ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๓๙๕ - ความเปลี่ยนแปลง(เวลา ธรรมชาติและการสังเกต)





ช่วงนี้เป็นช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เมื่อสัปดาห์ก่อน ชาวเมืองยังหวั่นวิตกกับพายุลูกใหญ่ที่กำลังจะมาพัดผ่าน แต่วันนี้เวลาพ้นไปเพียงไม่กี่วัน ก็รู้สึกถึงความหนาวเย็นจากอากาศหนาวบ้างแล้ว เป็นลางบอกเหตุของการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ กาลเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วนัก แต่สิ่งที่จะผ่านไปเร็วหรือช้า บางครั้งมันก็ไม่อาจจะเอามาเทียบได้กับคนบางกลุ่ม เช่น นักโทษในห้องขังที่รอวันปล่อยตัว ย่อมรู้สึกว่าแต่ละวันของชีวิตช่างเชื่องช้าเหลือเกิน ในทางกลับกันพนักงานบริษัทที่ทำงานมาเหน็ดเหนื่อยทั้งปี ๑ สัปดาห์แห่งการพักร้อนนับว่าเป็นเวลาอันแสนสั้น

ทุกคนต่างปรารถนาสุข ผลักไสทุกข์ แม้ฐานเวลาสากลเท่ากัน แต่ความรู้สึกร่วมของเวลาแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน คนที่กำลังรอนัดกับคนอีกคนที่กำลังเร่งไปให้ทันนัด สำหรับ ๕ นาทีเท่ากัน แต่ความรู้สึกช้าเร็วเกี่ยวกับเวลานั้นต่างกัน

ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่าง ในช่วงปลายปีนี้ ข้าพเจ้ากำลังจะเปลี่ยนงานอีกครั้ง ซึ่งกำลังจะเป็นครั้งที่ ๒ นับตั่งแต่ทำงานมา บางครั้งก็อยากออกไปลองหางานในสาขาวิชาอื่นดูบ้าง งานในสายงานทางวิศวกรรมและเทคโนโลยี เริ่มรู้สึกเบื่อ แม้จะรู้สึกเบื่อ แต่ก็เข้าใจดีว่า เราไม่อาจจะหลีกหนีวิถีชีวิตแบบนี้ไปได้โดยง่าย(แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เสียเลยทีเดียว)ใจจริงอยากจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ค้นหาชีวิตและตัวตนที่มีอยู่ การออกไปปฏิบัติธรรมตามป่าเขา มันเริ่มมีแรงมากระตุ้นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ ทุก ๆ วัน ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้เราทราบว่า เวลาของชีวิตที่เราอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์นี้กำลังลดลงทุกวินาที

ชีวิตของเราคงคล้าย ๆ กับนาฬิกาทรายที่ด้านบนปิดทึบ ไม่ให้เรามองเห็นว่า มีทรายเหลืออยู่เท่าไหร่ แต่ทุก ๆ วินาที เม็ดทรายมันก็ล่วงลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก ไม่มีใครทราบได้อย่างแท้จริง ว่าทรายซึ่งหมายถึงเวลาของเราบนโลกจะหมดลงเมื่อไหร่ การรู้จักประกอบความดี ทำบุญ ทำกุศล อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่พอจะเป็นเครื่องรับประกันได้ว่า ในวันข้างหน้าเราจะพบแต่สิ่งที่ดี ดั่งเช่นประโยคที่เราเคยได้ยินกันจนชินหู

“ทำความดีได้ความดี ทำความชั่วได้ความชั่ว”


คำว่าดีกับความดีฟังดูความหมายเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วความหมายลึกซึ้งต่างกัน สำหรับคำพูดประโยคบางประโยค หากเราจำแล้ว ไม่นำไปคิดพิจารณาให้ดี ก็อาจจะทำให้เราจดจำอะไรที่ผิด มองอะไรที่ผิดไปจากความต้องการเดิมของผู้ส่งสาร และทำให้มุมมองของการใช้ชีวิตของเราเบี่ยงเบนไปก็เป็นไปได้

