ภัยแห่งสังสารวัฏนั้น น่ากลัวยิ่งกว่าภัยอื่นใด - อัสติสะ
Group Blog
 
All blogs
 
๐๗๔-ใครจำวันเกิดของตัวเองได้บ้าง…?(ตอนที่ ๑)




นั่นสินะ…ข้าพเจ้าก็เป็นคนหนึ่ง ที่จำวันเกิดของตัวเองไม่ได้ เพราะอะไรกัน…?

ความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดนี้ ผุดขึ้นมาตั่งแต่สมัยที่มนุษย์เราเริ่มมีสิ่งที่เรียกกันว่า “อาริยธรรม” สิ่งที่เป็นการกระตุ้นทำให้มนุษย์สงสัยเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดนี้ น่าจะเป็นความไม่เท่าเทียมกันของสังคม เพราะหากเราเกิดเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวในโลกเราก็คงไม่ต้องสงสัยอะไร…

ความไม่เท่าเทียมนี้เอง มันเป็นผลมาจากความแตกต่างกันของคนในสังคม บางคนรวย บางคนจน บางคนเกิดมาสวย มีผิวพรรณ งดงาม เป็นที่ชื่นชมของคนรอบข้าง บางคนเกิดมา น่าตาอัปลักษณ์ตั่งแต่แรกเกิด บางคนมีความสมบูรณ์เพียบพร้อม แต่บางคนก็พิการ มีองค์ประกอบของร่างกายไม่ครบ ไม่เพียงแต่ร่างกายเท่านั้น สติ ปัญญา ความสามารถของมนุษย์ก็ยังไม่เท่ากันทุกคนอีกด้วย จึงเป็นเรื่องที่น่าคิดน่าสงสัย เหตุของความต่างเช่นนี้

ก่อนที่จะการกำเนิดขึ้นของพระพุทธเจ้า มนุษย์ในสังคมสมัยนั้น มีความเชื่อการเวียนว่ายตายเกิด และผลของกรรมอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ความเชื่อนั้นยังไม่ถูกต้องครบสมบูรณ์ และชัดเจนเท่ากับสมัยหลังการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

จนมาถึงบัดนี้กาลเวลา ล่วงเลยมานับสองพันกว่าปี เราเองก็ยังมีความลังเลในความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ เนื่องจากการพิสูจน์เรื่องนี้เป็นการอยู่เหนือสามัญสำนึกของมนุษย์ธรรมดาเดินดินแบบเรา ๆ

คุณอาจจะเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด แต่ข้าพเจ้ามั่นใจว่าคุณยังคงลังเล และไม่มั่นใจว่าจะเป็นจริงอย่างที่ท่านสอนหรือเปล่า

คุณอาจจะศรัทธาในพุทธศาสนา แต่คุณก็ปฏิเสธการเวียนว่ายตายเกิด ซึ่งเป็นสิทธิที่คุณจะทำได้ แต่คุณก็ต้องทำใจได้เลย เพราะคัมภีร์ในพระพุทธศาสนาต่างก็มี เรื่องกรรม และการเวียนว่ายตายเกิด ภพ ภูมิ เทวดา แทรกอยู่เกือบทุกหมวด

คุณอาจจะเชื่อว่าคนเราเกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียว แล้วทุกอย่างก็จบสิ้น คนที่มีความคิดประเภทนี้อยู่นั้น ที่จริงแล้วก็ไม่ผิดอะไร แต่ก็แสดงออกถึงความประมาทอยู่

มีคำถามที่พบบ่อยคือ ถ้าการเวียนว่ายตายเกิดหรือภพ ภูมิ มีจริง ทำไมคนเราถึงจำอะไรไม่ได้เลย ทำไมระลึกชาติย้อนหลังไม่ได้ทุกคน หรือนั่นเป็นกลไกลของธรรมชาติ ที่พยายามสร้างห้องกั้นไว้ ไม่ให้เรามองเห็นความเป็นจริง

คำตอบเรื่องนี้เป็นความรู้ที่เกินสามัญสำนึกของเราที่จะรู้ได้ ข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้ เพียงแต่สัณนิษฐานเอาไว้เท่านั้น และความไม่ชัดเจนของคำตอบนี้เอง ทำให้คนเรามีทิฏฐิ ความเชื่อที่เบนออกไปจาก หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ากันโดยมาก

มีคำถามที่น่าคิดต่ออีกว่า แล้วกลไกลของวัฏสงสารนั้นตั้งอยู่ได้เพราะอะไร
คำตอบคือ อวิชชา หรือ ความไม่รู้ธรรมชาติตามความเป็นจริง ความเห็นผิดของสัตว์ทั้งหลาย ที่ไม่รู้ใน อริยสัจ ๔ ทำให้เราจึงยังติดข้องอยู่ในการเวียนว่ายตายเกิด และประสบทุกข์ อย่างที่จะหาอะไรมาเปรียบเทียบได้

ถ้าหากเราระลึกชาติได้กันทุกคน สังคมของสัตว์ก็จะวุ่นวายและโกลาหลอย่างหนัก เพราะ เราเกิดมาต่างมี ทั้งคนรักและคนชังกันทั้งนั้น การรู้อดีตของเราและคนอื่นได้เหมือนกันทุุกคน จะเป็นเหตุให้กงล้อแห้งวัฏสงสาร บิดเบี้ยวไป ไม่มีความสมดุล และเคลื่อนที่หมุนต่อไปได้อย่างลำบากและติดขัด


*อ่านต่อในตอนที ๒



Create Date : 04 ตุลาคม 2551
Last Update : 6 ตุลาคม 2551 17:44:37 น. 4 comments
Counter : 399 Pageviews.

 
ลงชื่อครับ
ตามไปอ่านต่อ ตอน2


โดย: penguinsound วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:11:42:07 น.  

 
แวะมาอ่านค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดีดีนะคะ


โดย: bo (bow_relax ) วันที่: 4 ตุลาคม 2551 เวลา:12:07:53 น.  

 
ผมจำวันเกิดตัวเองไ้ด้
แต่ไม่ได้
ใส่ใจ



โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) วันที่: 7 ตุลาคม 2551 เวลา:7:56:09 น.  

 
จำได้ แต่ไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่
มีแต่คนมาทวงถามว่าเลี้ยงอะไร



โดย: ก้าวไปตามใจฝัน วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:15:19:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

อัสติสะ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




ทุกข์ใดจะทุกข์เท่า การเกิด
ดับทุกข์สิ่งประเสริฐ แน่แท้
ทางสู่นิพพานเลิศ เที่ยงแท้ แน่นา
คือมรรคมีองค์แก้ ดับสิ้นทุกข์ทน






Google



New Comments
Friends' blogs
[Add อัสติสะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.