ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๓๘๐ - ฟองอากาศ





ณ กลางชุมชนเมืองแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางผืนป่าและหุบเขาอันสลับซับซ้อน ในตอนบ่ายวันหนึ่งกลางฤดูฝน ปรากฎร่างของชายผู้หนึ่งงค่อย ๆ เดินมาหาที่ชุมชน เขาสวมเสื้อผ้าที่มอมแมน ใบหน้าอิดโรยบ่งบอกถึงการเดินทางที่ยาวนานและลำบาก แขนขวาของเขาประคองสัมภาระไว้เพียงแขนเดียว เหตุเพราะแขนซ้ายของเขาต้องสูญเสียไปเมื่อครั้งแห่งการอุบัติของไปบัลลัยกัลป์ในครั้งก่อน

ชายนักเดินทางได้เดินทางมาถึงเมืองแห่งนี้ เขาตั้งใจว่าจะหยุดพักเพื่อขอซื้อหรือแลกอาหารสำหรับเป็นเสบียงไว้ใช้เดินทาง ชุนชนเมืองแห่งนี้ดูเป็นชุมชนเมืองปกติธรรมดา ๆ ไม่เหมือนกับหลาาย ๆ เมื่อที่เขาเคยประสบมา อีกทั้งยังมีลักษณะสภาพแวดล้อมคล้ายกับเมืองบ้านเกิดของเขาอีกด้วย

เบื้องหน้าของเขา เป็นชุมชนตลาดที่กำลังมีการจับจ่ายซื้อของอย่างพัลวัน เมื่อมองตามทางเดินเหนือขึ้นไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางที่ปูด้วยหินสลักสวยงาม และจัดวางไว้เป็นระเบียบดูน่ามองมากกว่าการใช้เท้าสัมผัสเดินเสียอีก ปลายสุดของเส้นทางเดินเป็นเนินเตี้ย ๆ ซึ่งเป็นเนินที่มีทางแยกออกไปได้ทั้งสี่ทิศ ตรงกลางเนินถูกสร้างขึ้นคล้ายเป็นศูนย์กลางของอะไรบางอย่าง เมื่อมองดูสักพักจึงทราบว่าเป็นน้ำพุที่พุ่งขึ้นมาจากใต้พิภพซึ่งส่งเสียงดังเป็นจังหวะคล้ายกับลมหายใจของสัตว์ประหลาดที่นอนอยู่ใต้ดิน



ชายนักเดินทางรู้สึกพอใจกับภาพน้ำพุนั้นอย่างมาก แม้มองจากระยะไกลเพียงนี้ยังดูน่าสนใจ หากเข้าไปใกล้กว่านี้อีกจะน่าดูสักเพียงไหน เขาวางสายตาจากการเลือกดูเสบียงสิ่งของ และเดินไปยังจุดหมายคือลานน้ำพุแห่งนั้น เมื่อเดินไปถึงก็ต้องประหลาดใจ เพราะมีคนจำนวนมากรายล้อมน้ำพุนี้อยู่ สายตาของคนเหล่านั้นมองดูน้ำพุราวกับว่าเป็นสิ่งวิเศษสวยงาม

สักพักหนึ่งก็ได้ยินเสียงน้ำพุ่งแหวกโพรงอากาศขึ้นมาจากใต้ดิน และทยานขึ้นเป็นลำน้ำ ความสูงประมาณ ๙ – ๑๐ ช่วงคน จังหวะที่น้ำพ่นออกมานั้น ก็บังเกิดเป็นฟองอากาศ กระทบกับแสงแดดยามบ่ายดูแล้วสวยงามอย่างยิ่ง มีเสียงร้องอึงคะนึงของกลุ่มคนที่รายล้อมน้ำพุอยู่ ฟองอากาศนับร้อยฟองทั้งเล็กบ้างใหญ่บ้าง กระจายไปตามอากาศ และค่อยตกลงมายังบริเวณลานน้ำพุตามแรงโน้มถ่วงของโลก ก่อนที่ฟองอากาศจะตกถึงพื้น คนที่รายล้อมอยู่ก็จะพยายามจับฟองอากาศนั้นไว้ แต่ไม่มีใครแย่งใคร หากฟองอากาศตกตรงหน้าใครคนนั้นก็จะรับไว้ เสร็จแล้วก็เดินถอยออกมา เพื่อเปิดพื้นที่ให้คนอื่น ซึ่งเป็นอยู่เช่นนี้หลายรอบ ทำให้ชายนักเดินทางรู้สึกฉงนใจกับพฤติกรรมของชาวเมือง ๆ นี้ยิ่งนัก เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปถามชายหนุ่มผู้หนึ่ง