เมื่อตอนต้นกล่าวนำเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ บางทีสภาพอากาศนั้นก็สามารถสอนอะไรเราบางอย่างได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น เราไม่สามารถฝืนหรือห้ามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ ก็คล้าย ๆ กับความคิดของเราที่ไม่สามารถห้ามได้ หรือหากทำได้ก็ยากมาก ๆ บางช่วงความคิดก็ถูกปรุงแต่งด้วยอกุศลโดยที่เราไม่ต้องการ ก็เปรียบเสมือนสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยเมฆคลึ้ม บางครั้งที่เราโกรธใครบางคนหรือวัตถุอะไรบางอย่าง ก็เปรียบเสมือนสภาพอากาศที่มีฝนฟ้าคะนอง บางช่วงเวลาที่เราหายโกรธ ก็เปรียบเสมือนกับช่วงฟ้าหลังฝน หรือบางช่วงที่เราอารมณ์ดี ก็เปรียบเสมือนวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีเมฆหมอกมาบดบัง

จะเห็นได้ว่า อารมณ์ ความคิดของเรา มันก็ไม่ต่างอะไรกับสภาพอากาศ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด เพียงแต่เราต้องใช้ความพยายามที่จะนำตัวเราเอง ไปยืนอยู่ที่จุด ๆ หนึ่ง แล้วพิจารณาให้ออกว่า จริง ๆ แล้วธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ตัวเรา มันมีความเปลี่ยนแปลง แปรไปตามเหตุปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ เราเองเป็นเพียงผู้อยู่อาศัย เป็นเพียงผู้เฝ้าสังเกต และเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปทุกวันเท่านั้นเอง...

ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //www.thaienvimonitor.netมากมาย ครับ


สารบัญ



Create Date : 17 ตุลาคม 2555
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2555 15:34:38 น. 5 comments
Counter : 901 Pageviews.

 
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
เห็นด้วยครับ ชีวิตเหมือนนาฬิกาทรายจริงๆ
แต่ก็ต่างกันตรงที่ ชีวิตไม่มีโอกาสกลับมาเริ่มต้นนับเวลาใหม่ได้อีกนะครับ ว่ามั้ยครับ


โดย: หมอหว่อง (หมอหว่อง ) วันที่: 17 ตุลาคม 2555 เวลา:22:30:31 น.  

 
อ่านข้อเขียนของคุณอัสติสะแล้ว ได้ความรู้สึกอิ่ม(ใจ)และเย็น(ใจ) เหมือนอ่านงานเขียนของวิลาศ มณีวัต เลยค่ะ

เคยนำไปเสนอสำนักพิมพ์หรือยังคะ


โดย: wanalee วันที่: 18 ตุลาคม 2555 เวลา:13:19:15 น.  

 
วันเวลา..อากาศ..ความรู้สึก
พอได้ตรึก..บ่งชี้..นี่คือธรรม
มีเปลี่ยนแปลง..แปรไป..เป็นประจำ
แม้แต่ธรรม..ก็เปลี่ยนไป..ใช่หยุดนิ่ง
หนังสือธรรมมะที่อ่านเล่มเดียวกัน ความรู้สึก ความเข้าใจ ก็เปลี่ยนไปทุกครั้งที่เรากลับมาอ่านใหม่ อิอิ


โดย: เฒ่าจอย วันที่: 18 ตุลาคม 2555 เวลา:21:24:29 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอัส
มาบล็อคนี้ทีไรก็จะได้ข้อคิดดีๆกลับไปทุกครั้ง ขอบคุณบทความดีๆ

วันนี้มีเย็นตาโฟเจมาฝากค่ะ



โดย: pantawan วันที่: 18 ตุลาคม 2555 เวลา:22:58:20 น.  

 
เดือน ต.ค. ปลายฝนต้นหนาว อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย หวัดกินเลยครับปีนี้
ถ้าอยู่เมืองนอก เดือนนี้เป็นเดือนทำใจ เตรียมรับภัยหนาว แต่พืชไร่พืชสวนออกเยอะครับ

ผมก็อยู่สายวิศวกรรมและเทคโนโลยีครับ น่าเบื่อเนอะ


โดย: ชีริว วันที่: 19 ตุลาคม 2555 เวลา:0:14:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.