|
๒๐๔-กำแพงสูงต่างระดับ
“เพื่อนเอย น่าจะมาทำบุญบ้างนะ ตอนเช้า ๆ วันหยุดไม่ได้ทำงาน ตื่นเช้าหน่อยอากาศก็กำลังดี”
ข้าพเจ้าชักชวนเพื่อนคนหนึ่งให้แวะมาทำบุญที่วัดบ้าง เพราะเกรงว่าเขาจะทำงานจนลืมเรื่องบุญเรื่องกุศล เพราะธรรมดาของคนวัยทำงานก็ย่อมคิดเรื่องงาน เรื่องความรัก เรื่องครอบครัว เรื่องหนี้สิน ฯ
ความคิดเรื่องบุญ เรื่องกุศลนั้นก็เลยน้อยลงไป บ่อยครั้งที่ข้าพเจ้าได้เข้าวัดจะเห็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เรื่องธรรมะทุกวันนี้อาจจะกลายว่าเป็นเรื่องที่ ผู้หญิงเข้าใกล้ได้มากกว่า นี่เป็นมุมมองและความคิดเห็นส่วนตัวที่ได้พบประสบมา อาจจะไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของใครก็สุดแล้วแต่กำลังความคิด และประสบการณ์ของคน ๆ นั้น
ที่ข้าพเจ้าเขียนนี่ จริง ๆ แล้ว อยากจะชื่นชมเพื่อนหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเพื่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัยจ้า เธอใคร่ที่จะสนใจสอบถามเรื่องธรรมะ วันหยุด หรือ มีเวลาว่างก็มักจะไปวัดเสมอ ๆ ทั้งที่อุปนิสัยแต่ก่อนนั้นไม่ค่อยได้ใกล้ชิดธรรมะมากมายขนาดนี้
นี่อาจจะเป็นช่วงเวลาของเขาก็ได้ ทุกคนต่างมีช่วงเวลาที่กรรมนั้นจะสนอง เมื่อกรรมอย่างหนึ่งลดน้อยหรือเบาบางลง ก็มีกรรมอย่างหนึ่งมาให้เราได้เสวยผลของกรรม อย่างเช่นเรื่องเพื่อนของข้าพเจ้าคนนี้ แต่ก่อนข้าพเจ้าเคยพูดเรื่องธรรมะให้ฟังเสมอ ๆ ทุกครั้งที่โทรศัพท์คุยกัน
แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาทนฟังไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้รับรู้ถึงเรื่องราวที่ข้าพเจ้าพูดให้ฟัง ซึ่งข้าพเจ้าเองก็รู้ดีว่า ธรรมะนั้นยังไม่กินใจของเขาเท่าไหร่ ได้แต่รอเวลาเพียงเท่านั้น...
เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบ ๒ ปี
และเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมานี่เอง เพื่อนหญิงคนนั้นก็โทรมาบอกว่า เขาเริ่มสนใจเรื่องการปฏิบัติธรรมมากกว่าแต่ก่อน และเริ่มมองเห็นคุณงามความดีของพระพุทธเจ้า และพระพุทธศาสนา ศรัทธาอันซ่อนเร้นเริ่มแสดงตัวปรากฎขึ้นมาก เริ่มพูดเรื่องสมาธิ สติ นิพพาน และต่าง ๆ อีกมากมาย และขอโทษข้าพเจ้าที่แต่ก่อนไม่เคยสนใจเรื่องที่ข้าพเจ้าพูดเลย ได้แต่ฟังเฉย ๆ ไม่ค่อยสนใจ แต่ตอนนี้เขาเริ่มเชื่อมั่นในพระพุทธเจ้าแล้ว
วันนั้นข้าพเจ้ารู้สึกดีใจ และอิ่มใจมาก ที่เพื่อนมองเห็นความสำคัญของศาสนา มันเหมือนกับว่าเรามีเพื่อนร่วมเดินทาง และไม่ได้เดินทางอ้างว้างแต่เพียงผู้เดียว อย่างน้อยตอนคุยโทรศัพท์ก็มีเรื่องธรรมะให้ได้พูดนาน ๆ ขึ้น(จริง ๆ แล้วส่วนตัวไม่ค่อยชอบคุยโทรศัพท์)
เรื่องนี้ไม่ต่างอะไรกับกำแพงสูงต่างระดับ ซึ่งคนตัวเตี้ย เมื่อยืนอยู่ต่ำกว่ากำแพงก็ย่อมมองไม่เห็นสถานที่ที่อยู่หลังกำแพง ได้แต่ทนฟังคนที่ยืนอยู่สูงกว่านำมาอธิบาย นำมาเล่าให้ฟัง เมื่อฟังแล้วมองไม่เห็น มันก็เลยยิ่งมีข้อสงสัยและไม่แน่ใจ เพราะยังมองไม่เห็นสถานที่ที่อยู่หลังกำแพงนั้นเสียที ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือหลอกลวงกันแน่
แต่คราวใดที่เขาเหล่านั้นได้มองเห็นสถานที่หลังกำแพงนั้นด้วยตัวเอง สิ่งที่ประจักษ์อยู่ตรงหน้านั้น ก็คงจะทำให้เขาตัดความลังเลสงสัยไปได้ และเชื่อตามอย่างคนที่ตัวสูงกว่าพูด อธิบายมาก่อนหน้านั้น
เรื่องนี้ หาได้อยากเปรียบเทียบหรือต้องการยกยอตัวเองได้สูงส่งในเรื่องอรรถ เรื่องธรรมไม่ เพียงแต่อยากเล่าสู่กันฟังเล็กน้อย เพราะทุกวันนี้ตัวข้าพเจ้าเองก็มีกำแพงที่สูงกว่า รอให้ปีนป่ายไปดูสถานที่ข้างใน แค่ผ่านกำแพงขั้นแรกมาได้ ก็อยากจะอธิบายวิธีปีนแก่คนที่อยู่ข้างหลังบ้างเท่านั้น
เพราะลำพังทุกวันนี้ก็ยังต้องฟัง ครูบาอาจารย์ที่ท่านปีนกำแพงชั้นในสุดมาแล้ว มาเล่าให้ฟังเพื่อจะได้รู้วิธีปีน และไม่ต้องตกลงมาก้นกระแทกพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างที่เป็นมาในอดีต เหตุผลก็เป็นไปอย่างที่อธิบายมานี้...แล
ขอบคุณรูปกำแพงจาก //www.howardgrubb.co.uk very much(มากมาย ครับ)
Create Date : 11 ธันวาคม 2552 |
Last Update : 11 ธันวาคม 2552 8:15:31 น. |
|
12 comments
|
Counter : 638 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Nissan_n วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:15:30:16 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:7:10:32 น. |
|
|
|
โดย: ใจพรานธรรม วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:9:46:38 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 12 ธันวาคม 2552 เวลา:19:01:53 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 ธันวาคม 2552 เวลา:7:28:56 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:7:47:53 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:8:32:38 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 14 ธันวาคม 2552 เวลา:18:14:34 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:7:18:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 ธันวาคม 2552 เวลา:8:03:53 น. |
|
|
|
| |
|
|
สวัสดีค่ะ คุณอัสติสะ
...
เป็นอย่างไรบ้างค่ะ
สบายดีนะคะ