ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๔๒๓ - ท่ามกลาง...การเปรียบเทียบ





ช่วงนี้มีข่าวรอบตัวเรื่องการแต่งงานออกเรือนของเพื่อน ๆ ร่วมรุ่นอยู่หลายคู่ ซึ่งก็ทำให้เราได้กลับมามองตัวเราเองว่า ณ เวลานี้ของชีวิต เราก็กำลังเดินทางอยู่ช่วงกลางของชีวิต อีกไม่นานก็จะเริ่มเข้าอยู่ตอนปลายทาง จริง ๆ ก็ไม่ได้อิจฉาเพื่อนๆ เหล่านั้น ต่างคนมีเหตุผลกลไกลทางความคิด และความเห็นเกี่ยวกับมุมมองชีวิตที่แตกต่างกัน ข้าพเจ้าเองก็มีมุมมองรอบ ๆ ตัวที่แตกต่างจากคนอื่น เพียงแต่เราไม่ได้สื่อสารให้คนอื่นเห็นจนมองว่าเป็นเรื่องผิดปกติ

วันนั้นเองได้ลองพิจารณาดูว่า จริง ๆ แล้ว ชีวิตของเราต้องการอะไรมากที่สุด สิ่งที่มีที่เป็นอยู่ ณ ปัจจุบัน มันเพียงพอหรือยัง มันยังขาด ยังเกินกับสิ่งใด การรับรู้สิ่งไหนขาดสิ่งไหนเกินนั้น ก็ได้มาจากการเปรียบเทียบจากคนรอบ ๆ ตัว คนเรามักจะมองดูคนอื่นที่เพียบพร้อมมากกว่า และจะพยายามไขว่คว้าในสิ่งที่คนอื่นมี แต่ตัวเราไม่มี แต่เราไม่ค่อยมองหรือให้ความสำคัญกับคนที่ด้อยกว่าเรา สังคมมนุษย์จึงต้องดิ้นรนค้นหาสิ่งที่ขาดแคลนอยู่ตลอดเวลา และตลอดไป ตราบใดที่เรายังไม่สามารถทำความเข้าใจกับความต้องการของตัวเราเองได้

หากถามว่าโลกทุกวันนี้ กำลังก้าวไปในทิศทางไหน แล้วเราควรจะอยู่อย่างไรกับโลกที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน และมีการเปรียบเทียบแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา

หลายคนคงได้คำตอบจากหนังสือธรรมะหลาย ๆ เล่ม ที่สอนให้เรามีชีวิตอยู่ด้วยการมีสติ ไม่ฟุ่มเฟือย การที่เราฟุ่มเฟือยส่วนหนึ่งก็คือการมองคนอื่นมี คนอื่นเป็น เราต้องมีบ้างเป็นบ้าง ซึ่งข้าพเจ้าก็เคยเป็นมาก่อนในอดีตในช่วงก่อนที่จะเข้ามาศึกษาธรรมะ ก็ทำให้เรามองย้อนดูคนรอบ ๆ ตัววันนี้ ก็เหมือนกับเรามองดูตัวเองในอดีตที่ผ่านมา ทั้งการเที่ยว ดื่มกิน ทั้งความคิดที่มีมากับโลก และอื่น ๆ อีกมากมาย หากวันนั้นไม่ได้ธรรมะของพระพุทธเจ้า ข้าพเจ้าอาจจะจมอยู่กับสิ่งมอมเมาทั้งหลาย และหมุนวนอยู่กับการหาในสิ่งที่คนอื่นหา สิ่ง ๆ นั้น เรียกกันว่า “ความสุขที่โลกภายนอกเขาเข้าใจ” แต่เราเองเคยเข้าใจความสุขของตัวเราเองหรือเปล่า

ชีวิตของเราอาจจะไม่ได้ต้องการรถยนต์ราคาแพง มือถือยี่ห้อดัง โทรทัศน์จอใหญ่ คอมพิวเตอร์ อาหารเลิศรส ฯ การค้นหาความต้องการและความจำเป็นที่แท้จริงของชีวิต เพื่อต่อสู้กับกระแสแห่งการบริโภค และภาวะเศรษฐกิจ ที่คอยสะกดจิตให้เราตื่นตัวในการจับจ่ายตลอดเวลา