“สวัสดีครับ ผมเป็นนักเดินทางและกำลังเดินทางไปดินแดนนิพพาน บังเอิญผ่านมายังเมืองนี้ รู้สึกสงสัยว่าพวกคุณและชาวเมืองกำลังทำอะไรอยู่ครับ...” ชายนักเดินทางถาม

“สวัสดีครับ ผมดูก็พอจะรู้ว่าคุณเป็นคนต่างถิ่น แต่นับว่าคุณโชคดีมากที่ได้มาเห็นปรากฏการณ์สิบปีจะมีครั้งหนึ่ง” ชายคนนั้นอธิบายรวบรัด

“หมายความว่า น้ำพุนี้จะพุ่งขึ้นมาทุก ๆ สิบปีอย่างนั้นหรือ ” ชายนักเดินทางทำท่าทางตกใจ

“ถูกต้องแล้ว บ่อน้ำพุนี้เป็นน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ ทุก ๆ สิบปีจะพ่นน้ำขึ้นมา และทุกก ๆ ครั้งที่น้ำศักดิ์สิทธิ์กระทบกับอากาศก็จะเกิดปรากฏการณ์ฟองอากาศขึ้น คนหนุ่มสาวที่ปรารถนาความรัก ก็จะยื่นมือเพื่อรอรับฟองอากาศนั้น และจะเก็บรักษาดูแลมันไว้อย่างดี หากฟองอากาศไม่แตกสลาย และคนดูแลเอาใจใส่มันอย่างดีแล้วล่ะก็ ภายใน สิบวัน มันจะค่อย ๆ กลายเป็นอัญมณีที่มีสีสันสวยงาม และมีรูปร่างแตกต่างกันออกไป ยกเว้นบางคู่เท่านั้นที่มีลักษณะเหมือนกันทั้งสีสันและรูปร่าง ถัดจากนี้อีกสองสัปดาห์ พวกหนุ่มสาวอย่างพวกเราก็จะกลับมารวมตัวกันที่ลานน้ำพุนี้อีกครั้ง และจะนำอัญมณีที่เราดูแลรักษาอย่างดีนี้กลับมาด้วย เพื่อนำมาหาคู่ที่เหมือนกัน หากอัญมณีใครที่มีลักษณะเหมือนกันทุกประการและเจ้าของเป็นเพศตรงข้ามกัน หนุ่มสาวคู่นั้นก็จะได้แต่งงานกัน ซึ่งหากอัญมณีคู่ใดมีความสวยงาม และแข็งแกร่ง ทั้งคู่จะสามารถครองคู่กันได้อย่างยาวนาน ”ชายหนุ่มอธิบายอย่างละเอียด

“อย่างนี้เอง แปลกดีจริง...” ชายนักเดินทางพูด

“แต่ก็ไม่เสมอไปกับทุกคน บางคนเพียงสัมผัสฟองอากาศ ฟองอากาศนั้นก็แตกสลายไปต่อหน้าต่อตา นั่นหมายความว่าเขาต้องรออีกสิบปีเพื่อกลับมาจับคู่ใหม่ หรือบางคนได้ฟองอากาศไปแล้วอีกสอง สามวันมมันก็แตกสลายไปเอง และอีกหลาย ๆ คนที่สามารถรักษาจนฟองอากาศกลายเป็นอัญมณีที่สมบูรณ์ได้สำเร็จ เขาก็จะมีสิทธิ์ในการเลือกคู่”

“ฟังดูแล้ว เหตุไฉนความรักของคนหนุ่มสาวในเมืองนี้ จึงขึ้นอยู่กับฟองอากาศด้วยเล่า ไม่ใช่เพราะการที่เรามีใจเอื้อเฟื้อต่อกันไม่ใช่หรือ...” ชายนักเดินทางถาม



