้ชื่อว่าถ้ำส่องจิต ข้างในจะมีสารลักษณะพิเศษชนิดหนึ่ง มีความใสคล้ายกระจกหลาย ๆ บานเรียงต่อกัน และจะสะท้อนกลับไปกลับมา คนที่เข้าไปแล้วจะสามารถรู้สภาพจิตของตัวเองใน ขณะนั้นได้ ” ชายคนนั้นอธิบาย

“พิเศษขนาดนั้นเลยเหรอครับ ” ชายนักเดินทางพูด

“ใช่ ๆ ปกติ บุคคลจำพวกนักบวช หรือนักเดินทางจะแวะเวียนมาที่นี่บ่อย เพื่อสำรวจความสวยงามของจิตตัวเอง ”

“แล้วผลที่ได้ล่ะครับ จะเป็นอย่างไร” ชายนักเดินทางถาม

“คนที่เดินเข้าไป จะสามารถมองดูตัวเองในอีกมิติหนึ่ง หากจิตใจเข้มแข็ง บริสุทธิ์ ก็จะมองเห็นร่างตัวเองมีความสว่าง สดใส งดงาม หากอยู่ในอารมณ์ขุ่นเขืองก็จะเห็นร่างของตัวเองเป็นสีม่วงหรือสีเทา หากมีอารมณ์โกรธก็จะเห็นร่างของตัวเองเป็นสีแดง สีเหลือง บางคนก็เห็นร่างของตัวเองมีเปลวไฟลุกโชนก็มี หากอยู่ในอารมณ์แห่งความหลง เคลิบเคลิ้ม ก็จะมองเห็นร่างตัวเองเป็นสีฟ้ามัว ๆ หรือ สีขาวปนเหลือง ยังไม่อีกมากมายหลายอารมณ์ที่ภายในถ้ำจะสะท้อนออกมา ซึ่งคนที่เข้าไปก็สามารถรู้ได้ด้วยตัวเอง ”

“แล้วคนอื่นก็สามรถมองเห็นได้เช่นกันใช่มั้ยครับ” ชายนักเดินทางถาม

“ไม่หรอก คนที่จะมองเห็นได้ก็มีแต่เจ้าตัวเท่านั้น คนอื่นไม่สามารถมองเห็นภาพในมิติอื่นที่ถ้ำสะท้อนออกมาได้ เขาจะมองเห็นคุณเหมือนคุณกำลังส่องกระจกอยู่เท่านั้น ”

“อย่างนี้นี่เอง น่าสนใจมาก ผมอยากจะลองเข้าไปดูในถ้ำนั้นบ้าง ” ชายนักเดินทางพูด

“ลองเข้าไปดูก็ได้ครับ ”

ชายนักเดินทางเดินเข้าไปในถ้ำส่องจิต ภายในถ้ำนี้ แม้ว่าจะไม่กว้างใหญ่มากนัก แต่ผนังถ้ำมีความแวววาว เต็มไปด้วยสารสะท้อนแสงอยู่เต็มไปหมด โขดหินมีความมันวาว ส่องประกายดูคล้ายว่าจะเป็นเพชรมากกว่า ชายนักเดินทางรู้สึกประทับใจกับธรรมชาติที่สร้างสรรค์ถ้ำที่วิจิตงดงามเช่นนี้ เขาค่อยเดินเข้าไป ยังใจกลางถ้ำ ซึ่งมีแผ่นหินคล้ายกับกระจกบานใหญ่ตั้งอยู่ รูปของเขาเริ่มปรากฎบนผนังถ้ำชัดขึ้นเรื่อย ๆ และสะท้อนกลับไปกลับมา ยังผนังถ้ำฝั่งตรงข้าม จึงทำให้ดูคล้ายกับในถ้ำแห่งนี้มีตัวตนของชายนักเดินทางอยู่นับร้อยคน ซึ่งทุกคนมีลักษณะเหมือนกันทุกประการ เขายืนหยุดอยู่ และจ้องมองไปที่แผ่นหินแผ่นนั้น มองเห็นตัวเองในอีกมิติหนึ่ง ภาพสะท้อนร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทา ค่อย ๆ ซีดจากลง อีกพักหนึ่งก็เปลี่ยนเป็นสีขาว สว่างไสว ไม่นานก็กลับกลายเป็นสีเทาเช่นเดิม สลับกันไปอย่างนี้ จนชายนักเดินเข้าใจความหมายแห่งภาพสะท้อนนั้น แล้ว เขาจึงค่อยพาร่างกายของเขาเดินออกมานอกถ้ำ