เมื่อประมาณสองอาทิตย์ที่ผ่านมา (ปลายเดือน มกราคม ๒๕๕๖) ในระหว่างที่ข้าพเจ้ากำลังรอรถตู้เพื่อจะข้ามไปชายแดน ก็มีชายแก่ ๆ คนหนึ่ง เข้ามาคุยด้วยแบบชาวบ้าน ๆ เขาบอกว่า

“ทุกวันนี้ ไม่เหมือนสมัยก่อน ตื่นขึ้นมาก็ต้องใช้เงิน ต้องหาเงิน ไม่ใช้ ไม่หา ก็เหมือนถูกบังคับในตัว เพราะต้องจ่ายค่าไฟค่าน้ำทุกเดือน ไหนจะค่าโทรศัพท์อีก สิ่งของพวกนี้เป็นความเจริญที่ทำให้เราต้องวิ่งวุ่นกับการหาเงินตลอด เด็กวัยรุ่นก็เข้าเมืองไปทำงานในเมือง ที่อยู่ก็มีเพียงคนแก่กับเด็กเล็ก ๆ ...”

มันเป็นความจริงที่น่าใจหาย เมื่อข้าพเจ้ามองไปรอบ ๆ ตัวก็เห็นอย่างที่แกว่ามาจริง ๆ ที่ร้ายกว่านั้น ข้าพเจ้าเองก็เป็นหนึ่งในเด็กวัยรุ่นกลุ่มนั้น ที่ทิ้งชนบทมาหางานในเมือง หวังว่ามันจะสามารถหารายได้ หรือทำให้วิถีชีวิตเราดีขึ้น

จากเหตุการณ์นั้น ในหลายวันต่อมา หลังจากที่ศึกษาและทำความเข้าใจกับตัวเองใหม่ ก็พอจะสรุปได้ว่า ชีวิตของเราอาจจะมีหลายสิ่งที่เราคิดได้ ฝันได้ แต่การลงมือทำตาม มันยากว่านั้น เช่น เรื่องราวของธรรมะและวิถีชนบทที่เปลี่ยนไป ก็เป็นสิ่งที่คิดได้ แต่การปฏิบัติมันยากกว่าการคิดเยอะ หลายสิ่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างฉับพลัน เพราะส่วนตัวข้าพเจ้าเคยลองเปลี่ยนแบบนั้นมาแล้ว ในสมัยที่ลาออกจากงานเพื่อจะไปบวช ผลลัพธ์ที่เราคิดว่าจะสำเร็จกลับไม่เป็นไปตามที่คิด แถมยังทำให้คนรอบข้างเกิดความทุกข์ใจ เพราะเมื่อเราเปรียบเทียบกับคนอื่นแล้ว เรามีความคิดเห็นไม่เหมือนใคร รวมทั้งคนในครอบครัวด้วย สิ่งเหล่านี้คงต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจ

ชีวิตของเราเดี๋ยวนี้ มักจจะเต็มไปด้วยเรื่องราวของการเปรียบเทียบ และการอิจฉากัน โดยมีความโลภเป็นปัจจัยที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง หากเราเข้าใจความโลภ ได้ก็เท่ากับการรู้ทันต่อสิ่งกระตุ้นของสังคมปัจจุบัน เราก็จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยใจที่ปลอดภัยจากความทุกข์แห่งกระแสโลกวัตถุนิยม ดังเช่นปัจจุบัน

Thank you image from //www.dailynews.co.th





Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2556 20:14:31 น. 4 comments
Counter : 702 Pageviews.

 
คำพูดของชายแก่คนน้น
เป็นจริงอย่างยิ่งเลยครับ

พี่ก๋าโหวตบล็อกธรรมะให้นะครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:21:50:44 น.  

 
งานยังยุ่งอยู่เลยครับ
น่าจะยาวไปถึงสิ้นเดือนเลยครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:15:15:59 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
ฝันดีนะคะ คุณอัสติสะ วันนี้นุ้ยไปทำบุญมาค่ะ
ล่องเรือ 9 วัดค่ะ
เล่นเอามึนเลยคร้าตอนนี้
เมาเรือแน่ๆ 555 ที่สำคัญมีตกเรือด้วยนะคะ ดีนะที่วนมารับ อิอิ


โดย: Nissan_n วันที่: 17 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:45:42 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณอัส
แวะมาเยี่ยมค่ะ ไม่ได้แวะมานาน




โดย: pantawan วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:20:15:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.