ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๓๒๖ - ไฟนรกกับหินร้อน ๆ



ปีที่แล้วได้มีโอกาสไปเที่ยวยังพุทธมลฑล จังหวัดนครปฐม ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพ ฯมากนัก ใช้เวลาขับรถไม่เกินชั่วโมงจากใจกลางเมืองและในสภาวะการจราจรปกติ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็หาเวลาไปยังสถานที่แห่งนี้อยู่บ่อย ๆ ในช่วงหลังมานี้ พุทธมลฑลได้ปรับปรุงบริเวณโดยรอบให้สวยงามมากขึ้น แต่ก็ไม่วายที่จะมีข่าวพวกวัยรุ่นเข้าไปพอดรักฟัดเหวี่ยงกันยังสถานที่แห่งความศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ มันน่าเศร้าใจอย่างมาก ข้าพเจ้าได้ยินข่าวแล้วก็ไม่ค่อยจะสบายใจและรู้สึกจิตตก เวทนาทุกครั้ง แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่เปิด คนส่วนใหญ่เลยอาจจะมองว่าเป็นสวนสาธารณะมากกว่าที่จะเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเหมาะสำหรับเอาไว้สำหรับเคารพบูชาไม่ใช่สถานที่ที่จะมานั่งปิคนิคพอดรักกัน ก็เลยอยากจะเชิญชวนให้พวกเราคอยเป็นหูเป็นตาช่วยกันรักษาสถานที่แห่งนี้ ให้เกิดภาพที่งดงาม เป็นที่น่าเคารพบูชา เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นพุทธในสยามประเทศ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อชาติ ศาสนาของเราสืบไปในอนาคต

แต่ก็นั่นเองคนเราในสังคมมันมีคนหลายประเภทปะปนกันไป การที่เราจะทำให้คนสวนมากมีความคิดเห็นเสมอด้วยกันแล้วเป็นเรื่องยาก แต่ก็ดีกว่าที่เราไม่คิดจะทำอะไรเลย และปล่อยให้เรื่องราวเหล่านี้เข้ามาปลอมปนในศาสนา (อ่านดูอาจเครียดไปสักหน่อย)

บริเวณใจกลางพุทธมลฑลมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ชื่อ พระศรีศากยะทศพลญาณ ซึ่งเป็นองค์ประธานในพุทธมลฑลสถาน ลักษณะเป็นรูปพระพุทธเจ้าเสด็จยืนปรางลีลา (เป็นชื่อเรียกปางของพระพุทธรูปลักษณะกำลังก้าวพระบาท (ก้าวเดิน)) ซึ่งถ้ามองในลักษณะของงานศิลป์แล้วจัดได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามมากทีเดียว ข้าพเจ้าไปคราใดก็อดประทับใจไม่ได้ทุกครั้ง ยิ่งมองมุมใดก็เผยให้เห็นพุทธลักษณะที่งดงามของพระพุทธรูปองค์นี้ รอบ ๆ องค์พระพุทธรูปก็มีลานสำหรับให้กราบไว้บูชา เป็นลานหินอ่อน ยิ่งหากไปในช่วงบ่ายแล้วล่ะก็อากาศร้อนนี้ทำให้พื้นละอุร้อนมาก ซึ่งก่อนขึ้นไปก็ต้องทำการถอดรองเท้าก่อน เพื่อเป็นการเคารพสถานที่ แต่บางคนก็ไม่ถอดเพราะเข้าใจว่าพื้นนั้นร้อนจริง ๆ

ข้าพเจ้าไปครั้งแรกจำได้ว่าถอดรองเท้าขึ้นไปพื้นนั้นร้อนจริง จิตหนึ่งก็แวบนึกขึ้นมา "ความร้อนแค่นี้เองหรือ ? ...มันยังไม่เท่าเศษเสี้ยวแห่งความร้อนในนรกด้วยซ้ำ แล้วเราจะกลัวอะไร..." มันได้กำลังใจขึ้นมา เท้ามันจะเป็นอะไรสักแค่ไหนเชียว ก็กัดฟันสู้เดินขึ้นไปกราบได้สำเร็จ แต่ก็ด้วยความรวดเร็ว



สิ่งเหล่านี้ หากคิดให้ดี คิดให้เป็นมันเป็นสัญลักษณ์ ที่แจ้งให้เรารู้ในความอดทน รู้จักความทุกข์ รู้จักความพยายาม หากเรามีศรัทธาเราก็จะฝ่าสิ่งเหล่านี้ไปได้ อย่างที่บอกว่าความร้อนแค่นี้ มันไม่เท่ากับความร้อนในนรกหรอก ท่านทั้งหลายที่สวมรองเท้าขึ้นไปคงจะเกิดเป็นเทวดากันมานานหลายกัปล์ เลยหวนนึกไม่ได้ เพราะถ้าร้อนมากจนขึ้นไปข้างบนไม่ได้ ก็ขอบอกว่าไม่ต้องขึ้นไปหรอก ให้กราบไว้หรือทำใจระน้อมระลึกอยู่ข้างล่างก็ได้