ซึ่งก็ไม่ได้พบชายคนที่แนะนำคนนั้นยืนอยู่อีกต่อไป....
- จบ -

ธรรมชาติของจิตใจเรา ต่างประสบต่ออารมณ์ที่มากระทบทั้งภายนอกและภายใน อย่างมากมายในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่เรากลับไม่ค่อยคิดเข้ามาสำรวจดูภายในจิตของเรา ว่าวันหนึ่ง ๆ เราประสบกับอารมณ์อะไรบ้าง มีความโลภ โกรธ หลง มากเท่าไหร่ การไม่ได้เข้าไปสำรวจจิตของตัวเอง ไม่ต่างอะไรกับการขับรถ โดยไม่ได้มองเข็มวัดความร้อนของเครื่องยนต์ ว่าสภาพของรถยนต์ที่ตัวเองขับ มีความร้อน เย็นเพียงใด และจะขับต่อไปได้อีกไกลเท่าไหร่ หรือเมื่อใดควรหยุดพัก หรือควรขับต่อไปด้วยความเร็วเท่าไหร่จึงจะพอดี

แผ่นหินใสในถ้ำ จึงหมายถึง จิตที่อยู่ภายในจิต ที่สะท้อนอารมณ์แห่งการปรุงแต่งนั้น ๆ ออกมา
ถ้ำส่องจิตจึงหมายถึง การรู้จักหยุดและสำรวจ อารมณ์ของตัวเอง อาจจะด้วยการนั่งสมาธิ หรือ การเจริญสติในขณะประกอบกิจวัตรประจำวัน หากเราไม่เข้าไปสำรวจ ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ ถึงแม้ถ้ำแห่งนั้นจะอยู่ใกล้ตัวเราเพียงใดก็ตาม

ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //images.travelpod.comมากมาย ครับ


Create Date : 18 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2553 20:54:58 น. 12 comments
Counter : 355 Pageviews.

 

สวัสดียามดึกค่ะ คุณอัสติสะ
เป็นงัยบ้างค่ะ สบายดีหรือเปล่า
งานยุ่งไหมค่ะ
...
มีความสุขตามอัตภาพนะคะ


โดย: Nissan_n วันที่: 18 พฤศจิกายน 2553 เวลา:21:40:43 น.  

 



นอนหลับฝันดีนะคะ คุณอัส
เอ..เหมือนว่า มินจะเคยได้อ่านเรื่องนี้
จากคุณอัสไปครั้งนึงแล้วหรือป่าวคะเนี่ย
ถ้าไม่ใช่ ก็คงเป็น fw เมล์เกี่ยวกับธรรมะ
ที่เคยได้รับอ่ะค่ะ....


โดย: มินทิวา วันที่: 19 พฤศจิกายน 2553 เวลา:4:12:08 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ

ชายนักเดินทาง
ยังคงเดินทาง







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:06:07 น.  

 
สงสัยต้องเข้าถ้ำส่องจิตตัวเองบ่อยๆ ซะแล้ว
Have a nice weekend naka


โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 20 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:16:45 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:32:49 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:23:24 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอัส..

หมดช่วงกฐินแล้วนะค่ะ..

อ้อมแอ้มเลยทอดกฐินพระในบ้านค่ะ..ฮิๆ

อยากเข้าถ้ำส่องจิตด้วยคนค่ะ..



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:18:43:53 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:5:00:18 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 27 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:20:49 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 28 พฤศจิกายน 2553 เวลา:7:25:34 น.  

 


หวัดดีวันอาทิตย์ค่ะคุณอัส


โดย: มินทิวา วันที่: 28 พฤศจิกายน 2553 เวลา:8:34:50 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา:6:31:24 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.