“ไม่เช่นนั้นหรอก ฟองอากาศนั้นไม่ได้เป็นตัวเลือกหรือเป็นสิ่งที่คอยจับคู่คนโน้นคนนี้ไปเรื่อย ๆ ประดุจกามเทพที่ไม่มีวิจารณญาณ แต่คนที่สัมผัสมันด้วยความรักที่แท้จริง คนสองคนที่มีจิตใจสื่อถึงกัน ผูกพันกันอย่างแท้จริง ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติที่ผ่าน ๆ มา และต้องเป็นความรักที่บริสุทธิ์ทั้งสองฝ่าย ด้วยเหตุพลังแห่งความรักนี้ มันจะหลอมให้ฟองอากาศที่มีลักษณะบอบบาง ให้กลายเป็นอัญมณีที่มีลักษณะที่เหมือนกันได้ เข้าใจใช่ไหม...นี่เป็นหนทางที่จะทำให้ชาวเมืองของเราไม่ต้องผิดหวังจากความรักที่ไม่สมหวังยังไงล่ะ...” ชายนักเดินทางได้ฟังคำอธิบายแล้วถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ ในโลกนี้ยังมีสิ่งประหลาดเช่นนี้อยู่ด้วยหรือ

หรือว่าเขาจะลองสัมผัสฟองอากาศดูสักครั้ง...?

พอดีใกล้ ๆกันนั้นมีฟองอากาศฟองหนึ่งกำลังลอยมาทางชายนักเดินทางพอดี เขาจึงเอามือขว้าเอาไว้ ทันใดนั้นฟองอากาศก็แตกสลายไปในทันทีที่มือเขาสัมผัสถูก ทำให้ชายหนุ่มที่สนทนาด้วยกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่อยู่

“คุณไม่มีความรัก ๆ ” ชายผู้นั้นพูดอยู่สองประโยค แล้วก็ยิ้มจากไป

“นั่นสิน่ะ...” ชายนักเดินทางสบถกับตัวเอง ความรักของเขามันย่อยสลายไปนานแล้ว และเขาเองนั่นแหละที่เป็นฝ่ายหันหลังให้กับมัน

เขาตัดสินใจพักอยู่ในเมืองนี้อีกสองสัปดาห์ เพื่อรอดูพิธีกรรมเลือกคู่ที่พิลึกพิลั่นนี้ ก่อนที่จะเตรียมตัวเดินทาง เพื่อค้นหาดินแดนนิพพานต่อไป...

จบ -

สำหรับความรักระหว่างชายหนุ่มกับหญิงสาวนั้น ต้องหมั่นสร้าง หมั่นดูแลรักษา ไม่ต่างอะไรกับการดูแลรักษาฟองอากาศไม่ให้แตกสลาย หากเรารู้จักดูแลความรัก อย่างถูกวิธี และทำอย่างสม่ำเสมอ ความรักระหว่างสองคนนั้นจึงจะเข้มแข็งขึ้นเรื่อย ๆ ดังเช่นฟองอากาศที่กลายเป็นอัญมณีที่สวยงามในที่สุด




สารบัญ





ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก //www.warrenphotographic.co.ukมากมาย ครับ









Create Date : 12 สิงหาคม 2555
Last Update : 12 สิงหาคม 2555 22:23:44 น. 8 comments
Counter : 1511 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์ครับ


ชายนักเดินทางไม่มีความรักจริงๆหรือเนี่ย







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 สิงหาคม 2555 เวลา:5:41:46 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2555 เวลา:5:54:15 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะครับน้องอัส



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 สิงหาคม 2555 เวลา:8:44:35 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ






โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 สิงหาคม 2555 เวลา:6:04:31 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ คุณอัสสบายดีนะค่ะ


โดย: แม่มณี IP: 171.4.147.254 วันที่: 15 สิงหาคม 2555 เวลา:14:46:25 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ








โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 สิงหาคม 2555 เวลา:6:01:12 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ









โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 สิงหาคม 2555 เวลา:6:17:54 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ครับ







โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 สิงหาคม 2555 เวลา:6:12:33 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.