เพราะไม่แน่เศษกรรมนี้มันอาจจะส่งผลให้เราในชาติภพเบื้องหน้าอย่างคาดไม่ถึงก็ได้ ดังเช่น เรื่องมีอยู่ในสมัยพุทธกาล พระเจ้าพิมพิสาร หลังจากถูกลูกชายคือพระเจ้าอชาตศรัตรูยึดอำนาจแล้ว พระองค์ก็ถูกกักขังจองจำอยู่ในถ้ำ ไม่ให้อาหารกิน โดยพระเจ้าอชาตศรัตรูหวังเพื่อปลงพระชนม์พระราชบิดาอย่างช้า ๆ แต่พระเจ้าพิมพิสารก็ไม่สวรรคตเสียที เพราะพระองค์มีกำลังใจดีเยี่ยม สามารถปฏิบัติธรรม เดินจงกรมระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเสมอ หลังจากที่พระเจ้าอชาติศรัครูสืบรู้สาเหตุแล้ว ก็ให้ช่างตัดผม เอามีดไปกีดเท้าของพระเจ้าพิมพิสาร เพื่อไม่ให้สามารถเดินจงกรม ปฏิบัติธรรมได้อีกต่อไป จนในที่สุดพระเจ้าพิมพิสารก็สิ้นพระชนม์

***กรรมที่ทำให้พระเจ้าพิมพิสารได้รับอย่างนั้น  พระโบราณาจารย์ได้กล่าวไว้  ดังปรากฎในคัมภีร์มังคลัตถทีปนี ปฐโม ภาโค  หน้าที่   ๓๙ บรรที่ ๒ นับลงว่า
         ราชา  กิร  ปุพฺเพ  คนฺธปุปฺผาทีหิ  ปูชนฏฺฐานเจติยงฺคเณ สอุปาหโน  อโหสิ ฯ  ภิกฺขุสงฺฆสฺส  นิสีทนตฺถาย  ปญฺญตฺตํ  กฏสารกํ  อโธเตหิ  ปาเทหิ  อกฺกมิ  ตสฺสายํ  นิสฺสนฺโทติปิ  วทนฺติ  ฯ
         เรื่องเล่าสืบต่อกันมาว่า  ปุพฺเพ  เมื่อก่อน ราชา พระเจ้าพิมพิสาร  สอุปาหโน อโหสิ  ได้สวมรองเท้า  คนฺธปุปฺผาทีหิ  ปูชนฏฺฐานเจติยงฺคเณ  เสด็จดำเนินไปที่ลานพระเจดีย์ อันเป็นสถานที่ที่เขาบูชาด้วยธูปเทียน ดอกไม้และของหอมเป็นต้น  ฯ  อโธเตหิ  ปาเทหิ  ทั้งที่พระบาทของพระองค์ยังได้ทรงล้าง  อกฺกมิ กลับเหยียบ  กฎสารกํ  เสื่อลำแพน  ภิกฺสงฺฆสฺส  นิสีทนตฺถาย  ปญฺญตฺตํ  ที่เขาปูลาดไว้เพื่อให้พระสงฆ์ได้นั่ง  พระโบราณาจารย์ได้สรุปลงด้วยคำว่า  ตสฺสายํ  นิสฺสนฺโท  การกระทำในครั้งนั้น เป็นผลกรรมที่พระองค์ได้รับในครั้งนี้***


ก็อยากจะเชิญชวนให้เรา ๆ ท่าน ๆ ทั้งหลายช่วยกันเคารพสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นการสวมหมวกเข้าไปในศาลา หรือ โบสถ์วิหาร การสวมรองเท้าในที่ที่ไม่เหมาะสม การแต่งการที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจจะสุภาพเรียบร้อยแต่ไม่ถูกกับกาลสถานที่ เป็นต้น (ช่วยกันหน่อยนะครับ )

***ที่มา //www.gotoknow.org/blogs/posts/446073 โทษของการสวมรองเท้าเข้าสู่ปูชนียสถาน


ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //www.hotelbeep.com มากมาย ครับ


Create Date : 14 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2554 8:40:44 น. 7 comments
Counter : 575 Pageviews.

 
หมื่นตาหายไปนาน
เดี๋ยวกำลังจะหลับมาแล้วล่ะครับ อิอิอิ



ปล. พี่ก๋าเห็นกระทู้ภาพไม่เหมาะสมในพุทธมณฑลเหมือนกันครับ

บางทีก็แปลกใจนะครับ
แค่การถอดรองเท้าเข้าสถานที่ทางศาสนา
เราก็ยังไม่คิดถึงกันเลย

ไม่รู้จะโทษอะไรดี
นอกจากการอบอรมสั่งสอนน่ะครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:38:16 น.  

 

สวัสดีค่ะ คุณอสติสะ


โดย: Nissan_n วันที่: 14 พฤศจิกายน 2554 เวลา:14:34:02 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:6:02:29 น.  

 
เป็นคนดีที่มีความสุขในการใช้ชีวิต

พี่ก๋าอยากให้ลูกเติบโตในแนวทางนี้ครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:09:05 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:59:44 น.  

 



พี่ก๋าคิดเสมอว่า
การศึกษาที่แท้จริง
ต้องทำให้คนเป็นอิสระ

เหมือนศาสนาเลยครับ
ต้องทำให้คนเป็นอิสระเช่นกัน







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:8:59:01 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:54:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.